[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]
บทที่ 507 : คำสั่งลับจากตระกูล!
อุณหภูมิในห้องลดลงสิบกว่าองศาในทันที!
ก่อนที่หลงเทียนเจียวจะลอยละลิ่วออกไปนอกบ้านนั้น หลินเมิ่งหานเองก็เกรงว่าหลิงหยุนจะเป็นอันตราย และด้วยความตกใจ เธอจึงกรีดร้องออกมาพร้อมกับใช้วิชาพลังเย็นขั้นสูงสุด..
และในเวลาเดียวกันนั้นเอง หลินเมิ่งหานก็ผละออกจากอ้อมแขนของหลิงหยุนพร้อมกับยื่นมือของตนเองออกไปขวางฝ่ามือของหลงเทียนเจียวไว้ แต่เธอกลับสัมผัสได้เพียงความว่างเปล่าเท่านั้น เพราะร่างของหลงเทียนเจียวที่ถูกหลิงหยุนตบหน้านั้นได้ลอยละลิ่วออกไปแล้ว “ช่างเป็นภรรยาที่เก่งนัก..! รู้จักทำร้ายคนด้วย..”
ปฏิกิริยาที่มาจากจิตใต้สำนึกนั้น เป็นตัวบ่งบอกจิตใจของมนุษย์ได้ดี หลินเมิ่งหานแสดงออกมาเช่นนี้ ทำให้หลิงหยุนพออกพอใจอย่างมาก และได้แต่นึกชื่นชมอยู่ในใจเงียบๆ
ในความคิดของหลิงหยุนนั้น หลินเมิ่งหานอาจจะโง่เขลาไปบ้างในบางครั้ง แต่ก็น่ารักมากเช่นกัน!
“สามี.. นี่นาย.. นายทำร้ายเขาเหรอ?”
เหตุการณ์เมื่อครู่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในชั่วพริบตาหลินเมิ่งหานก็เห็นหลงเทียนเจียวกระเด็นออกไปไกลแล้ว เธอได้แต่ตกตะลึง และค่อยๆหันไปมองหลิงหยุนอย่างไม่เชื่อสายตา!
“ใช่.. ผมทำร้ายเขา! แต่เพราะเขาจะทำร้ายร่างกายผมก่อน ทำไม.. คุณไม่ต้องการให้ผมทำร้ายเขา เพราะเจ็บปวดแทนเขาหรือยังไง?”
หลิงหยุนรู้อยู่แก่ใจดีว่าหลินเมิ่งหานนั้นอยู่ข้างเขาอย่างแน่นอน แต่เขาก็แสร้งทำเป็นพูดจาเย็นชาและทำสีหน้าเกรี้ยวกราด
“ฉันนี่นะจะรู้สึกเจ็บปวดแทนเขา.. นายพพูดแบบนี้กับฉันได้ยังไง?”
หลินเมิ่งหานเป็นคนที่ตรงไปตรงมา และจริงจังเสียจริงๆ เธอไม่แม้แต่จะสังเกตุเห็นแววตาขี้เล่นของหลิงหยุน และรอยยิ้มที่มุมปากของเขา
ตอนแรก.. หลินเมิ่งหานตกใจที่ได้เห็นความแข็งแกร่งของหลิงหยุน เพราะเพียงแค่เขาตบหน้าหลงเทียนเจียวหนึ่งฉาด หลงเทียนเจียวก็ถึงกับลอยละลิ่วออกไปนอกบ้านทันที
แต่หลังจากนั้น.. เธอกลับรู้สึกเป็นห่วงหลิงหยุนอย่างมาก ที่มาถึงยังไม่ทันได้ถามไถ่ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ก็ชิงลงมือไปก่อนแล้ว! และเมื่อเป็นเช่นนี้ หลิงหยุนจะต้องมีปัญหากับตระกูลหลงในวันข้างหน้าแน่!
“ถ้าไม่ได้เจ็บปวดแทนเขา ก็เงียบซะ!”
เมื่อได้เห็นสีหน้าที่เย็นชาของหลิงหยุน หลินเมิ่งหานก็ถึงกับใจฝ่อ และรู้ว่าหลิงหยุนกำลังเข้าใจผิด เธอจึงรีบอธิบายด้วยอาการตื่นตระหนก
“สามี.. นาย.. นายอย่าเพิ่งโมโห! มันไม่ใช่อย่างที่นายคิด..”
หลินเมิ่งหานเข้าใจว่า.. หลิงหยุนคงคิดว่าหลงเทียนหวู่ค้างที่บ้านตั้งแต่เมื่อคืน ไม่เช่นนั้นเหตุใดจึงมาถึงบ้านของเธอตั้งแต่เช้าตรู่เช่นนี้!
แน่นอนว่า หลินเมิ่งหานไม่รู้ว่าหลิงหยุนเคยพบหลงเทียนเจียวที่ทะเลจีนตะวันออกมาก่อนแล้ว และเธอก็ไม่รู้ว่าหลิงหยุนยืนอยู่หน้าบ้านเป็นเวลานานมากแล้วเช่นกัน และได้ยินทุกอย่างชัดเจน ขนาดหลงเทียนเจียวเองยังไม่รู้ จะนับประสาอะไรกับหลินเมิ่งหาน!
“นี่.. ผมจะให้โอกาสคุณอธิบายเรื่องนี้แน่ แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้ เพราะมีคนนอกอยู่ด้วย!”
หลิงหยุนคิดว่าได้โอกาสที่เขาจะต้องอบรมหลินเมิ่งหาน แต่เขาต้องไล่หลงเทียนเจียวออกจากบ้านไปก่อน!
หลินเมิ่งหานคิดว่าหลิงหยุนเข้าใจเธอผิดจริงๆ ในใจจึงรู้สึกสับสน และรู้สึกผิดอย่างมาก ทำให้เธอยิ่งเกลียดชังหลงเทียนเจียวมากขึ้น หลินเมิ่งหานฟังคำพูดของหลิงหยุนแล้วก็ได้แต่พยักหน้า และกัดริมฝีปากแน่น
แต่ในเมื่อหลิงหยุนเรียกหลงเทียนเจียวว่าคนนอก ก็นับว่าเขายังเห็นเธอเป็นคนในครอบครัว และนั่นทำให้หลินเมิ่งหานใจชื้นขึ้นมาได้บ้างเล็กน้อย
“ออกไปข้างนอกกับผม..”
หลิงหยุนสนุกกับการเห็นหลินเมิ่งหานรู้สึกผิด เธอดูคล้ายกับภรรยาที่ทำอะไรผิดไป หลิงหยุนแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่ เมื่อเห็นสีหน้าของหลินเมิ่งหานระหว่างเดินออกไปด้านนอก
หลิงหยุนใช้พละกำลังไปเพียงแค่เจ็ดสิบส่วนในการตบหน้าหลงเทียนเจียว หลงเทียนเจียวเองก็คิดไม่ถึงว่า หลิงหยุนซึ่งเป็นเพียงแค่ ‘คนธรรมดา’ จะมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้ เขาจึงไม่ทันได้ตั้งตัว..
หลงเทียนเจียวเป็นถึงหนึ่งในผู้นำตระกูลหลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวรยุทธ การศึกษา กิริยามารยาท หรือบุคลิก ล้วนแล้วแต่เป็นไปในรูปแบบของชนชั้นสูง ตลอดระยะเวลายี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ชีวิตของเขานับว่าประสบความสำเร็จมาโดยตลอด ไม่เพียงได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้ากลุ่มเทพอินทรี แต่ยังได้หมั้นหมายกับผู้หญิงสวยงามอย่างหลินเมิ่งหานอีกด้วย และเรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องที่เขาดีใจมากที่สุดในชีวิต!
ครั้งแรกที่เขาได้รับมอบหมายจากกลุ่มเทพอินทรีให้ออกไปปฏิบัติภารกิจแรกที่ทะลจีนตะวันออก เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือลึกลับผู้หนึ่งที่ทั้งยะโสโอหัง และบ้าบิ่นอย่างมาก ไม่เพียงเขาไม่สามารถนำตัวยอดฝีมือลึกลับนี้กลับไปได้ แต่กลับถูกยอดฝีมือลึกลับนี้ทำให้ได้รับความอับอาย ด้วยการตบหน้าหญิงสาวที่ปฏิบัติภารกิจเดียวกับเขาจนลอยตกทะเลไป หลงเทียนเจียวตกใจกับความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายจนแทบไม่กล้าหายใจด้วยซ้ำ และภารกิจที่ได้รับมอบหมายก็ล้มเหลว!
เฉินเจี้นโหยว – คุณหนูสามแห่งตระกูลเฉินยังคงอยู่ที่เมืองเหวินโจว ส่วนตัวเขาถูกมอบหมายให้มาปฏิบัติภารกิจใหม่ที่เมืองจิงฉู ซึ่งก็คือการสืบเรื่องของซันเทียนเปียว และคนอื่นๆ
หลงเทียนเจียวนั่งเฮลิคอปเตอร์จากเรืองลาดตระเวนมาที่เมืองจิงฉู แต่แทนที่จะรีบไปสืบเรื่องของตระกูลซันทันทีที่มาถึง เขากลับใช้อำนาจในมือสืบหาที่อยู่ของคู่หมั้น และรีบเดินทางมาหาเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับเธอ
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าคู่หมั้นของเขา – หลินเมิ่งหาน จะได้กลายเป็นผู้หญิงของชายอื่นไปแล้ว และเห็นได้ชัดว่าทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันแล้ว
หลงเทียนเจียวเพิ่งจะปฏิบัติภารกิจล้มเหลว ในใจของเขาก็รู้สึกขุ่มมัวอยู่แล้ว ตอนนี้คู่หมั้นของเขายังหลับนอนกับ ‘คนธรรมดา’ และไม่สนใจใยดีเขาซึ่งเป็นหนุ่มเพลย์บอยนายน้อยตระกูลหลงเลยแม้แต่น้อย เขาจึงอดใจรอที่จะทำให้หลิงหยุนน้ำตาตกไม่ได้
แต่หากหลงเทียนเจียวรู้ว่า ยอดฝีมือลึกลับที่ทำให้เขาต้องปฏิบัติภารกิจล้มเหลวนั้น ก็คือคนที่แย่งว่าที่ภรรยาของเขาไป เขาก็คงไม่คิดจะจัดการหลิงหยุนเช่นนี้แน่!
สิ่งที่ทำให้หลงเทียนเจียวถึงกับนิ่งอึ้ง และตกใจไม่น้อย ก็คือการที่เขาซึ่งเป็นถึงยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน ไม่สามารถสัมผัสได้แม้แต่เส้นผมของอีกฝ่ายที่เป็นเพียงแค่ ‘คนธรรมดา’ เท่านั้น หลงเทียนเจียวรู้สึกราวกับถูกตบหน้า..
ภารกิจแรกล้มเหลวไม่มีชิ้นดี คู่หมั้นคู่หมายที่จะเข้าพิธีก็ตกเป็นของชายอื่น ตอนนี้หลงเทียนเจียวรู้สึกราวกับบถูกตบหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า..
“ฟังนะ.. ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใคร? แล้วก็ไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นใครด้วย! แต่ในเมื่อเจ้ากล้ามาลุ่มล่ามกับภรรยาของข้า และยังกล้าลงมือกับข้าก่อน วันนี้ข้าจะต้องสั่งสอนเจ้า!”
“หลินเมิ่งหานเป็นผู้หญิงของข้า เป็นภรรยาของข้า หากวันข้างหน้าเจ้ายังกล้ามาตอแยกับนางอีก ข้าจะเอาชีวิตของเจ้า!”
หลิงหยุนโอบร่างบอบบางของหลินเมิ่งหานขณะยืนมองหลงเทียนเจียว และพูดกับเขาด้วยท่าทางขึงขัง
ไม่ว่าจะเป็นตระกูลหลง กลุ่มเทพอินทรี และแม้แต่การหมั้นหมาย หลิงหยุนก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น.. เพราะหากแม้แต่ผู้หญิงของตัวเอง เขายังไม่สามารถปกป้องได้ แล้วเขาจะไปทำอะไรได้อีก และจะฝึกบ่มเพาะไปเพื่ออะไรกัน?
หลงเทียนเจียวรู้สึกว่าใบหน้าของเขาเริ่มบวมเป่ง แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บ เพราะหน้าของเขาชาไปหมดจนไร้ความรู้สึก เขาฟังคำพูดของหลิงหยุน จากนั้นจึงหันหน้าไปพร้อมกับลุกขึ้นยืน
“ข้าจะฆ่าเจ้า!”
หลงเทียนเจียวกรีดกร้องออกมาด้วยความโมโห และวิ่งเข้าใส่หลิงหยุนอย่างบ้าคลั่ง
“ก็ลงมือเลยสิ.. ถ้าเจ้ามีปัญญา!” หลิงหยุนเย้ยหยัน และรอให้หลงเทียนเจียวพุ่งมาตรงหน้า แล้วจึงเตะเขาลอยออกไปอีกครั้ง!
หลงเทียนเจียวถูกหลิงหยุนเตะออกไปนอกบ้านอีกครั้ง ร่างของเขาล่องลอยไปอย่างรวดเร็ว และไม่รู้ว่ากิ่งไม้หักไปกี่กิ่ง ร่างของเขาจึงไปแขวนต่องแต่งอยู่บนต้นไม้
“สามี..”
“เงียบ! ผมยังไม่ได้คิดบัญชีกับคุณเลย!”
หลิงหยุนตะโกนดุหลินเมิ่งหาน และร่างของเขาก็พุ่งออกไปยืนอยู่ใต้ต้นไม้หน้าลานบ้าน
“อย่าทำเป็นแกล้งตาย.. ลงมา..”
หลิงหยุนยิ้มและเงยหน้าขึ้นมองหลงเทียนเจียว ตระกูลหลงแตกต่างจากตระกูลซัน และตระกูลเฉิน แม้หลิงหยุนจะแข็งแกร่งมากเพียงใด แต่เขาก็ไม่ต้องการมีปัญหากับตระกูลหลงในตอนนี้
ตอนนี้หลงเทียนเจียวเข้าสู่ขั้นเซียงเทียน-1 แล้ว เส้นลมปราณเยิ่น กับเส้นลมปราณตูได้ขยายออกแล้ว หลิงหยุนจึงไม่ต้องการฆ่าหลงเทียนเจียว แต่เพียงแค่ต้องการสั่งสอนให้เขาได้อับอายเท่านั้น
หลงเทียนเจียวถูกตบหน้า และถูกเตะจนไปห้อยอยู่บนต้นไม้ จึงเริ่มจะเข้าใจว่าศัตรูของเขาไม่ใช่ ‘คนธรรมดา’ อย่างที่คิด แต่เป็นยอดฝีมือที่ล้ำเลิศมาก แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่มีโอกาสโจมตีได้เลย
หลงเทียนเจียวกัดริมฝีปากแน่น เขากระโดดลงมาจากต้นไม้ และสีหน้าก็เต็มไปด้วยความอับอาย
“เจ้ากล้าบอกชื่อแซ่ให้ข้ารู้หรือไม่?”
ความจริงแล้ว ชื่อของหลิงหยุนนั้นหลินเมิ่งหานได้พูดขึ้นในห้องรับบแขกแล้วหนึ่งครั้ง แต่เพราะปากของเธอสั่นจนฟันกระทบกันจึงฟังได้ไม่ชัดเจนนัก และในเวลานั้นหลงเทียนเจียวก็กำลังโมโห จึงไม่ทันได้ฟังหลินเมิ่งหานพูด อีกทั้งเขาเองก็ไม่ต้องการรู้จักชื่อของ ‘คนธรรมดา’
สำหรับหลงเทียนเจียวแล้ว คนธรรมดาก็ไม่ต่างจากมดตัวหนึ่งในสายตาของเขา
“ได้สิ.. งั้นเจ้าฟังให้ดีล่ะ.. ชื่อของข้าก็คือหลิงหยุน!” หลิงหยุนตอบยิ้มๆ
“อะไรนะ?!”
หลงเทียนเจียวได้ยินชื่อหลิงหยุนก็ถึงกับร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ!
หลงเทียนเจียวถูกส่งมาที่เมืองจิงฉูเพื่อมาสืบเรื่องของตระกูลซัน พร้อมกันนั้นก็ได้รับคำสั่งลับมาจากตระกูลด้วย!