ตอนที่ 1642 : ชักหายนะสู่ตะวันออก

ระบบเจ้าสำนัก

ตอนที่ 1642 : ชักหายนะสู่ตะวันออก

 

จางหยูแข็งแกร่งเกินไป !

 

ความแข็งแกร่งแบบนี้เหนือกว่าหลินหลาง จนทำให้จาฮานนั้นถึงกับสิ้นหวัง !

 

หลินหลางนั้นแข็งแกร่ง แต่จาฮานก็พอรับมือได้ เขาอาจจะเห็นความหวังที่จะชนะแต่ความแข็งแกร่งของจางหยูนั้นทำให้จาฮานรู้สึกว่าไม่มีความสามารถจะตามได้ทัน

 

เขาถึงกับสงสัยว่าจางหยูเป็นผู้ควบคุมขั้นที่ 8 แต่ปลอมว่าเป็นผู้ควบคุมขั้น 7 เพื่อหลอกเขาอย่างแน่นอน

 

มันยากที่จะคิดได้ว่าผู้ควบคุมขั้น 7 นั้นจะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้

 

ตูม ตูม ตูม !

 

จาฮานกระเด็นออกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่าพร้อมกับอาการบาดเจ็บที่เพิ่มมากขึ้น

 

ก่อนที่เขาจะรู้ตัวนั้นร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยบาดแผล

 

ผู้ควบคุมขั้น 7 หลายคนมองดูฉากนี้ด้วยความเหลือเชื่อ

 

“พี่จาฮานบาดเจ็บ !”

 

“ชายคนนี้เหนือกว่าพี่จาฮาน !”

 

“นอกจากหลินหลางแล้ว ยังมีคนที่ทำร้ายพี่จาฮานได้อีกรึ ..”

 

พวกเขารู้จักจาฮานมานานและรู้ถึงความแข็งแกร่งของจาฮานเป็นอย่างดี เมื่อเห็นจาฮานบาดเจ็บ เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะตะลึง

 

อันที่จริงแล้วสถานการณ์ของจาฮานนั้นหนักหนากว่าที่พวกเขาเห็น

 

พวกเขาเห็นว่าจาฮานบาดเจ็บ แต่ไม่รู้ถึงความสิ้นหวังของจาฮาน ต่อหน้าการโจมตีของจางหยูแล้ว แม้แต่การรับมือก็ยังเป็นเรื่องยาก นี่คือการแพ้แบบขาดลอย !

 

นี่คือสิ่งที่หลินหลางไม่อาจจะทำได้ !

 

นี่เป็นครั้งแรกที่จาฮานรู้สึกโดนรังแกแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าเขาเชื่อมั่นตัวเองเกินไป

 

เขาได้แต่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น มันมีคำพูดมากมายจุกอยู่ที่คอเขา แต่ไม่อาจจะพูดมันออกมาได้ ยังไงซะการต่อสู้นี้ก็คือความต้องการของเขาแต่แรก หากเขายอมรับความพ่ายแพ้ งั้นก็มีแต่จะโดนดูหมิ่น

 

หลังจากนั้นจาฮานก็ไม่อาจจะรับมือได้เลย การปะทะกันในแต่ละครั้งทำให้เกิดบาดแผลขึ้นมา แม้แต่จิตผู้สร้างก็ยังสั่นไหวไปด้วย

 

ทั้งสองคนได้ปะทะกันอยู่หลายครั้งจนเกิดภาพติดตาจำนวนมาก

 

การปรากฏตัวทุกครั้งนั้นจะมีการปะทะกันอย่างรุนแรงจนทำให้โลกต้องสั่นไหว

 

สุดท้ายหลังจากที่รับการโจมตีมานานการป้องกันทางจิตใจของจาฮานก็พังลง เกียรติยศที่ฝังอยู่ในกระดูกนั้นก็หายไปด้วย เขาก้มหน้าและตะโกนออกมา “หยุด ! ข้ายอมแพ้ !”

 

การยอมรับความพ่ายแพ้นี้ไม่ต้องเดาเลยว่าเป็นการเสียเกียรติสำหรับจาฮานมากแค่ไหน แต่ต่อหน้าชายลึกลับคนนี้แล้ว จาฮานไม่เห็นโอกาสที่จะชนะได้เลย

 

เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับความพ่ายแพ้

 

หากเขาไม่ยอมแพ้ เขาอาจจะโดนรังแกมากกว่านี้ก็ได้ !

 

เมื่อได้ยินคำพูดของจาฮาน จางหยูก็รู้สึกเสียดายขึ้นมา “เจ้าอยากยืนยันความก้าวหน้าไม่ใช่รึ ? เจ้าไม่คิดว่ามันเร็วไปหน่อยรึที่จะยอมแพ้ ?”

 

ผู้คนด้านล่างมองไปที่จาฮานด้วยสีหน้าตกตะลึง ผู้ควบคุมขั้น 7อันดับสองกลับยอมแพ้ !

 

โดยเฉพาะพวกผู้ควบคุมขั้น 7 พวกนั้นรู้ถึงนิสัยของจาฮานดี จาฮานแทบไม่มีทางที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ แม้ว่าจะเป็นการต่อสู้กับหลินหลางก็ตาม แม้จะเป็นการต่อสู้ที่เสียเปรียบ แต่เขาก็ยืนหยัดจนถึงวินาทีสุดท้ายและพ่ายแพ้ไป แต่ตอนนี้ชัดแล้วว่าเขามีพลังที่จะสู้ต่อได้แต่เขากลับขอยอมแพ้

 

นี่ทำให้ภาพลักษณ์ของจาฮานในใจพวกเขาเปลี่ยนไป

 

นี่ใช่จาฮานผู้เย่อหยิ่งคนเดิมหรือไม่ ?

 

“เจ้าแข็งแกร่ง ข้าไม่อาจจะเป็นคู่มือด้วยได้ สู้ไปก็มีแต่น่าเบื่อไม่ใช่รึ ?” จาฮานหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น

 

เขาโดนรังแกมามากพอแล้ว เขาไม่อยากต้องเจ็บตัวอีก

 

เขาจะหาเรื่องเจ็บตัวไปทำไม !

 

เขาลังเลและถามกับจางหยู “เจ้าคงไม่ใช่ผู้ควบคุมขั้น 8 ที่ปลอมมาเป็นผู้ควบคุมขั้น 7 หรอกนะ ?”

 

เขาไม่ผิดที่สงสัยแบบนี้เพราะความแข็งแกร่งของจางหยูนั้นมากเกินไป ยิ่งสู้เท่าไหร่จางหยูก็ยิ่งแข็งแกร่งเท่านั้น

 

ความแข็งแกร่งของคนเราจะพัฒนาในระยะเวลาอันสั้นได้ยังไง ?

 

ตามที่จางหยูแสดงออกมาในตอนแรก แม้ว่าจาฮานจะด้อยกว่าแต่ก็ไม่ได้ด้อยกว่าจนหลุดลุ่ย

 

เมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้นก็พากันมองไปที่จางหยูด้วยสีหน้าเหลือเชื่อคนลึกลับผู้นี้คือยอดฝีมือขั้นที่ 8 จริง ๆ รึ ?

 

“เจ้าคิดมากไป ข้าไม่ได้มีนิสัยเช่นนั้น” จางหยูส่ายหน้า “ตามการแบ่งระดับพลังแล้ว ข้ายังอยู่ขั้น 7 แต่หากเทียบกับผู้ควบคุมขั้น 7 ทั่วไปแล้ว ข้าแข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย แต่ข้าเข้าใจการสร้างถึงขั้น 8 จึงทำให้ข้าแข็งแกร่งกว่าคนอื่น ๆ”

 

“งั้นรึ ?” จาฮานสงสัย

 

เขารู้สึกว่าความแข็งแกร่งของจางหยูนั้นมากกว่าผู้ควบคุมขั้น 7 ไปมาก

 

ตอนนั้นเองสือซวนก็ได้พูดขึ้นมา “ข้าบอกเจ้าแล้วว่าน้องชายผู้นี้แข็งแกร่งกว่าข้ามาก ตอนนี้เจ้าเชื่อรึยัง ? “

 

เมื่อได้ยินคำพูดของสือซวน จาฮานก็แทบอยากพุ่งเข้าไปอัดอีกฝ่ายหลังจากจบการต่อสู้นี้ชื่อเสียงของเขาคงพังลงในพริบตา มันคงใช้เวลาไม่นานที่คนทั้งโลกจะรู้ว่าจาฮานพ่ายแพ้ให้กับชายลึกลับและโดนรังแกมา

 

“นี่..” สือซวนกระแอมออกมา “อย่ามองข้าเช่นนั้น เจ้าเองก็ต้องการประมือ ข้าไม่ได้บังคับเจ้า”

 

จาฮานมองไปที่สือซวนและพูดขึ้น “การต่อสู้ในวันนี้ข้าพ่ายแพ้อย่างขาดลอย เจ้าไม่พอใจรึไง ?”

 

ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทำไมสือซวนถึงได้มาหาเขาถึงที่ ไม่ใช่ว่าอยากให้เขาอยู่ในสภาพนี้รึไง ?

 

ชัดแล้วว่าสือซวนทำได้สำเร็จ

 

“จาฮาน เจ้าพูดตลกไปแล้ว” สือซวนไม่มีทางยอมรับแน่ “น้องชายข้าอยากเรียนรู้จากยอดฝีมือ เจ้ากับหลินหลางนั้นเป็นอันดับหนึ่งและสองของโลกสวรรค์ร้าง ข้าจึงแนะนำพวกเจ้าสองคนไป มันผิดตรงไหน? แต่ข้าไม่คิดเลยว่าด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าแล้วกลับไม่ใช่คู่มือของน้องจางได้”

 

“งั้นรึ ? แล้วทำไมเจ้าถึงได้ยิ้มกว้างแบบนั้น ?” จาฮานบ่นออกมาไม่หยุด

 

“ข้าทำเช่นนั้นรึ ?” สือซวนพูดขึ้น “ข้าดีใจแทนน้องจางต่างหาก”

 

“งั้นรึ ?” หากไม่ใช่เพราะกลัวจางหยู งั้นจาฮานคงสั่งสอนสือซวนไปแล้ว

 

“เจ้าไม่อยากจะสู้ต่อจริง ๆ รึ ?” จางหยูรู้สึกว่าความแข็งแกร่งของเขาเกือบจะถึงระดับจำกัดแล้ว เมื่อทะลวงผ่านไปได้ เขาก็จะขึ้นไปถึงขั้น 8

 

จาฮานเห็นท่าทีกระตือรือร้นของจางหยูก็เหงื่อตกขึ้นมาทันที

 

“น้องชาย ข้าเกรงว่าข้าไม่อาจจะเล่นกับเจ้าต่อได้ เจ้าควรไปหาคนอื่นไม่ดีกว่ารึ ? “จาฮานกลืนน้ำลายแล้วส่ายหน้า” สือซวนก็บอกไปแล้วไม่ใช่รึ ? อย่างมากข้าก็เป็นแค่อันดับสองของโลกนี้ หลินหลางต่างหากที่เป็นอันดับหนึ่ง ความแข็งแกร่งของเขาเหนือกว่าข้ามากเขาเหมาะที่จะเป็นคู่มือของน้องชายมากกว่า”

 

เพื่อที่จะทำให้จางหยูเปลี่ยนเป้าหมาย จาฮานก็ได้แต่โยนความรับผิดชอบให้กับคนอื่น “ความแข็งแกร่งของข้ากับน้องชายนั้นต่างกันเกินไปการประมือต่อจะมีความหมายอะไรกัน ? แม้ว่าหลินหลางจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับเจ้า แต่ก็ไม่น่าจะด้อยกว่ามาก หากเจ้าเรียนรู้จากเขาแน่นอนว่าต้องได้รับประโยชน์”

 

ทั้ง ๆ ที่พวกเขาเป็นคนระดับเดียวกันแต่ทำไมเขาต้องปล่อยให้หลินหลางไม่เจ็บตัว ?

 

เมื่อพูดจบ จาฮานก็มองไปที่สือซวน ก่อนจะพูดขึ้น “สือซวน เจ้าคิดว่ายังไง ที่ข้าพูดไปมีเหตุผลรึไม่ ?”

 

แต่ทว่าในใจเขาตะโกนออกมา “หากเจ้าไม่เห็นด้วย เจ้าต้องตาย !”

 

เมื่อเห็นสายตาของจาฮาน สือซวนก็หัวเราะในใจ “สุดท้ายเจ้าก็ตกอยู่ในสภาพนี้ !” แต่เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะกับจาฮาน สือซวนก็ยังร่วมมือเป็นอย่างดี “ใช่ หลินหลางน่ะถือว่าเป็นผู้ควบคุมขั้น 7 ที่แข็งแกร่งที่สุด พวกที่ต่ำกว่าขั้น 8 นั้นไม่มีใครเทียบกับเขาได้ หากน้องชายได้สู้กับหลินหลางแล้ว เดาว่าเจ้าอาจจะได้ประโยชน์”

 

จางหยูลองคิดตามโดยไม่พูดอะไรออกมา เขายิ้ม “ข้าไม่รังเกียจที่จะไปหาหลินหลาง แต่เกรงว่าคงต้องรบกวนทั้งสองให้ช่วย ยังไงซะข้ากับหลินหลางก็ไม่ได้รู้จักกัน หากข้าไปหาเขา ข้ากลัวว่าคงเกิดเรื่องเข้าใจผิด แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจผิดแต่ก็ใช่ว่าจะตกลงประมือกับข้า”

 

“แบบนี้นี่เอง” จาฮานพูดขึ้นมาด้วยท่าทียินดี “ข้ากับสือซวนจะพาเจ้าไปหาหลินหลาง ข้าว่าเขาน่าจะไว้หน้าเรา”

 

ความกังวลของจางหยูหายไปทันที “งั้นก็ดี เราไปกันเถอะ”

 

อันที่จริงทั้งจาฮานและสือซวนก็อยากเห็นว่าตอนที่หลินหลางพ่ายแพ้นั้นจะมีสภาพเป็นยังไง เจ้าบ้านั่นจะได้รับบทเรียนแล้ว