[สูบบุหรี่เวลาเหงา .. คนอย่างฟางฉีนี่ไม่มีใครเทียบได้เลย]
[ข้าละเชื่อเขาเลย!]
“…”
ในกลุ่มพูดคุยมีข้อความมากมายในหัวข้อนี้ ขณะเดียวกันโมเซียนและเหล่าสหายของเธอจ่ายไปแปดร้อยคริสตัลด้วยความเต็มใจอย่างยิ่งกับการสมัครสมาชิกเพื่อได้ชั่วโมงในการเล่นเกมและดูละครเพิ่มทำให้วันนี้พวกเธอใช้เวลาร่วมกันถึงแปดชั่วโมง
.. เมื่อพวกเธอเดินทางกลับไปยังที่พักของกลุ่มหนานหัว
“คาถาที่แม้จริงสามารถควบคุมสายฟ้าได้ มันช่างยอดเยี่ยม!” ศิษย์น้องของเธอตะโกน
“พี่อาวุโสท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับการเลียนแบบของข้า!?”
“เจ้าไม่สามารถใช้เทคนิคการควบคุมดาบได้หรอกมันเป็นเวทย์มนตร์ที่แข็งแกร่ง” สาวกหญิงอีกคนเย้ย “หลังจากที่ข้าเชี่ยวชาญเทคนิคการควบคุมดาบข้าจะเดินทางไปยังทิศใต้เพื่อไปพระราชังยีมูทางเหนือและแสดงให้พวกเขาเห็นว่าข้านั่นแกร่งแค่ไหน!”
“หืม! ข้าไม่เคยคิดเลยว่าจะมีสถานที่แบบนี้ในโลก!” สาวกอีกคนเสริมขึ้นด้วยความประหลาดใจ “ข้ารู้สึกว่ากำลังสะสมและเพิ่มพูนความสามารถในการฝึกฝนทั้งเทคนิคการควบคุมดาบและพลังเวทย์มนตร์ ข้าได้เรียนรู้มากมายจากการเฝ้ามองสถานการณ์การต่อสู้ของเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ มันเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง” พวกเธอถกเถียงกัน
“ตอนนี้พี่อาวุโสจะปราบหลิวหนิงหยุนเพื่อรับฉายานางฟ้าหนานหัว!”
“ใช่!” เหล่าสมุนของโมเซียนยังคงอวยกันไม่หยุด
โมเซียนทำหน้านิ่ง “นางฟ้าแห่งหนานหัว? ข้ายังเด็กทำไมข้าต้องใช้ชื่อนางฟ้าแห่งสวรรค์ของหนานหัว?”
“หืม?” สาวกมองหน้ากันด้วยความงุนงง “พี่อาวุโสใครควรจะได้รับฉายานี้กันนอกจากท่าน!”
“ใช่ ท่านเป็นรุ่นพี่ของหลิวหนิงหยุนหลังจากที่ท่านเชี่ยวชาญคาถาจิตวิญญาณอันทรงพลังแล้วพลังของเธอก็จะเทียบท่านไม่ได้”
“พี่อาวุโสกลัวเธอหรอ?”
โมเซียนตะโกน “นี่ศิษย์น้องการเป็นนางฟ้าแห่งหนานหัวมีประโยชน์อย่างรไ? อ้อแล้วใบข้าต้องกลัวน้องหลิวหนิงหยุนด้วยละ?”
“เธอมีเหตุผลอะไรกันที่ไปยังเมืองครึ่งตั้งหลายครั้งแถมไม่ได้เข้ารับการฝึกฝน” สาวกหญิงพูดอย่างสงสัย
“หลังจากได้กลายเป็นนางฟ้าของหนานหัวแล้วใครๆ ก็สามารถเรียนรู้แสงแห่งสวรรค์ของหนานหัวซึ่งนั่นเป็นเทคนิคขั้นสูงสุดของกลุ่ม แต่เราวางแผนที่จะเรียนรู้เทคนิคการควบคุมดาบที่แข็งแกร่งดังนั้นทำไมจ้าต้องสู้เพื่อตำแหน่งนั้น!?”
“ใช่ ..” ศิษย์น้องของเธอเริ่มเข้าใจ “ถ้าท่านได้รับตำแหน่งท่านก็จะถูกกักบริเวณและไม่สามารถไปดูละครกระบี่เทพสังหารได้!”
“หมายความว่าท่านก็ไม่สามารถเรียนรู้เทคนิคการควบคุมดาบหรือคาถาเวทย์มนตร์ได้ในอนาคต”
“ใช่น่ะสิ!” โมเซียนยิ้มด้วยความภูมิใจใสนความฉลาดของเธอ “อาจารย์มักให้นางฟ้าหรือผู้แข็งแกร่งปกป้องสถานที่ต้องห้ามอย่างหนานหัว ดังนั้นหากข้าได้ตำแหน่งมากข้าก็ไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ตามที่ต้องการ แล้วข้าจะดูกระบี่เทพสังหารได้อย่างไร”
“เฉียบคม ..” สาวกหญิงพูดว่า “ถ้าเราต้องการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปละ? เจ้าของร้านนั้นไม่อนุญาตให้นำออกไป”
“พี่อาวุโสไม่ต้องเป็นนางฟ้าแห่งสวรรค์ของหนานหัวก็ได้!”
“ถูกต้องถือเป็นการดีที่จะปล่อยตำแหน่งนั้นไว้กับศิษย์น้องหลิวต่อไป”
ในไม่ช้าพวกเขาก็รวมหัวตกลงกัน
โมเซียนพยักหน้า “จากนี้ไปเราจะต้องทำตัวให้อาจารย์เห็นว่าฉายานี้คงเหมาะกับน้องหลิวมากกว่าพวกเรา”
“ที่ท่านพี่พูดเป็นความคิดที่ดี”
“ตอนนี้ข้าคิดแล้วว่าน้องหลิวเป็นเด็กดี” สาวกหน้ากลอมเอ่ย “เธอทั้งสวยและมีความสามารถมาก”
“ไม่ต้องแข่งขัน ..” โมเซียนเงยหน้ามองพวกเธอ “น้องหลิวมีพรสวรรค์ที่สุดในหนานหัวตลอดพันปีที่ผ่านมาซึ่งได้รับการยืนยันจากผู้เฒ่า เธอเก่งกว่าพวกเราทุกคน”
…
อาจารย์ซีชิเป็นผู้อาวุที่ได้รับการย่องย่องว่ามีอำนาจที่สุดของหนานหัวแถมเธอยังเป็นอาจารย์ของโมเซียนและหลิวหนิงหยุน
.. เช้าวันรุ่งขึ้น ณ ที่อยู่ของอาจารย์ซีชิ
“ข้าอันยาและยื่อยันมาที่นี่เพื่อทักทายท่านอาจารย์” สาวกหญิงทั้งสองในชุดขาวเดินเข้ามา
“อืม ..” อาจารย์ซีชิพยักหน้าเล็กน้อย โดยปกติแล้วศิษย์จะไม่ได้เข้ามาถึงในที่พักขนาดนี้นอกเสียจากว่าวันไหนเธออยู่คนเดียว
อย่างไรก็ตามเธอพบว่าทั้งสองยังคงไม่เดินออกไปหลังจากทักทายเธอ
“มีอะไรที่พวกเจ้าอยากพูดหรือไม่?” เธอถาม
“เอ่อ ..” พวกเธอมองหน้ากันอันยาแต่อยู่ด้านซ้ายมือก้าวขึ้นและก้าวว่า “เราได้ยินมาว่าเมื่อวานนี้ศิษย์น้องหลิวมีพื้นฐาน ..”
“พอ!” อาจารย์ซีชิไม่ชอบที่จะฟังเรื่องซุบซิบนินทา “ข้ารู้ว่าพวกเจ้าไม่เข้าพวกกับศิษย์น้องของเจ้า แต่ข้าไม่ได้สอนให้พวกเจ้านินทาพวกเขา”
“แต่ท่าน ..” ยื่อยันรีบอธิบาย “เราอยากบอกท่านว่าศิษย์น้องมีพรสวรรค์และเป็นอัจฉริยะที่หายากของกลุ่มเรา”
อันยาพนักหน้าและเสริมว่า “ยื่อพูดถูก ศิษย์น้องหลิวทำงานหนักมาในการฝึกฝนเมื่อคืนข้าเดินผ่านที่พักของเธอข้าพบว่าเธอยังคงฝึกฝนอยู่แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยไปมากแล้ว”
เมื่อทั้งสองพูดจบก็รีบเดินออกไปทันที .. อาจารย์ซีชืรู้สึกสับสนเล็กน้อย
ขณะเดียวกันสาวกหญิงอีกคนก็เดินเข้ามาทักทายเธอ
“ข้าซูหยุนและยูยันมาที่นี่เพื่อทักทายท่านอาจารย์” ศิษย์ทั้งสองคำนับ
“อืม ..” อาจารย์พยักหน้า
“ท่านอาจารย์” ซูหยุนเอ่ย
“หืม?” เธอมองหน้า “พวกเจ้ามีอะไรจะพูดมั้ย?”
“เอ่อ ..” ซูหยุนลังเล “อันที่จริงศิษย์น้องหลิวนั้นเป็นคนดีมาก ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลย”
สาวกอีกคนหนึ่งก็เข้ามาพอดี
“เจียงยัน ..”
“ลูซิน ..”
ตอนนี้อาจารย์ซีชิค่อนข้างสับสนและงุนงงเมื่อเห็นเหล่าสาวกของเธอทยอยเข้ามา โมเซียนในชุดดำเองเดินเข้ามาและพูดว่า “ท่าอาจารย์เมื่อวานข้าได้ยินว่า .. ท่านตำหนิศิษย์น้องหลิวหรอ?”
“อะไร!?” อาจารย์ซีชิรู้ว่าศิษย์คนโตของเธอไม่ค่อยชอบหน้าหลิวหนิงหยุนมากที่สุดและมักจะจับผิดกับเธอทุกครั้ง เธอเองก็สงสัยว่าวันนี้โมเซียนจะจับผิดอะไรอีกหรือไม่
อาจารย์กล่าวด้วยเสียงเย็นชา “เจ้าไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมในเรื่องนี้!”
“ท่านอาจารย์ข้ารู้ว่าท่ายยังโกรธอยู่ แต่ท่านไม่ควรจะลงโทษน้องหนัก” โมซียนกล่าว
ใช่ .. อาจารย์รู้สึกงงตาแตก
“น้องหลิวไม่ได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดจนไม่น่าให้อภัย แม้ว่าเธออาจจะทำในสิ่งที่เข้าใจยากไปบ้างแต่เธอก็คงมีเหตุผล ..”
“ได้โปรดอย่ายึดฉายาของเธอคืนในเวลาที่ท่านกำลังโกรธ ..”
อาจารย์ซีชิตะลึงกว่าเดิม! เจ้าหมายถึงอะไร? คำพูดวันนี้ของเจ้าช่างแตกต่างไปจากวันก่อน เจ้าบอกว่าน้องขี้เกียจอ่อนแอ แล้ววันนี้มาเห็นดีอะไรในตัวน้อง!? แถมยังบอกอีกว่าศิษย์น้องไม่สมควรได้รับฉายานางฟ้าแห่งสวรรค์หนานหัวแล้วไหงวันนี้สิ่งที่พูดไว้กลับไปกลับมาไปหมด เธอคิดในหัวและยังคงอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยินจากปากโมเซียน