ตอนที่ 152 : สุดยอดนายน้อยปะทะเจียงเฉิน!
การที่หลิงหยุนมีทั้งเงินและอํานาจมากมายทําให้เวลาเขาไม่รู้สึกสนุกสนานแม้แต่น้อยเวลากลั่นแกล้งคนธรรมดา
แต่สําหรับคนในแวดวงคนรวยแล้วการโอ้อวดความแข็งแกร่งของตัวเองมันทําให้เขาสนุกมากกว่าเยอะ
เพราะยังไงซะตอนนี้ก็มีคนร่ำรวยยืนอยู่รอบๆมากมายถ้าเขานั้นสามารถจัดการทั้งลู่เว่ยและเจียงเฉินได้มันก็จะกลายเป็นหินให้เขาเหยียบขึ้นไปทันที!
หลิงหยุนยืนขึ้นมาและเตรียมที่จะเดินไปตบหน้าลู่เว่ยซักหลายๆที่
แต่ในเวลานี้เองเสี่ยวลี่ที่ได้ยินเสียงวุ่นวายเขาก็เลยเดินมาดู
ก่อนจะพบว่าสองฝ่ายที่กําลังมีเรื่องกันก็คือเจียงเฉินกับหลิงหยุน!
ใบหน้าของเสี่ยวลี่เปลี่ยนไปทันที!
เขานั้นเคยเจอหลิงหยุนมาก่อนและเขานั้นรู้ดีว่าหลิงหยุนคนนี้ไม่ธรรมดา!
เสี่ยวลี่ในตอนนี้ก็กลัวว่าถ้าปล่อยไปแบบนี้เจียงเฉินอาจจะเสียเปรียบได้!
ถึงอย่างไรก็ตามเสียวลี่นั้นรู้ว่าหลิงหยุนนั้นยอดเยี่ยมากและเขาก็รู้ว่าเจียงเฉินเองก็ยอดเยี่ยมแต่เขานั้นรับรู้ถึงความยอดเยี่ยมของเจียงเฉินเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น!
เสี่ยวลี่แกล้งหัวเราะแล้วพยายามเข้าไปไกล่เกลี่ย “ทุกคนวันนี้เป็นวันดีช่วยไว้หน้าเจ้าบ่าวอย่างผมหน่อยเถอะครับ ดังนั้นเราปล่อยเรื่องนี้ไปดีไหมครับ?”
หลิงหยุนไม่ใส่ใจเสียวลี่แม้แต่น้อย
แม้แต่เจิ้งหยู่หลันที่มีทรัพย์สินนับสิบล้านเขายังไม่สนใจแล้วเขาจะไปให้ค่าเสี่ยวลี่ที่เกิดมาเป็นคนส่งพัสดุได้ยังไง?
หลิงหยุนเยาะเย้ย “ไว้หน้าแกหรอ? แล้วมีใครไว้หน้าลูกพี่ลูกน้องของฉันไหมล่ะ? เธอถูกรังแกและเรื่องนี้จบไม่ง่ายแน่!”
เสี่ยวลี่ “คุณจะไม่ยอมหยุดจริงๆหรอ?”
หลิงหยุน “ใช่!”
ในเวลานี้เองเจิ้งหยู่หลันก็เข้ามาก่อนจะเตือนหลิงหยุน “แล้วถ้าเพิ่มหน้าของฉันเข้าไปด้วยล่ะ? วันนี้เป็นวันสําคัญของฉันกับสามีของฉัน แต่นายยังจะมาสร้างปัญหาในงานแต่ของพวกเรางั้นหรอ?”
“หึหึ ฉันสร้างปัญหาหรอ? แล้วการตบหน้าลูกพี่ลูกน้องของฉันล่ะ?”
หลิงหยุนยิ้มออกมาอย่างเย็นชาเขามองไปที่ลู่เว่ยแล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา “ก็ได้งั้นฉันจะไว้หน้าพวกเธอ! ฉันจะยอมถอนแต่พวกมันต้องตบหน้าตัวเองสองทีถ้าพวกมันยอมเรื่องก็จะจบที่ตรงนี้!”
ทุกคนในงานรู้สึกหนาวจนตัวสั่น
นี่เรียกว่ายอมถอยแล้วหรอ?
ให้คนตบหน้าตัวเองต่อหน้าสาธารณะชนเนี่ยนะ?
แล้วมันจะเรียกว่าถอยได้ยังไงกัน?
หลิงหยุนคนนี้จะโหดร้ายเกินไปแล้ว!
เรื่องนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นหญิงสาวคนนั้นที่ปากไม่ดีเองลู่เว่ยก็เลยเข้าไปสั่งสอนเธอ แต่ถ้าตอนนี้เขายอมตบหน้าตัวเองนั้นก็เท่ากับว่าเขายอมแพ้!
เมื่อลู่เว่ยได้ยินใบหน้าของเขาก็แดงก่ำ
หลิงหยุนคนนี้แข็งแกร่งกว่าเขามากแต่ถ้าเขายอมตบหน้าตัวเองต่อหน้าสาธารณะชนแบบนี้มันก็ไม่ได้ต่างกับการฆ่าเขาเลยรึยังไง?
ลู่เว่ยโกรธมากแต่ในฐานะที่เขาเป็นทายาทของตระกูลเขานั้นต้องสงบสติอารมณ์ของตัวเองในช่วงเวลาที่สําคัญแบบนี้!
เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้เขาจะต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดีและคํานึงถึงสถานการณ์โดยรวม เพราะถ้าเขาก้าวพลาดมันจะส่งผลต่อครอบครัวเขาแน่!
เขาไม่ได้ตัวคนเดียวแต่ยังมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลสู่อยู่ข้างหลังด้วย!
และด้วยเหตุนี้ทําให้เขายังไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับหลิงหยุนโดยตรง!
ลู่เว่ยหันกลับมาหาเจียงเฉิน
ลู่ฉู่ซวนที่แอบมองอยู่ข้างๆก็ลดโทรศัพท์ลงแล้วมองดูด้วยความคาดหวัง
พวกเขาอยากจะรู้ว่าเจียงเฉินจะเอายังไงต่อไป
เจียงเฉินยิ้มให้ลู่เว่ยก่อนจะลุกขึ้นมา
เขาเดินไปข้างๆลู่เว่ยก่อนจะตบบ่าอีกฝ่าย
“ลู่เว่ย ฉันยอมรับในตัวนายแล้วน้องชายของฉันปล่อยเรื่องนี้ให้ฉันจัดการเถอะ!”
ทันใดนั้นน้ำตาของลู่เว่ยก็ไหลออกมา!
คุ้มมาก!
อย่าว่าแต่หลิงหยุนคนเดียวเลยต่อให้มีหลิงหยุน 10 คนตราบใดที่เจียงเฉินพูดคํานี้ออกมามันก็คุ้มค่า!
ลูเว่ยรู้แล้วว่าการเดิมพันของเขานั้นมาถูกทางแล้ว!
ตอนแรกเขาก็กลัวว่าเจียงเฉินจะไม่สนใจเขาและทิ้งเขาไปเพราะก่อนหน้านี้เขาได้ทําให้อีกฝ่ายขุ่นเคือง
และถ้าเจียงเฉินเลือกที่จะจากไปเขาก็คงพูดอะไรออกมาไม่ได้และต้องยอมรับความโกรธจากหลิงหยุนเพียงลําพัง!
แต่..
เจียงเฉินกลับไม่จากเขาไป!
แถมเขาพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาว่าเขาจะจัดการเรื่องนี้เองด้วย!
แววตาของเจียงเฉินทําให้ในใจของลู่เว่ยอบอุ่นและมั่นคง!
พี่ใหญ่เฉินซึ่งมีน้ำใจและความชอบธรรมจริงๆ!
น้องสาว ดูเหมือนเธอจะมองคนไม่ผิดไม่แน่ว่าในอนาคตฉันก็จะได้เรียกพี่เจียงเฉินว่าน้องเขยก็ได้
แน่นอนว่าเจียงเฉินนั้นไม่ใช่คนโหดเหี้ยมและไร้ความชอบธรรม แม้ว่าก่อนหน้านี้ลู่เว่ยจะทําให้เขาขึ้นเคืองก็ตาม
แต่วันนี้ในเมื่อเขามาช่วยฉันคนนี้ฉันก็จะตอบแทนเขา!
คนอื่นให้เกียรติฉันแค่ 1 ฟุตแต่ฉันคนนี้จะให้กลับ 1 เมตร!
เจียงเฉินเดินไปหาหลิงหยุนแล้วพูดออกมาเบาๆ “หลิงหยุนใช่ไหม? ฉันชื่อว่าเจียงเฉิน เรื่องในวันนี้ก็เป็นเพราะลูกพี่ลูกน้องของคุณเฉินซื่อหยูปากคอร้ายเองตอนแรกเธอเยาะเย้ยครอบครัวเจ้าบ่าวและแขกในงาน และเธอก็ยังไม่กล่าวขอโทษกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวของงานแต่ยังดูถูกพวกเราที่เป็นแขกของฝ่ายเจ้าบ่าวอีก…”
เจียงเฉินเล่าเรื่องทั้งหมดออกมาให้คนรอบๆได้ยิน!
ใครถูกใครผิดทุกคนย่อมตัดสินใจได้!
แขกที่ได้ยินต่างก็พยักหน้าแล้วกระซิบกันเบาๆ
“ใช่แล้ว ผู้หญิงคนนี้ราวกับคนไม่ได้รับการศึกษาถ้าไม่ใช่เพราะเธอปากเสียเองคนอื่นจะไปตบเธอทําไมกัน?”
“อืม ฉันเองก็ได้ยินเหมือนกันปากของเธอร้ายกาจจริงๆ!”
“โนตบบ้างน่ะดีแล้วจะได้จําเอาไว้บ้าง!”
“ใช่เลย แล้วก็ฉันของยืนข้างเจียงเฉิน!”
“ฉันด้วย!”
แม้ว่าบรรดาแขกจะกระซิบกัน แต่เสียงก็ดังพอที่จะลอยมาเข้าหูของหลิงหยุน
หลิงหยุนแค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา
ทําไมเขาจะไม่รู้ว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาปากคอร้ายแค่ไหน?!
เธอนั้นถูกตามใจมาตั้งแต่เด็กเวลาอยู่บ้านเธอมักจะทําตัวดีพูดจาไพเราะ แต่เมื่อเธอออกมาข้างนอกเมื่อไหร่ปากของเธอจะพูดจิกกัดคนไม่หยุด!
เธออาศัยความร่ำรวยและพลังจากตระกูลและความเอ็นดูจากคนในตระกูลจนลูกพี่ลูกน้องคนนี้ทําให้คนไม่พอใจกันกันไปทั่ว!
แต่!
แต่ในวายตาของหลิงหยุนนั้นสิ่งที่เขากําลังทํานั้นเป็นสิ่งที่เขาควรทํา!
ซึ่งนั่นก็เพียงเพราะว่าเธอนั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา!
แม้ว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาจะด่าว่าคนไปทั่วแต่ก็ไม่มีใครมีสิทธิ์มาตําหนิเธอ!
และใครก็ตามที่กล้าเขาก็จะเป็นคนจัดการคนพวกนั้นให้หนัก!
หลิงหยุนยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดออกมาเบาๆ “ซื่อหยูจะพูดอะไรมันก็เป็นสิทธิ์ของเธอที่จะพูด! และคนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์ยุ่งและลู่เว่ยคนนี้มันกล้าตีลูกพี่ลูกน้องของฉัน ฉันก็จะทวงคืนความยุติธรรมให้เธอและเขาจะต้องตบหน้าตัวเอง 2 ครั้งเพื่อระบายความโกรธของลูกพี่ลูกน้องของฉัน! ไม่งั้น…พวกแกก็จะต้องรับผลที่จะตามมา!”
สิ่งที่หลิงหยุนพูดออกมาจนไม่มีที่ว่างให้คนอื่นได้พูดแทรกนั้น ฟังดูราวกับลูกพี่ลูกน้องของเขาต่อว่าคนอื่นอย่างมีเหตุผล และการที่เธอถูกทุบตีเป็นการกระทําที่ชั่วร้าย!
“ช่วยไม่ได้เพราะเธอทําตัวเองทั้งนั้น”
สายตาของเจียงเฉินและหลิงหยุนปะทะกันกลางอากาศความร้อนระอุกระจายไปทั่วทั้งงาน!
ไม่มีใครยอมใคร!
“นี่คือการพูดเพราะความแข็งแกร่งงงั้นหรอ?” หลิงหยุนยิ้มและพูดออกมา
“ใช่แล้วมันคือความแข็งแกร่ง” เจียงเฉินตอบกลับแล้วยิมออกมา
“และฉันก็ต้องขอชื่นชมความใจกล้าของนายด้วย”
เมื่อเห็นเจียงเฉินแบบนี้แล้วหลิงหยุนก็อดไม่ได้ที่จะต้องขมวดคิ้ว!
ทันใดนั้นเขาก็รับรู้ได้ถึงลางสังหรณ์บางอย่างที่ไม่ดีเลย
ตัวตนของเขานั้นเป็นที่รู้จักกันดีอย่างน้อยในงานเลี้ยงแห่งนี้
แม้ว่าตัวเจียงเฉินคนนี้จะไม่รู้จักเขาแต่น้องชายของเขาลู่เว่ยจะต้องรู้จักแน่นอน
และการที่เขาเป็นพี่ชายของเว่ยมันไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะไม่รู้จักฉันและรู้ว่าฉันแข็งแกร่งแค่ไหน
แต่ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ยังมีความมั่นใจอยู่อีกหรอ?
หรือว่าภูมิหลังของคนๆนี้จะลึกซึ้งจนยากที่จะคาดเดา?
แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน? เขานั้นรู้จักนายน้อยทุกคนในเมืองหลวงดีแต่เขาไม่เคยได้ยินชื่อเจียงเฉินมาก่อน!
หลิงหยุนยิ้มออกมาอย่างเย็นชาและมองหน้าของเจียงเฉินอีกครั้ง
ต่อให้แกมีความมั่นใจแล้วมันจะยังไง?
หลิงหยุนคนนี้เป็นโอรสสวรรค์เป็นยักษ์ใหญ่ในวงการธุรกิจมีธุรกิจอยู่ทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาและจีน!
และศักดิ์ศรีของเขาไม่ใช่สิ่งที่ใครจะเข้ามาแตะต้องได้ง่ายๆ!
“หึ! เจียงเฉินใช่ไหม? รอดูเถอะฉันจะทําให้แกต้องเสียใจ!”
หลิงหยุนยิ้มเยาะออกมาก่อนจะพาลูกพี่ลูกน้องของเขา เฉินซื่อหยูออกไป!
เฉินซื่อหยุเดินออกไปด้วยความโกรธแต่เธอก็ยังไม่จบเธอหันกลับมาตะโกน “ลูกพี่ลูกน้องของฉันจะต้องให้แกแล้วก็แกคุกเข่าบนพื้นแล้วให้พวกแกตบหน้าตัวเองแล้วตะโกนขอโทษฉันแน่! จําคําพูดของฉันไว้ให้ดีๆล่ะ!”
หลิงหยุนและเฉินซื่อหยูจากไป
ทุกคนในงานทั้ง 98 โต๊ะของฝ่ายหญิงก็รู้สึกไม่ผิดหวังเลยที่เจียงเฉินนั้นโต้กลับพวกเขาพากันเยาะเย้ย คาดเดาและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกสนาน!
“เจียงเฉินคนนี้พูดถูกแต่ถึงยังไงอีกฝ่ายก็ยังแข็งแกร่งมาก!
“ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหลิงหยุนไม่ใช่เงิน! ฉันเคยเห็นว่าเขานั้นมีสัมพันธ์ที่ดีกับคนที่มีอํานาจมาก!”
“ถึงฉันจะไม่รู้จักเจียงเฉินคนนี้แต่ฉันรู้จักความแข็งแกร่งของหลิงหยุนดี ดูสภาพแล้วตระกูลสู่จะต้องหนาวสั่นแล้วล่ะ!”
“นายรู้จักเจียงเฉินรึเปล่า? ฉันไม่รู้จักเขาเลย!”
“นี่ดูสิ [โต๊ะเพื่อนร่วมงานส่งพัสดุ] พวกเขาเป็นแค่คนส่งพัสดุ!”
มีเสียงพูดคุยกันดังไปทั่วทั้งงานแต่ง เสี่ยวลี่กับเจิ้งหยู่หลันที่ตอนแกรอยากจะเกลี้ยกล่อมทั้งสองฝ่ายแต่ทั้งสองก็เกิดความบาดหมางกันไปแล้วจนตอนนี้จะเกลี้ยกล่อมยังไงก็ไม่ได้อีกแล้ว
แต่เจียงเฉินในตอนนี้สงบนิ่งจนเหมือนกับขุนเขา
ในเวลานี้เองประตูของห้องจัดเลี้ยงก็เปิดอย่างช้าๆ!
ชายวัยกลางคนที่ดูน่าเกรงขามก็เดินเข้ามา
ประธานบริหารโจวหยวน!
ตอนแรกโจวหยวนต้องการมาพบกับเจียงเฉินพร้อมกับเลขาของเขาแค่สองคนเท่านั้นแต่เมื่อเห็นว่าเจียงเฉินกําลังโดนคนโอ้อวดใส่อยู่เขาจะยอมได้ยังไง? เขาจึงรีบกลับไปก่อนจะเกณฑ์คนมาพร้อมกับเขาเพื่อสร้างความน่าเกรงขามให้กับเจียงเฉิน!
ดังนั้นรอบตัวเจียงเฉินตอนนี้มีทั้ง รองประธาน ผู้จัดการ หัวหน้าแผนกบัญชี แผนกต้อนรับ!
ฉากนี้ดูยิ่งใหญ่มากจนทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไปเป็นเงียบสงบทันที
เจ้าบ่าวเสี่ยวลี่และเจ้าสาวเจิ้งหยู่หลันต่างตกตะลึง!
แม้พวกเขาจะไม่รู้จักคนทั้งหมดที่เพิ่งเข้ามาแต่มีหนึ่งคนที่พวกเขาต้องรู้จัก!
เขาคือผู้จัดการแผนกต้อนรับเขาเป็นคนที่รับผิดชอบการจัดงานแต่งในครั้งนี้
คุณเฟิง ผู้จัดการแผนกต้อนรับ!
ตอนที่พวกเขามาจองโรงแรมก่อนหน้านี้ พวกเขานั้นต้องอ้อนวอนขอร้องผู้จัดการเฟิงคนนี้นานมากกว่าพวกเขาจะได้มาก็ต้องยื่นซองลั่งเปาให้เขาไปไม่น้อย!
แต่ตอนนี้ผู้จัดการผู้แสนหยิ่งยโสคนนี้กลับกําลังก้มโค้งคํานับโดยที่ยืนห่างจากคนใหญ่คนโตข้างหน้าไปประมาณ 10 เมตร!
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
เพราะสถานะของโรงแรมผางกู่นั้นก็ไม่ได้ธรรมดา!
เสียวลี่และเจิ้งหยู่หลันมองหน้ากัน
ลู่เว่ยกับลู่ฉู่ซวนก็มึนงง
แต่เหล่าบรรดาคนใหญ่คนโตพวกนั้นต่างก็ไม่สนใจใครแม้แต่น้อยพวกเขาเดินตรงมาหาเจียงเฉิน
พวกเขายิ้มออกมาก่อนจะก้มโค้งแล้วพูดว่า “คุณเจียง!”
เหล่าบรรดาคนที่ตามมาก็ก้มโค้งแล้วพูดออกมาพร้อมกัน “คุณเจียง!”