ตอนที่ 148 การกระทำที่เหลือเชื่อ

ระบบอัจฉริยะที่ไม่มีใครเสมอเหมือน

ที่ร้านกาแฟ หัวใจของ กู่ กุ้ยหลิน ตกอยู่ในความสับสนจากความประหลาดใจที่เธอรู้สึก เธอรู้ดีกว่าคนอื่นๆ ถึงแม้ว่า จาง ซูซาน จะเป็นคนที่ปรากฏตัวต่อหน้าศาล แต่ตัวแทนที่แท้จริงของ บริษัท หลัวฝาง ก็คือผู้ชายคนนี้ที่อยู่ด้านหน้าเธอ เสี่ยวหลัว!

สิ่งนี้มันเป็นไปได้อย่างไร

เขาสามารถโต้เถียงกับทนาย ฝู เฮ่ย อย่างเท่าเทียมได้อย่างไร?

เธอค้นพบว่าเสี่ยวหลัวนั้นเป็นผู้ชายที่มีความลึกลับมาก มันเหมือนกับว่าตัวของเขาถูกปกคลุมไปด้วยชั้นของหมอกหนาที่ไม่มีใครสามารถมองเข้าไปข้างในได้

ในขณะนี้เสี่ยวหลัวนั้นได้ตั้งสมาธิมุ่งเน้นไปที่การพิจารณาคดีในศาล เขามุ่งความสนใจไปที่หน้าจอโน๊ตบุ๊คที่อยู่ตรงหน้าของเขา ราวกับว่า กู่ กุ้ยหลิน ที่นั่งตรงข้ามกับเขานั้นไม่มีตัวตน

******

“ค-คุณ! คุณ!”

ฝู เฮ่ย ที่ถูกขัดจังหวะโดยคำพูดที่หยาบคาย เขาชี้นิ้วไปที่ จาง ซูซาน ด้วยร่างกายที่สั่นเทาด้วยความโกรธ ตั้งแต่อายุยังน้อยเขาได้รับการศึกษามาเป็นอย่างดีและเขาก็ไม่เคยใช้คำพูดที่หยาบคายเลยแม้แต่น้อย ไม่แม้ว่าเขาจะตำหนิใครก็ตามเขาก็ไม่ใช้คำหยาบคายเลย ตอนนี้เขาไม่สามารถทนต่อคนอย่าง จาง ซูซาน ที่ใช้ภาษาหยาบได้!

“ฉัน – ฉัน – ฉันเป็นอะไร” จาง ซูซาน เลียนแบบการพูดติดอ่างของ ฝู เฮ่ย “ ฉันแค่ต้องการผายลมออกไปเท่านั้นเอง เรื่องนี้มันไม่น่าจะไปขัดขวางอะไรทนายความฝูน่ะ ดังนั้นทนายฝู ดำเนินการต่อไปเถอะ!”

หลี่ จื่อเมิ่ง ที่อยู่ถัดจากเขาหน้าของเธอขึ้นสีแดงและเต็มไปด้วยความอับอาย เธอเป็นผู้หญิง ทุกครั้งที่เธอได้ยิน จาง ซูซาน พูดจาหยาบคาย หัวใจของเธอมันก็เต้นเร็วขึ้นและใบหน้าของเธอก็เริ่มแดงก่ำ

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก ~” เสียงค้อนของประธานผู้พิพากษาดังขึ้นมาอีกครั้ง

ประธานผู้พิพากษากล่าวเตือนว่า “โจทก์ได้โปรดเคารพกฎระเบียบและวินัยของศาล ครั้งต่อไปถ้าคุณพูดอะไรที่ไม่สุภาพต่อหน้าศาลนี้อีกคุณจะถูกส่งตัวออกไป!”

“ท่านประธานผู้พิพากษาฉันกลั้นตดเอาไว้ไม่ได้จริงๆ … พวกเรามาลืมเรื่องนี้กันไปเถอะ กลับไปที่ปัญหาคดีความ ที่ทนายความของฝั่งจำเลยอ้างว่าขนมปังจาก บริษัท หลัวฝาง นั้นทำให้คนเสียชีวิตเนื่องจากขนมปังเป็นพิษ ฉันมีข้อสงสัยอยู่สองสามข้อ”

“ข้อที่หนึ่ง: ทำไม หลิว ฮุ่ยหลง ผู้ที่เป็นผู้เขียนรายงานการชันสูตรศพ ถึงได้ลาออกจากงานของเขาในทันทีและได้หลบหนีออกไปจากเจียงเฉิง ซึ่งตอนนี้เราก็ยังไม่ทราบว่าเขาอยู่ที่ไหน นี่เป็นการหลบหนีโดยเจตนาเพื่อหลีกเลี่ยงการพิจารณาคดีนี้ และปฏิเสธที่จะเผชิญหน้ากับเราหรือไม่?”

“ข้อที่สอง: ชายชราผู้ที่มาที่ร้าน หลัวฝาง ของเราเพื่อซื้อขนมปัง เขาอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่อยู่ก่อนแล้วที่จะมายังร้านของเรา จากการสอบสวนของเรา เราได้พบว่าชายชราได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคหัวใจรูมาติกเรื้อรัง ซึ่งนี่เป็นโรคที่สามารถนำไปสู่การเสียชีวิตอย่างกะทันหันเนื่องจากมีสิ่งกระตุ้น เป็นไปได้หรือไม่ว่าชายชราจะมีอาการหัวใจวาย และนำไปสู่การเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ดังนั้นการเสียชีวิตของเขา จึงไม่เกี่ยวกับ บริษัท หลัวฝาง ของเรา?”

“ข้อสาม: ตามข้อสงสัยในข้อที่สอง ที่ฉันเพิ่งชี้แจงไป ทุกคนไม่รู้สึกสงสัยเลยเหรอว่า มันมีแผนการสมคบคิดอันยิ่งใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ทั้งหมดนี้?”

ความสงสัยที่ จาง ซูซาน ขว้างออกไปนั้นมันเป็นเหมือนกับแรงกดดันของภูเขาลูกใหญ่สามลูก ทุกคนที่เฝ้าดูอยู่เริ่มรู้สึกได้ถึงกลิ่นเหม่งๆในเหตุการณ์นี้

“คัดค้าน ฝ่ายโจทย์พยายามที่จะเบี่ยงเบนและทำให้พวกเราสับสน หัวข้อของการพิจารณาคดีในวันนี้คือการข่มขู่และคุกคาม ของ บริษัท หลัวฝาง ที่มีต่อนักข่าว”

“ทุกคำถามที่ฉันถามล้วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ทำไมคุณถึงรู้สึกตื่นตระหนกหล่ะทนายฝู หรือว่าคุณกำลังรู้สึกผิดใช่หรือเปล่า?” จาง ซูซาน พูดออกมา

“ไร้สาระ! ฉันไม่ได้รู้สึกผิดอะไรทั้งนั้น!”

“ใช่แล้วใช่แล้ว คุณไม่ได้รู้สึกผิด คุณแค่มีไตบกพร่อง”

“คุณพูดเรื่องไร้สาระอะไรออกมา”

ฝู เฮ่ย เต็มไปด้วยความโกรธ จาง ซูซาน นั้นได้โจมตีเข้าไปที่จุดอ่อนทั้งหมดของเขาเข้าอย่างจัง และนั่นมันก็ทำให้เขาไม่สามารถที่จะระงับความโกรธของเขาได้

“ทนายฝู อย่าเพิ่งอารมณ์เสียสิ มิฉะนั้นทุกคนก็จะเชื่อนะว่าคุณมีอาการไตบกพร่องจริงๆ ฉันได้ยินมาว่าภรรยาของคุณนอกใจคุณ เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับไตที่อ่อนแอของคุณหรือเปล่า?” จาง ซูซาน พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่กวนบาทา

อย่างไรก็ตามเรื่องไร้สาระนี้มันก็ได้ไปกระทบต่อหัวใจของ ฝู เฮ่ย โดยตรง เพราะภรรยาของเขามีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นจริงๆและเขาก็จับได้ตอนที่เธออยู่บนเตียงกับคนอื่นอย่างคาหนังคาเขา

ในเวลานี้ ฝู เฮ่ย เขาได้สูญเสียเหตุผลทั้งหมดของเขาและตกลงไปสู่ความบ้าคลั่ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น “ไอหน้าหมูสามชั้น! ฉันจะฆ่าแก! แกมันเป็นไอลูกกะห@ ¥% …” คำสาปแช่งที่แทบรับไม่ได้ถูกพ่นออกมาจากปากของ ฝู เฮ่ย อย่างไม่ลดละ

จี เซินเจิ้น ที่กำลังรับชมการถ่ายทอดสดการพิจารณาคดี เกือบที่จะพ่นน้ำลายออกมาจากปาก เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะได้เห็น ฝู เฮ่ย พ่นคำสาปแช่งด้วยภาษาที่หยาบคายอย่างเปิดเผยในศาลที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ เขาไม่กล้าที่จะจินตนาการว่า ฝู เฮ่ย จะทำเช่นนี้ออกมาจริงๆ!

ความคิดเห็นบนอินเทอร์เน็ตกำลังเดือดพล่านอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

“ทนายความที่ยิ่งใหญ่ฝู ระเบิดอารมณ์ออกมา มันดูตลกมาก ฮ่าๆๆๆ !”

“ใช่แล้วใช่แล้ว ทนายความฝูมีลักษณะคล้ายกระเทยเฒ่าที่กำลังโกรธเคือง ช่างเป็นอะไรที่ดูคลาสสิกจริงๆ”

ในขณะเดียวกันที่ร้านกาแฟ กู่ กุ้ยหลิน ก็จ้องมองไปที่ เสี่ยวหลัว ด้วยความตกตะลึง ถึงแม้ว่าทุกคนจะคิดว่านี้เป็นผลงานชิ้นเอกของ จาง ซูซาน แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นผู้บงการที่แท้จริงนั้นกำลังนั่งอยู่ตรงหน้าเธอ เขาบังคับให้ ฝู เฮ่ย สติหลุดผ่านทางปากของคนอื่น ด้วยวิธีการเช่นนี้มันช่างเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ

ในขณะเดียวกันเมื่อกลับมาที่ศาล ฝู เฮ่ย เขาก็ยังคงพ่นคำสาปแช่งที่ไม่มีที่สิ้นสุดใส่ จาง ซูซาน

“แกมันเป็นไอลูกกะ* หรี่! @ ¥% …”

คำสาปแช่งทุกชนิดกำลังหลั่งไหลออกมาจากของเขาราวกับกระแสน้ำเชี่ยวกราก ซึ่งมันได้ทำให้เกิดเงาดำ ปกคุลมอยู่เหนือความศักดิ์สิทธิ์ของห้องพิจารณาคดี

ประธานผู้พิพากษาและผู้พิพากษาคนอื่นๆ ใบหน้าของพวกเขาเริ่มแปรเปลี่ยนไปมากขึ้นเรื่อยๆ และคิ้วของพวกเขาก็เริ่มขมวดแน่นเข้าด้วยกัน

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก!”

ประธานผู้พิพากษาใช้ค้อนทุบอย่างแรงจากนั้นเขาก็ตะโกนออกมาเสียงดังว่า “ทนายฝูโปรดเงียบ และอยู่ในความสงบ!”

“หุบปากไปซะ ไอแม่เย็…ด!”

ตอนนี้ ฝู เฮ่ย เขาสูญเสียสติของเขาไปอย่างสมบูรณ์ เขาพ่นคำหยาบคายใส่ประธานผู้พิพากษา เมื่อคำพูดนี้หลุดออกไปจากปากของเขา สติของเขาก็เริ่มกลับมาและเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้ทำผิดพลาดไปอย่างร้ายแรง ขณะที่เขามองไปที่ใบหน้าของประธานผู้พิพากษาอย่างเพ่งพินิต เขาก็เห็นใบหน้าที่ดูมืดมนอย่างน่ากลัว

ฝู เฮ่ย รู้สึกราวกับว่าเลือดของเขามันกำลังจะแข็งตัว ท้องฟ้ามันราวกับกำลังจะถล่มลงมา เขาพูดด้วยสีหน้าเศร้าๆว่า “ท่านประธานผู้พิพากษาฉัน … ไม่ใด้ … ฉันไม่ได้หมายความว่า … ”

“เจ้าหน้าที่! ช่วยนำคนที่หยาบคายคนนี้ออกไปจากที่นี่ที เขาดูถูกเหยียดหยามศาลและดูถูกอำนาจของตุลาการ!” ประธานผู้พิพากษายกมือขึ้นและชี้ไปที่ ฝู เฮ่ย พร้อมกับตะโกนออกมาอย่างเยือกเย็น

“ครับท่าน”

เจ้าหน้าที่สองคนเดินเข้ามาล็อคตัว ฝู เฮ่ย อย่างแน่นหนา พวกเขาจับแขนซ้ายและแขนขวาของ ฝู เฮ่ย แล้วลากเขาออกไปจากห้องพิจารณาคดีด้วยท่าทางไร้ความรู้สึก

“ไม่นะท่านประธานผู้พิพากษา! โปรดให้โอกาสฉัน ได้โปรดให้โอกาสฉัน ท่านประธานผู้พิพากษา! … ”

ฝู เฮ่ย เริ่มร้องไห้คร่ำครวญ เขารู้ว่าถ้าเขาถูกลากออกไปเช่นนี้ เขาก็คงจะไม่มีอนาคตอีกต่อไป อาชีพของเขาจะถูกทำลาย และก็จะไม่มีใครที่จะจ้างให้เขาว่าความให้อีก

ประธานผู้พิพากษาไม่ได้แสดงความเมตตาต่อ ฝู เฮ่ย แต่อย่างใด เขาโบกมือให้กับพนักงานทั้งสองคน พนักงานทั้งสองคนไม่ได้ล่าช้าอีกต่อไป พวกเขาลาก ฝู เฮ่ย ออกไปจากห้องพิจารณาคดีเหมือนสุนัขกับที่ตายแล้วอย่างรวดเร็วในทันที

เฉิน เจียนไป่ ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังที่โต๊ะของจำเลย เขารู้สึกหวาดกลัวขณะที่มองไปที่ทางออกของห้องพิจารณาคดีอย่างใจจดใจจ่อ เขาไม่เคยคิดเลยว่าทนายที่ยิ่งใหญ่อย่าง ฝู เฮ่ย จะถูกขับไล่ออกจากห้องพิจารณาคดี!

ในห้องพิจารณาคดีใบหน้าของ ฝาง ฉงเหล่ นั้นเต็มไปด้วยความบูดบึ้ง การพิจารณาคดีสาธารณะ มันกำลังลอยไกลออกไปและไกลออกไปจากผลลัพธ์ที่เขาหวังไว้ เขา ขบฟันของเขาพร้อมกับกำหมัดแน่น

แต่ในทางกลับกัน สวี่ กว่างซ่ง,หลิน เฉาตง และคนอื่นๆต่างก็ยิ้มแย้มแจ่มใส จาง ซูซาน ได้มอบความประหลาดใจอันน่ายินดีให้แก่พวกเขาเป็นอย่างมาก แม้ว่าภาษาของเขาจะหยาบคาย แต่เขาก็สามารถกระตุ้นให้ทนายความที่มีฝีมืออย่าง ฝู เฮ่ย ขาดสติและพาเขาออกไปจากห้องพิจารณาคดีได้ มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ!