บทที่ 197 การพบกันครั้งแรก

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา

เมื่อเสียงระฆังเลิกชั้นเรียนดังขึ้น ลูเซียนก็เก็บแบบทดสอบทั้งหมดด้วยตัวเองและออกจากห้องเรียนไป หลังจากนั้นเหล่าลูกศิษย์เริ่มการสนทนาที่ร้อนแรง “พวกเจ้ารู้จักท่านเอ็กซ์หรือ” แกรนท์ถามหัวหน้าห้อง แกรนท์มีผมสีดำหยักศกและดวงตาสีดำล้ำลึก

คำถามของแกรนท์ทำให้ลูกศิษย์คนอื่นสนใจมากขึ้น พวกเขาต้องการให้แอนนิค ไฮดี้ และเลย์เรีย บอกข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาจารย์คนใหม่ของพวกเขา

แอนนิคพยักหน้าเพราะเขาเคารพแกรนท์ที่ขยันและมีความสามารถที่แท้จริง “ใช่แล้ว พวกเรารู้จักท่านอีวานส์มาก่อน”

“เยี่ยมมาก! เขาดูดีสุดๆ!” แกรนท์ประทับใจกับคำพูดของลูเซียนมาก “ข้าไม่เคยพบเจอกับอาจารย์แบบนี้มาก่อนเลย! ท่านเอ็กซ์ ไม่เหมือนกับพวกอาจารย์หัวแข็งคนอื่นๆ บางครั้งข้าก็เข้าใจในสิ่งที่พวกเขากำลังสอนอยู่ แต่ข้าก็ไม่ได้ทำในสิ่งที่ข้าอยากทำ… เสียเวลาชะมัด!”

ใบหน้าของไฮดี้กระตุกไปเล็กน้อยจากนั้นเขาก็พูดอย่างจริงจังว่า “เป็นเรื่องจริงที่ท่านอีวานส์ไม่สนใจว่าเราจะให้ความสนใจกับการเรียนหรือเปล่า แต่เราต้องรับผิดชอบกับผลที่ตามมาถ้าเราไม่ตั้งใจเรียน แต่นี่เป็นเพียงแง่มุมหนึ่งในการสอนของเขาแต่เขาก็ยังมีด้านอื่นๆ อีก… ”

คำพูดของลูเซียนนั้นตรงไปตรงมา และพวกเขายังได้รับการสนับสนุนจากนักเวทฝึกหัดส่วนใหญ่อีกด้วย เหล่าลูกศิษย์รู้สึกว่าท่านเอ็กซ์เป็นคนที่เข้าใจพวกเขาจริงๆ และเขาก็ยังเป็นอาจารย์ที่ยอดเยี่ยมที่อาจจะเป็นเพื่อนที่ดีของพวกเขาก็ได้

“ด้านอื่นๆ คืออะไร” แกรนท์ถามด้วยความอยากรู้

“แล้วเจ้าจะได้เห็น” นักเวทฝึกหัดทั้งสามคนตอบพร้อมกัน พวกเขาจำสิ่งที่ท่านอีวานส์ทำกับพวกเขาได้ดี

“หวังว่าพวกเจ้าจะไม่เกลียดท่านอีวานส์นะ” ไฮดี้กล่าวอย่างมีความหมาย

ลูกศิษย์ที่เหลือรู้สึกสับสนมากแต่ก็อยากรู้อยากเห็นมากเช่นกัน จากนั้นเสียงระฆังของคาบเรียนปรุงยาพื้นฐานก็หยุดการสนทนาของพวกเขา

ห้องสำนักงานอาจารย์

ลูเซียนถือกระดาษทดสอบเข้ามาในห้องสำนักงาน อาจารย์ห้าคนในห้องผู้ชายสามคนและผู้หญิงสองคนยิ้มและพยักหน้าให้เขา ในขณะที่อีกเจ็ดคนยังคงเย็นชาและยุ่งแต่กับงานของตัวเอง

ลูเซียนพยักหน้าให้กับอาจารย์ที่ทำดีกับเขาด้วยรู้ว่าอาจารย์ทั้งห้าคนนี้เป็นเพื่อนของร็อค และทุกคนก็รู้เรื่องทุกอย่างดีอยู่แล้ว แต่สำหรับอาจารย์อีกเจ็ดคนพวกเขาเข้ากันได้ไม่ดีกับร็อค ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่สนใจลูเซียนที่เป็นนักเวทที่มีคะแนนอาร์คานาเพียงเจ็ดคะแนนและไม่มีระดับอาร์คานา

“การสอนภาษาโบราณและสิ่งมีชีวิตเวทมนตร์ไม่น่าจะท้าทายเจ้าซักเท่าไรนะ ลูเซียน”  วิลเนีย นักเวทหญิงผมบลอนด์เดินมาที่โต๊ะของลูเซียน นางจึงเตือนเขาด้วยความใจดีว่า “เจ้าน่าจะใช้เวลาในการเรียนอาร์คานาขั้นพื้นฐานให้มากขึ้น”

วิลเนียเป็นหญิงสาวอายุประมาณยี่สิบห้าหรือยี่สิบหกปี นางเป็นจอมเวทระดับหนึ่งและนักเวทระดับสองซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องภาพมายาและแรง นางเป็นผู้หญิงที่มีทั้งความเป็นผู้ใหญ่และความงามสมวัยอีกทั้งนางยังแต่งงานแล้วและสามีของนางก็ยังเป็นไวเคานต์อีกด้วย ทุกเช้านางจะนั่งรถไฟเวทมนตร์มาทำงานจากนครเรนทาโต มายังเมืองหลวงของโฮล์ม

เนื่องจากนครเรนทาโต และอัลลินอยู่ใกล้กันมากจึงใช้เวลาการเดินทางเพียงสิบนาทีเท่านั้น และในฐานะนักเวทและสุภาพสตรีผู้สูงศักดิ์ วิลเนียต้องจ่ายยตั๋วดินทางไปกลับราคาเพียงสองนาร์

“ขอบคุณสำหรับคำเตือนของท่าน ข้าจะจำไว้” ลูเซียนยิ้มอย่างสุภาพ

“หนุ่มน้อยที่แสนสุภาพและหล่อเหลา” วิลเนียพูดติดตลก “เมื่อเจ้ามาที่นครเรนทาโต  โปรดอย่าลังเลที่จะมาเป็นแขกที่บ้านของเรา”

ในบรรดาอาจารย์หญิงในสำนักนี้ซึ่งคิดเป็นหนึ่งในสามของอาจารย์ทั้งหมดบางคนก็งดงาม บางคนก็มีเสน่ห์ และบางคนดูน่ากลัวเพราะการทดลองที่ล้มเหลวหรือการกัดกร่อนของเวทมนตร์

เมื่อวิลเนียออกจากสำนักงาน ลูเซียนก็เริ่มตรวจแบบทดสอบภาษาโบราณของห้องธอร์นทรี จากนั้นเขาก็หยิบกระดาษและขนนกออกมาและเริ่มทบทวน ‘เวทกระจก’ ระดับสองที่ได้รับการวิเคราะห์

ลูเซียนสนใจเวทมนตร์นี้ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกใช้โดยนักเวทเมอร์ด็อก ซึ่งจะช่วยให้ศัตรูรู้สึกสับสน เนื่องจากความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ลวงตาขั้นพื้นฐานนี้สามารถพบได้ในโหราศาสตร์และธาตุ ลูเซียนจึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยน ‘เวทกระจก’ ให้กลายเป็นเวทมนตร์ระดับที่สองของเขา

หอคอยปฏิบัติการเวทมนตร์ดักลาส

เมื่อจบคาบเรียนแรกวิชา ‘สิ่งมีชีวิตเวทมนตร์เบื้องต้น’ อีกคาบวิชา ‘วิหกโลหิต’ ลูเซียนก็รีบมาที่นี่

“สวัสดี ข้าขอห้องทดลองการเล่นแร่แปรธาตุได้ไหม” ลูเซียนขอร้องนักเวทอาวุโสอย่างสุภาพ

นักเวทอาวุโสคนนี้คือ อินส์ เขาเป็นจอมเวทระดับหนึ่งและนักเวทระดับสอง หันมาตอบอย่างจริงจัง “ขออภัยท่านอีวานส์ วันนี้ห้องทดลองเวทมนตร์ถูกยืมหมดแล้ว พรุ่งนี้มาให้เร็วกว่านี้นะ”

“ห้องทดลองเวทมนตร์ทั้งหมดเลยหรือ” ลูเซียนแทบไม่เชื่อหูตัวเองเขามองขึ้นไปที่หอคอยเวทมนตร์ห้าชั้น แม้ว่ามันจะไม่กว้างขวางมากนัก แต่ก็มีห้องทดลองเวทมนตร์อย่างน้อยสิบห้องในแต่ละชั้น

อินส์ ตอบอย่างใจเย็น “ท่านอีวานส์ เราต้องสงวนห้องทดลองยี่สิบห้องสำหรับลูกศิษย์ของเรา และจอมเวทระดับสองระดับ ส่วนห้องที่เหลือใครมาก่อนก็ได้ก่อน”

“มีอาจารย์หลายคนที่ต้องทำการทดลองหรือ?” ลูเซียนถามด้วยความรู้สึกหงุดหงิดและตกใจเล็กน้อย

“ไม่ใช่ทุกคน” อินส์ กล่าว “ บางคนกำลังปรุงยา บางคนกำลังทดสอบพิธีอัญเชิญ ทุกคนรู้ดีว่าหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่ได้ทำงานในสำนักนี้คือสามารถใช้ห้องทดลองโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย”

“ข้าเข้าใจแล้วท่าน อินส์” ลูเซียนไม่ยอมแพ้ง่ายๆ “ข้าจะใช้ห้องทดลองที่จองไว้ก่อนได้ไหม? ข้าจะออกจากห้องเมื่อคนจองมา”

การสร้างห้องทดลองที่มีอุปกรณ์ครบครันนั้นแพงมาก และลูเซียนไม่สามารถทำได้ในตอนนี้

“ไม่” อินส์ ส่ายหัว “เรามีกฎเว้นแต่ท่านจะเป็นจอมเวทระดับที่ 2 ที่ได้รับสิทธิพิเศษ”

เมื่อลูเซียนกำลังเริ่มรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น เสียงทุ่มต่ำก็ดังมาจากด้านหลัง “เจ้าคือ ลูเซียน อีวานส์หรือเปล่า”

ลูเซียนหันกลับมาก็เห็นชายร่างสูงหน้าตาธรรมดาคนหนึ่งที่สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำที่ให้ความรู้สึกเหมือนหมีที่แข็งแกร่ง

“ใช่ ข้าคือ ลูเซียน อีวานส์… เอ่อ… ท่านเป็นใคร” ลูเซียนพยักหน้า

“ข้าก็ว่างั้น” ชายร่างสูงยิ้ม “เจ้าดูเหมือนจะไม่รู้จักข้า ยินดีที่ได้รู้จัก ข้าคือเค”

“เรามีชื่อเหมือนกันหรือ” ลูเซียนมองเคอย่างสงสัย

“ร็อคแนะนำเจ้าให้ข้ารู้จักเมื่อตอนบ่าย แต่ข้าไม่ได้อยู่ในสำนักงาน” เคพูดอย่างอายๆ “เจ้ากำลังมองหาห้องทดลองอยู่หรือ”

“ใช่… แต่ข้าคิดว่าข้ามาช้าเกินไป” ลูเซียนพยักหน้าอย่างหงุดหงิด

“ถ้าอย่างนั้นมาแบ่งกับข้าไหม?” เคแนะนำด้วยความจริงใจ “วันนี้เจ้าจะทำอะไร

“นั่นมันเยี่ยมมาก!” ลูเซียนพูดอย่างตื่นเต้นแล้วเขาก็ถามอย่างสุภาพว่า “วันนี้ข้าจะทำยาเวทมนตร์ ข้าจะรบกวนท่านหรือเปล่า”

“ไม่ใช่ปัญหา ในห้องทดลองมีสารเคมีมากมาย เราแบ่งปันกันได้” เคใจดีมาก

“ขอบคุณท่าน เหมือนที่ร็อคบอกเลยท่านเป็นคนดีจริงๆ” ลูเซียนกล่าวด้วยความจริงใจ

“ข้าได้รับความช่วยเหลือมามากมายจากคนอื่นเหมือนกัน ไปกันเถอะ” เคค่อนข้างเขินอายซึ่งมันไม่เข้ากับรูปร่างสูงใหญ่ของเขา

เมื่อได้รับอนุญาตจากเคแล้ว อินส์ ก็ให้ทั้งสองคนเดินขึ้นบันไดไปโดยไม่พูดอะไรอีก

…………………………………..