กลุ่มสาวกหญิงยังคงกระซิบกระซาบอย่างไม่อาย
“เขาดูไม่รู้อะไรบ้างเลยนอกจากซ่อนตัวอยู่หลังผู้ฝึกฝนที่ยิ่งใหญ่!”
“หึ! ความแข็งแกร่งในการฝึกฝนของเขาคงจะต่ำกว่าอาณาจักรนักรบแน่นอนอย่างนี้ข้าสามารถเอาชนะเขาได้ด้วยมือเดียว!”
“ถ้าไม่ใช่เพราะเหล่าผู้ฝึกฝนที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรมหาสมุทรระดับสูงละก็ป่านนี้พี่อาวุโสคงเอาชนะเขาได้ไปนานแล้ว!”
“สิ่งของในร้านนี้ช่างดูน่าอัศจรรย์ข้าละสงสัยว่าอาจารย์ผู้อาวุโสคนไหนที่เป็นผู้สร้าง ..”
“เขาต้องได้รับประโยชน์มากมายจากอาจารย์คนนั้น!”
“หึ!” โมเซียนกระแทกเสียงในลำคอด้วยความรังเกียจ
เหล่าหญิงสาวต่างจินตนาการถึงสถานการณ์ที่น่าพอใจเพื่อบรรเทาความหงุดหงิด แต่แล้วจู่ๆ ก็ถูกขัด “ดูละครต่อไป!” ฟางฉีพูดเสียงเรียบ
“หลังจากเราไปถึงอาณาจักรนักรบอมตะกลุ่มใบไม้เขียว ..” สถานการณ์นี้ยังคงดูห่างไกล แต่ก็ไม่แย่ที่จะได้จินตนาการต่อตามละคร
…
หลังจากเล่นเกมเจ้ากระบี่ขั้นเทพสักพักฟางฉีก็ออกและกลับเข้าไปในคิวโซนอีกครั้ง
“ชู่ว ชู่ววว!” ซงฉิงเฟิงที่กำลังเล่นเกมออกเสียงเอฟเฟคตามเสียงของตัวละครในเกมเขากำลังเล่นโลริยากามิด้วยความเพลิดเพลิน
อีกด้านหนึ่งหลินเซียวกำลังควบคุมเคียวคุซานากิที่กำลังกระโดดข้ามเปลวไฟสีม่วง จากนั้นเสียววิหลินเซียวผลักจอยสติ๊กในมืออย่างรุนแรงเมื่อเห็นว่าเคียวคุตอนนี้ร่อนลงพื้นไปเป็นที่เรียบร้อย
บนหน้าจอแสดงฉากลำแสงขนาดใหญ่ที่ลุกขึ้นรอบร่างเคียวคุ!
ตู้ม!
“พวกเจ้า! หมดเวลาแล้ว!” เจ้าโลลิเจียงเสี่ยวหยูตัวน้อยตะโกนขึ้นหลังจากที่แอบดูพวกเขาเล่นเป็นเวลานานพอควร เธอรู้สึกอิจฉาที่พวกเขาสามารถเล่นคอมพิวเตอร์ของเจ้านายเธอ “ถึงเวลาแล้วข้าจะเล่นแพลนท์เวอร์ซัสซอมบี้บ้าง!”
“หลังจากการแข่งรอบนี้ หลังรอบนี้!” ซงฉิงเฟิงตะโกน
“ซงฉิงเฟิงเจ้าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ดูข้านี่!”
“อ้าว! เจ้าของร้านนี่ ท่านอยากเล่นสักเกมสองเกมมั้ย?” ซูเหลียวกันไปเจอเขาพอดี
“มาเล่นกันเถอะ!” ฟางฉีตอบกลับอย่างกระตือรือร้น
“อะไร!?” เจียงเสี่ยวหยูทำหน้าโมโห “ข้าจะเล่นแพลนท์เวอร์ซัสซอมบี้!”
“ทำไมต้องแพลนท์เวอร์ซัสซอมบี้?” ฟางฉีพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนดูถูก “เล่นเกมคิงออฟไฟเตอร์สนุกกว่าตั้งเยอะ ดูสิข้ากำลังจะเอาชนะทั้งสามคนด้วยมือเดียว!”
จากนั้นเขาบ่นพึมพำพลางนั่งลงบนเก้าอี้
“ข้าจะเลือกตัวละของแบบสุ่ม” ฟางฉีคลิกที่เครื่องหมายคำถามสามทั้งสามตัวเลือกเพื่อเป็นการซุ่มตัวละครทั้งสามตัว
“เฮ้! ไปสิ!” เจียงเสี่ยวหยูที่นั่งข้างๆ พยายามที่จะผลักฟางฉีออกไปด้วยร่างเล็กๆ ของเธอ
เธอพยายามอย่างที่สุดแล้ว แต่มัน .. ล้มเหลว เธอโวยวายด้วยความโกรธ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความแค้น
“ข้าจะเล่นแค่สิบนาทีเท่านั้น!” ฟางฉีจอมจำนน
“หึ!” เจียงเสี่ยวหยูมองค้อน
…
ในอีกด้านหนึ่ง ..
“ท่านอาจารย์!” เฟงหัวและยูซินที่เฝ้าดูมาเป็นเวลานานจวนขาดใจเอ่ยถามด้วยสายตาออดอ้อน “ขอพวกเราเล่นสักหน่อยได้มั้ย?”
“ขอเราลองหน่อย เดี๋ยวอีกสองสามวันเราจะซื้อคอมพิวเตอร์มาเล่นบ้าง แต่ .. ให้เราได้ลองสักนิดได้มั้ย” สาวกทั้งสองเอื้อนเอ่ยด้วยสายตาอ้อนวอน
“ตกลง .. ครั้งเดียว!” หลังจากซูเทียนจิผ่านมาหลายระดับเธอจึงปล่อยวาง เธอรู้สึกว่าเกมเริ่มอยู่ในระดับกลางมันไม่ได้ยากแถมซอมบี้ก็โง่!
มันง่ายขนาดนี้แล้วข้าจะเล่นต่อไปทำไมกัน อืมม .. แต่ก็ตื่นเต้นอยู่เมื่อถูกซอมบี้กลุ่มใหญ่รุม เธอคิดวกวนในหัว
นอกจากนี้มันฉากในเกมยังคงให้ความอ่อนโยนและดูน่ารัก เธอสามารถสร้างกลุ่มพืชโง่ๆ ขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับซอมบี้มันเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างจากที่เคยพบในเกมอื่นๆ เกมอื่นจะดูโหดและรุนแรงกว่านี้
เฟงหัวและยูซินกำลังเถียงกันเพื่อเล่นเกม “ข้าเล่นก่อน!”
“เฮ้! มาตัดสินด้วยกรรไกรกระดาษค้อนกันเถอะ!” เด็กสาวโบกหมัดน้อยๆ ของพวกเขา ..
“เวลาเล่นคอมของพวกเจ้าหมดแล้ว!”
“ห้ะ!?”
เด็กทั้งสองรู้สึกเหมือนจะร้องไห้
…
ซูเทียนจิทำหน้าตาน่าสงสาร “พวกเจ้าค่อยเล่น ..พรุ่งนี้”
…
ในที่สุดตอนนี้เจียงเสี่ยวหยูก็ได้เล่นแพลนเวอร์ซัสซอมบี้สักที!
“เจ้านาย ท่านรู้วิธีเกมเล่นนี้หรือเปล่า?” เจียงเสี่ยวหยูมองดูมันเป็นประจำ แต่เธอก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจเมื่อได้ลองมันครั้งแรก
“แน่นอนมันเป็นเกมง่ายๆ ทำไมจะเล่นไม่เป็นละ?”
“วางปืนถั่วตรงนี้” ฟางฉีคอยกำกับเธอ
“วางไกลขนาดไหน?” เจียงเสี่ยวหยูทำหน้างง
“ใส่ดอกทานตะวันตรงนี้ให้เป็นเส้น”
“หืม? ทำไม?” เจียงเสี่ยวหยูขมวดคิ้ว
ต่อมาไม่กี่ชั่วโมง ..
ด้วยเสียงดนตรีในเกมทำให้ซอมบี้เดินเข้าไปในบ้านของเจียงเสี่ยวอยู่ได้อย่างสบาย [ซอมบี้กำลังบุกบ้านเธอโดยไร้ความปราณี!]
“อ่า!” เจียงเสี่ยวหยูกรีดร้องเมื่อเห็นได้ยินเสียงซอมบี้เขี้ยวสมอง
เธอจ้องเขม็งไปที่ฟางฉีด้วยความโกรธเคืองเธอกัดฟันกรอด “หัวหน้า หึ่ม!”
“เกิดอะไรขึ้น? เป็นอะไรหรือ?” ขณะเดียวกันรวนหนิงและซียือก็เข้ามาในคิวโซนของฟางฉีพอดี เวลาเดียวกันพวกเธอเห็นสีหน้าของเจียงเสี่ยวหยูที่ดูโกรธเคืองราวกับกำลังจะระเบิดอารมณ์ในอีกไม่นาน
เมื่อได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอแล้วพวกเธอก็หันไปหาฟางฉีอย่างพร้อมเพรีงกันและตะโกนอย่างเหยียดหยามว่า “กลั่นแกล้งแม้กระทั่งเจียงเสี่ยวหยู!”
“ปีศาจเก่าใจร้าย!”
“เจ้าของร้านร้ายกาจ!”
“ต่อไปเสี่ยวหยูอย่าไปรักษาเขา!”
“ปล่อยเขาแล้วเล่นเกมกันต่อเถอะ!”
“ตกลง!” พวกเธอตั้งใจทิ้งฟางฉีด้วยความพร้อมเพรียงกันและหันไปสนุกกับเกมกันต่อแถมยังส่งข้อความในห้องพูดคุยของทะเลดวงดาวว่า ห้องคุยเล็กของดาจินและทะเลดวงดาวโดยที่ไม่มีฟางฉีอยู่ในกลุ่ม [หึ! เขาช่างใจร้ายแกล้งได้แม้กระทั่งเสี่ยวหยู]
[เห็นด้วย ปีศาจเก่านั้นใจร้าย!]
[เขาไร้หัวใจ!]
[???] นาหลันหมิงสือส่งเครื่องหมายคำถาม
จากนั้นเธอส่งข้อความไปหาฟางฉี [เจ้าทำอะไรอยู่?]
ขณะเดียวกันฟางฉีก็กำลังเปิดประตูและเดินออกไป เขาจุดบุหรี่ที่ซื้อจากในคิวโซนขึ้ยมาสูบและเอนกายพิงประตู เขาพ่นควันขึ้น
นาหลันหมิงสือเดินเขามาพอดี ซงฉิงเฟิง หลินเซียวและซุเหลียวก็ตามเข้ามาดูด้วยความอยากรู้
“เฮ้! เจ้าเป็นอะไร? ทำไมมาสูบบุหรี่อยู่นี่?”
“เจ้ารู้อะไร?” ฟางฉีพ่นควัน “ข้าไม่ได้สูบบุหรี่ข้าแค่ระบายความเหงา”
นาหลันหมิงสือกลอกตา
ซงฉิงเฟิง “…”
หลินเซียว “…”
ซูเหลียว “…”
ในกลุ่มสองกลุ่มของช่องพูดคุยใน QQ ทั้งช่องดาจินและทะเลดวงดาวกับช่องห้องเกมของดาจินนั้นมีคนโพสภาพที่ฟางฉีนั่นกำลังยืนพิงประตูสูบบุหรี่อยู่ คำอธิบายใต้รูปกล่าวว่า [ข้าไม่ได้สูบบุหรี่ข้าแค่ระบายความเหงา]
[หืม! ทำไมช่างดูดี]
[แล้วจะพูดไรได้]
[เขาสมควรได้รับการเยียวยานี้ ..]
[คำเหล่านี้ช่างเข้ากับการแสดงออกของเขา ..]
[เจ้าเด็กคนนี้ช่างเจ้าบทเจ้ากลอน!] อันหูเว้ยที่ติดตามส่งอิโมจิยิ้ม
หลังจากนั้นไม่นานผู้ใช้คนหนึ่งที่มีเพื่อนกับอันหูเว้ยก็ได้โพสรูปอันหูเว้ยกำลังสูบบุหรี่ในคิวโซนของเขาพร้อมคำอธิบายใต้ภาพ [ข้าไม่ได้สูบบุหรี่ข้าเหงา!]
อันหูเว้ยพยายามอย่างมากเพื่อจะอธิบายภาพนี้ “ข้านี่ดูดีจริงๆ”
นาหลันหมิงสือเองก็โพสรูปตัวเองที่กำลังนั่งสูบบุหรี่เช่นกัน [ข้าไม่ได้สูบหรี่ข้าแค่เหงา!]
…
และไม่นานช่องพูดคุยก็เต็มไปด้วยรูปภาพล้อ แม้แต่จักรพรรดิจีวูก็ไม่น้อยหน้า [ข้าไม่ได้สูบบุหรี่แต่นี่เรียกว่าความเหงา!]
ใช่ .. สมาชิกคนอื่นๆ จากราชวงศ์ต่างเงียบกริบเมื่อเจอภาพนี้