“ผู้อาวุโสจิน! ฆ่าไก่ตัวนี้ก่อน!”
“เจ้าเก็บค่าประสบการณ์ได้มากระดับของเจ้าค่อยๆ สูงขึ้น!”
กลุ่มผู้เล่นในเมืองครั้งนั้นยืนอยู่ข้างหลังชายชุดคลุมสีทองและจับตามองเขาที่เพิ่งหัดเล่นเกม
“มีสิ่งแบบนี้อยู่ในโลก!?” ในฐานะผู้บริหารเล็กๆ ในการประมูลของเมืองชั้นในจินวูไม่ได้มีรับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับภายนอกเมืองมากนัก แต่ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยความสับสนและตกใจ ร้านนี้ซ่อนตัวอยู่ภายใต้จมูกของข้า!
หลังจากที่เขามองดูเสื้อผ้าฝ้ายดิบและมองไปยังไอเทมที่ดูยิ่งใหญ่หรูหรายิ่งใหญ่ของคนอื่นแล้วเขาเกิดความเห็นที่แตกต่าง
“สิ่งของพวกนี้ที่ท่านได้รับอยู่ที่ไหน!?” จินวูรู้สึกอิจฉา
ไอเทมดีๆ จะช่วยเพิ่มความสามารถให้ผู้เล่นฆ่าสัตว์ประหลาดได้สะดวกขึ้นแถมยังเป็นการเพิ่มค่าประสบการณ์ที่ไวขึ้นกว่าเดิมนอกจากนี้มันยังช่วยเป็นเกราะป้องกันได้ดีทีเดียว
“ฮ่าๆๆๆ” ปีศาจดำที่มีของวิเศษในมือหัวเพราะ เขาสัมผัสได้ถึงความสำเร็จของเขา “ข้าต้องพายามอย่างมากเพื่อของพวกนี้”
“มาเลย! ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นถึงพลังของเกราะเวทย์มนตร์!”
“…”
ไม่นานจินวูก็เริ่มเข้าใจถึงหน้าที่ของนักบวชเต๋าพวกเจ้าทำหน้าที่เหมือนผู้ช่วยแถมยังสามารถสร้างโล่อันแข็งแกร่งเพื่อช่วยปกป้องนักรบกองหน้าซึ่งคาถาเกราะเวทย์มนตร์นั้นเป็นคาถาที่ทรงพลังมาก
เมื่อถึงตอนนี้ทัศนคติของจินวูก็เปลี่ยนไปโโยสิ้นเชิง “พวกท่าน! ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ปะรมาทสมบัติเหล่านี้ ข้ามั่นใจว่าพวกเขาจะมีราคาที่สูง!”
ท้ายที่สุดไอเทมเหล่านี้สามารถกึงดูดผู้เล่นได้มากกว่าคนในร้านที่อยู่ตอนนี้
แม้ว่าหนังสือทักษะเรียกพระเจ้าแห่งสัตว์ร้ายอาจดูเหมือนว่าไร้ประโยชน์สำหรับผู้ฝึกฝนระดับสูง แต่มันก็สามารถมอบพรสวรรค์ให้กับคนรุ่นใหม่ได้ เนื่องจากหากนักบวชเต๋าเทียบกับเหล่านักรบหรือนักเวทย์แล้วเขาอาจมีพลังไม่เท่า แต่ถ้ามีตัวช่วยก็ไม่แย่
สำหรับเกราะเวทย์มนตร์แม้ว่ามันจะสามารถป้องกันการโจมตีที่ทรงพลังเพียงครั้งเดียว แต่มันถือว่าเป็นเกราะที่ช่วยปกป้องชีวิต ทักษะต่างๆ มีขอดีเป็นของตัวเอง
จินวูรู้สึกตื่นเต้นและรอไม่ไหวกับการประมูลที่จะเกิดขึ้น!
…
“พี่สาวอาวุโสท่านได้ยินบ้างมั้ยว่ามีสาวกสองคนหายไปเมื่อคืนนี้ ซึ่งเรายังไม่พบพวกเขาเลย!” หลิวหนิงหยุนกำลังฝึกฝนอยู่ในสถานฝึกของหนานหัวสิ่งบันเทิงเพียงอย่างเดียวในตอนนี้ที่เธอทำได้คือฟังเรื่องเล่าซุบซิบจากคนในกลุ่มเพื่อฆ่าเวลาอันน่าเบื่อ
“บางทีสองสาวกอาจลงไปเที่ยวเพื่อความสนุก” หลิวหนิงหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์น้องอย่าหวาดระแวงไปเลยในช่วงหลายพันปีนี้ไม่มีโจรคนใดกล้าเข้ามาในที่ของกลุ่มหนานหัวเพื่อยุ่งกับพวกเราหรอก!”
เวลาเดียวกันจู่ๆ หลิวหนิงหยุนก็ได้ยินเสียงจากภายนอก “ข้าบอกท่านอาจารย์แล้วว่าน้องหลิวไม่ใช่คนขี้เกียจดูสิว่าเธอขยันและตั้งใจฝึกฝนอย่างมาก”
“ศิษย์น้องหลิว ..”
สาวกหญิงหลายคนร้องเพื่อนนกบินจิ้บรอบตัวอาจารย์ซีชิ เธอเองรู้สึกเบื่อหน่ายกับคำชมเต็มที “รู้แล้ว! พอที!” แม้ว่าพวกเธอจะทำให้ข้าสับสน แต่ข้าก็รู้สึกยินที่สาวกของข้าได้ละทิ้งความขุ่นเคืองกันในอดีตแต่ก็แอบสงสัยไม่น้อยว่าอะไรกันที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้
ดังนั้นเธอจึงแสดงรอยยิ้มที่หายากออกมาในวันนี้
วันนี้เธอมาที่นี่เพิ่อจุดประสงค์อื่น ขุมทรัพย์ทางวิญญาณอันทรงพลังปรากฎขึ้นในเมืองครึ่งและดูเหมือนว่าสิ่งที่เคยสูญเสียไปโดยหัวหน้าบรรพบุรุษของกลุ่มหนานหัว ตอนนี้พวกเขากำลังวางแผนที่จะเอามันกลับคืนมา
เนื่องด้วยกลุ่มหนานหัวไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างสงครามแต่นี่ถือเป็นทางเลือกเดียวที่จะได้มันคืนมาคือการร่วมประมูลครั้งยิ่งใหญ่ในเมืองครึ่งครั้งนี้!
นอกจากกลุ่มหนานหัวแล้วกลุ่มต่างๆ เช่น เฮารัน, ยีมุรวมไปถึงกลุ่มใหญ่ๆ ในดินแดนใกล้เคยีงก็มายังที่นี่ด้วยจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน
ครอบครัวใหญ่อย่างตระกูลเฟิงก็เช่นกัน ..
เมืองครึ่งนั้นถือเป็นเมืองใหญ่และมีชื่อมาก มันใหญ่มากจนไม่แสดงถึงความแออัดแม้ว่าคนในเมืองแม้คนจะมากแค่ไหน คนในเมืองความแตกต่างหรือวัฒนธรรมนั้นถือเป็นสีสันเล็กๆ ของเมือง
…
การประมูลของเมืองครึ่งถูกขนานนามว่าเป็นแกนหลักของทั้งเมืองมีข่าวลือไปถึงนอกเมืองว่าไม่ว่าจะเป็นอะไรในโลกก็สามารถหาซื้อได้ แม้ว่าที่นี่จะโด่งดังมากแค่ไหน แต่ใครจะไปรู้ว่าการประมูลครั้งนี้คือครั้งแรกที่มีการประมูลสินค้าเสมือนจริง!
“สิ่งเหล่านี้คืออะไร?” ก่อนการประมูลจะเริ่มต้นหญิงคนหนึ่งผิวสีขาวนวลผมน้ำตาลอ่อนดวงตาประกายเขียวรู้สึกสับสนจึงมีคำถาม “เชิญจินวูให้ข้าที!”
…
ตอนนี้รวนหนิงนั้นอยู่ในชุดผ้าไหมสีแดงสุภาพเรียบร้อยชุดทางการและท่าทางของเธอดูสงบกว่าปกติ ฟางฉีมองไปรอบๆ สังเกตการและเก็บข้อมูล “หัวหน้าสมาคม! นี่เป็นครั้งแรกหรือ!?” รวนหนิงถามเย้ย
ซียื่อและคนอื่นๆ ปิดปากแอบหัวเราะ
โมเทียนซิงก้าวไปข้างหน้าพวกเขาและกระแอมเบาๆ “ข้าจะไปหาที่นั่งสำหรับสมาคมเกมแห่งสวรรค์ของเรา!”
ทำไมเจ้าพูดความจริงที่น่าอาย แม้ข้าจะอยู่ในโลกนี้มาหลายปีแล้วแต่ข้าก็เคยยากจนมาก่อน ข้าจะไปหาเงินมากมายจากไหนเพื่อมาทำการประมูล!
ฟางฉีดูสงบนิ่ง “ข้าดูเหมือนคนที่ไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไร ข้ามาจากที่ที่แตกต่างจากพวกเจ้า!”
“หัวหน้าสมาคมฟาง การประมูลของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” ซีเฉินโจวถาม
ผู้เล่นเกือบทุกคนเข้าร่วมการประมูลเป็นกลุ่ม กองกำลังใหญ่ๆ ก็จับกลุ่มเดินด้วยกัน
“การประมูล ..” ฟางฉีฉีกยิ้ม “ข้าจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับการประมูลให้เจ้าฟัง!”
“เจ้ามีเรื่องราวเกี่ยวกับการประมูลหรอ?” รวนหนิงถามด้วยความสงสัย
ฟางฉีเริ่มเล่าเรื่อง “พวกเขาประมูลไข่อมตะที่พบเจอในวังอมตะเป็นซากปรักหักพังโบราณ ไข่นั้นมีชื่อว่าไข่ต้มชา”
(ผู้แปล : ไข่ต้มชาเป็นอาหารคาวของจีนทั่วไป มันคือไข่ต้มโดยใช้ชา)
“วังอมตะโบราณ!” เด็กหญิงอุทานเมื่อได้ยิน”
“ไข่ต้มชา!?” ซีเฉินโจขมวดคิ้ว “มันคือไข่อมตะอะไรกัน?”
ฟางฉีหัวเราะเบาๆ “ข้าเดาว่าเจ้าคงไม่รู้จักไข่ต้มชา ผลของมันน่าอัศจรรย์หากเจ้ากำลังจะตายหลังจากได้รับบาดเจ็บจากศัตรูอย่างรุนแรง การกินไข่ต้มชาเข้าไปหนึ่งถ้วยจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าได้ทันที”
“หู้ว! มันช่วยรักษา?” รวนหนิงอุทาน
“การประมูลเริ่มขึ้น ราคาจองอยู่ที่หมื่นคริสตัล!” ฟางฉีเล่าเหมือนว่าเขาเคยอยู่ในเหตุการณ์
เสียงตะโกนจากชั้นสอง “ข้าขอเสนอขนมแท่งรสเผ็ด!”
“อืม .. ทำไมพวกท่านถึงคิดว่าแท่งรสเผ็ดอร่อย?” ฟางฉีกล่าวขณะเดียวกันหลายคนมองไปทางเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาเขาเป็นชายคนหนึ่งที่อยู่ในวัยยี่สิบต้นๆ พวกเขาตกใจมากกว่าเดิมเมื่อเห็นสัญลักษณ์บนเสื้อคลุมของชายคนดังกล่าวมันเป็นตราของสำนักหลันเซียงที่ลึกลับและทรงพลังแถมเขายังมาจากบ้านที่น่ากลัวที่สุด ..
“พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าสำนักหลันเซียงอยู่ที่ใด”
พวกเขาทั้งหมดส่ายหัว
“ได้ยินมาว่าไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าที่นั้นทรงพลังขนาดไหน”
“หืม?” ฟางฉีได้ยินแล้วรู้สึกว่ามีบางอย่างดูแปลก คืออะไร? มีพลังขนาดไหนกัน?