ตอนที่ 150 ตัวละครที่อันตราย

ระบบอัจฉริยะที่ไม่มีใครเสมอเหมือน

จาง ซูซาน เรียก ฝาง ฉงเหล่ ราวกับว่าเขาเป็นโจรที่กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในฝูงชน ดวงตาทุกคู่หันมามองที่ ฝาง ฉงเหล่ อย่างไรก็ตามโจรคนนี้ค่อนข้างที่จะมีจิตใจที่มั่นคง เขาไม่ได้ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย แต่เขากลับรู้สึกรำคาญอย่างไม่น่าเชื่อ และดวงตาของเขาก็เปล่งประกายความอันตรายออกมา ขณะที่เขามองไปที่ จาง ซูซาน

“ท่านประธานผู้พิพากษา โปรดให้ฉันเชิญพยานอีกคน และพยานของฉันคนนี้ มันก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ได้ว่าทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับ ฝาง ฉงเหล่” จาง ซูซาน กล่าวออกมา

ประธานผู้พิพากษาพยักหน้า “ได้!”

“ปัง~”

ประตูของห้องพิจารณาคดีถูกผลักเปิดออกอย่างแรง จาง ตงไห่ ที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าธรรมดาๆเดินเข้ามาหลังจากที่ เกา ชิงเฟิง ได้เดินไปนั่งยังที่นั่งพยาน

ในขณะที่ ฝาง ฉงเหล่ เห็น จาง ตงไห่ เมฆหมอกแห่งความขมุกขมัวก็บินผ่านดวงตาของเขา และเปลือกตาของเขาก็กระตุกอยู่สองสามครั้ง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ลูกน้องที่เขาฝึกมาอย่างดีและไว้วางใจคนนี้จะทรยศหักหลังเขา

“พยานชื่ออะไร?” ประธานผู้พิพากษา ถาม

“ท่านผู้พิพากษา ชื่อของฉันคือ จาง ตงไห่ และฉันก็มาจาก ชีอัน” จาง ตงไห่ ตอบอย่าสัตย์จริง

จาง ซูซาน หลังจากที่ได้รับการถ่ายทอดคำพูดของเสี่ยวหลัว เขาก็ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า: “จาง ตงไห่ บอกสิ่งที่คุณรู้”

“ได้”

จาง ตงไห่ พยักหน้าอย่างเชื่องช้าจากนั้นเขาก็หันไปมอง ฝาง ฉงเหล่ ที่กำลังนั่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้ชมอย่างประหม่า และพูดออกมาอย่างช้าๆว่า“เบื้องหน้าฉันเป็นหัวหน้าของโรงงาน หลัวฝาง แต่เบื้องหลัง ฉันทำงานให้กับ ฝาง ฉงเหล่ แห่ง Taste Buds เพื่อที่จะกำจัด บริษัท หลัวฝาง ฝาง ฉงเหล่ ได้เคยบอกกับฉันว่า เขาได้ดำเนินการอย่างลับๆเพื่อเผยแพร่ข่าวของเหตุการณ์ขนมปังร้ายที่คร่าชีวิตคน ซึ่งเกิดขึ้นใน บริษัท หลัวฝาง โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำลายชื่อเสียงของ หลัวฝาง”

“นอกจากนั้น เขายังได้ใช้เงินติดสินบนคนงานจากโรงงานของ หลัวฝาง เพื่อหยุดงานประท้วงในขณะที่ให้ฉันคอยเติมเชื้อเพลิงลงไปในกองเพลิงจากที่ข้างสนาม ขณะที่โรงงาน หลัวฝาง กำลังเร่งดำเนินการตามคำสั่งซื้อสำหรับเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ เขาได้สั่งให้ฉันทำให้โรงงานหยุดกระบวนการผลิต!”

ทันทีที่เขาพูดจบ มันก็มีความปั่นป่วนเกิดขึ้นท่ามกลางกลุ่มของผู้ชม และความคิดเห็นของชาวเน็ตก็ท่วมทะลักอินเทอร์เน็ตเหมือนกับหน่อไม้ที่โผล่ออกมาหลังจากฝนตก

“คุณพระช่วย! นี่คือตัวการใหญ่ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง! งั้นเหรอ?”

“ฝาง ฉงเหล่ แห่ง Taste Buds เป็นตัวการที่อยู่เบื้องหลังของทุกสิ่ง! ช่างเป็นผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจมาก”

“นี่มันเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมากจริงๆ ที่การพิจารณาคดีในครั้งนี้ มันน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเนื้อเรื่องของละครทีวีบางเรื่องซะอีก!”

……

[ในศาล]

“ผายลมเถอะ! ท่านประธานผู้พิพากษา! เขากำลังใส่ร้ายฉัน เขากำลังใส่ร้ายฉัน !!!”

ฝาง ฉงเหล่ แทบที่จะไม่สามารถสงบนิ่งได้อีกต่อไป กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขามันบิดเบี้ยวไปอย่างรุนแรง ใบหน้าของเขาดูพิลึกและน่ากลัวเมื่อเขาคำรามขณะที่ชี้ไปที่ จาง ตงไห่

ก๊อก ก๊อก ก๊อก! ประธานผู้พิพากษากระแทกค้อนและพูดออกมาว่า “เงียบ! โปรดเงียบเสียงลงก่อน!”

เมื่อห้องพิจารณาคดีทั้งหมดกลับสู่ความเงียบอีกครั้ง ประธานผู้พิพากษาก็มองไปที่ จาง ตงไห่ และพูดออกมาว่า“พยานคุณสามารถรับประกันได้หรือไม่ว่า ทุกสิ่งที่คุณพูดนั้นเป็นความจริง?”

จาง ตงไห่ พยักหน้าอย่างหนักแน่น“ท่านประธานผู้พิพากษา ฉันสาบานได้เลยว่า ทุกสิ่งที่ฉันพูดนั้นเป็นความจริง! เพื่อความปลอดภัย ฉันได้แอบบันทึกการสนทนาของฉันกับ ฝาง ฉงเหล่ เอาไว้”

หลังจากพูดจบ จาง ตงไห่ ก็ส่งมอบไดรฟ์ USB ออกไป

พนักงานรับไดรฟ์ USB มาและส่งไปยังผู้ช่วยฝ่ายตุลาการ ซึ่งจากนั้นเขาก็มอบมันให้กับประธานผู้พิพากษาและผู้พิพากษาที่เหลือ หลังจากตรวจสอบว่าไม่มีอะไรน่าสงสัยเกี่ยวกับไดรฟ์ ผู้พิพากษาจึงสั่งให้พนักงานในห้องพิจารณาคดีเล่นการบันทึกเสียง เมื่อการสนทนาของ จาง ตงไห่ และ ฝาง ฉงเหล่ ดังขึ้นในห้องพิจารณาคดีขนาดใหญ่ทุกคนต่างก็พากันประหลาดใจ

ในขณะเดียวกัน ฝาง ฉงเหล่ ก็ทำได้เพียงขบฟันของเขาแน่น และวางมือที่สั่นเทาของเขาลงไปที่ต้นขา

หลังจากที่ทุกคนได้ฟังบันทึกเสร็จแล้ว จาง ซูซาน ก็เรียกพยานปากสำคัญอีกคนหนึ่งออกมา นั่นก็คือ หวัง ไท่ฮุ่ย ที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาล

หวัง ไท่ฮุ่ย นั้นยอมรับว่ามีคนแปลกหน้าให้เงินกับเขามา 20,000 หยวน และขอให้เขายุยงคนของของ หลัวฝาง ให้นัดหยุดงานประท้วง ซึ่งสิ่งนี้มันสอดคล้องกับคำสารภาพของ จาง ตงไห่ อย่างสมบูรณ์

ในเวลาเดียวกัน เฉิน เจียนไป่ ที่กลัวตายและกลัวติดคุก เขาก็ได้ยอมรับสารภาพว่าเขาได้เขียนบทความโจมตี หลัวฝาง จริงๆ เพราะ Taste Buds ได้เสนอผลประโยชน์บางอย่างให้กับเขา และนอกจากนี้เขายังอธิบายอีกด้วยว่า หลิว ฮุ่ยหลง ผู้เขียนรายงานการชันสูตรศพถูก Taste Buds ติดสินบนและได้หนีออกจากประเทศไปแล้ว

หลักฐานที่เป็นรูปธรรมนี้ไม่มีที่ว่างสำหรับข้อโต้แย้งใดๆเลยแม้แต่น้อย!

ประธานผู้พิพากษา มองไปยังผู้พิพากษาและสมาชิกคนอื่นๆ ทุกคนในปัจจุบันต่างก็ตระหนักได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาได้เห็นและได้ยินในศาลนั้น เกิดมาจากการวางแผนโดย ฝาง ฉงเหล่ ประธานของ Taste Buds เป้าหมายของเขานั้นมันชัดเจนมาก นั่นก็คือเพื่อที่จะขจัดขวากหนามทางธุรกิจ!

ใบหน้าของ ฝาง ฉงเหล่ นั้นแปรเปลี่ยนเป็นสีเทา และมันก็มีเหงื่อเย็นปรากฏอยู่บนหน้าผากและร่างกายของเขา ในขณะนี้สายตาของทุกคนในห้องพิจารณาคดีหันมามองเขาเป็นทางเดียวกันเขาทำได้แต่เพียงนั่งนิ่งเงียบ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการที่จะเคลื่อนไหว แต่ขาของเขามันไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป ราวกับว่าพลังงานทั้งหมดที่อยู่บนร่างกายของเรามันระเหยหายไปจนหมด

เขาแพ้แล้ว!

พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์!

การพิจารณาคดีในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการพิจารณาคดีของ หลัวฝาง แต่มันเป็นการพิจารณาคดีของเขาและ taste buds ของเขาต่างหาก! อย่างไรก็ตามสิ่งนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?

เขาประมาทและก็ประเมิน เสี่ยวหลัว จาก หลัวฝาง ต่ำเกินไปงั้นเหรอ? เขาถึงได้ทิ้งหลักฐานเอาไว้มากมายเช่นนี้?

ในที่นั่งของโจทก์ หลี่ จื่อเมิ่ง จ้องมองไปที่ จาง ซูซาน อย่างงุนงง เธอเพิ่งจะตระหนักได้ว่าวันนี้ จาง ซูซาน นั้นมีเสน่ห์มาก นอกจากคำสาปแช่งและการสบถก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อเขาพูด เธอมักจะรู้สึกได้ถึงร่องรอยของเสี่ยวหลัวที่อยู่ในตัวเขา ในขณะที่ จาง ซูซาน พูดอย่างฉะฉานต่อหน้าศาล เธอได้เข้าใจผิดว่าเขาเป็นเสี่ยวหลัว อยู่หลายครั้ง

… …

“เห้อ.”

กลับไปที่ร้านกาแฟ เสี่ยวหลัว สูดหายใจเข้าลึก หลังจากที่เขาปิดเว็บไซต์ที่มีการถ่ายทอดสดการพิจารณาสาธารณะแล้วถอดหูฟังออก สำหรับเขาแล้วมันเป็นการต่อสู้ที่ค่อนข้างยาก แต่ผลลัพธ์ของชัยชนะที่สมบูรณ์ มันก็ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจอย่างไม่น่าเชื่อ

เสี่ยวหลัวยกถ้วยกาแฟที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดื่ม แต่เขาก็รู้สึกได้ว่ากาแฟเริ่มมันเริ่มเย็นแล้ว ดังนั้นเขาจึงดีดนิ้วและขอให้พนักงานเสิร์ฟนำถ้วยใหม่มาให้กับเขา

จากนั้นเขาก็หันไปสังเกตเห็น กู่ กุ้ยหลิน ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขา ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ออกไปจากที่นี่ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอเอาแต่จ้องมองเขาอย่างตั้งใจด้วยท่าทางแปลกๆ

“คุณเป็นใครกันแน่?”

กู่ กุ้ยหลิน จ้องมองไปที่เสี่ยวหลัว ราวกับว่าเขาเป็นนักโทษ เธอมองสำรวจเสี่ยวหลัวตั้งแต่หัวจรดเท้า เสี่ยวหลัวนั้นได้ทำให้เธอประหลาดใจเกือบทุกครั้งที่พบกัน เขาเก่งในการต่อสู้มาก แม้แต่ ทหารรับจ้างแมงป่องแดงก็ตายด้วยมือของเขา และตอนนี้เขาก็ดันมาชนะคดีความ จากการควบคุมจากระยะทางไกลอีก ด้วยเรื่องนี้มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกสงสัยเขาเข้าไปใหญ่

ชายลึกลับผู้นี้ทำให้เธอรู้สึกสั่นเทาจากก้นบึ้งของหัวใจ เธอคิดว่า: เขาเป็นมนุษย์แน่เหรอ? แน่นอนว่าเขาคงจะไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวปลอมตัวลงมาหรอกนะ

“ฉันชื่อเสี่ยวหลัว มาจากจังหวัดทางตะวันตก ข้อมูลของฉันเจ้าหน้าที่กู่ น่าจะทราบดีอยู่แล้วหนิ” เสี่ยวหลัวพูดออกมาอย่างใจเย็น

“นี่คือตัวตนที่แท้จริงของคุณจริงๆงั้นเหรอ?” กู่ กุ้ยหลิน ยังคงตั้งคำถามอย่างไม่ลดละ “ความสามารถของคุณนั้นมันเกินความเข้าใจของฉันไปมาก สำหรับฉันคุณมันก็เป็นเหมือนกับตัวละครที่อันตราย หากคุณเป็นอาชญากรจริงๆ ตำรวจของ เจียงเฉิง นั้นคงไม่อาจที่จะรับมือกับคุณได้ คุณเป็นเหมือนกับระเบิดเวลาที่ซุกซ่อนอยู่ในฝูงชน ที่พร้อมจะระเบิดออกได้ทุกเวลาและทำให้เกิดหายนะร้ายแรง”

“คุณคิดมากไปแล้ว เจ้าหน้าที่กู่!” เสี่ยวหลัว หัวเราะออกมา

กู่ กุ้ยหลิน ตอบกลับอย่างเย็นชา“ฉันก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”

เสี่ยวหลัวไม่ตอบเธอ เขาจิบกาแฟร้อนๆที่พนักงานนำเสิร์ฟ และเปิดดูรายการ “ทฤษฎีบิ๊กแบง” บนโน๊ตบุ๊ค

“เมื่อได้คุณมาเข้าร่วมกับตำรวจ ด้วยความสามารถของคุณ ฉันคิดว่าคุณจะกลายเป็นฝันร้ายของอาชญากร” กู่ กุ้ยหลิน กล่าวขึ้นมา

เสี่ยวหลัวนั้นเป็นราวกับสัตว์ร้ายในสายตาของเธอ ซึ่งเขาอาจจะเป็นอันตรายต่อสังคมได้ทุกเวลา ดังนั้นเธอจึงหวังว่าเธอจะใช้ประโยชน์จากการเป็นตำรวจเพื่อเก็บซ่อนกรงเล็บของสัตว์ร้ายตัวนี้ และใช้มันเพื่อต่อกรกับพวกอาชญากรได้