บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 405

ทั้งมาเดลีนและเอโลอิสต่างพากันตาเบิกกว้างในสิ่งที่แจ็คสันพูดออกมา

เอโลอิส แพททัล เป็นนักออกแบบที่มีฝีมือคนหนึ่งในวงการ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับเธอที่จะร่างแบบจำลองปานของมาเดลีนบนกระดาษได้อย่างสมบูรณ์แบบ

มาเดลีนกังวลใจเพราะว่าแจ็คสันเคยบังเอิญผ่านมาเห็นปานในตอนที่เธอไม่ทันได้ระวังตัวหรือไม่

“หลานเคยเห็นผีเสื้อตัวนี้ที่ไหน แจ็ค?” จากไหน? เอโลอิสโน้มตัวลงไปถามหลานชายตัวน้อยด้วยความกระตือรือล้น ไฟในดวงตาของเธอมีความมันวาวกับสิ่งที่จะได้ยินหลังจากนี้

ในทางกลับกัน มาเดลีนเอ่ยขึ้นขัด “ทำไมคุณถึงสั่งพิมพ์รูปนี้มากมายกัน คุณนายมอนต์โกเมอรี? หรือว่าเป็นวิธีตามหาลูกสาวของคุณ?

เอโลอิสพยักหน้า “ฉันทำการโพสต์ตามหาเอาไว้ในอินเตอร์เน็ตเช่นกัน แต่พวกนี้ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำให้ฉันอาจจะโชคดีที่จะหาลูกสาวของตัวเองเจอ ฉันพยายามอย่างสุดความสามารถและทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้เจอลูกสาวของตัวเองอีกครั้ง!”

คำพูดของเธอไม่มีอะไรมากเพียงแค่มันเต็มไปด้วยความหวังและความจริงใจที่จะเจอลูกสาวของตัวเองเท่านั้น

ภายในใจของเธอในตอนนี้เร่งเร้าให้ตามหาลูกสาวที่หายไปนาน

หัวใจมาเดลีนสั่นและถูกบีบให้รู้สึกแน่นหน้าอกจนเธอรู้สึกได้

‘บางทีพ่อแม่ของฉันเองไม่ควรถูกตำหนิแบบนี้ ในเมื่อพวกเขาเองก็เป็นเหยื่อถูกคำโกหกของครอบครัวเมเรดิธด้วยเช่นกัน

‘พวกเขาก็เคยถูกใช้งาน จากความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะพบลูกสาวของตัวเองเท่านั้น’

‘ถึงแม้…’’

“บอกคุณยายสิ แจ็ค หลานเคยเห็นผีเสื้อตัวนี้ที่ไหนมาก่อน?”

มาเดลีนได้ยินเอโลอิสเลยถามขึ้นมาอย่าใจร้อนและไม่สามารถทนรอคำตอบได้อีกต่อไป

และเมื่อดึงสติของตัวเองกลับมา มาเดลีนพยายามหยุดในสิ่งที่แจ็คสันกำลังพูดแต่ว่าสายไปเสียแล้วเมื่อน้ำเสียงที่ฟังชัดถ้อยชัดคำของเด็กชายตัวน้อยกำลังลอยผ่านอากาศเข้ามาในหูเธอ “บนร่างกายของแมดดี้” แจ็คสันตอบเบา ๆ

มาเดลีนหัวใจกำลังเต้นแรงอย่างสุดขีดและแทบจะพุ่งออกมาจากหน้าอก

เอโลอิสแทบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เธออยู่ในอาการตกตะลึง “แมดดี้? แจ็ค แมดดี้ งั้นเหรอ บนร่างกายของ มาเดลีน ครอว์ฟอร์ด?”

แจ็คสันยืนยันโดยการพยักหน้าอีกครั้งก่อนที่จะเอามือชี้นิ้วไปที่เอวด้านขวาของมาเดลีน ทางด้านหลังของเธอ “บริเวณนี้ ตรงนี้เป็นที่ที่ผีเสื้อของแมดดี้อยู่”

“…”

“…”

เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงมาก่อน เป็นความจริงที่ว่าแจ็คสันเองเคยเห็นผ่านร่างกายของเธอ

มันเป็นไปได้ยังไงกันในตอนนั้นแจ็คสันมีอายุเพียงแค่สองขวบเท่านั้น ในตอนที่เธอ ‘เสียชีวิต’ ไปเมื่สามปีก่อน ทำไมเด็กคนนี้ถึงมีความทรงจำที่ยอดเยี่ยมอะไรขนาดนี้!

“วะ ว่าไงนะ…” ตาของเอโลอิสเริ่มมืดมน ด้วยความตกตะลึง

คล้ายกับว่าเรี่ยวแรงของเธอแทบหมดสิ้นไป เอโลอิสไม่สามารถทรงตัวเอาไว้ได้ เธอเริ่มแกว่งไปแกว่งมาและกำลังจะล้มลง

คงเป็นปฏิกิริยาตอบสนองภายใต้ส่วนลึกของจิตใจมาเดลีน เธอรีบเข้าไปพยุงตัวเอาไว้ก่อนที่หล่อนจะล้มลงกระแทกพื้นได้ทันเวลา “ไม่เป็นอะไรใช่ไหม คุณนายมอนต์โกเมอรี?”

สีผิวเอโลอิสกำลังซีดเผือกในขณะที่สายตาของเธอเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ทั้งร่างกายและจิตใจของเธอกำลังแข็งตัวราวกับว่าเธอกำลังเสียสติ และมีน้ำตามากมายไหลออกมาจากหางตาเธออย่างต่อเนื่อง

“คุณนายมอนต์โกเมอรี?”

“ฮึก…” เอโลอิสยกมือของตัวเองขึ้นทาบเอาไว้กับหัวใจที่กำลังปวดร้าวในขณะที่เธอกำลังหายใจเข้าออกอย่างเจ็บปวด “เข้าใจแล้วว่าทำไม… ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว…” เธอยังคงพึมพำกับตัวเองในขณะที่น้ำตาเอ่อล้นพร้อมกับริมฝีปากที่สั่นเทาของเธอเริ่มเอ่ยชื่อ

“มาเดลีน…”

มาเดลีนได้ยินคำนั้นออกมาจากปากของผู้เป็นแม่ เธอยิ้มออกมาด้วยความขมขื่นพร้อมกับตาที่เริ่มเปียกปอนในตอนนี้

เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ทุกอย่างสายเกินไป

เอโลอิสหมดสติไปหลังจากที่รู้ความจริง เธอเพียงแค่เอ่ยชื่อลูกสาวตัวเองออกมา

มาเดลีนโทรเรียกรถพยาบาลเพื่อนำเอโลอิสไปที่นั่น เธอรีบติดต่อครูคนหนึ่งในโรงเรียนอนุบาลเพื่อออกมารับตัวแจ็คสันไปในโรงเรียน ฌอนมาถึงภายหลังจากที่ทั้งคู่ถึงโรงพยาบาลได้ไม่นาน

เป็นเพราะเขาไม่รู้ว่าทำไมเอโลอิสถึงหมดสติ ผู้ชายคนนั้นกังวลในเรื่องอาการป่วยของเธอเท่านั้น

มาเดลีนจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เอโลอิสก่อนที่เธอจะกลับมาที่ห้องพักฟื้น เธอหันไปเห็นฌอนกำลังเดินออกไปข้างนอกด้วยความกังวล เธอเก็บความไม่พอใจของตัวเองเอาไว้และเดินเข้าไปหาผู้ชายคนนั้นด้วยรอยยิ้มที่สร้างขึ้น

“คุณมาแล้ว สามีคุณนายมอนต์โกเมอรี ไม่มีอะไรต้องกังวล ภรรยาของคุณไม่เป็นไร”

ฌอนขอบคุณในขณะที่เธอส่งผลการรักษาเอโลอิสให้เขา

ฌอนเกิดความกังวลขึ้น เมื่อนึกถึงเหตุผลของการหมดสติไปที่คุณหมอเขียนเอาไว้ เป็นเพราะความทุกข์ใจรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

“ความทุกข์? มีเรื่องอะไรที่ทำให้เอโลอิสไม่สบายใจจนทำให้เกิดความเศร้าได้ขนาดนั้นกัน?”