ตอนที่ 7 คุณภารกิจแรก

The rise of the white lotus

ตอนที่7 คุณภารกิจแรก

 

“ อา ใช่เลขาหลิน คุณหยางมากับฉัน

 

ขณะที่อีธานลู่เข้ามาในห้องทำงานของมอริสหลิว เขาก็ได้รับการต้อนรับด้วยสายตาอันเยือกเย็นของมอริสที่แสดงถึงความไม่พอใจต่อเขา แม้ว่าห้องทำงานของมอริสหลิวจะติดตั้งฉนวนป้องกันเสียงรบกวน และไม่มีเสียงใดที่สามารถผ่านเข้ามาในห้องของเขาจากภายนอกได้  แต่เขาก็ได้ยินคำพูดของอีธานอย่างชัดเจน

 

“เฮ้พี่ชาย อย่ามองฉันแบบนั้นสิ!” อีธานลู่ยกมือขึ้น ขณะที่เขาแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่ามอริสหลิวพยายามแช่แข็งเขาด้วยสายตา และเดินผ่านไปนั่งบนโซฟาตัวหนึ่งในห้องทำงานของมอริส

 

ในไม่ช้าประตูที่ปิดสนิทก็เปิดออกอีกครั้ง เผยให้เห็นความงามที่แสนภาคภูมิใจของเล็กซี่หยาง อย่างไรก็ตามมอริสหลิวไม่รู้สึกทึ่งกับใบหน้าที่งดงามของเธอ นอกจากจะมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ

 

ในทางกลับกัน เล็กซี่กลืนน้ำลายลงไป มองสายตาเย็นชาแสนคุ้นเคยที่มาจากผู้ชายที่เธอรักมากที่สุด เธอต้องยอมรับว่ามันยังคงทำให้เธอเจ็บปวดที่ต้องเผชิญหน้ากับมอร์ริสหลิว และสัมผัสได้ถึงความเย็นชาที่บีบหัวใจเธอจากเขา ไม่ว่าเล็กซี่จะสาบานกับตัวเองไว้ก่อนที่จะไปถึงที่นั่นและก่อนที่เธอจะเผชิญหน้ากับเขา เล็กซี่สัญญาว่าจะไม่สูญเสียความสุขุม และจะเผชิญหน้ากับเขาเหมือนผู้ใหญ่ที่โตเต็มที่

 

อีธานลู่ผู้ซึ่งได้กลิ่นของความตึงเครียดที่เงียบงัน ขณะที่ทั้งเล็กซี่และมอริสจ้องหน้ากันโดยไม่มีคำพูดใด ๆ ทำให้เขารู้สึกเพลิดเพลิน  ซึ่งทำให้เขาอดที่จะผิวปากไม่ได้

 

” ออกไป ” หลังจากนั้นไม่นานเสียงอันเย็นชาของมอริสหลิว ก็ดังก้องราวเสียงฟ้าร้องข้างหูของเล็กซี่ เขาขับไล่เธอออกไปอย่างไม่ไว้หน้า คำเพียงคำเดียวนี้ทำให้เธอกำมือของเธอแน่น จนเล็บที่ถูกตกแต่งอย่างดีจิกเข้าไปอย่างไม่รู้สึกเจ็บ

 

“ไม่เป็นไรนะ ชู ~” ชูรูที่นั่งเงียบ ๆ บนไหล่ของเล็กซี่ปลอบใจเธอ ขณะนั้นเองที่สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย ราวกับว่าชูรูสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดทรมานและความหนักอึ้งที่ เล็กซี่กำลังเผชิญอยู่ต่อหน้าคนที่เธอรัก

 

ไม่ว่าจะเป็นความคิดของชูรู ที่พยายามให้การสนับสนุนการกระทำนี้ของเธอ หรือความมุ่งมั่นของเล็กซี่เอง ที่อยากจะช่วยครอบครัวของเธอให้รอดพ้นจากวิกฤตล้มละลาย เธอก็พยายามที่จะเชิดศีรษะของตนให้สูงขึ้นอีก เธอกัดฟันแน่นเพื่อยับยั้งอารมณ์โกรธของตัวเอง

 

” ฉันไม่ไป “

 

“ ทำไมพาเธอมาที่นี่?” มอร์ริสหลิวหันสายตาเย็นชาไปที่อีธานลู่ ผู้ซึ่งมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉาบอยู่ทั่วใบหน้า เผยให้เห็นเจตนาร้ายที่ทำให้เพื่อนรักรำคาญ

 

“ฮะ?” ถึงกระนั้นแม้ว่าการแสดงออกของเขาจะดูเปิดเผย แต่อีธานลูก็แสร้งทำเป็นไร้เดียงสาเหมือนเช่นเคย

 

 

“ พี่มอริส ถ้าคุณไม่อยากเจอฉันอีกได้โปรดปล่อยครอบครัวของฉันไปเถอะ และเลิกกดดันบริษัทของเราสักที ” เล็กซี่พูดแทรก และยังคงยืนอยู่ที่ตรงนั้น เธอต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการสร้างความกล้า แม้ว่าหัวใจของเธอจะเจ็บปวดเพียงแค่เห็นการกระทำแสนเย็นชาของคนตรงหน้า มอริสหลิว

 

เมื่อได้ยินคำพูดที่ชัดถ้อยชัดคำและหยิ่งผยองของเธอ มอร์ริสหลิวก็หันกลับมามองเธออย่างไร้ความรู้สึก อุณหภูมิห้องลดลงทันทีราวกับว่าจู่ๆก็เข้าสู่ฤดูหนาว ภายในห้องทำงานของเขา ในทางกลับกันอีธานลู่รู้สึกถึงความหนาวเย็นที่ไหลลงมาที่กระดูกสันหลังของเขาเองเช่นกัน แต่มันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและรอชมฉากต่อไป

 

‘ จิ๊ ฉันคิดว่าฉันกำลังจะได้เห็นสงครามโลกครั้งที่ 3 แน่ ๆ ‘ อีธานลู่พึมพำอย่างตื่นเต้น

 

“ คุณหยาง ฉันไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้ ถ้าฉันแค่ไม่อยากเห็น” มอริสหลิวตอบด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นของเขา คล้ายโดนกริชแทงทะลุถึงหัวใจของเธอ

 

‘ ฉันทำไม่ได้ … ฉันยังเจ็บอยู่ … ‘ เล็กซี่กัดฟันแน่นขณะที่เธอกลั้นน้ำตาที่เริ่มก่อตัวขึ้นภายในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเธอ

 

เธอคิดว่าเธอพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเขาโดยไม่เจ็บปวด แต่เธอคิดผิดอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าเธอจะเตรียมใจมามากแค่ไหน คำพูดจากเขาเพียงคำเดียวก็ทำให้หัวใจของเธอแตกสลายไปแล้ว

 

” คุณคือไอ้สารเลว ชูรู! ชูรูเกลียดคุณ ชู!” ชูรูเหมือนเสียการควบคุมของตัวเอง เธอใช้เท้าเล็ก ๆน่ารักนั่นชี้ไปทางคนเย็นชาคนนั้น และเริ่มด่าออกมาเหมือนฝั่งตรงข้ามจะได้ยิน

 

เธอหลุดออกมาจากภวังค์ เล็กซี่เหลือบไปเห็นใบหน้าที่กลายเป็นสีแดงเข้มของชูรู เพราะความโกรธ ทำให้อดที่จะกัดริมฝีปากล่าง กลัวว่าเธอจะหลุดหัวเราะออกมาให้ได้เมื่อเห็นเจ้าเกี๊ยวอยู่ข้างๆ อย่างไรก็ตาม เล็กซี่ที่เกือบจะร้องไห้ออกมา เพราะเธอรู้ว่าหากตนเองได้เปิดปากพูดอีกครั้ง เสียงที่ออกมาคงมีแต่ความสั่นเครือ และทุกอย่างก็ต้องพังทลาย หากเป็นเช่นนั้น ไม่เพียงเธอที่ต้องอับอายเพรายังไงมอริสหลิวจะไม่มีทางสงสารเธอ และยังทำลายคำสาบานที่ให้ไว้กับตัวเองอีกด้วย

 

เล็กซี่หายใจเข้า และปล่อยมันออกมาอย่างหนัก เธอเริ่มผ่อนคลายไหล่ที่เกร็ง ขณะที่กำปั้นของเธอก็คลายออกจากกัน ดวงตาคมสีน้ำตาลอ่อนของเธอจ้องกลับไปที่ดวงตาสีดำสนิทของเขา ขนตาที่โค้งงอนยาวของเธอกระพือพร้อมกับเปลือกตาของเธอ เธอกลืนน้ำลายลงคอ

 

เล็กซี่ค่อยๆงอเข่าของเธออย่างช้าๆ จนกระทั่งถึงพื้นกระเบื้องมันวาว ละทิ้งทิฐิของตนลง ” ได้โปรด ฉันขอร้อง “

 

ชั่วครู่มอริสหลิวและอีธานลูต่างก็ตกใจกับการกระทำที่กะทันหันของเธอ ราวกับว่าตาของพวกเขาหลอกให้พวกเขาเห็นว่าเธอคุกเข่า  เล็กซี่หยางคุกเข่า! ใครจะเชื่อ? เล็กซี่ได้ชื่อว่าเป็นคนที่หยิ่งผยอง และจะไม่ยอมลงให้ใครตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีใครสามารถตำหนิพวกเขาได้โดยเฉพาะ มอริสหลิว เนื่องจากคำขู่ของเธอเมื่อสามสัปดาห์ก่อนนั้นตรงข้ามกับสิ่งที่เธอพูดตอนนี้อย่างสิ้นเชิง

 

เมื่อกระพริบตาสองสามครั้ง อีธานลู่ก็ขมวดคิ้ว เขาค่อนข้างผิดหวัง เนื่องจากเขาไม่อยู่ที่นี่เป็นเวลาหลายเดือน และมีความสุขกับชีวิตอยู่ อีธานลู่จึงไม่ได้เห็นละครเรื่องดังกล่าวที่ เล็กซี่เคยแสดงเมื่อสัปดาห์ก่อน ดังนั้นส่วนหนึ่งในใจของเขาต้องการที่จะเห็นด้วยตัวเองว่าเล็กซี่ ทำให้ มอริสหลิว สูญเสียความเยือกเย็นได้อย่างไร ถึงขนาดสั่งทำลายชื่อเสียงของเล็กซี่ และรวมถึงตระกูลหยางอย่างไม่เหลืออะไร นั่นแหละคือเหตุผลที่เขายอมให้เธอติดตามเขาขึ้นมา

 

อย่างไรก็ตาม อีธานลู่รู้สึกประทับใจเล็กน้อยกับความกล้าหาญของเล็กซี่ ซึ่งทำให้เขาไม่ทันระวังตัว ‘ เธอไม่ได้ดูไร้เดียงสาอย่างที่ใครเขาว่ากัน ‘ เขารำพึงในใจ

 

* ติ๊ง! +0.1 คะแนนค่าเสน่ห์! *

 

ทันใดนั้น ภายในหัวของเล็กซี่ ก็ขึ้นหมายเลขแจ้งเตือนที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ที่โผล่ออกมาจากที่ใดก็ไม่รู้ ทำให้เธอสับสน

 

“ว้าว! เยี่ยมมากเลย ชู ~! ดูเหมือนว่าคุณจะทำให้คุณภารกิจแรกประทับใจนะชู ~!”