“เรากำลังเล่นเจ้ากระบี่ขั้นเทพ” ฟางฉีตอบอย่างตั้งใจ โมเซียนที่นั่งถัดจากซียื่อนั่งมองหน้าจอ “มีคนมากมายเล่นเกมนี้อยู่ มันมีพลังมากหรอ?”
“ก็ดีนะ” ซียื่อตอบ “มีอะไรดีๆ ซ่อนอยู่ในนี้”
“แค่ดีแล้วทำไมถึงมีผู้เล่นมากมาย?” โมเซียนถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“เนื่องจากผู้คนที่นี้ส่วนมากชอบเรื่องที่น่ากลัวและตื่นเต้น” ซียื่อกล่าว
“ตื่นเต้น?” โมเซียนกระตือรือร้นที่จะจับตาดู
“หัวหน้าสมาคม!” ซีบื่อตะโกนเตือน “ใบในเขตปลอดภัยถึงมีสัตว์ประหลาดมากมาย ข้าเกือบตายอีกแล้ว!”
ผู้เล่นที่เพิ่มขึ้นมากกว่าสัตว์ประหลาดเมื่อพวกเขายิ่งฆ่ามันเท่าไรมันก็เหมือนว่าจะเพิ่มมากขึ้นแถมระดับของมันก็เพิ่มขึ้นตามลำดับอีกด้วย มันจับกลุ่มกันราวกับคลื่นที่คอยสมทบกันอย่างต่อเนื่ิอง เหล่าสัตว์ประหลาดได้ทำลายแนวตั้งรับและบุกเขาพื้นที่ปลอดภัยในขณะที่ผู้เล่นบางคนกำลังต่อสู้กับเหล่าบอส
“ทีนี่เจ้ารู้หรือยังว่าทำไมข้าถึงให้ใช้ไอเทมระดับต่ำเพื่อต่อสู้กับพวกเขา!” ฟางฉีกล่าว
“หัวหน้าสมาคมพูดถูก!” ซียื่อสูญเสียอาวุธของเธอแต่เธอก็ไม่ได้เศร้ากับมันเพราะมันเป็นเพียงแค่อาวุธรูปพระจันทร์เสี้ยวธรรมดามีค่าเพียงเล็กน้อย
หากไม่ใช่เพราะคำเตือนของฟางฉี ป่านนี้เธออาจสูญเสียอาวุธเวทย์มนตร์ขั้นสุดยอดไปแล้วหลังจากนั้นเธอคงฟูมฟายไม่น้อย
“ครั้งแรกที่มีสาระ ..” รวนหนิงพึมพำกับตัวเอง แม้ว่าผู้เล่นอิสระไร้สังกัดจะทำการต่อสู้กับเหล่าสัตว์ประหลาดกันอย่างหนาแน่น แต่ผู้เล่นจากสมาคมต่างๆ ก็มากพอไม่น้อยหน้าแถมพวกเขามีระบบระเบียบในการจัดการกับพวกมัน
ถึงตอนนี้ฟางฉีเองเขาก็ได้รวบรวมผู้เล่นในสมาคมเกมแห่งสวรรค์ “ดึงความสนใจพวกสัตว์ประหลาดให้ออกจากส่วนที่ปลอดภัยของเมือง ไม่งั้นพวกเขาจะเข้าไปฆ่าคนและทำลายเมือง!”
ในเขตปลอดภัยนั้นมีทั้งผู้เล่นมือใหม่และผู้เล่นที่เพิ่งเกิดใหม่จากการถูกฆ่า พวกเขามักตายและเกิดมือเปล่าเพราะอาวุธจะตกเมื่อถูกโจมตีจนตัวจาย
โชคดีที่กองกำลังอื่นๆ ต่างเห็นเหตุการณ์เช่นนี้พวกเขาจึงเริ่มสร้างเกราะป้องกันให้แก่เขตปลอดภัยเพื่อกำบังและไล่เหล่าสัตว์ประหลาดร้ายให้ออกจากที่นั้น ขณะเดียวกันเปลวไฟและสายฟ้าจำนวนมากก็พุ่งเข้าชวนกับกลุ่มสัตว์ประหลาด ฉากนี้งดงามมากมันคือสงครามระหว่างมุนษย์กับออร์คและสัตว์ประหลาดที่กำลังต่อสู้กันราวกับเป็นวันสิ้นโลก
หลายคนใช้ตัวเลือกถ่ายภาพหน้าจอบน QQ เพื่อบันทึกรูปภาพไว้ในกลุ่มซึ่งจะได้เป็นเรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำ บางทีวันหนึ่งพวกเขาอาจนึกย้อนถึงวันนี้เมื่อผ่านไปหลายปี
ฝูงสัตว์ประหลาดในตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกมันยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยังไม่มีวีแววจะสิ้นลงไอเทมที่ได้รับจากการตายก็ตกลงเรื่อยๆ เช่นกันเสียงโวยวายในร้านก็ด้วย
ผู้เล่นสองคนที่มีระดับสิบกำลังนั่งเล่นอยู่มุมหนึ่งในฝูงคนพวกเขาชื่อว่ากงซูและกงยี่ พวกเขากำลังนั่งหัวเราะ “น้องยีข้าได้รับหนังสือทักษะการใช้เกราะเวทยมนตร์ละ ฮ่าๆๆๆๆ”
นี่เป็นไอเทมชิ้นแรกที่กงซุนซุยเลือกมาใช้ในเกมครั้งแรกเพราะก่อนหน้านี้เขาถูกบังคับให้ลบตัสละครเดิม
“ข้าได้รับสุดยอดไอเทมจากมหาสมุทรด้วย” กงยีซิวรู้สึกว่าเรื่องตื่นเต้นแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับเขามานานมากแม้ว่าเขาจะเป็นคนใหญ่คนโตจากตระกูลกงยีก็ตาม เนื่องจากพวกเขามีไอเทมระดับต่ำมากมายพวกเขาจึงไม่กลัวว่าตัวเองจะตายแล้วของตก หลังจากได้ของดีแล้วพวกเขาเก็บมันกระเป๋าทันที
“ข้าได้ทองคำแท่ง!” ช่วงเวลาที่เหรียญและหนังสือขาดแคลน เวลาเดียวกันมันกลับตาลปัตรไปหมดเพราะพวกมันอยู่ในมือผู้เล่นระดับต่ำอย่างพวกเขาในเวลานี้
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นๆ จะไม่โชคดีอย่างพวกเขาแต่เมื่อเทียบกับคนอื่นแล้วของที่ตกจากการตายอาจมีค่ากว่าสิ่งที่พวกเขาได้รับ
การล้อมเมืองยังคงดำเนินต่อไปในขณะที่ผู้เล่นก็ยังคงไล่ล่าสัตว์ประหลาดพวกเขาได้รับข่าวจากผู้พิทักษ์ของเมืองอื่นว่าตอนนี้ หัวหน้าสมาคมวิลมะได้บุกเข้าไปในเมืองบีฉีด้วยกองกำลังไม่น้อย ตอนนี้แม้แต่ใจกลางของบีฉีก็ถูกครอบครองโดยเหล่าสัตว์ประหลาดเป็นที่เรียบร้อย
“ช่วยบีฉีด้วย!” ผู้บัญชาการของกองกำลังหลักตะโกนในช่องพูดคุย
เนื่องจากเม้งชงเป็นเมืองของผู้เล่นระดับสูงเป็นส่วนใหญ่กองกำลังจึงมารวมกันที่นี่ บีฉีเป็นเมืองที่ระดับน้อยกว่าพวกมันจึงเลือกโจมตีที่นั้นก่อน หลังจากบุกใจกลางเมืองแล้วในไม่ช้าตะขาบที่ตัวใหญ่ก็นอนขดตัวขว้างทางอยู่ตรงนั้น
ตะขาบตัวร้าย! มันคือสัตว์ประหลาดที่น่าสยดสยองจากก้นบึ้งลึกใต้ดินพวกมันมีการป้องกันการโจมตีของเวทย์มนตร์แถมสะท้อนหาผู้โจมตีให้กลายเป็นหิน ทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสที่จะหลบหนีได้โดยใช้เทเลพอร์ทหรือเคลื่อนตัวได้เลย
ผู้เล่นยังคงเลือกที่จะโจมตีต่อไปเราะไม่มีใครอยากให้บีฉีตกอยู่ในเงื้อมือของสัตว์ประหลาด .. เวลาเดียวกันหลายคนกลายเป็นรูปปั้นหินจากการสะท้อนการโจมตี กำลังหลักเดินทางมารวมตัวกันที่บีฉีพวกเขาแยกกันเป็นย่อม ในเมืองนี้ยิ่งใหญ่กองกำลังกระจายไปโดยรอบเวลาเดียวกันแสงเวทย์มนตร์พุ่งทะลุจากท้องฟ้าลงมา
.. มันเป็นฉากที่งดงามแทบไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน
“หัวหน้าสมาคมวิลมะ!” ผู้เล่นตะโกนขึ้นขณะเดียวกันคนกลุ่มย่อยถูกล้อมไปด้วยทหารของวิลมะ หากเทียบกันระหว่างตะขาบกับวิลมะแล้วตะขาบยังต้องยอม!
“ไปจัดการกับตะขาบตัวร้าย!” ฟางฉีพูดด้วยความตื่นเต้นพลางวิ่งไปพร้อมกับฝูงชน
“มันตายของตก!” ผู้เล่นตะโกนบอกกันในร้านขณะวิ่งเก็บของกันอย่างบ้าคลั่ง
ผู้เล่นไม่น้อยที่เล่นเกมโยวายว้าวุ่นตอนนี้ในร้านเต็มไปด้วยเสียงโห่คำราม “ของใหม่!”
“นั้นคฆาหยก!” ผู้เก็บได้อ้าปากค้าง “[สนับสนุนเวทย์ 2-6]”
มันมีพลังมากกว่าคฆาที่พวกเขาเคยได้รับ .. ทุกคนรุมดู คฆาหยกเป็นอาวุธเทพในตำนานและไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ที่สำคัญผู้เล่นในเมืองครึ่งล้วนแต่เป็นผู้ฝึกฝนและเกือบทั้งหมดพวกเขาเลือกเล่นอาชีพนักเวทย์และนักบวชเต๋าพวกเขาทุกคนสามารถใช้สิ่งนี้ได้จึงเป็นอะไรที่ชวนตื่นเต้นและน่าแย่งชิง
“เจ้าจะขายมันหรือไม่?” เสี่ยววิผู้คนต่างกรูเข้าไปถาม
“ข้าเสนอหมื่นคริสตัล!”
.. สถานการณ์ที่จิวหัวตอนนี้ทุกคนต่างรวมตัวกัน คาเฟ่อยู่ในความโกลาหลทั้งกองทัพของจิวหัวและเหล่าสมาคมรวมมือกันอย่างฉับพลัน
“อ่า” ขณะเดียวกันรอนนึงก็ร้องขึ้น
“เจ้าร้องเป็นอะไร?” ฟางฉีหันมองอย่างตกใจ
“แสงเสน่ห์มนตร์ตรา ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหยิบมันมาตั้งแต่เมื่อไร!?”
“บ้าชิบ!”
“หนังสือทักษะของนักเวทย์”
“เจ้าต้องการขายหรือไม่?” บรรยากาศในตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยความกระหายไอเทม