ผู้เล่นหน้าเก่าอย่างซูเทียนจิและคนอื่นๆ ยังคงเล่นเกมและปลูกผักในคิวโซนเป็นชีวิตประจำวัน ส่วนผู้เล่นเกมหน้าใหม่อย่างเกมเจ้ากระบี่ขั้นเทพยังคงเพิ่มขึ้นทุกวันหลังจากการก่อตั้งสมาคมเกมเชื่อมต่อสวรรค์ หลังจากสมาคมได้ก่อตั้งขึ้นจากนั้นก็มีสมาคมตามขึ้นมาเป็นเครื่อข่ายอย่างเช่น สมาคมราชวงศ์และสมาคมปีศาจดำเป็นต้น
พวกเขาหลายกลุ่มวางแผนต่อสู้เพื่อขยายแผนที่จากแหล่งราชาศพไปยังวิหารวิลมะ ตอนนี้สมาชิกจากสมาคมต่างๆ ได้เข้าไปถึงวัดซูมะที่นี่เป็นวัดศักดิ์แห่งเดียวที่ยังคงมีออร์คอยู่
(ผู้แปล : ออร์ค (Orcs) คือสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่มีหน้าตาอัปลักษณ์)
ในกลุ่มพูดคุยโพสต์เรื่องเหตุการหรือเรื่องเล่าของเมืองต่างๆ ที่แต่ละสมาคมได้ค้นเจอ
[วิกฤตของวิลมะมีกองกำลังที่ชั่วร้ายซ่อนตัวอยู่ในสถานที่ต่างๆ ของเมืองตอนนี้พวกมันได้รับการปล่อยตัวโดยกองกำลังลึกลับและมีกองกำลังขนาดใหญ่ของเหล่าสัตว์ประหลาดกำลังเดินทางไปยังบีฉี, เมืองหลวง, หุบเขาไวเปอร์และจังหวัดในเม้งชง พวกเขาเข้าใกล้สถานที่พำนักแห่งสุดท้ายของมนุษย์แถมพวกวิลมะยังได้หยิบอาวุธที่ปกป้องหมู่บ้านติดมือไปด้วย!]
[หากกองกำลังของสัตว์ประหลาดสามารถยึดครองเมืองใหญ่และสังหารราชาแห่งบีฉีได้ เราต้องแย่แน่ๆ]
[รับอาวุธเพื่อต่อสู้และปกป้องโลกของเรา!]
นี่เป็นประกาศล่าสุดของวันนี้ในร้านค้าสองแห่ง
“พวกสัตว์ประหลาดจะล้อมเมืองหรือ?”
“ท่านเห็นประกาศบนกระดานห้องพูดคุยเกี่ยวกับในเมืองหรือไม่?”
“เห็น สัตว์ประหลาดจะโจมตีเรา?”
หัวหน้ากลุ่มวิลมะที่ไม่สามารถออกจากถิ่นได้มันก็จะมา .. หัวหน้าเผ่าซูมะที่นอนหลับอยู่ก็กำลังตื่นขึ้นและนำทัพมาโจมตีโลกมนุษย์ เหล่าหนอนที่กลายพันธุ์ใต้ดินอันมืดมิดในเมืองแห่งความตายก็กำลังรวมตัวกันภายใต้ผู้นำตะขาบปีศาจ!
สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวจำนอนมากกำลังตื่นขึ้นในความมืด!
“พี่สองท่านเห็นประกาศในช่องพูดคุยหรือไม่?” องค์ชายห้าถามจี๋หยางด้วยความงุนงงเมื่อเปิด QQ “เกิดอะไรขึ้น?”
“ใครรวบรวมกองทัพของเหล่าสัตว์ประหลาด?” องค์ชายสองเองก็ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ข้าเองก็ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ ราวกับมีพลังที่แข็งแกร่งซ่อนอยู่หลังเรื่องราวทั้งหมดนี้”
“นี่มันอะไรกันเนี่ย!?” หัวหน้ายูจิสบถอย่างโกรธแค้น “มันคือการโจมตีครั้งยิ่งใหญ่ของกองกำลังชั่วร้าย!”
ดูเหมือนว่ากองกองทัพของเหล่าออรค์หนึ่งล้านคนกำลังเดินทางมาเพื่อกู้ชื่อเสียงของพวกเขา
.. ณ ร้านที่เมืองครึ่ง
“ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเมืองถูกเหล่าสัตว์ประหลาดครองขึ้นมา” กลุ่มปีศาจดำพูดคุยกัน
“หากถูกยึดครองโดยสัตว์ประหลาด ..” ตังหยวนแห่งหยวนเฮงกล่าวขณะกินบะหมี่ “ถ้าไม่มีอะไรผิดจากที่คิด ร้านค้าต่างๆ และเหล่าผู้พิทักษ์ในเมืองก็จะหายไปสัตว์ประหลาดยืดครองเมืองเราก็ต้องเดินทางด้วยการวาร์ป หากไม่มีการป้องกันและขาดแคลนเสบียงไปข้ากลัวว่ามันจะเป็นเรื่องยากมากขึ้น”
“มันจะเกิดขึ้นจริงหรอ?” ซีเฉินโจวพูดต่อ “จากลักษณะที่ฟังเหมือนเรากำลังถูกบังคัยให้ต่อสู้กับความตายยังไงยังงั้น”
หัวหน้าปีศาจดำนั่งนิ่ง “พาข้าไป? ไปเผชิญหน้าต่อสู้กับความตาย!? ฟังดูเป็นเรื่องตลกจากรูปลักษณ์ของข้าข้าต้องต่อสู้กับความตาย?”
ตังหยวนพูดต่อว่า “ข้ากำลังแบ่งปันความคิด .. แต่เราก็ต้องทำเพื่อประโยชน์ของเราเช่นกัน ..”
“คืนนี้มาหารือกันเถอะ!” ซีเฉินโจวกล่าว “เราต้องช่วยกันประหยัดเวลาเพื่อใช้มันปกป้องเมือง”
วัดซูมะที่อยู่นอกเมืองเป็นยจุดอบรมบ่มเพาะยอดนิยมของกองกำลังทั้งหลายเพื่อการต่อสู้ แต่ไม่มีใครมาที่นี่เลยวันนี้ ..
“เร็วๆ นี้?”
“คืนนี้หรอ!?”
วันนี้ผู้เล่นจำนวนมากพุ่งขึ้นทะลุยอดโดยรวมในแต่ละวันอย่างเห็นได้ชัดและผู้เล่นบางคนในทีมอย่างเช่นทีมของซูเทียนจิก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้น
[ยูจิผู้เป็นอมตะเพื่อนของท่านกำลังออนไลน์]
“หืม?” ฟางฉีที่กำลังฆ่าคนอยู่นอกพื้นที่วัดซูมะรู้สึกประหลาดใจจึงส่งข้อความไปหา [ทำไมวันนี้มาเล่นเกมเร็วจัง?]
[พวกเขาบอกว่าสัตว์ประหลาดกำลังจะโจมตีเมืองดังนั้นข้าจึงมาที่นี่เพื่อเฝ้าดู] ซูเทียนจิควบคุมตัวละครของเธอในระดับสามสิบเอ็ดอยู่ [การบุกรุกของเมืองครั้งนี้คืออะไร? เจ้าจะไปมั้ย?]
[แน่นอน!] ฟางฉีวางแผนและคิดเกี่ยวกับมันเชาตอบกลับ [ไปพร้อมกับพวกอาวุธและสิ่งของระดับต่ำและเก็บของมีค่าไว้ในคลังของท่าน]
[ทำไมละ?]
…
ขณะที่ฟางฉีและซูเทียนจิกำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับสถานการณ์ของสัตว์ประหลาดบุกเมือง เวลาเดียวกันนั้นมีบางอย่างเกิดขึ้น ณ กลุ่มหนานหัว
สถานที่ต้องห้ามของหนานหัวเป็นดินแทนที่เต็มไปด้วยมรดกโบราณและศิลาจารึก
หน้าผาที่เรียบราวกับกระจกดูเหมือนมันถูกตัดและลับด้วยอาวุธมีคมแผ่นสีดำถูกสลักด้วยตัวอักษรสีแดงเลือดจำนวนมาก วัชพืนที่เหลืองเหี่ยวล้อมรอบทำให้สถานที่นี้ดูไม่มีชีวิตชีวา
ไม่มีใครรู้เลยว่าทำไมหนานหัวที่ดูอบอุ่นน่าอยู่และดูเหมือนฤดูใบไม้ผลิตลอดเวลาจะมีสถานที่แปลกๆ แบบนี้อยู่ข้างใน
แผ่นศิลาจารึกกสีดำมีความสูงหลายสิบเมตรมันสะท้อนแสงเหมือนกระจก เมื่อมองเข้าไปในศิลานั้นมันดูลึกมาจนสามารถกลืนกลินผู้คนได้!
ตัวละครที่ถูกจารึกไว้นั้นพวกเขาดูโบราณและผุพัง ตัวละครมีลักษะแปลกๆ เหมือนว่าพวกเขากำลังแหวกว่ายอยู่บนศิลาจารึกนี้
แผ่นศิลาจารึกทั้งหลายวางอยู่เป็นชุดใหญ่ ตรงกลางแถวมีช่องเว้นว่างในการเติบโตของวัชพืช บางกลายเป็นขี้เถ้าสีดำนอกจากศิลาจารึกแล้วยังปรากฎหญิงผมขาวในชุดขาวกำลังนั่งไขว้ห้าง เธอดูเหมือนรูปปั้นที่ทำจากไม้ที่ใกล้ผุรอบรูปปั้นที่เสื่อมโทรมนั้นเปล่งรัศมีที่ดูลึกซึ้งชวนค้นหา ตัวละครในศิลาจาลึกดูจะสว่างขึ้นเล็กน้อย
.. ทันใดนั้นจารึกก็ค่อยๆ สว่าวงขึ้น!
ดินแดนทั้งหมดดูเหมือนจะสั่นคลอนจนน่าประหลาดใจ แต่ผู้ฝึกฝนที่ประจำการอยู่นอกหุบเขากลับไม่รู้สึกอะไร
หมอกสีดำนั้นพุ่งออกมาจากชั้นใต้ดินและรวมตัวกันในอากาศ มันมีรูปร่างคลุมเครื่อคล้ายกับใบหน้าของมนุษย์
ผู้หญิงคนนั้นลืมตาขึ้นทันทีและสายตาของไม้ที่ดูผุพังได้หายไปแล้วในเวลานี้ สถานการณ์ที่ปรากฏขึ้นนั้นน่ากลัว เธอสดมนตร์คาถาอย่างรวดเร็ว พลังงานจิตวิญญาณพุ่งขึ้นทันทีความรุนแรงของมันก่อให้เกิดพายุทอร์นาโด
เวลาเดียวกันหมอสีดำยังคงทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าท้องฟ้าอันกว้างใหญ่กำลังพึมพำด้วยเสียงก้องกังวานราวเสียงครวญคราง
“ยอมแพ้”
“ปล่อยข้า”
“เจ้าต้องหยุด!”
“ข้าจะให้เจ้าได้มากกว่าที่เขาทำ!”
“พลังของเจ้าอ่อนแอ แต่พลังของข้านั้นแข่งแกร่งขึ้น!”
“เปิดใจยอมรับพลังของข้า!”
“…”
เสียงพึมพำที่ดูว่าจะไม่มีที่สิ้นสุดพร้อมด้วยเสียงสวดมนตร์ที่ดังก้องชัดเจนและยาวเปล่งออกมา ชวนให้ท้องฟ้าที่มืดมนหรี่ลงและเริ่มสว่างขึ้น แสงสีทองจากอาทิตย์พุ่งลงมาจากท้องฟ้าความมืดมืดได้จางหายไป
เสียงพึมพำยังคงดังไม่หยุด .. หญิงสาวคนนั้นถอนหายใจด้วยความโง่อก
ขณะนี้ผู้คุมได้ประจำการอยู่นอกหุบเขาเริ่มสัมผัสได้กับความแปลกประหลาดที่เกินขึ้น “เกิดอะไรขึ้น?” ผู้ฝึกฝนสองคนเอ่ย
“ทุกอย่างปกติดี” หญิงสาวดูเหนื่อยล้า เธอกำลังจะนั่งลงแต่แล้วกลับชะงัก สายลมที่หนาวเย็นพัดพาไปทำให้พบว่าหุบที่ค้นพบกำลังหายไป ดินแดนที่บิดเบี้ยวราวกับมันมีชีวิตพร้อมเหล่าสาวกที่เพิ่งเดินทางมาที่หุบเขาถูกดินแดนแห่งนี้กลืนกิน
“เลือดและเนื้อสัตว์ช่างสดใหม่อะไรเช่นนี้!” หญิงสาวทำท่าทางหวาดกลัวเล็กน้อย ทั้งหุบเขากำลังถูกผนึกและเหมือนว่ามันกำลังถูกพันด้วยรังไหมสีแดงเลือด
“เป็นไปไม่ได้!” หญิงสาวกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
“หัวใจของเจ้าเรียกข้า”
“เจ้าเป็นของข้า ..”
“เจ้าไม่พอใจหรือ?”
“ขมขืนใจ?”
“ด้วความสามารถของเจ้าเจ้าอยากอยู่คนเดียวหรือไม่?”
“ไม่ .. ไม่!”
ครึ่งชั่วโมงต่อมาดวงตาของหญิงสาวผมขาวก็เผยในเห็นแสงสีแดงแปลกๆ รัศมีที่เคยดูโบราณลึกลับได้เปลี่ยนไปทันตามันทั้งสดใส ร่างของเธอได้แปรเปลี่ยนไป เธอเลียริมฝีปากสีแดงเลือดของเธออีกครั้ง .. เธอเปลี่ยนไปราวกับคนละคน เธอสดใสและเย้ายวนเหมือนดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน!
“โลกทั้งใบจะต้องเป็นทาสของเรา!”