ตอนที่ 167 คราวนี้เขาทําอะไร

“ท่านผู้นํา ข้าผู้อาวุโสชานข้ามีเรื่องสําคัญที่จะพูดคุยเกี่ยวกับศิษย์หยวน”

ผู้อาวุโสชานเคาะประตูของหลงอี้จุนและพูดจากด้านนอก

“ศิษย์หยวน ครั้งนี้เขาทําอะไร?”

หลงอี้จุนถอนหายใจทันทีและหยุดทํางาน

“เข้ามาข้างใน!”

ผู้อาวุโสชานเปิดประตูในเวลาต่อมา และเข้าไปในห้องโดยมีศิษย์เฟยตามหลังเธอ

“หืม?”

หลงอี้จุนเลิกคิ้วขึ้นหลังจากเห็นศิษย์เฟย เขาสงสัยว่าเธอไปทําอะไรที่นั่น และเธอเกี่ยวข้องกับสถานการณ์นี้อย่างไร

” ศิษย์เฟยเดินไปข้างหน้า บอกท่านผู้นํานิกายเกี่ยวกับสิ่งที่เจ้าบอกข้าก่อนที่จะมาที่นี่”

ผู้อาวุโสชานมองไปที่นางและกล่าว

ศิษย์เฟยพยักหน้า และก้าวไปข้างหน้าก่อนที่จะโค้งคํานับให้หลงขี้จุนด้วยความเคารพ

” ศิษย์หลักเฟยทักทายผู้นํานิกาย”

หลังจากทักทายหลงอี้จุน ศิษย์เฟยก็เริ่มพูด

“ข้าจะเข้าร่วมการแข่งขันพิณที่จะจัดขึ้นในหนึ่งสัปดาห์กับคู่หูของข้าซึ่งเป็นศิษย์ของนิกายชั้นนอกเขาชื่อหยวน”

“แข่งขันพิณกับศิษย์หยวน?”

หลงอี้จุนประหลาดใจเล็กน้อย หลังจากได้ยินคําพูดของเธอ หยวนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญพิณตั้งแต่เมื่อใด

ศิษย์เฟยพยักหน้าและกล่าวว่า

“ศิษย์หยวนมีความสามารถที่โดดเด่นด้วยพิณ และข้าเชื่อว่าเรามีโอกาสที่ดีที่จะได้อันดับ 3 หากเขาเข้าร่วมการแข่งขันกับข้า”

อันดับที่ 3 หรือ? ถ้าข้าจําได้ไม่ผิดเจ้าได้อันดับที่ 7 สําหรับการแข่งขันครั้งล่าสุด”

หลงอี้จนกล่าวด้วยใบหน้าที่ครุ่นคิด

“ถูกต้องแล้วผู้นํานิกาย”

หลังจากไตร่ตรองสักครู่หลงอี้จุนพูดว่า

“ข้ารู้ว่าการแข่งขันนี้ได้รับการสนับสนุนจากวังสวรรค์และโลก ดังนั้นการแข่งขันจะดุเดือดขึ้นในปีนี้ อะไรที่ทําให้เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถคว้าอันดับ 3 ได้? ”

“หากท่านได้ฟังศิษย์หยวนเล่นพิณ ท่านจะใจความรู้สึกของข้าผู้นํานิกาย….ข้าได้รับการรู้แจ้งหลังจากฟังการบรรเลงพิณของเขาแล้ว”

“อะไรนะ?! การรู้แจ้งงั้นหรอ? เป็นเช่นนั้นเลยหรอ?”

หลงอี้จุนอุทานด้วยน้ําเสียงตกใจเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องแบบนี้

ศิษย์เฟยพยักหน้า

“บางทีข้าควรจะฟังศิษย์หยวนเล่นพิณบ้าง…” หลงอี้จุนคิดกับตัวเอง

ในเวลาต่อมาหลงอี้จุนกล่าวว่า

“อย่างไรก็ตามข้าเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ แต่การปล่อยให้ศิษย์หยวนออกจากนิกายนั้นไม่ง่ายอย่างที่เจ้าคิดศิษย์เฟย เนื่องจากการดํารงอยู่ของเขาภายในนิกายนั้น…พิเศษเล็กน้อย…”

“ถ้าข้าถามว่าศิษย์หยวนคือใครกันแน่ เขาน่าจะเป็นคนที่มีภูมิหลังที่สําคัญอย่างชัดเจน แต่ข้าจําเขาไม่ได้เลย และข้าไม่เคยได้ยินว่ามีคนแบบเขา” ศิษย์เฟยกล่าว

หลงอี้จุนหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะพูด

“ข้าจะบอกความจริงแก่เจ้าศิษย์เฟย ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าภูมิหลังที่แท้จริงของศิษย์หยวนเป็นอย่างไร มีการคาดเดาว่าเขามาจากหนึ่งในสี่ตระกูลโบราณ แต่นั่นเป็นเพียงการคาดเดาที่ดีที่สุด “

“สี่ตระกูลโบราณ?!”

ศิษย์เฟยตกใจหลังจากได้ยินเรื่องนี้

แม้ว่าจะเป็นเพียงการคาดเดา แต่ก็ยังน่าตกใจอย่างไม่น่าเชื่อที่พวกเขาประเมินหยวนเป็นคนที่มีค่าพอที่จะดํารงอยู่ในหนึ่งในสี่ตระกูลโบราณ

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ศิษย์เฟยถามหลงอี้จุนด้วยสีหน้าเป็นห่วง

“แล้วจะเกิดอะไรขึ้นตอนนี้ ท่านจะห้ามไม่ให้เขาเข้าร่วมการแข่งขันหรือไม่?”

“อะไรนะ ไม่ ข้าไม่ได้จะไม่ให้ลงแข่ง!”

หลงอี้จุนตอบกลับอย่างรวดเร็วด้วยความประหลาดใจบนใบหน้าของเขา

แม้ว่าเขาจะไม่พูด เพราะมันจะส่งผลต่อหน้าตา และตําแหน่งของเขาในฐานะผู้นํานิกาย แต่จริงๆแล้วเขาก็ไม่กล้าที่จะกักขังหยวนไว้ในนิกาย แม้ว่าเขาจะมีค่าต่อพวกเขาก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากสัญญากับเขาว่าพวกเขาจะไม่จํากัดการเคลื่อนไหวของเขาและไม่จํากัดเสรีภาพ

“แล้วเขาจะสามารถร่วมการแข่งขันกับข้าได้ไหม”

ศิษย์เฟยถามอีกครั้งด้วยสีหน้าตื่นเต้นเล็กน้อย

“ถ้านั่นคือสิ่งที่เขาต้องการจะทํา ก็ไม่มีเหตุผลที่ข้าจะปฏิเสธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเจ้ามั่นใจมากว่าจะได้อันดับ 3 ในการแข่งขัน ท้ายที่สุดชื่อเสียงหรือการยอมรับใดๆ ที่เจ้าได้รับจากการแข่งขันก็จะส่งผลกระทบต่อวิหารแก่นมังกรด้วยเช่นกัน” หลงอี้จุนพยักหน้า

จากนั้นเขาก็หันไปมองผู้อาวุโสชานและกล่าวว่า

” ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่รังเกียจ และข้าไม่ได้สงสัยในความสามารถของเจ้า แต่เนื่องจากศิษย์หยวนจะไปกับเจ้าด้วย ข้าต้องการให้ผู้อาวุโสซวนไปกับเจ้าในกรณีนี้”

ผู้อาวุโสชานพยักหน้าและกล่าวว่า

“ไม่ต้องห่วง ข้าเข้าใจ ข้าจะไม่สามารถนอนหลับได้ตลอดชีวิต ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขาในขณะที่เราอยู่ข้างนอก อันที่จริงแม้ว่าท่านจะไม่ได้สั่ง ข้าก็จะขอความช่วยเหลือเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว

หลงอี้จุนพยักหน้าและกล่าวครู่ต่อมา

“ถ้าอย่างนั้น ข้าจะรอผลการแข่งขันของเจ้าลูกศิษย์เฟย”

“ขอบพระคุณท่านผู้นํานิกาย ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อนําความรุ่งเรืองมาสู่วิหารแก่นมังกร”

ศิษย์เฟยโค้งคํานับ ก่อนออกจากสถานที่พร้อมกับผู้อาวุโสชาน

“ไปแข่งขันงั้นหรอ ข้าแค่หวังว่าเขาจะไม่สร้างความปั่นป่วนที่นั่น…”

หลงอี้จุนถอนหายใจขณะที่เขาเอนกายลงบนที่นั่ง และรู้สึกไม่สบายใจในอกด้วยเหตุผลบางอย่าง

หลังจากออกจากสํานักงานใหญ่ของนิกาย ศิษย์เฟยถามผู้อาวุโสชานว่า

“อาจารย์ท่านคิดว่าศิษย์หยวนเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลโบราณจริงหรือ?”

” พูดตามตรงข้ารู้สึกว่าภูมิหลังที่แท้จริงของเขา อาจจะเหนือกว่าสี่ตระกูลโบราณด้วยซ้ํา เจ้าไม่ได้อยู่ที่นั่นเพื่อเป็นสักขีพยาน แต่พรสวรรค์ในการฝึกฝนของศิษย์หยวน…มันช่างน่าตกใจเสียจนน่ากลัว”

” เหนือสี่ตระกูลโบราณ พลังแบบนั้นมีอยู่จริงในสวรรค์ชั้นล่างจริงๆหรอ ข้าคิดว่าสี่ตระกูลโบราณแข็งแกร่งที่สุดในสวรรค์ชั้นล่าง” ศิษย์เฟยกล่าว

ผู้อาวุโสชานส่ายหัวและกล่าวว่า

“สวรรค์ชั้นล่างอาจดูเล็กเมื่อเทียบกับสวรรค์ชั้นบน แต่มีภูมิหลังที่ทรงพลัง และซ่อนเร้นอยู่มากมายในโลกนี้ และสี่ตระกูลโบราณเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของสิ่งที่อาจมีอยู่ อย่างน้อยนั่นก็คือสิ่งที่ข้าคิด”