บทที่ 319 นางไม่ได้จงใจทำ
กู้ชูหน่วนพลางพูด พลางตบไปที่ ‘น้องชาย’ของเขาเบาๆ

เย่จิ่งหานเจ็บปวด ร่างกายคดงอไปทั้งตัว

เขาก็ไม่รู้ว่าไปเอาพลังมาจากไหน ฟาดฝ่ามือลงไปบนพื้นอย่างแรง จ้องมองกู้ชูหน่วนอย่างดุดัน

แม้จะไม่มีพลังภายในแล้ว แม้จะถูกยาสมุนไพรที่แช่ทำให้ร่างกายอ่อนปวกเปียก ไม่มีแรงแม้แต่น้อย แต่ฝ่ามือนี้ ก็ทำให้พื้นดินสะท้านขึ้นมาได้

กู้ชูหน่วนหดคอของตนเอง

เจ้าคนนี้ ความสามารถมากจริงๆ รับประกันไม่ได้ว่าโทสะที่ปะทุขึ้นมาอย่างกะทันหัน อาจปลิดชีวิตนางได้

กู้ชูหน่วนพูดว่า”พวกเจ้าสองคน เอาผ้าเหล่านี้มัดเย่จิ่งหานเอาไว้ จำเอาไว้ให้ดี ต้องมัดให้แน่นหนา อย่าให้เขาเคลื่อนไหวได้ จะกระทบต่อการฝังเข็ม”

“พระชายา จะทำเช่นนี้ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องสถานะสูงส่ง ข้าก็แค่ลูกน้องตัวเล็กๆเท่านั้น ไหนเลยจะกล้ามัดเจ้านายตนเอง”

“ถ้าเช่นนั้นข้าจะให้พวกเจ้าสองคนเลือก หนึ่ง มัดเย่จิ่งหานเอาไว้ ป้องกันไม่ให้เขาขยับตัว สอง มองดูฤทธิ์ยาสลายไป พิษกำเริบจนตาย พวกเจ้าเลือกเองเถอะ เขาไม่มีเวลา แต่ข้ามีเวลาอีกมาก ถ้าไม่ระวังกลายเป็นแม่หม้าย ข้าก็ยังสามารถหาคนอื่นแต่งงานได้อีก”

“เรื่องนี้……”

องครักษ์ลับทั้งสองคนสบตากัน

การกระทำที่อุกอาจเช่นนี้ พวกเขาทำไม่ได้จริงๆ

มองดูร่างของเย่จิ่งหานที่ค่อยๆก่อตัวเป็นน้ำแข็ง หัวหน้าองครักษ์ก็เอ่ยอย่างกระวนกระวายว่า”เอาอย่างนี้ ทำตามที่พระชายาพูดก่อน ถ้าหากขาของท่านอ๋องหายดีแล้ว แม้จะฟื้นขึ้นมาฆ่าพวกเรา ก็คุ้มค่า ”

หลีโล่พยักหน้าอย่างจำใจ เขาเองก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน

เขามั่นใจว่า หลังจากวันนี้ แม้ว่าขาของเจ้านายจะหายดีแล้ว ก็คงไม่ปล่อยพวกเขาเอาไว้แน่

องครักษ์ลับทั้งสองคนต่างก็ก้มหน้าลง ไม่กล้ามองดวงตาที่มีแววกระหายเลือดของเย่จิ่งหานคู่นั้น มือสั่นเทา มัดเขาเอาไว้

เย่จิ่งหานที่น่าสงสารเป็นถึงเทพสงครามของแคว้นเย่ กลับเหมือนนักโทษที่สูญเสียความสามารถ ปล่อยให้คนอื่นทรมาน

ตั้งแต่รู้จักกับกู้ชูหน่วน นี่ไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่เย่จิ่งหานต้องอับอายขายหน้า

เขามองด้วยสายตาโกรธเคือง ลูกน้องสองคนที่เขาเชื่อใจมากที่สุดเดิมทีเป็นคนไม่แยแสต่ออะไรเลย กลับเชื่อฟังคำพูดของผู้หญิงคนนี้

ในที่สุดมือและเท้าของเย่จิ่งหานก็ถูกมัดไว้เรียบร้อย พวกหลีโล่หัวใจเต้นแรงแทบจะทะลุออกมาแล้ว สีหน้าขาวซีดไม่มีเลือดฝาดแม้แต่น้อย

“พระชายา ท่านต้องรักษาขาของท่านอ๋องให้หายนะพ่ะย่ะค่ะ”

“วางใจเถอะ ข้ามั่นใจในตัวเองอยู่แล้ว”

กู้ชูหน่วนตบไหล่ของพวกเขา

มีอะไรต้องกลัวด้วย นี่ถึงกับต้องกลัวจนตัวสั่นเชียวหรือ

เย่จิ่งหานไมได้ข่มขู่เป็นครั้งแรกเสียหน่อย

นิ้วเรียวยาวหยิบเข็มเงินออกมาอย่างชำนาญ ฝังลงไปยังน้องชายซึ่งมีจุดที่บอบบางที่สุดอีกครั้ง

ไม่เพียงแต่ฝังลงไปแค่เล่มเดียว

นางฝังเข็มตามรูปแบบดาวไถ ฝังไปทั้งสิ้นเจ็ดเล่ม

เจ็บ……

เจ็บมาก

ที่ทำให้เขารับไม่ได้ที่สุดคือ เสียหน้าเกินไปแล้ว

นี่เป็นครั้งที่สองในชีวิตนี้ของเขา ที่รู้สึกเสียหน้ามากที่สุด

หลีโล่หันหน้าไปทางอื่น ไม่กล้ามองทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า

กู้ชูหน่วนไล่ฝังเข็มลงไปเรื่อย ๆ สุดท้ายคือที่เข่าของเขา ฝังเข็มไปยังจุดหย่งเฉวียนเป็นต้น

ยังช่วยนวดข้อต่อของเขา เพื่อให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น

ขาของเขาไม่สามารถเดินได้ตามปกติเป็นเวลาหลายปีแล้ว ข้างในเต็มไปด้วยลิ่มเลือด

แต่มือน้อยๆของนาง ใช้แรงในการนวดเค้นลิ่มเลือด และพิษที่ค้างอยู่ข้างใน

เย่จิ่งหานเหล่ตามองแวบหนึ่ง

เห็นเหงื่อของกู้ชูหน่วนที่ใหญ่เท่าเมล็ดถั่วไกลลงมา หยดลงบนขาทั้งสองข้างของเขา

นางนวดเค้นสักพัก ฝังเข็มสักพัก ดวงตาจับจ้องอย่างตั้งใจ ท่าทีจริงจัง เหมือนไม่มีความคิดอื่นใดปะปนเลยสักนิด

ความโมโหของเย่จิ่งหานจางหายไปบ้างแล้ว

หรือว่า นางคิดแค่อยากจะรักษาขาของเขาให้หายจริงๆ ไม่ได้จงใจแกล้งให้เขาต้องรู้สึกอับอาย

“รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือไม่ นี่ ข้าพูดกับท่านนะ คิดอะไรอยู่”

กู้ชูหน่วนถามขึ้น

เย่จิ่งหานดึงสติกลับมา หันหน้าไปทางอื่นอย่างหยิ่งยโส

ทันใดนั้นหลีโล่ก็พูดด้วยเสียงขรึมว่า”ท่านอ๋อง เมื่อครู่องครักษ์ลับมารายงานว่า มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ และแต่ละคนก็เป็นยอดฝีมือด้วย “