หลังจากหยิบของที่ตกลงจากเหล่าสัตว์ประหลาดแล้วผู้เล่นต่างรีบเดินทางเข้าไปยังเขคปลอดภัยเพราะเกรงว่าสมบัติหรือของที่พวกเขาได้มาจะหายไปหากถูกฆ่า
“ฮ่าๆๆ พวกสัตว์ประหลาดนั้นง่อยมาก ดูนั่นคนจากหยวนเฮงถ่ายภาพมาให้ดู” ผู้ฝึกฝนไม่น้อยของหยวนเฮงที่ยืนอยู่รอบๆ เมืองบีฉีถ่ายภาพหน้าจอลงใน QQ ข้างหลังของพวกเขาคือซากศพขนาดใหญ่ของตะขาบยักษ์กำลังนอนตายอยู่ใจกลางเมือง
หลายชั่วโมงผ่านไปนับตั้งแต่สัตว์ประหลาดเริ่มโจมตีเมืองในตอนนี้ได้มีการออกประกาศแล้วว่าบีฉีได้ควบคุมสถานการณ์ได้แล้วเหล่าสัตว์ประหลาดก็ลงการโจมตีที่แห่งนี้แล้ว ผู้คนจึงเลือกที่จะถ่ายรูปหน้าจอตรงวิวสวยๆ ก่อนจะตรงดิ่งกลับไปยังเมืองหลักเพื่อจัดระเบียบกับสิ่งของที่พวกเขาเพิ่งได้รับ
จากความตื่นเต้นและท่าทางที่ดูอิ่มเอมใจของหลายคน โมเซียนที่นั่งสังเกตการขมวดคิ้ว “นั่นคืออะไร? ทำไมมีคนตะโกนเสนอราคาขอซื้อถึงหมื่นคริสตัล?”
เธอเห็นว่าผู้เล่นส่วนมักต่อสู้เพื่อสมบัติแต่เธอเองก็สงสัยว่าทำไมผู้คนถึงได้เสนอราคาที่มากเช่นนี้เพียงเพื่อซื้อสมบัติที่ไม่สามารถนำออกจากเกมได้ ท้ายสุดแล้วมันฟังดูเหมือนว่าเป็นคาถาทางจิตวิญญาณที่ทรงพลังไม่น้อย
ก่อนที่เธอถามจบเสียงตะโกนดังขึ้นไม่ไกลจากเธอ “ข้าเสนอหมื่นห้าครัลตัลต่อคฆาหยก!”
ในเขตปลอดภัยของเมืองบีฉีมีนักเวทย์ที่ได้รับคฆาหยกตอนนี้เขาได้รับการดึงดูดจากคนคนทั้งสองร้าน ผู้เล่นในร้านจิวหัวเองก็ไม่น้อยหน้าในการเสนอราคา คฆานี้มีแกนแท่งเหล็กเป็นสีดำดูคล้ายไม้ไผ่มันเหมือนดาบจีนแต่หนากว่าหลายเท่ามีพลังและดูก้าวร้าว
เมืองบีฉีตอนนี้ทั้งเมืองเต็มไปด้วยผู้คนที่แห่การมาดูอาวุธที่ถูกส่งมาจากพระเจ้า!
“ฮ่าๆๆๆ” ฟางฉีหัวเราะ
ในกระเป๋าเป้ของเขามีแหวนเงินที่ฝังด้วยไข่มุกสีฟ้ามีค่ามาก [แหวนชาลดการเคลื่อนที่ของศัตรูสร้างความเสียหาย 0-1]
“มันเพิ่มความเสียหายได้เพียง 0-1 เองทำไมเจ้าถึงดูพอใจกับสิ่งนี้” รวนหนิงรู้สึกงง
“ความเสียหายแค่ 0-1 คืออะไร?” ซียื่อถามอย่างไม่เข้าใจ “ข้าได้รับแหวนพลังท่านต้องการมันมั้ย?”
“ไม่! ข้าไม่ต้องการ” ฟางฉีมีแหวนพลังแล้วเขาแค่ต้องการแหวนใหม่เพื่อลดการเคลื่อนที่ของศัตรู
เสี่ยววิเขาทดลองใช้แหวนเพื่อดูประสิทธิภาพของมัน
“ทำไมเจ้าทำร้ายข้า?” นาหลันหมิงสือถามอย่างไม่พอใจ
ฟางฉียิ้มเยาะเขากำลังทดลองแหวนกับคนที่เขารู้จัก “มันคือคำทักทาย” จากนั้นเขาจัดการกับนาหลันหมิงสืออีกครั้ง
นาหลันที่กำลังจะโจมตีเขากลับเธอรู้สึกว่าร่างกายของเธอนั้นชาและแข็งทื่อ
“เกิดอะไรขึ้น!?”
“ตะขาบปีศาจตัวร้าย!”
“อะไรนะ!?” นาหลันหมิงสือตัวแข็งหากเธอโดนฟางฉีโจมตีอีกครั้งเธอจะไม่สามารถวิ่งได้
เด็กหญิงที่อยู่ข้างๆ พวกเขาเห็นพลังและเกือบจะกระโดดหนีแยกตัวกันเพราะนี่คือความสามารถของตะขาบปีศาจในการเปลี่ยนคนให้เป็นหิน
“แหวนชามีความสามารถในการเปลี่ยนคนให้เดินช้าจนสุดท้ายกลายเป็นหินเช่นเดียวกับพลังสะท้อนของตะขาบ เจ้าของร้านได้อาวุธของพระเจ้า!” ผู้เล่นไม่กี่คนที่เดินมาถามเรื่องหนังสือแสงเสน่ห์กับรวนหนิงถึงกับอ้าปากค้างเมื่อเจอฉากนี้
…
“ข้าต้องการอาวุธสามอย่างจะพระเจ้าเช่นกัน!” เจียงเสี่ยวหยูยืนหยัดรู้สึกผิดหวังที่เธอแทบไม่ได้อะไรเลย
ขณะเดียวกันฝูงชนเรื่องมากขึ้นตามลำดับการต่อสู้บางคนก็ยืนอยู่นอกเขตปลอดภัย
“ทำไมสัตว์ประหลาดถึงมาที่นี่” เจียงเสี่ยวหยูได้ยินคำถามจากนักเวทย์ที่มีระดับต่ำกว่าสามสิบ เขากำลังเรียกสายฟ้าออกมา
สัตว์หายากมีสองเขาดูเหมือนว่ามันกำลังโกรธที่ถูกสายฟ้าโจมตี มันพ่นลำแสงอันยาวและรุนแรงออกมาส่งผลให้ผู้เล่นระดับยี่สิบหลายคนได้รับความเสียหาย
“มันสร้างความเสียหายสูงมาก” นักรบที่ระดับมากกว่าสามสิบสูญเสียเลือดจำนวนมากเมื่อถูกโจมตีโดยลำแสง
“ลูกสมุนปีศาจดำอยู่ไหนกัน? มีใครคนอื่นอีกมั้ย?”
“มาด้านล่าง! ตรงเขตปลอดภัยมาช่วยกันโจมตีพวกมัน”
“มันสร้างความเสียหายแก่เราสูงมาก” ลูกสมุนปีศาจดำตะโกนใส่ในช่องพูดคุย QQ
“มันกำลังจะตาย มันกำลังจะตาย!” เสียงครวญครางของสัตว์ประหลาดกำลังจะสิ้นใจ
“ทำไมพวกเจ้าทำร้ายสัตว์ของข้า!” เสี่ยวหยูยกมือของเธอขึ้นแล้วตะโกน
“อีกตัว!?” มีคนร้องอุทานบีฉีที่กำลังวุ่นวายไม่มีใครสนใจคำพูดของเสี่ยวหยูสักคนแถมยังโจมตีกันไม่หยุด
หลังจากนั้นเจ้าสัตว์ประหลาดตัวที่สองก็สิ้นใจ ไม่นานเจียงเสี่ยวหยูก็ยังคงอันเชิญมันอีกครั้ง
นักบวชเต๋าหลายคนตะโกน “หยุด! มันไม่ใช่หัวหน้าสมาคมหรืออะไร มันคือสัตว์ร้ายที่ถูกปลุกขึ้นด้วยนักบวชเต๋า! มันคือเทคนิคในระดับสามสิบห้าของนักบวชเต๋า!”
“ปลุกสัตว์ร้าย!?” ยังไม่มีใครเคยพบเทคนิคดังกล่าวมาก่อนพวกเขาจึงทำหน้างง
“มันมีพลังพอๆ กับหัวหน้าสมาคม”
“มีพลังมาก”
ในไม่ช้าทุกคนก็ไม่รุมมองเจียงเสี่ยวหยู .. นี่เป็นครั้งแรกที่มีการแสดงออกถึงพลังที่น่ากลัวสัตว์ร้ายปรากฎตัวต่อหน้าผู้ทุกคนระยะประชิดขฯะเดียวกันก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น “คาถาอัญเชิญพระเจ้าแห่งสัตว์ร้าย ข้ามีหนังสือเล่มนี้!”
ทันใดนั้นความบ้าคลั่งก็เกิดขึ้นอีกครั้งท่ามกลางนักบวชเต๋า
…
วันนี้ช่างเป็นวันที่มีชีวิตชีวาที่สุดตั้งแต่ฟางฉีเปิดคาเฟ่มา มันช่างแออัดมากกว่าสงครามระหว่างสองภูมิภาคที่เคยวุ่นวายเสียอรก
ขุมทรัพย์จำนวนมากถูกขายอย่างเปิดเผยและตรงจุด แต่ราคาของสมบัติบางอย่างนั้นอาจยังไม่เหมาะที่จะถูกกำหนดในตอนนี้ ตัวอย่างเช่นอาวุธของพระเจ้าในตอนนี้, หนังสือแสงมนตร์เสน่ห์และยังรวมไปถึงทักษะพิเศษที่หากยากเกินจะกำหนดราคา
กองกำลังขนาดใหญ่รวมตัวกันรอบๆ เห็นได้ชัดว่าพวกเขายังคงตกลงราคากันไม่ได้ หลายคนถามหาเกี่ยวกับราคาของหนังสือทักษะแสงมนตร์เสน่ห์ซึ่งพวกเขาตีราคาให้มากกว่าหมื่นคริสตัล อย่างไรก็ตามมันก็ยังคงไม่ได้ราคาสรุปที่ชัดเจนอยู่ดี
“เจ้าวางแผนจะขายมันหรือไม่?” ฟางฉีมองหน้ารวนหนิงที่ดูลังเล
“อ๊ะ ..” รวนหนิงต้องการขายมัน แน่นอนมันสามารถใช้งานแค่ในเกมเท่านั้น ในโลกแห่งความจริงเธอสามารถสร้างเสน่ห์ให้กับสัตว์ร้ายได้แต่มันคงไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น เธอคิดในหัว
“แล้วการประมูลในเมืองชั้นในละ?” ซียือออกคำแนะนำ
นอกจากผู้ฝึกฝนที่ต้องการหนังสือมนตร์เสน่ห์แล้วยังมีอีกหลายคนที่ต้องการเจรจาเพื่อหาสมบัติชิ้นอื่นอีกมาก เมื่อพวกเขาได้ยินคำแนะนำนี้แววตาอันสดใสก็ปรากฎขึ้น “เราควรไปทำข้อตกลงกันที่เมืองชั้นใน!”
“แล้วการประมูลคฆาหยกละ?” สมุนปีศาจดำถาม
“ผู้ที่ประมูลสูงสุดจะถือว่าชนะ!” ปีศาจดำเอ่ย
“อืม .. เป็นความคิดที่ดี!” ซีเฉินโจวเห็นด้วย “ถือเป็นการให้เวลาข้าในการเตรียมครัสติล”
“การประมูลครั้งต่อไปในเมืองชั้นในใกล้เข้ามาแล้วละ” ผู้นพจากกองกำลังหลักตอบ
“อืม ..” ใบหน้าของฟางฉีดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เมืองชั้นในหารายได้กันง่ายๆ เมื่อพวกเราเข้าไปหลายคนเมืองก็จะได้ค่าเข้าหลายแสนครัสตัลใช่มั้ย?”
เพราะสุดท้ายไม่ว่าใครจะเข้าไปก็ต้องเสียค่าผ่านทางหนึ่งพันคริสตัล!
“ฮ่าๆๆ” ซีเฉินโจมหัวเราะและพูดว่า “เจ้าเป็นคนใหม่ที่นี่ เขามีกฎในการใช้จ่ายไม่ให้กองกำลังบางกองได้เพลิดเพลินไปกับสิทธิพิเศษในการเข้าเมืองชั้นในได้ฟรีไม่งั้นทุกคนก็จะแห่กันเข้าไป”
“แล้วข้ามีสิทธิมั้ย?” ฟางฉีถาม
“แน่สิ ..” ซีเฉินโจวพูดช้า “ฉินฮงหลินแห่งล็อคที่สามสิบหกเคยมีสิทธิพิเศษนี้ ตอนนี้ผู้นำกลุ่มล็อคสามสิบหกคือเจ้า เจ้าได้รับสิทธิพิเศษนี้อย่างแน่นอน”
“เยี่ยม!” ผู้ฝึกฝนในชุดแตงผู้มีคฆาหยกในมือกล่าวว่า “ข้าจะเปิดประมูลคฆาหยกและผู้ที่ให้ราคาสูงสุดจะได้รับมัน!”
อีกไม่กี่วันผู้คนจะต้องเต็มเมืองชั้นในแน่นอน .. ใครจะคิดว่าวันหนึ่งสมบัติในเกมเหล่านี้จะถูกนำมาประมูลและมีค่ามากพอกับสมบัติในโลกแห่งความจริง!