ตอนที่ 272 สังหาร!

War sovereign Soaring The Heavens

Sign in Buddha’s palm 272 สังหาร! ภายในตําหนักหินอ่อน บรรพชนของพรรคหมื่นดาบเต็มไปด้วยความสุข รอคอยที่จะได้เห็นบรรพชนดาบถือกําเนิดขึ้น และพรรคหมื่นดาบก็จะกลับมายิ่งใหญ่บนผืนพิภพอีกครั้ง “หากบรรพชนดาบตื่นขึ้นมาก็ไม่ต้องกังวล เรื่องตํานานยุทธเมืองฉางอันมากเท่าไหร่….” บรรพชนพรรคหมื่นดาบคนที่อยู่ด้านซ้ายสุดพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับกล่าวออกมา แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยเห็นซูฉินด้วยตาของพวกเขาเอง แต่ตอนที่ซูฉินสังหารบรรพบุรุษหยวนรวมถึงตํานานยุทธคนอื่นๆ มีคนจํานวนมากเฝ้าดูการต่อสู้อย่างลับๆ ไม่มีใครสังเกตเห็นการมีอยู่ของกลิ่นอายจิตวิญญาณแรกกําเนิด “ไม่ใช่แค่ตํานานยุทธเมืองฉางอัน ข้าเกรงว่าทั่วทั้งโลกใบนี้ พรรคหมื่นดาบเราไม่จําเป็นต้องกังวลในเรื่องใดมากนักด้วยซ้ํา….” บรรพชนอีกคนหนึ่งพูดออกมาซ้ําๆ เต็มไปด้วยความมั่นใจในตนเองอย่างแรงกล้า
“ฮ่ม! ถึงตํานานยุทธเมืองฉางอันจะเป็นคนที่น่าสนใจ และคิดริเริ่มที่จะยอมแพ้ในการต่อสู้ ข้าก็จะไม่ยอมรับให้เขามาอยู่ในพรรคเรา แม้แต่ตําแหน่งผู้อาวุโสสายนอกของพรรคหมื่นดาบก็ไม่….” เสียงนี้ยังไม่ทันได้พูดจบ หวิ่ง!!! ก็พลันเห็นว่าแผ่นไม้ที่อยู่เหนือเสาหินเบื้องหน้าของบรรพชนพรรคหมื่นดาบสั่นขึ้นมา พูดให้ถูกต้องก็คือ ไม่ใช่แผ่นไม้ที่สั่น แต่เป็นตราประทับรอยดาบบนผิวไม้ที่เริ่มสั่น และเจตจํานงดาบจํานวนมากมายนับไม่ถ้วนพลันเดือดพล่าน ราวกับจะผ่าทุกอย่างออกให้สิ้น “เกิดอะไรขึ้น?” “เจตจํานงดาบเล่มนี้ ถูกข้าปราบไว้แล้วไม่ใช่หรือ?” “สิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไร?” ใบหน้าของบรรพชนพรรคหมื่นดาบที่อยู่ใกล้กับเสาหินที่สุดพลันเปลี่ยนแปลงไป “เป็นเพียงเจตจํานงดาบเจ้าตั้งใจจะต่อต้านข้าอย่างนั้นหรือ?” “แม้แต่เจ้าของของเจ้าก็ยังต้องกลายเป็นผงธุลี เมื่ออยู่ต่อหน้าพรรคหมื่นดาบของข้า!” บรรพชนพรรคหมื่นดาบเยาะเย้ย และกําลังจะเหยียดมือออกไปเพื่อปราบปรามอีกครั้ง
ฉับพลัน ในตอนนั้นเอง ตูม ยอดเขาลูกยักษ์พลันสั่นสะท้านไปทั่วค่ายกล ฟ้าดินรอบตําหนักหินอ่อนถล่มลงมาราวกับมีแรงระเบิดที่สะเทือนฟ้าดินเข้ามาทําลาย ไม่ว่าจะเป็นค่ายกลรอบนอกหรือค่ายกลที่ตั้งอยู่ในส่วนลึกของยอดเขา พวกมันเริ่มหายไปในเวลาอันรวดเร็ว “มีคนกําลังทําลายค่ายกล?” ชายผมสีเทาที่ไม่ได้พูดตั้งแต่ต้นก็เงยหน้าขึ้น และกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ทําลายค่ายกล?” “ผู้ใดกัน? กล้ามาทําเรื่องเช่นนี้ต่อหน้าพวกเรา” บรรพชนพรรคหมื่นดาบล้วนโกรธจัด เดินตามชายผมสีเทาออกไปทีละคน เห็นชายร่างผอมสูงยืนอยู่บนอากาศเดินมา ทางตําหนักหินอ่อนทีละขั้น ทุกครั้งที่ก้าวย่าง ค่ายกลฟ้าดินโดยรอบตําหนักหินอ่อนก็พังทลายลงจนหมด จนเมื่อเขาขึ้น มายืนบนยอดเขาค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่พลันแตกออกเป็นเสี่ยงๆ และซูฉินที่ยืนอยู่บนซากปรักหักพังนั้นราวกับเป็นเทพเซียน “ข้าก็อยากจะรู้ว่าพรรคหมื่นดาบของเจ้าจะทําให้ข้ากลายเป็นฝุ่นธุลีได้อย่างไร?” แววตาของซูฉินสงบนิ่ง มองดูบรรพชนพรรคหมื่นดาบราวกับเหยี่ยวมองเหยื่อ ในช่วงเวลาที่บดขยี้ค่ายกลฟ้าดิน จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่น่าสะพรึงกลัวของซูฉินก็เข้าปกคลุมตําหนักหินอ่อนทั้งหมดไว้ จึงทําให้คําพูดสุดท้ายของบรรพชนพรรคหมื่นดาบเข้ามาในหูของเขา “เจ้าคือตํานานยุทธขั้นสูงสุดแห่งเมืองฉางอันใช่หรือไม่?” ทันทีที่ซูฉินกล่าวจบ รูม่านตาของชายชุดเทาก็หดตัวลงจากความรู้สึกเหลือเชื่อ เขาไม่คิดมาก่อนว่าซูฉินจะพบสถานที่นี้ได้เร็วขนาดนี้ รู้หรือไม่ว่าหลังจากที่พาหลีหว่านมาที่นี่ เขาได้ร่วมมือกับบรรพชนอีกหลายคนใช้วิธีลับบางอย่างของพรรคหมื่นดาบในการปกปิดการเชื่อมโยงของเจตจํานงดาบ ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ การเชื่อมโยงระหว่างซูฉินกับเจตจํานงดาบย่อมหายไปอย่างสมบูรณ์ เป็นไปได้อย่างไรที่จะค้นพบสถานที่นี้ได้แม่นยําเช่นนี้? บรรพชนคนอื่นๆของพรรคหมื่นดาบชําเลืองมองหน้ากัน เดินไปยังตําแหน่งต่างๆ โดยไม่แสดงท่าที่ใด ค่อยๆเข้าโอบล้อมซูฉินไว้ตรงกลางอย่างแผ่วเบา แม้ว่าซูฉินจะมาได้เร็วเกินความคาดหมายของพวกเขา แต่บรรพชนพรรคหมื่นดาบก็ไม่กลัว แม้ว่าเลือดเนื้อพลังชีวิตของพวกเขาจะลดลง เมื่อร่วมมือกัน อาจจะไม่ถึงขนาดเอาชนะซูฉินได้ แต่อย่างน้อยการทําให้ซูฉินถอยกลับไปก็ทําได้อย่างแน่นอน “ทําไม?” “กล้าที่จะคุยกันลับหลังข้า ตอนนี้ไม่พูดเสียแล้วหรือ?” จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของซูฉินปกคลุมไปทั่วบริเวณ เขารู้พฤติกรรมของบรรพชนพรรคหมื่นดาบทั้งหลาย แต่ไม่ได้มีความตั้งใจจะหยุดมัน “เอาล่ะ” “ข้าให้พวกเจ้าสองทางเลือก” ซูฉินขี้เกียจเกินกว่าจะเสียเวลา เขาเหลือบมองบรรพชนพรรคหมื่นดาบแล้วพูดขึ้นเบาๆว่า “หนึ่ง คือมอบหลีหว่านมา แล้วข้าจะมอบโอกาสให้จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้าหลบหนีหลังจากเป็นศพ” “อย่างที่สอง ฝังร่างอยู่ที่นี่ตลอดไป” ซูฉินพูดอย่างเร่งรีบ ราวกับพูดถึงเรื่องธรรมดาทั่วไป “โอหัง!” บรรพชนพรรคหมื่นดาบโกรธมาก เขาไม่คาดคิดว่าซูฉินจะมีวาจาสามหาวเช่นนี้
รู้หรือไม่ว่าบรรพชนเหล่านี้ยังไม่ได้แปรเปลี่ยนจิตวิญญาณแรกกําเนิด เมื่อจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์หลุดพ้นจากร่างไปแล้วก็สามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้ไม่กี่เดือน ซูฉินให้โอกาสพวกเขาหนีไปแต่จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ก็แทบจะไม่ต่างจากการสังหารพวกเขาทั้งหมด “มีความมั่นใจดีนี่ ก็ลองดูว่าจะหยุดพวกข้าได้หรือไม่?” ชายชุดเทามองซูฉินอย่างเย็นชา เขายอมรับว่าซูฉินนั้นแข็งแกร่ง ไม่เช่นนั้นจะสังหารตํานานยุทธขั้นสูงสุดอย่างบรรพบุรุษหยวนได้อย่างไร? แต่ไม่ว่าซูฉินจะแข็งแกร่งเพียงไร เขาก็แค่คนคนเดียว จะแข่งกับรากฐานที่พรรค หมื่นดาบ สะสมมากว่าสี่พันปีและศิษย์จํานวนมากมายมหาศาลได้อย่างไร? บรรพชนพรรคหมื่นดาบมองไปที่ใบหน้าเฉยเมยของซูฉินพร้อมกับเย้ยหยัน “เจ้ากําลัง มองหาร่างหัวใจดาบอยู่ใช่หรือไม่?” “สายไปแล้ว ร่างหัวใจดาบได้ถูกมอบให้กับบรรพชนดาบ และตอนนี้มันจะต้องถูกยึดครองโดยจิตวิญญาณแรกกําเนิดของบรรพชนดาบไปแล้วล่ะ” บรรพชนพรรคหมื่นดาบเยาะเย้ย “บรรพชนดาบของข้ากําลังจะตื่นขึ้น นับเป็นพรของอาณาจักรถังแล้วที่มีร่างหัวใจแห่งดาบ ข้าไม่แนะนําให้เจ้าไปยุ่ง มอบแผ่นดินแห่งพลังยุทธฯมาแต่โดยดี บางทีเราอาจจะช่วยต่อชีวิตเจ้าได้หากอยู่ต่อหน้าบรรพชนดาบ” บรรพชนของพรรคหมื่นดาบกล่าวถึง บรรพชนดาบ’ ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา เพียงแค่ต้องการให้ซูฉินเกรงกลัวและไม่กล้าลงมือ ในสายตาของเขา ผู้แข็งแกร่งเช่นซูฉินย่อมยังน้ําหนักผลดีผลเสีย และจะต้องหลีกเลี่ยงการเป็นศัตรูกับผู้แข็งแกร่งในระดับแปรเปลี่ยนจิตวิญญาณแรกกําเนิดอย่างบรรพชนดาบ ไม่เอาตัวไปเสี่ยงเพียงเพื่อร่างหัวใจแห่งดาบ
“อะไรนะ?!”
ดวงตาของซูฉินกลายเป็นดุร้าย พลังปราณและเลือดเนื้ออันมหาศาลก็พวยพุ่งออกจากร่างของซูฉิน ทันใดนั้นมันก็ปกคลุมยอดเขาทั้งหมดในทันที ไม่ว่าจะเป็นชายชุดเทา หรีอบรรพชนคนอื่นๆ ของพรรคหมื่นดาบ ภายใต้พลังปราณและเลือดเนื้อนี้ พวกเขารู้สึกว่าตนเองตกลงไปในเหวลึก หลังจากที่ร่างกายของซูฉินแปรสภาพครั้งที่หกได้อย่างสมบูรณ์ และกลืนกินแหล่งกําเนิดธาตุดิน จนสามารถมาถึงครึ่งก้าวสู่ร่างแห่งธรรมชาติได้ ความแข็งแกร่งทางกายภาพของร่างนี้ก็น่าทิ้งอย่างยิ่ง “ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว” บรรพชนพรรคหมื่นดาบดูเคร่งเครียดอย่างมาก ในตอนนี้ท่ามกลางพลังเลือดเนื้อของซูฉิน มันเหมือนพวกเขาติดอยู่ในหลุ่มโคลน ทุกการเคลื่อนไหวตกอยู่ใต้แรงกดดันมหาศาล และแรงกดดันนี้ ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วที่สามารถ สึกได้ ด้วยกระแสพลังนี้ หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งบรรพชนพรรคหมื่นดาบจะถูกลดความเร็วลงอย่างมาก และพวกเขาจะไม่สามารถหลบหลีกได้ “ดาบบุกทะลวงประการที่หนึ่ง!” บรรพชนพรรคหมื่นดาบที่กําลังคุกคามซูฉิน เพียงก้าวไปด้านหน้า เจตจํานงดาบก็เปล่ง ประกายควบแน่นออกมาทันที และทันทีที่เจตจํานงดาบปรากฏขึ้นมา พลังฉีฟ้าดินโดยรอบก็พลุ่งพล่านรวมเข้าเจตจํานงดาบนี้ทันที หวิ่ง!!! เจตจํานงดาบเปลี่ยนจากพลังงานไปเป็นรูปธรรม ฟันเข้าใส่ซูฉิน
ฟิว เจตจํานงดาบที่น่าสะพรึงกลัวดูเหมือนจะกวาดล้างได้ทุกสิ่งพุ่งเข้าหาซูฉินอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เมื่อเจตจํานงดาบบุกทะลวงประการที่หนึ่งนี้เข้าใกล้ซูฉินในระยะสิบเมตร ปราณชีวิตและเลือดเนื้ออันทรงพลังไร้ที่สิ้นสุดก็ชะล้างเจตจํานงดาบออกไปอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสายตาเหลือเชื่อของทุกคน เจตจํานงดาบของบรรพชนพรรคหมื่นดาบก็ถูกทําลายล้างที่ระยะแปดเมตรก่อนถึงร่างของซูฉิน ราวกับมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
“ช่างเป็นปราณชีวิตเลือดเนื้อที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้?” บรรพชนพรรคหมื่นดาบทั้งหมดต่างตื่นตะลึง ถ้าซูฉินปัดป้องเจตจํานงดาบ พวกเขาก็ยังพอยอมรับได้ เพราะอย่างไรก็ไม่มีใครคิดว่าเจตจํานงดาบเพียงเท่านี้จะสังหารซูฉินได้ แต่ซูฉินไม่ได้ขยับแม้แต่น้อยตอนที่ยืนอยู่ตรงนั้น อาศัยเพียงพลังของเลือดเนื้อที่แผ่ออกมาก็สามารถป้องกันเจตจํานงดาบได้ ช่างน่าตกตะลึง “ตาข้าแล้ว” ดวงตาของซูฉินเย็นชา และยื่นแขนขวาเข้าหา บรรพชนพรรคหมื่นดาบที่ลงมือเมื่อครู่
บูม เห็นฝ่ามือขนาดใหญ่ราวกับเทพเซียนควบแน่น ขึ้นมาจากความว่างเปล่า ประหนึ่งภูเขาเทพเจ้า โบราณทุ่มลงมาใส่อย่างกะทันหัน ไม่ว่าจะเป็นบรรพชนพรรคหมื่นดาบคนใดก็ ล้วนเป็นตํานานยุทธขั้นสูงสุดที่ควบแน่นอาณาเขตได้ แม้ร่างกายของซูฉินจะมาถึงครึ่งก้าวสู่กายแห่งธรรมชาติแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่กายแห่งธรรมชาติที่แท้จริง ไม่สามารถสังหารได้ด้วยการใช้ปราณจากเลือดเนื้อเพียงอย่างเดียว “ไม่ดีแล้ว!”
บรรพชนพรรคหมื่นดาบที่เพิ่งออกกระบวนท่า เมื่อครู่เมื่อเห็นฝ่ามือขนาดใหญ่นี้ หนังศีรษะก็ชาวาบ เขากลั่นเลือดเนื้อควบแน่นเป็นดาบปล่อยออกไปโดยไม่ลังเล จากนั้นจึงปลดปล่อยอาณาเขตออกมาขวางด้านหน้า บรรพชนคนอื่นๆ ของพรรคหมื่นดาบต่างหน้าเปลี่ยนสีกันไปหมด แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบโต้อะไร ฝ่ามือขนาดยักษ์ก็ร่วงลงมาจากฟ้าแล้ แกร็ก เห็นว่าอาณาเขตขนาดร้อยจ้างที่บรรพชนพรรคหมื่นดาบปล่อยออกมาป้องกัน เมื่อปะทะเข้ากับฝ่ามือจากฟากฟ้า มันก็ราวกับกระดาษแผ่นบางๆแตกสลายทันทีที่สัมผัส บรรพชนพรรคหมื่นดาบอาเจียนออกมาเป็นเลือด เทลงไปบนดาบที่อยู่เบื้องหน้าตน ส่งดาบนั้นพุ่งฝ่าอากาศเข้าปิดกั้นฝ่ามือขนาดยักษ์นั่น น่าเสียดาย พลังฝ่ามือนี้ของซูฉินไม่ได้ตั้งใจจะออมมือไว้เลย มันจะถูกป้องกันได้ด้วยดาบเลือดนั่นได้อย่างไร? ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน ดาบเลือดที่ส่องประกายแหลมคมก็ค่อยๆ ยุบตัวลงตาม แรงกระทบของฝ่ามือขนาดใหญ่ ในท้ายที่สุดบรรพชนพรรคหมื่นดาบก็ถูกบดขยี้เป็นชิ้นๆ จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ยังถูกทําลายกลายเป็นอากาศธา“นี่….” เมื่อเห็นฉากนี้ บรรพชนพรรคหมื่นดาบที่กําลังจะเคลื่อนไหวก็หยุดความคิดที่จะเคลื่อนไหวในทันที ซูฉินฟาดบรรพชนพรรคหมื่นดาบซึ่งเป็นตํานานยุทธขั้นสูงสุดให้ตายได้ด้วยฝ่ามือเดียว หากพวกเขาลงมือต่อไป คงไม่ได้ทําให้สถานการณ์ดีขึ้นมากนัก “ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับหลีหว่าน พรรคหมื่นดาบจะต้องถูกทําลายจนสิ้น” ซูฉินดูเฉยเมย ยกมือขวาขึ้นเตรียมฟาดเข้าใส่บรรพชนพรรคหมื่นดาบอีกครั้ง บรรพชนพรรคหมื่นดาบที่เหลืออยู่หน้าซีดรา วกับกระดาษตัวสั่นเทา ท่ามกลางแรงกดดันในอากาศอันรุนแรงจากปราณชีวิตเลือดเนื้อของซูฉิน ทําให้เป็นเรื่องยากที่จะหลบหนี ทําได้เพียงรอเงียบๆให้ความตายมาถึงตัว “เจ้าลงมือกับพรรคหมื่นดาบเช่นนี้ เจ้าไม่กลัวว่าบรรพชนดาบจะมาชําระแค้นกับเจ้าในอนาคตหรือ?” ชายชุดเทาตัวสั่นไปทั้งตัว เสียงอันแหบแห้งพยายามรวบรวมความกล้า ยกบรรพชนดาบขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อทําให้ซูฉินหวาดกลัว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตอบกลับมาเป็นเพียงประกายแสงจากคมมีดสีดําที่พุ่งทะลวงพื้นที่มิติ