บทที่ 221 จะแบ่งปันกันทุกอย่าง จะเคียงข้างกันไปตลอดชีวิตล่ะ!
ผงทรายสีดำผุดขึ้นมาจากพื้นก่อนจะลอยขึ้นฟ้าเต็มไปหมด จากนั้นก่อรูปเป็น
กำแพงป้องกันการโจมตีจาก Spear of Tlahuizcalpantecuhtli ไว้ได้ทั้งหมด!
ลำแสงล่องหนได้ตกกระทบบนทรายเหล็กวินาทีต่อมาทรายเหล็กตรงจุดนั้นก็ได้
สลายหายไปราวกับโดนลบตัวตน! เห็นแบบนี้วู่หยานก็รู้สึกเย็นเยียบ
สมกับทีเป็น Spear of Tlahuizcalpantecuhtliถึงแม้จะเป็นแค่ของเลียนแบบ
แต่พลังก็ประมาทไม่ได้เลย คนที่โดนเข้ายังไงก็ต้องเจ็บตัวแน่ๆ ไม่เว้นแม้แต่ตัว
เขา!
ถ้าเป็นตัววู่หยานเมื่อก่อนคงต้องคอยใช้พลังอย่างระมัดระวังสุดขีด เพราะ
ความสามารถแยกส่วนเป้าหมายที่โดนมันทำเขาตายได้เลย แต่พอมาตอนนี้ได้
กลายเป็นสายเลือดแท้ต่อให้โดนแยกชิ้นส่วนเขาก็สามารถฟื้นฟูกลับมาเป็น
เหมือนเดิมได้ภายในพริบตา อย่างแย่สุดก็แค่ต้องริมรสชาติร่างกายฉีกขาดเป็น
ชิ้นๆก็เท่านั้น…..
แน่นอนว่าเขาไม่ใช่ไอ้โง่หรือโรคจิตที่จะไปมีความสุขกับการโดนตัดเป็นชิ้น!
อิซารี่มองวู่หยานที่ยังคงปลอยภัยไร้รอยแผล แต่เขาก็ไม่ได้แคร์ว่าการโจมตีตัวเอง
ไม่ได้ผล ที่เขาแคร์คือ “ทำไมนายถึงใช้พลังของเธอได้?”
วู่หยานมองหน้าอิซารีทีนึงแล้วถอนหายใจ “ดังนั้น ฉันถึงบอกแต่แรกไง ว่านาย
มันไม่เข้าใจอะไรเธอเลย แต่กลับพูดว่าจะทำให้เธอมีความสุข……”
ครั้งนี้อิซารีเงียบ ในเวลาเดียวภายในดวงตาเขาก็เผยให้เห็นถึงความอิจฉา ใช่แล้ว
เขาอิจฉาวู่หยาน อิจฉาที่เขาสามารถมีสาวงามข้างกายได้และสามารถมีพลังแบบ
เดียวกับคนที่เขาชื่นชอบ!
ความมีเหตุมีผลในตัวเขาร้องบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่ในโลกจะมีคนที่มีพลัง
เหมือนกันเป๊ะๆเกิดขึ้น อีกฝ่ายก็แค่มีพลังคล้ายคลึงกับเธอเท่านั้น ทว่า
สัญชาตญาณมันบอกว่าเขาคิดง่ายไป! เขามันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวอีกฝ่ายเลยจริงๆ
ด้วย!
ไม่รู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงสามารถหลบซ่อนได้ลึกถึงขนาดนี้ แม้แต่องค์กรของเขายัง
ไม่รู้ข้อมูลจริงๆของอีกฝ่ายเลย และไม่รู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้มีพลังแบบเดียวกับมิ
โคโตะแถมระดับพลังยังสูงมาก!
สิ่งที่ไม่รู้มันมากเกินไป นี่ทำให้อิซารีเกิดความรู้สึกกลัวขึ้นมา ไม่ใช่กลัวความ
ลึกลับของวู่หยาน แต่หวาดกลัวตนเองที่ไม่รู้อะไรเลย!
เขากลัวว่าตัวเองไม่ได้เข้าใจถึงสถานการณ์ของคนที่ตนเองชื่นชอบเลย และกลัว
ว่าเพราะความโง่เขลาเพราะความไม่รู้อะไรเลยของตัวเองจะสร้างเรื่องอย่างที่อีก
ฝ่ายบอกจริงๆ!
เป็นเพราะการกระทำของต่างๆนานาของวู่หยานมันบอกเขาว่า ตัวเองมันไม่รู้
อะไรเลย……
“แกไอ้บ้า!” ความกลัวที่ไม่รู้จัก ทำให้อิซารีมีความที่จะหลีกหนี เขาคำรามใส่วู่
หยานด้วยความคลั่งแล้วสะบัด Spear of Tlahuizcalpantecuhtliใส่วู่หยานอ
ย่างไม่ยั่งมือ!
ทว่าอิซารีเพิ่งยก Spear of Tlahuizcalpantecuhtli ขึ้นมาเหนือหัวไหล่ ทันใด
นั้นก็มีลำแสงสีส้มยิงมาที่มีดสีดำในมือโดยที่เขายังไม่ทันตั้งตัวและทำลายมัน!
อิซารี่ถอยหลังสองก้าวด้วยความไม่อยากเชื่อ มองดูอีกฝ่ายที่ยืนห่างออกไปไม่ไกล
วู่หยานยืนอยู่ในท่ายกมือเล็งมาที่ตัวเองโดยที่มือก็ยังมีกระแสไฟฟ้าไหลไปมา “ระ
…เรลกัน….”
“ไม่อยากเชื่อสินะ?” วู่หยานพูดเบาๆ ก่อนจะเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง
หยิบเหรียญออกมาอีกครั้งแล้วว่างไว้ที่นิ้วมือจากนั้นกระแสไฟฟ้าก็สว่างวาบ!
“ลองยืนยันอีกครั้งด้วยดวงตาคู่นั้นของตัวเองเป็นไง?”
รู้สึกได้ถึงวิกฤตร้ายแรงต่อให้ใจจะไม่อยากเชื่อแค่ไหน อิซารี่ก็ทำได้แค่ยอมรับ
ความจริงตรงหน้า……
อิซารีลงไปคุกเข่ากับพื้นด้วยสีหน้าซีดเผือด พร้อมกันนั้นประกายชีวิตชีวาใน
ดวงตาเขาก็ได้หายไป…..
ผมมัน….ช่างไม่รู้อะไรเลยจริงๆ……
ประกายเย็นชาในนัยน์ตาสีแดงของวู่หยานค่อยๆหายไป จากนั้นเขาก็ถอนหายใจ
วู่หยานรู้สึกว่าตัวเองพูดแรงเกินไป มันคงกระทบกระเทือนใจอีซารี่มาก……
ถึงยังไงอีกฝ่ายก็ดีกับมิโคโตะมาก แม้ว่าใจเขาจะรู้สึกไม่ชอบใจ แต่เขาก็ไม่มีสิทธ์
ไปห้ามไม่ให้คนอื่นชอบใครรักใคร ถึงเขาจะเป็นคนใจแคบแต่ก็ไม่ได้แคบถึงขนาด
นั้นนะ……
มองดูอิซารี่ที่ราวกับวิญญาณหลุดจากตัว วู่หยานก็รู้สึกสงสารขึ้นมา ไม่จะในโลกนี้
หรือในเนื้อเรื่องเดิม อีกฝ่ายก็ดูจะไม่สามารถแสดงความรู้สึกออกมาอย่างซื่อตรง
ได้เลย……
คิดถึงตรงนี้ วู่หยานก็ไม่คิดจะพูดอะไรให้กระทบกระเทือนจิตใจอีกฝ่ายอีก เขา
ก้าวเท้าเดินจากไปอย่างช้าๆ……..
เมื่อเดินผ่านตัวอิซารี่ อีกฝ่ายก็เงยหน้าขึ้นพรวดแล้วพูดกับวู่หยานว่า “นาย…นาย
สามารถให้สัญญาผมได้มั้ยว่าจะปกป้องเธอไปตลอดชีวิตน่ะ?”
วู่หยานหยุดเดิน ขณะที่รู้สึกเหนื่อยใจเล็กน้อย…..
ในเนื้อเรื่องเดิม อิซารี่จะพ่ายแพ้ให้กับโทวมะ จากนั้นมันก็จะฝากฝังให้โทวมะ
ปกป้องมิโคโตะไปตลอดชีวิต ทว่าน่าเสียดายโทวมะมันคิดกับมิโคโตะแค่เพื่อน
สำหรับไอ้หัวเม่นที่เป็นแค่เลเวล0แล้ว มิโคโตะก็เป็นตัวตนที่ห่างไกลตัวเอง แต่มัน
ก็ยังรับปากบางทีอาจจะรับๆไปเพื่อให้อิซารี่มันสบายใจหรือบางทีมันอาจจะมี
ความตั้งใจอื่น
แต่ตอนนี้คนโดนถามไม่ใช่โทวมะ แต่เป็นตัวเขา……
วู่หยานหันหน้าไปมองอิซารี่ ถอนหายใจเบาๆทีนึงแล้วพูดน้ำเสียงอ่อนโยนว่า
“นายเก็บคำพูดนี้ไปเถอะ…..”
“ไม่รับปากสินะ?” อิซารี่ฝืนยิ้ม “นั้นสินะ ผมมันไม่มีคุณสมบัติที่จะร้องขออะไรได้
…..”
วู่หยานส่ายหน้าแล้วเงยหน้ามองฟ้า มองไปที่เส้นขอบฟ้าอันไกลโพ้น แล้วพูด
เบาๆ
“สายสัมพันธ์ของฉันกับมิโคโตะมันเป็นอะไรที่ถูกตัดสินมาตั้งแต่ต้นแล้ว สายใย
เส้นนี้มันลึกซึ้งจนคนอื่นไม่อาจเข้าใจได้เลยล่ะ…..”
วู่หยานลูบอกตัวเอง จากนั้นหลับตาลงสัมผัสถึงเสียงเต้นของหัวใจตน วินาทีที่เขา
อัญเชิญมิโคโตะออกมาหัวใจของเขากับเธอก็ได้เชื่อมโยงถึงกันแล้ว!
“ถ้าโลกยังมีที่ให้พวกเราอยู่ เราก็จะอยู่เคียงกันไปชั่วนิรันดร์ เมื่อไหร่ที่โลกไม่อาจ
ทนต่อตัวตนของพวกเราได้ เราก็จะตายไปด้วยกัน!!”
ค่อยๆลืมตาขึ้น ภายในนัยน์ตาสีแดงของวู่หยานนั้นเอ่อล้นไปด้วยความอบอุ่นที่
มากล้น มากถึงขนาดสามารถหลอมละลายความว่างเปล่ารอบๆได้เลย เขาจ้อง
มองไปในทิศทางนึงราวกับจะมองทะลุมิติไปยังสาวๆของตนยังไงยังงั้น……
“ชีวิตของพวกเราผูกเข้าด้วยกัน บอกให้ปกป้องเธองั้นเหรอ? นั่นมันออกจะดูถูก
สายสัมพันธ์ของพวกเราไปหน่อยนะ……”
ใช่แล้ว มันไม่จำเป็นเลย กับพวกเขาที่ชีวิตหลอมรวมเข้าด้วยกัน ตราบใดที่วู่
หยานไม่ตาย ฮินางิคุ มิโคโตะ อิคารอส และ แอสเทรียก็จะไม่มีวันตาย ไม่มีวัน
ตายไปชั่วนิจนิรันดร์!
วู่หยานที่เป็นสายเลือดแท้ก็เท่ากับมีชีวิตอมตะ ดังนั้นพวกเธอที่ชีวิตหลอมรวมกับ
เขาก็จะอยู่เคียงข้างเขาไปตลอดกาลเช่นกัน…..
พวกเธอและเขาไม่มีใครหนีไปไหนได้ทั้งนั้น เพราะชีวิตได้หลอมเข้าด้วยกันแล้ว!
บอกให้ปกป้องงั้นเหรอ? เหอะจำเป็นต้องให้เอ็งบอกด้วย?……
ได้ยินคำพูดวู่หยาน อิซารีก็ใจลอยไปกับคำพูดที่ว่าจะอยู่ด้วยกันไปชั่วนิรันดร์
คำพูดของวู่หยานทำให้เขารู้สึกว่าความตั้งใจตัวเองช่างเล็กกระจ้อยร่อยจริงๆ……
บางทีนี่อาจจะเป็นบทสรุปที่ดีที่สุดแล้วก็ได้…….
อิซารียิ้มออกมาด้วยความโล่งอก สีหน้าเขาไม่ดูเหมือนคนป่วยใกล้ตายอีกแล้วได้
กลับไปเป็นใบหน้าที่ยืมคนอื่นมารอยยิ้มที่สดใสราวดวงอาทิตย์
ความคิดทั้งหมดในใจเขาได้เปลี่ยนไปเหลือเพียงคำพูดสั้นๆว่า…..
“ผมขออวยพรให้นายมีชีวิตที่มีความสุขนะ…..”
………………
ในที่ที่วู่หยานกับอิซารีไม่เห็น ตรงมุมของซอย มิโคโตะกำบัวเอาหลังพิงกำแพง
เย็น ทว่าถึงหลังจะเย็นแต่หัวใจเธอนั้นร้อนมาก!
ข้างตัวเป็นคนหน้าเหมือนอิซารี ไม่สิ ถ้าจะให้ถูกต้องบอกว่าเป็นเจ้าของหน้าที่
แท้จริง เป็น อุนาบาระ มิตซึกิ ตัวจริง เขากำลังมองดูมิโคโตะที่หลับตาขณะที่เอา
มือวางไว้ที่หน้าอกตัวเองด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ยิ้มจนดูเหมือนคนไม่เต็มยังไงยังงั้น
นึกถึงคำพูดเมื่อกี้ของวู่หยาน ใบหน้ามิโคโตะก็ร้อนฉ่า มือกุมหน้าอกตรงจุดที่มี
หัวใจแน่น จากนั้นก็พูดเสียงเบาหวิวอย่างไม่พอใจ (@ซึนเดเระ!)
“เจ้าบ้า…..ดันพูดอะไรน่าอายแบบนั่นออกมาได้นะ……”
จากนั้น มิโคโตะก็มอง อุนาบาระ มิตซึกิ ที่กำลังมองตัวเองอยู่ เธอกหน้าแดงอีก
รอบแล้วพูดด้วยความไม่พอใจ “มองอะไรนักหนายะ ไปกันได้แล้ว!”
ได้ยินแบบนี้ มิตซึกิก็อึ้งไป ก่อนจะถามออกมาด้วยความสังสัย “แล้วไม่จับเจ้าตัว
ปลอมนั่นเหรอ?”
มิโคโตะเดินจากไปทันที เหลือทิ้งไว้เพียงประโยคสั้นๆว่า
“เขาจะจัดการทุกอย่างเอง!”