เขาจั้นหวงซานต้นฤดูใบไม้ร่วงทิวทัศน์ยิ่งงดงาม
แต่เจ้าฟันจอบไม่ชื่นชมอะไรกับทิวทัศน์ เขาเพียงมองหินภูเขาซ้อนเป็นชั้น ชะง่อนหินหน้าผาสูงชัน รวมถึงป่าบนเขาที่ไม่รู้ลึกเท่าไร
“เขาจั้นหวงซานแห่งนี้…” เขาพูดสำเนียงท้องถิ่นจัด ตบท้องเอ่ยขึ้น “สามราชาห้าจักรพรรดิแต่งตั้ง นั่นย่อมเป็นสถานที่มงคลของเทพเซียน”
หลังร่างบรรดาบุรุษสวมเสื้อผ้าหยาบเจ็ดแปดคน ที่เอวเหน็บขวานดาบใหญ่ได้ยินวาจาพยักหน้าทันที
“สถานที่นี่ของพวกเราดีนัก หลายปีนี้พวกเราใช้ชีวิตสงบยิ่ง ตอนนั้นชาวจินกวาดดินแดนก็เข้ามาไม่ได้” พวกเขาเอ่ยเสียงดัง
เจ้าฟันจอบพยักหน้าพึงพอใจ
“ชีวิตสงบสุขเกินไป กิจการของพวกเราก็ดีไปด้วย” เขาเอ่ย มองไปทางตีนเขา “แต่ อันตรายก็ไม่ใช่ไม่มี คนเท่าไรจับจ้องมาดร้ายพวกเราอยู่”
“คนเท่าไร ก็จะให้พวกเขามาไม่ได้กลับ” ผู้คนตะโกนพร้อมโบกสะบัดขวานในมือ
นี่ก็คือความจริง ทุกคนมั่นใจยิ่งนัก คนเท่าไรมาแย่งอาณาเขตล้วนถูกฝังไว้ใต้ชะง่อนหินหน้าผาชันแห่งนี้
“ใช่แล้วใช่แล้ว ขอแค่ไม่ใช่ทหารหย่งหนิงมาก็พอ” มีคนพลันโพล่งออกมาหนึ่งประโยค
คำพูดนี้ทำให้ผู้คนที่ครึกครื้นอยู่พลันชะงักนิ่ง
ทหารหย่งหนิง นี่เป็นกองทหารที่ประจำการอยู่ในการปกครองของเมืองเจินติ้ง สังกัดใต้ธงของเฉิงกั๋วกง ครั้งก่อนแม้เมืองเจินติ้งถูกลอบจู่โจม พวกเขาถูกลงโทษแล้ว แต่ก็เป็นพวกเขาขับไล่โจรจินออกจากเขตแดน สังหารโจมตีหลายสิบคน
“ตอนนี้ชีวิตไม่ค่อยสงบสุขเช่นนี้ ทหารหย่งหนิงไหนเลยจะมีเวลาว่างปานนั้น” เจ้าฟันจอบเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์
นี่ก็เป็นความจริง ทหารแดนเหนือไม่ว่างปานนั้นเหมือนเช่นทหารฝั่งใต้ ช่วยทางการกวาดรังโจรจับโจรอะไรๆ พวกเขาแต่ละคนๆ ล้วนยุ่งอยู่กับการต่อต้านโจรจิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้กองทหารใหญ่ของชาวจินเริ่มเคลื่อนพลลงใต้แล้ว มองเห็นศึกใหญ่กำลังจะปะทุ
ผู้คนรีบพยักหน้า เรียกเสียงคุยเล่นหัวเราะกลับมาอีกครั้ง
เจ้าฟันจอบกลับยังรู้สึกหงุดหงิดอยู่พักหนึ่ง อยู่ดีๆ พูดถึงทหารหย่งหนิงขึ้นมาทำไม โชคร้ายจริงๆ
หากโชคร้ายก็ต้องหาเรื่องขจัดโชคร้ายสักหน่อย
“พักนี้ไม่ได้ตุนเสบียงเลย” เขาโบกมือทีหนึ่ง “วันพรุ่งนี้ลงเขาเก็บเสบียง”
การลงเขาเก็บเสบียงที่ว่านี้ย่อมคือการปล้นชิงหมู่บ้านใกล้เคียง เงินอาหารผู้หญิงเอาหมดไม่เว้น
นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนชอบที่สุด ผู้ตามทั้งหลายสะบัดโบกดาบขวานร้องโอ้โอ้ทันที
……………………………………….
เสียงขวับขวับดังขึ้น ทหารสองนายสะบัดโบกกิ่งไม้วาดเส้นจุดบนพื้น
“เขาจั้นหวงซานป้องกันง่ายโจมตียาก” พวกเขาเอ่ย “เจ้าฟันจอบกองโจรกลุ่มนี้มีราวเจ็ดแปดสิบคน ยึดครองมานานปี เจ้าเล่ห์แสนกล ค่ายของพวกเขาก็อยู่บนยอดเขาด้านนี้
กิ่งไม้ชี้ที่หนึ่ง
“ที่นี่มีด่าน ที่นี่ก็มีด่าน ด่านที่สำคัญที่สุดอยู่ตรงนี้”
แม่ทัพรวมถึงผู้ช่วยทั้งหลายที่ล้อมอยู่รอบด้านมองอย่างตั้งใจ เหลยจงเหลียนกับจินสือปาก็อยู่ในนั้นด้วย แต่เทียบกับความจริงจังของแม่ทัพทั้งหลาย พวกเขาสีหน้านิ่งสงบยิ่งนัก สายตามองอีกฝ่ายเสียมากกว่า
ในเมื่อจินสือปาไม่ไป คุณหนูจวินย่อมต้องยังอยู่ใกล้ๆ นี่แน่ คนของเต๋อเซิ่งชางจับตาถนนสายต่างๆ ไว้แล้ว ดูซิเจ้าจะเสแสร้งได้นานเท่าไร เหลยจงเหลียนคิด
แน่นอน ความคิดของจินสือปาก็เป็นเช่นนนี้ องครักษ์เสื้อแพรของมณฑลเหอเป่ยซีแห่งนี้จับตาดูถนนทุกหนทุกแห่งอยู่เหมือนกัน อย่าคิดว่าจับตาข้าไว้ พวกเจ้าก็ไร้กังวลแล้ว
“โจมตีเขาจั้นหวงซานตอนกลางคืน!”
ข้างหูเสียงดังมา พร้อมกับเสียงปรบมือดังป้าบ
เหลยจงเหลียนกับจินสือปาได้สติกลับมา มองไปทางแม่ทัพ แล้วก็มองไปยังแผนที่บนพื้น
แม้ที่วาดไว้หยาบอยู่มาก แต่ก็มองออกว่าที่ตั้งค่ายนี้สามด้านล้วนเป็นหน้าผาชัน เดินลัดปีนป่ายยากนัก ส่วนทางเดียวที่เหลืออยู่ต้องวางเวรยามไว้ทั่วแน่ เมื่อลงมือปุบ หินภูเขาน้ำมันไฟเทร่วงลงมาก็ไร้ทางหนี
กลางวันก็ยากมากแล้ว ยังจะโจมตีตอนกลางคืน?
จริงหรือหลอก? กองโจรบนภูเขาถึงเวลาก็จะร่วมมือเล่นละครด้วยหรือ? นี่จะให้ทั้งมณฑลเหอเป่ยซีร่วมเล่นละครด้วยหรือ?
ตระกูลฟาง ขวัญกล้าเทียมฟ้าจริงๆ! จินสือปาขมวดคิ้ว
องครักษ์เสื้อแพร ไม่สนกฎไม่สนสวรรค์จริงๆ! เหลยจงเหลียนในใจชิงชัง
แม่ทัพมองเห็นสีหน้าของพวกเขา ยิงฟันยิ้ม
กลัวแล้วหรือ? เพื่อคุณหนูจวิน พวกเขาสิ่งใดล้วนกล้าทำ
“กระทั่งกระบวนทัพกำแพงเหล็กของโจรจิน ข้ายังฝ่าได้ โจรภูเขาไม่กี่คนนับเป็นอะไร คืนนี้จะให้พวกเจ้าได้เห็นความร้ายกาจของพวกเราเสียบ้าง” เขาว่า
จินสือปากับเหลยจงเหลียนขมวดคิ้วน้อยๆ อย่างไรก็รู้สึกว่าคำพูดนี้แล้วยังมีสีหน้าดุร้ายนี่อีกตั้งใจทำให้พวกเขาฟังกับดู
ข่มขู่ใครมิทราบ พวกเขาคิด ยิ้มบางๆ
“ถ้าอย่างนั้นก็ลำบากแม่ทัพเผิงแล้ว” พวกเขาต่างปากเอ่ยเป็นเสียงเดียว
ราคตรีปกคลุมฟ้าดิน เขาจั้นหวงซานยิ่งประหนึ่งสิ่งใหญ่โตมโหฬารตั้งอยู่
ส่วนค่ายที่อยู่บนยอดเขาแสงโคมสว่างไสว ด้านในเสียงหัวเราะเสียงร้องประหลาดลอยออกมา รวมถึงเสียงกรีดร้องเสียงร่ำไห้ของสตรี
นี่คือประเพณีของค่ายภูเขาของเจ้าฟันจอบ ทุกครั้งก่อนหน้าลงเขาปล้นชิง ต้องทำตามอำเภอใจสำราญสุดเหวี่ยง ดื่มสุราชมนารี
เจ้าฟันจอบยืนอยู่ในโถง มือหนึ่งยกจอกสุรา มีหนึ่งคว้าจับสตรีร่างเปล่าเปลือยคนหนึ่ง ใบหน้าแดงก่ำทั้งดวง เห็นชัดว่าดื่มไปไม่น้อยแล้ว
“เห็นหรือยัง นี่ก็คือชีวิตที่พวกเราเสวยสุข! ดื่มสุราคำโตกินเนื้อคำใหญ่ ผู้หญิงไม่ขาด” เขาหัวเราะเสียงดังเอ่ย “ขอแค่ติดตามทำงานให้ข้าเจ้าฟันจอบ ชีวิตเช่นนี้จะไม่มีที่สิ้นสุด!”
ในโถงใหญ่เสียงร้องดีพักหนึ่งดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกันนั้นเสียงกรีดร้องของพวกผู้หญิงก็ดังขึ้นตามไปด้วย
การเสวยสุขเช่นนี้เป็นเหยื่อล่อ แต่อีกด้านหนึ่งก็คือการเสริมความกล้า สุรานารีปลุกความกล้าของคน ทำให้พรุ่งนี้พวกเขาเผาฆ่าปล้นชิงได้ราบรื่น
เจ้าฟันจอบมองโถงใหญ่ที่เข้าสู่การสำเริงสำราญรอบใหม่ก็ดื่มสุราในจอกเหล้าคำเดียวหมด กดผู้หญิงในมือลงกับพื้น พร้อมกับเสียงกรีดร้องของสตรี จอกเหล้าแตกกระจาย
เวลานี้เองประตูใหญ่ที่ปิดสนิทก็กระแทกเปิดดังปัง บุรุษสองคนล้มเข้ามา
พวกเขาล้มลงกับพื้น พร้อมกับที่ร่วงถึงพื้น ศีรษะสองหัวก็กลิ้งหลุนหลุนลงมา
โจรภูเขาคนหนึ่งที่เพิ่งกดผู้หญิงลงพื้นมองศีรษะที่กลิ้งเข้ามา ส่งเสียงกรีดร้องประหนึ่งสตรี
จากนั้นทหารกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าพลันยกดาบหอกศรหน้าไม้ยืนอยู่ตรงปากประตู
แม่ทัพที่นำหน้ากวาดมองในโถง สะบัดดาบในมือ
“สังหาร!” เขาตวาดเสียงดุดัน
บรรดาทหารดั่งหมาป่าดั่งพยัคฆ์โถมเข้ามา เสียงกรีดร้องดังไม่ขาด โจรภูเขาร่างกายเปล่าเปลือยข้างกายมีเพียงผู้หญิงกับจอกเหล้าเคียงข้างประหนึ่งแกะรอเชือด
ในเวลาเดียวกันนี้ในค่ายภูเขาทั้งหมดนอกโถงใหญ่ก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นเช่นกัน แสงไฟลุกโชนทุกหนทุกแห่ง
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
ทหารทั้งหลายเหล่านี้มาได้ยังไง?
พวกเขาเข้ามาได้อย่างไร? สัญญาณเตือนสักนิดก็ไม่มีได้อย่างไร?
นี่ก็คือความแตกต่างของทหารหย่งหนิงกับโจรภูเขากองโจรอาชาอื่นหรือ?
นี่ก็คือตอนบ่ายที่เพิ่งพูดไปว่าหากทหารหย่งหนิงมาเล่า?
ร่างกายเปล่าเปลือยของเจ้าฟันจอบคลานสะเปะสะปะ แต่จะหนีรอดได้อย่างไร หนึ่งดาบฟันลงบนหลังเขา เจ้าฟันจอบกรีดร้องทีหนึ่งหมอบคว่ำ จากนั้นก็ถูกคนหิ้วขึ้นมา โยนไปตรงหน้าแม่ทัพคนหนึ่ง
“เจ้าฟันจอบ เจ้าควรตื่นจากฝันหวานได้แล้ว” แม่ทัพคนนั้นเอ่ยเย็นชา
นี่ฝันไปจริงๆ นะ เจ้าฟันจอบมองทหารเหล่านี้ แล้วมองพรรคพวกที่บาดเจ็บล้มตายเกลื่อนพื้น ทำไมอยู่ดีๆกลายเป็นเช่นนี้ได้?
ดาบเล่มหนึ่งทุบบนหน้าเขาอย่างแรง
“เจ้าฟันจอบ เรื่องที่เจ้าทำรีบสารภาพมาซะ! ส่งคุณหนูจวินออกมาเสีย”
ข้าทำเรื่องอะไรแล้ว ไม่ใช่แค่ขาดสิ่งใดก็ปล้นชิงหรือ นี่มีอะไรให้สารภาพ?
อีกอย่าง คุณหนูจวินเป็นใคร?
เจ้าฟันจอบถูกดาบทุบไปทีหนึ่งตามองเห็นดาวสองหูดังวิ้งๆ
ที่แท้เกิดเรื่องอะไรขึ้น? นี่ที่แท้มันเรื่องอะไรกัน?