“ที่นี่มีทั้งหมด…” ท่ามกลางความตกตะลึง ซย่าน่ากลับนับจำนวนคนอย่างใจเย็น “32 คน”
32…เป็นตัวเลขที่ถือว่า “มาก” เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้
“ตกใจมากล่ะสิ? คนพวกนี้ส่วนมากถูกนำตัวมาจากอำเภอหลีหมิง มีเพียงไม่กี่คนที่มาจากหมู่บ้านข้างเคียง เดิมทีพวกเขาคิดว่าตัวเองจะมาหาที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยได้จากที่นี่ ไม่คิดว่าจะเดินเข้ามาในรังแมงมุมแทน” หญิงสาวเดินหน้าไปสองก้าว วางไฟฉายไว้บนเก้าอี้ไม้ แล้วหันมาบอกว่า “ความจริงแล้วสภาพแวดล้อมของอำเภอหลีหมิงไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เห็นหรอกนะ เพราะว่ามีโรงงานเยอะ รอบด้านก็มีแต่ทุ่งนา ผู้ที่โชคดีรอดชีวิตมาได้จำนวนมากก็พยายามดิ้นรนจนหาทางอยู่รอดมาได้”
“ก็หมายความว่า คนที่รอดมาได้พวกนี้ ถูกบลัดมาเธอร์จับตัวมาที่นี่ทั้งหมด?” หลิงม่อมองไปรอบๆ แล้วถามขึ้น
หญิงสาวพยักหน้า บอกว่า “ใช่แล้ว มันเลือกบางคนออกมาเพื่อที่จะเป็นร่างปรสิต ส่วนที่เหลือก็ถูกนำมาเลี้ยงไว้ที่นี่ เริ่มแรกแค่ขังไว้เท่านั้น แต่เมื่อไหร่ที่จับซอมบี้มาได้น้อยลงเรื่อยๆ มันก็หันมาหมายหัวคนพวกนี้แทน มันทำให้บางคนติดเชื้อก่อน จากนั้นก็ค่อยเอาไปเลี้ยงแบบปล่อยไว้แถวๆ นี้ หากตัวไหนวิวัฒนาการได้ดีที่สุด ก็จะกลายเป็นอาหารของมัน ส่วนของมีตำหนิตัวอื่น ก็เหลือไว้ให้แมงมุมตัวอื่นกิน มันบอกว่านี่ถือเป็นห่วงโซ่การผลิต แต่ว่า…”
“ยังมีแต่ว่า?” เย่ไคขมวดคิ้วมุ่น แล้วพูดอย่างโมโห “รู้อย่างนี้ไม่น่าฆ่ามันให้ตายง่ายๆ แบบนั้น! ไม่คิดเลยว่าเมื่อมนุษย์กลายเป็นแมงมุม จะไร้ความเป็นคนได้ขนาดนี้!”
แต่หญิงสาวกลับมองเพียงหลิงม่อ เห็นชัดว่าเธอตระหนักได้แล้วว่าในทีมนี้คนที่มีสิทธิตัดสินใจทุกเรื่อง คือเด็กหนุ่มที่ไม่พูดไม่จา แต่เมื่อได้พูดก็จี้จุดแทงใจดำทุกคำผู้นี้ต่างหาก เวลานี้หลิงม่อไม่ได้แสดงอาการเดือดดาลเกินเหตุแต่อย่างใด ซึ่งนั้นทำให้เธออดฉายแววตาผิดหวังออกมาไม่ได้ และพฤติกรรมเล็กน้อยนี้ กลับถูกหลิงม่จับสังเกตได้อย่างตาไว
“เธออยากให้พวกฉันช่วยพวกเขาหรอ?” สวี่ซูหานถาม
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้…แต่ความจริงแล้ว ฉันแค่อยากให้พวกเธอเหลืออาหารบางส่วนไว้ให้ก็พอแล้ว…” หญิงสาวมองไปยังหนึ่งในคนเหล่านั้นที่อยู่ใกล้เธอที่สุด บอกว่า “พวกเขาถูกจับขังเป็นมนุษย์ดักแด้อยู่ที่นี่มานานมาก สูญเสียซึ่งความสามารถในการเอาตัวรอด ถึงแม้มองเห็นตัวเองถูกส่งตัวไปให้ซอมบี้กิน พวกเขาก็ไม่อาจขัดขืน มีเพียงหลังกลายพันธุ์ พวกเขาจึงจะสามารถฟื้นฟูความสามารถในการเคลื่อนไหวกลับมาได้ แต่เมื่อพวกเขาวิวัฒนาการจนสามารถหลบหนีได้ ลูกพี่กลับเริ่มมื้ออาหารอีกครั้ง…”
“ฉัน…” หญิงสาวมองหลิงม่อแวบหนึ่ง ราวกับกำลังสองจิตสองใจ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจพูดออกมา “ฉันมีเรื่องอยากขอร้อง…”
“เธอวางใจเถอะ พวกฉันไม่ทำอะไรคนพวกนี้หรอก เสบียงอาหารที่อยู่ข้างนอกก็จะเหลือไว้ให้พวกเธอ ตอนนี้มนุษย์แมงมุมพวกนั้นก็ตายไปหมดแล้ว เธอยังต้องการอะไรอีก?” มู่เฉินโบกมือไปมา แล้วบอก
“ไม่…ตัวการของเรื่องทุกอย่าง…ยังไม่ตาย” หญิงสาวกัดฟันกรอด พลันนั้นก็พูดข้อมูลสำคัญออกมา
“อะไรนะ?!”
ทุกคนชะงักงัน จากนั้นก็มองหน้ากัน…
ทำไมถึงมีตัวการโผล่ขึ้นมาอีกคนล่ะ?
ถึงแม้ว่าเดิมทีแมงมุมก็มีจำนวนมากมายมหาศาล…แต่นี่มันก็ไม่รู้จักจบจักสิ้นเกินไปแล้ว!
แต่ถ้าหากยังมีแมงมุมตัวที่ใหญ่กว่าอยู่ที่นี่อีกตัว แล้วทำไมอีกฝ่ายถึงไม่ลงมือจัดการพวกเขาตั้งแต่แรก แต่กลับปล่อยให้พวกเขาเข้ามาในนี้ล่ะ?
หรือว่า…ที่นี่เป็นกับดัก?
เมื่อคิดได้อย่างนี้ พวกอวี่เหวินซวนก็พลันตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
หญิงสาวรีบร้อนอธิบาย “เปล่า…เจ้าสิ่งนั้น…มันไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก แต่ว่า…ฉันก็ไม่กล้ารับประกัน ว่ามันจะสังเกตเห็นพวกนายแล้วหรือยัง…”
“หมายความว่ายังไง?” ซย่าน่าถาม
“คือว่า…” เดาว่าหญิงสาวเองก็เริ่มลนลานแล้วเหมือนกัน เธอสูดหายใจลึกๆ จึงทำใจให้เย็นลงได้บ้าง จากนั้นก็มองหน้าหลิงม่อตรงๆ บอกว่า “นายจะช่วยพวกเขาได้ไหม? บอกตามตรง ความจริงแล้วชีวิตฉันไม่สำคัญหรอก แต่พวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ พวกเขามีสภาพน่าอนาถมากแล้ว แถมยังไม่สามารถไปจากที่นี่ได้อีก ถ้าหากว่าพวกนายแค่มาเอาอาหารแล้วจากไป แล้วพวกเขา…”
“เธอไม่จำเป็นต้องเอาคุณธรรมน้ำใจอะไรมาเหนี่ยวรั้งฉันไว้…” หลิงม่อตัดบทเธออีกครั้ง “ตั้งแต่ที่เธอพยายามทำตัวเป็นมิตรไม่หยุด และพาพวกฉันเข้ามาในห้องนี้โดยไม่ทันตั้งตัว ฉันก็เดาไว้แล้วว่าเรื่องที่เธอจะพูดต้องเกี่ยวกับพวกเขาแน่นอน แต่เธอเองก็เคยบอกไว้ ว่าสาเหตุที่เธอรอดมาได้นั้น มีเหตุผลอยู่…”
หลิงม่อจ้องหญิงสาวเขม็งโดยไม่กระพริบตา ทว่าหลังจากที่สีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดหญิงสาวก็เผยรอยยิ้มเศร้าโศก “ใช่ นายพูดถูก ความจริงฉันยังไม่ได้พูดถึงเรื่องสิทธิ์พวกนี้ อาจฟังเหมือนฉันพูดอย่างผ่าเผย แต่ความจริงแล้ว หน้าที่ของแนวหลังอย่างฉัน ก็คือต้องรับประกันว่าพวกเขาจะไม่ตาย และทำให้พวกเขาอดทนไปได้จนถึงวันที่จะได้กลายพันธุ์…หลายคนในพวกเขาล้วนเคยขอร้องฉันให้ฆ่าพวกเขาเสีย ขอร้องฉันว่าอย่าทรมานพวกเขาอีกเลย แต่ว่าฉันกลัว…ฉันไม่ได้กลัวตาย แต่กลัวว่าจะถูกจับไปเป็นอาหาร…”
“ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะขอร้องพวกนาย เพื่อให้ตัวเองรอด แน่นอน พวกเขาเองก็…” หญิงสาวเดินมาข้างหน้าหลิงม่อ บอกว่า “ฉันไม่มีทางถูกแมงมุมกัด เพราะว่าบนตัวฉันมีสิ่งที่มันให้ไว้ นอกจากคนที่ถูกนำตัวไปเป็นร่างปรสิต ก็มีแค่ฉันที่จะไม่มีวันถูกแมงมุมกัด ฉันจะเอาสิ่งนี้ให้นาย ได้โปรดช่วยพวกฉันเถอะ…”
สวี่ซูหานยืนไขว้นิ้วมืออยู่ด้านหนึ่ง ท่าทีราวกับอยากตอบตกลงเต็มที่ ทว่าในฐานะซอมบี้ เธอก็ยังคงมีสติปัญญาขั้นพื้นฐาน ถึงแม้รู้ดีว่าพวกเขาน่าเวทนาเพียงใด แต่ความจริงแล้ว ส่วนลึกในใจของเธอกลับไม่มีความเห็นอกเห็นใจตั้งนานแล้ว…
ตรงกันข้าม กลับเป็นซย่าน่าที่ถอนหายใจเบาๆ ทว่าเธอกลับถามอย่างใจเย็นว่า “ตัวการใหญ่ที่เธอพูดถึง เป็นตัวอะไรกันแน่? ทำไมเธอถึงบอกว่ามันอาจรับรู้ถึงการมาของพวกฉันแล้ว?”
หญิงสาวชะงัก จากนั้นก็บอกว่า “มัน…ฉันก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี…ฉันเองก็เพิ่งมาค้นพบทีหลัง ลูกพี่…เหมือนจะมีบางสิ่งซ่อนอยู่ในตัวมันอีก และมันก็เชื่อฟังสิ่งนั้นมาก ฉันคิดว่า ที่มันกวาดล้างอำเภอหลีหมิง และทำเรื่องมากมายขนาดนี้ อาจเป็นเพราะได้รับอทธิพลและคำสั่งมาจากสิ่งนั้นก็ได้ เพราะถึงยังไง ลูกพี่ก็เคยเป็นมนุษย์มาก่อน…”
“สิ่งนั้น…” ซย่าน่าหันไปมองหลี่ย่าหลินกับเย่เลี่ยน สองสาวซอมบี้ครุ่นคิด จากนั้นก็ส่ายหน้าเงียบๆ เห็นชัดว่า ตั้งแต่จำความได้ พวกเธอยังไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน…
“แค่เรื่องนี้ ยังไม่มากพอที่จะทำให้เธอมั่นใจได้อย่างนี้หรอกมั้ง?” หลิงม่อลอบครุ่นคิดเงียบๆ ครู่หนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็ถามขึ้น
หญิงสาวพยักหน้า “ใช่ ฉัน…ความจริงฉันเคยเห็นกับตามาครั้งหนึ่ง…”
“เธอเคยเห็น?” ทุกคนตกตะลึง ขณะเดียวกันก็สงสัย…เบื้องหลังของแมงมุมหัวคนผู้บ้าคลั่งตัวนั้น ยังมีอะไรซ่อนอยู่อีกกันแน่…
“ลูกพี่…ยอมเอาตัวเองเป็นอาหารให้เจ้าสิ่งนั้น…ฉันคิดว่า มันน่าจะเป็นซอมบี้ล่ะมั้ง…แต่ว่ามันไม่ได้กินลูกพี่เสียทีเดียว…” หญิงสาวหวนคิดถึง “ฉัน…ตอนนั้นฉันเคยแอบตามไป แล้วก็เห็นจากที่ไกล อีก…อีกอย่าง ฉันรู้สึกว่า มันเห็นฉันแล้ว”
พูดถึงตรงนี้ อยู่ๆ หญิงสาวก็ทำหน้าแตกตื่น สีหน้าเริ่มซีดเผือด เห็นชัดว่าประสบการณ์ในตอนนั้น เป็นเหมือนฝันร้ายสำหรับเธอ
แมงมุมหัวคนน่ากลัวตัวหนึ่งกลับยอมถวายตัวเป็นอาหารให้ซอมบี้ตัวหนึ่งกิน และในฐานะผู้แอบมอง เธอยังถูกซอมบี้ตัวนั้นจับได้อีก สถานการณ์อย่างนี้แค่ลองจินตนาการดู ก็ทำให้เหงื่อแตกซ่กแล้ว
ถึงแม้หญิงสาวจะรับหน้าที่เป็นแนวหลังเพื่อจะมีชีวิตรอด แต่ในด้านนี้ เธอกลับมีความกล้าจนน่าประหลาด…
“ตอนนั้นฉันตกใจจนสมองขาวโพลนไปหมด อีกอย่างไม่ใช่แค่เจ้าสิ่งนั้น ฉันคิดว่าแม้แต่ลูกพี่ก็เห็นฉันแล้วเหมือนกัน แต่ไม่รู้ทำไม เจ้าสิ่งนั้นกลับพาลูกพี่เข้าไปในป่ารก…ฉันยืนตัวสั่นอยู่ที่เดิมสิบกว่านาที แล้วจึงค่อยเดินเซกลับไปยังที่พักช้าๆ” หลังจากที่เล่าจบอย่างผวา หญิงสาวก็มองไปที่หลิงม่อทันที บอกว่า “นั่นต้องไม่ใช่ซอมบี้ธรรมดาแน่ๆ มันซ่อนอยู่แถวๆ นี้แหละ ฉันรู้สึกอย่างนั้นมาโดยตลอด ว่ามันกำลังจับตามองที่นี่มาตั้งแต่แรกแล้ว ฉันไม่รู้ว่ามันทำไปเพื่ออะไร แต่มั่นใจได้เลยว่ามันจะต้องมีแผนร้ายแน่นอน ไม่แน่…”
“ไม่ต้องไม่แน่หรอก” หลิงม่อพลันเปลี่ยนสีหน้า จากนั้นจึงค่อยพูดเสียงเข้ม “มันรู้แล้วว่าพวกฉันอยู่ที่นี่” พูดถึงตรงนี้ เขามองหญิงสาวด้วยสายตาแฝงความนัย บอกว่า “อีกอย่าง มันยังได้ยินพวกเราด้วย…”