ตอนที่ 6 เธอมากับฉัน

The rise of the white lotus

ตอนที่ 6 เธอมากับฉัน

      “ ดีใจที่ได้พบคุณนะคะ คุณลู่”

      ดวงตาที่เบิกกว้างของอีธานลู่ ไล่สำรวจดูเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับปลอบใจตัวเองว่าเธอเป็นคนจริงไม่ใช่วิญญาณอาฆาตที่ชั่วร้าย จากนั้นการจ้องมองของเขาก็เคลื่อนไปยังหน่วยรักษาความปลอดภัยสองสามคนที่วิ่งเข้าหาทิศทางของพวกเขา

      “ คุณหยาง นายน้อยลู่เราขอโทษที่ต้องขัดจังหวะ แต่คุณหยาง คุณไม่สามรถไปต่อได้อีกแล้ว” หนึ่งในผุ้รักษาความปลอดภัยที่ แจ้งให้ เล็กซี่ทราบอย่างมีมารยาท

      อย่างไรก็ตาม เล็กซี่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่ขยับเขยื้อนโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองชายข้างหลังเธอ สำหรับเธอ เธอมองว่าสถานการณ์นี้เป็นการกระทำที่ดูน่าอับอาย แต่ยอมรับว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เธอตกต่ำที่สุดในชีวิต นับเป็นเรื่องที่เข้าใจได้

      ขณะเดียวกันนั้น เล็กซี่ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด เธอรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่จะยืดตัวขึ้นเหมือนคนหยิ่งผยอง ทันใดนั้นเสียงที่ขี้เล่นและน่าดึงดูดของ อีธานลู่ ก็เอ่ยขัดขึ้นมา

      ” โอ้ วันนี้ฉันเชิญคุณหยางมากับฉันด้วย” ด้วยใบหน้าที่เยือกเย็นของเขา และรอยยิ้มที่ไม่อาจต้านทานได้ที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เห็นคงจะตกหลุมรักอย่างง่ายดาย อีธานลู่ละสายตาจากหน่วยรักษาความปลอดภัยมาเป็นเล็กซี่หยาง ก่อนที่เขาจะเลิกคิ้วขึ้น ส่งสัญญาณให้เธอ

      “ ขอโทษด้วยครับนายน้อยลู่ ” หัวหน้าหน่วยโค้งคำนับแสดงความขอโทษและความเคารพอย่างจริงใจ เนื่องจาก อีธานลู่ เป็นทายาทของ ลู่ คอร์ปอเรชั่น และมีความผูกพันอย่างแน่นแฟ้นกับ ประธานของ บริษัท หลิว เอ็มไพร์ พวกเขาจึงไม่สามารถคัดค้านหรือเอ่ยขัดพวกเขาได้ ท้ายที่สุดคนระดับสูงอย่างพวกเขาก็ยากที่จะเข้าใจ และหากมีใครทำให้พวกเขาขุ่นเคืองอาจจะได้หางานใหม่เป็นแน่

      หลังจากแสดงความเคารพเป็นครั้งสุดท้ายคนพวกนั้นที่ไล่เธอออกไปก่อนหน้านี้ก็จากไปโดยไม่พูดอะไรอีก ไม่ว่าในสมัยก่อนหรือในปัจจุบันผู้คนก็เชื่อฟังคำพูดของคน ๆ หนึ่งหากพวกเขามีอำนาจและร่ำรวย

      “ ขอบคุณนะคะ นายน้อยลู่ ” เล็กซี่ขอบคุณอีธานลู่ ด้วยความสุภาพ

      “ อย่าพูดงั้นสิ เธออยากเจอพี่มอริสใช่ไหมล่ะ? มาสิ ” อีธานลู่เปิดทางให้เธอขึ้นลิฟต์ก่อนจากนั้นยิ้มด้วยความตื่นเต้นราวกับว่าเขาคาดหวังว่าจะมีเรื่องสนุกรอเขาอยู่ แม้จะมีเจตนาที่น่าสงสัย เล็กซี่ก็พยักหน้าเห็นด้วย เธอเข้าไปในลิฟต์ตามด้วยอีธานลู่

      ขณะอยู่ในลิฟต์ เล็กซี่อดทนรอให้ลิฟต์ไปถึงชั้นที่เป็นห้องทำงานของมอริสหลิว ในทางกลับกันอีธานลู่กำลังยืนพิงกำแพงอย่างสบาย ๆ พร้อมกับโทรศัพท์ในมือ เมื่อมองไปด้านหลังของเธอทุกครั้ง เขาค่อนข้างแปลกใจที่ทุกอย่างดูไม่เหมือนข่าวลือ คู่หมั้นบ้าคลั่งของตระกูลหลิวคำบอกเล่าเหล่านั้นดูไม่น่าเป็นไปได้มากไปกว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขา

      ” เธอไม่ได้ – “

      “ ใช่…ฉันหมายความว่าฉันเกือบตาย แต่ไม่ตาย ” เล็กซี่ตอบโดยไม่หันศีรษะไปหาชายที่อยู่ข้างหลัง เธอขัดจังหวะประโยคของเขากลางคันขณะที่เธอเดาว่าคำถามของเขากำลังจะไปในทิศทางไหน

      เขาค่อยๆพยักหน้ารับ เขารู้ถึงความในที่เธอจะสื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ อีธานลู่เม้มริมฝีปากของเขา เขาล้มเลิกความคิดที่จะสนทนากับเธอต่อ

      บรรยากาศภายในลิฟต์ค่อยๆน่าเบื่อลงเมื่อทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรออกมา กระนั้นทั้งคู่ก็ไม่สะทกสะท้าน เพราะไม่มีบทสนทนาที่น่าสนใจมากนักที่พวกเขาจะคุยกันได้ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาแทบจะไม่ถือว่าเป็นคนรู้จักเลย เพราะคนที่เล็กซี่สนใจมีเพียงแค่ มอริสหลิว ในขณะที่อีธานลู่ กำลังยุ่งอยู่กับชีวิตของเขาอย่างเต็มที่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เคยพบกันเลย แม้จะมีเพื่อนในแวดวงเดียวกันก็ตาม

      “อย่าลืมภารกิจแรกของคุณนะชู ~” ชูรูโผล่มาที่ไหล่ของเล็กซี่และเตือนเธอเกี่ยวกับงานของเธอ โชคดีที่เล็กซี่ไม่สะดุ้ง เพราะเธอค่อนข้างคุ้นเคยกับการปรากฏตัวและการหายตัวไปอย่างกะทันหันของชูรูแล้ว

      ‘ เงียบซะเจ้าเกี๊ยว นี่สำคัญกว่างาน จากระบบโง่ ๆ นั่น ‘ เล็กซี่ตอบกลับอย่างมั่นใจชูรูจะได้ยิน

      * ติ๊ง *

      ในที่สุดเสียงลิฟต์ก็มาถึงชั้นส่วนตัวของมอริส  ทำให้เล็กซี่โล่งใจ เธอเดินออกมาจากลิฟท์โดยไม่พูดอะไร ซึ่งเขาก็ทำเช่นเดียวกัน

      อีธานลู่ไม่พูดอะไร เขาเดินนำหน้าเธอตรงไปยังส่วนของผู้ช่วยหน้าห้องทำงาน

      เมื่อเธออยู่หน้าโต๊ะทำงานของผู้ช่วย ก่อนที่จะไปถึงห้องทำงานของมอริสหลิว เล็กซี่ หยุดอยู่ข้างหลังอีธาน และได้ยินผู้ช่วยของอดีตคู่หมั้นของเธออยู่ตรงหน้า

      “ นายน้อยลู่!” เลขานุการรีบลุกจากที่นั่งของเธออย่างรวดเร็ว และเธอก็ก้มหัวไปทาง อีธานลู่ อนิจจาเมื่อเธอจ้องมองไปยังร่างที่อยู่ข้างหลังเขาและเห็นเล็กซี่ แววแห่งความหวาดกลัวในดวงตาเผยออกมา ถึงกระนั้นแม้จะรู้สึกได้ถึงความเป็นปรปักษ์ในตัวเธอ เล็กซี่ก็เพียงแค่เลิกคิ้วขึ้น  รักษากริยาบนใบหน้าของเธอขณะที่เธอมองลงไปที่เลขานุการ

      ” เฮ้ ผู้ช่วยหลินพี่มอริสกำลังรอฉันอยู่หรือเปล่าเปล่า? ” แม้จะมีสงครามความเงียบระหว่างผู้หญิงทั้งสองคน แต่อีธานลู่ก็ไม่ได้ใส่ใจกับความเกลียดชังของพวกเธอ เนื่องจากเขาสนใจเพียงแค่ได้พบกับมอร์ริสหลิว และบางทีอาจจะได้เห็นเรื่องสนุก

      ” ใช่ค่ะนายน้อยลู่ ท่านประธานกำลังรอคุณอยู่ข้างใน ” เลขาหลินยิ้ม เธอแจ้งอย่างสุภาพ โดยไม่สนใจการมีอยู่ของเล็กซี่

      “ ฉันเข้าใจแล้ว … ขอบใจ ”  อีธานลู่พยักหน้าก่อนที่เขาจะเดินต่อไปอย่างไม่ไยดี ที่ห้องทำงานของมอริสหลิว ในทางกลับกัน เล็กซี่ไม่ใช่คนประเภทที่ต้องได้รับความช่วยเหลือ เพราะเธอทำตามโดยอัตโนมัติ อนิจจาขณะที่เธอก้าวไปไม่กี่ก้าวเลขาหลินก็ปิดกั้นทางของเธอด้วยท่าทางดูถูกเหยียดหยาม

      “ คุณหยางฉันเกรงว่าคุณจะไม่ได้นัดกับท่านประธานหลิว”

      ” อะไรทำให้คุณคิดว่าฉันไม่ได้นัดล่ะ ” เล็กซี่ขมวดคิ้วเพื่อข่มขู่ เธอตอบกลับอย่างว่างเปล่า ซึ่งทำให้เลขาหลินไม่พอใจ เธอกำลังจะอ้าปากพูด คำพูดของเธอก็หยุดลงก่อนที่จะออกจากปาก เมื่อถูกขัดด้วยเสียงของอีธานลู่

      “อา! ถูกแล้วเลขาหลิน คุณหยางมากับฉัน” อีธานลู่หันหลังกลับไปยังร่างของเล็กซี่ที่ถูกผู้ช่วยหลินขัดขวาง ด้วยรอยยิ้มที่ร่าเริง เขาเลิกคิ้วบ่งบอกว่าเธอควรให้เล็กซี่เดินผ่านไป ก่อนที่เขาจะเข้าไปในห้องทำงานของมอริสหลิว

      หลังจากได้ยินคำพูดของอีธานลู่  เล็กซี่ก็แสยะยิ้ม “ ฉันก็ไม่อยากอยู่ตรงนี้เหมือนกัน เพราะ … ฉันเองก็เบื่อเลขาหลินแล้วเหมือนกัน” เธอหันไปทางเลขาหลิน  “ น่าเศร้านะคะ ที่คุณทำอะไรฉันไม่ได้ แม้ว่าคุณจะรังเกียจฉันก็ตาม “