ราคาตอนนี้อยู่ที่แปดพันคริสตัลและเริ่มชะลอตัวลงแม้แต่ซือชุยหลงที่เคยยกมือโดยไม่ลังเลยังต้องขอเวลาเพื่อคิดไตร่ตรอง สำหรับคนอื่นๆ นี่ถือเป็นสมบัติที่พวกเขาไม่เข้าใจกระบวนการทำงานของมัน นั่นหมายความว่าราคาเริ่มใกล้เคียงกับขีดจำกันแล้วเช่นกัน
ผู้ฝึกฝนจองตระกูลเฟิงเพิ่มราคาเป็นแปดพันห้าร้อย เขาเริ่มบิทขึ้นทีละนิดไม่ได้เพิ่มเต็มจำนวนแบบในตอนแรกเช่นกัน
การเพิ่มราคาสำหรับไม้ไร้ขีดจำกัดนั้นไม่น้อยกว่าสองร้อยคริสตัล หลังจากนั้นราคาก็ถูกบิทขึ้นเป็นแปดพันเจ็ดร้อย ซือชุยหลงกล่าว “ท่านผู้แทนกลุ่มเฟิงหากท่านซื้อไม้ไร้ขีดจำกัดไปยังไงท่านก็ยังใช้ไม่ได้ในทันที แต่ถ้าหากท่านยังยืนยันที่จะเสนอราคาต่อข้าคงต้องยอมแพ้”
“หากท่านซือต้องการสมบัติชิ้นนี้งั้นข้าคงไม่แย่งท่าน” ผู้ฝึกฝนจากตระกูลเฟิงส่งรอบยิ้มที่ดูปลอมให้เขา “มันเป็นของท่าน!”
ในที่สุดซือชุยหลงก็ได้ไม้ไร้ขีดจำกัดมาสำหรับนักบวชเต๋ามาครอบครองในราคาแปดพันเจ็ดร้อยคริสตัล!
“กับดักคำสาปของปีศาจมันมีประสิทธิภาพมาก มันทั้งสกปรกและชั่วร้าย ซึ่งเราไม่สามารถมองเห็นในโลกภายนอกได้เลย”
สมุดเล่มเหลืองปรากฎขึ้นตรงหน้าหญิงสาว “แม้ว่ามันจะอาจไม่ได้มีประโยชน์มากในการต่อสู้ แต่นี่ก็ถือเป็นคาถาจิตวิญญาณเพื่อช่วยป้องกันหากเจ้าถูกล้อมไปด้วยสิ่งชั่วร้าย”
“มันคล้ายกับเกราะเวทย์มนตร์คาถานี้มีวิธีการฝึกฝนรูปแบบพิเศษ”
“ราคาเริ่มต้นคือ พันคริสตัล!”
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้หลายคนต้องการอย่างมากที่จะเสนอราคาให้กับสมบัติที่ไม่เคยเห็นหรือรู้จักมาก่อน มันเปรียบเสมือนสมบัติชิ้นใหม่คล้ายกับของเล่นใหม่ในสายตาคนรวย
หลายคนหันมาให้ความสนใจกกับสิ่งแปลกใหม่แต่ทรงพลัง!
โชคดีที่ผู้ฝึกฝนไม่ได้คลั่งไคล้ในการต่อสู้เพื่อหนังสือทักษะของนักรบสักเท่าไร หลังจากการมูลของเหล่านักรบน้อยลงฟางฉีเองคือหนึ่งในผู้ประมูลและได้หนังสือทักษะดาบไฟมาครอบครองในราคาห้าพันคริสตัล
ขณะเดียวกันเวลานี้ในห้องประมูลผู้คนเริ่มกระตือรือร้นจนทำให้บรรยากาศนั้นดูร้อนแรงและตื่นเต้นยิ่งขึ้น
“รายการต่อไปคือทักษะพายุหิมะหรือกำแพงหิมะ!”
แขกผู้มาประมูลส่วนใหญ่ที่นี่นั่นเป็นผู้ฝึกฝนและนักบวชเต๋า เมื่อพวกเขาได้ยินทักษะพายุหิมะทั้งหมดในห้องก็เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยที่ตื่นเต้นผู้ฝึกฝนรู้สึกสนใจหนังสือที่มีชื่อแปลกอย่างมากมันจะต้องเป็นเทคนิคขึ้นสูงสำหรับสายอาชีพแน่!
“มันเป็นเวทย์มนตร์ทางจิตวิญญาณ คาถานี้สามารถสร้างพายุหิมะเพื่อโจมตีศัตรู มันสามารถควบแน่นทั้งลมและหิมะให้บริเวณใกล้เคียงรวบรวมตัวเพื่อก่อพายุทอร์นาโดน้ำแข็ง ไม่มีใครสามารถหลบหนามแหลมคมของน้ำแข็งอันแหลมคมได้!” เสียงอธิบายของหญิงสาวฟังดูมีพลัง “นอกจากนี้ยังใช้เวลาร่ายเวทย์น้อยมาก”
“ราคาประมูลเริ่มต้นที่แปดพัน บิทขั้นต่ำครั้งห้าร้อยคริสตัล!”
“หนึ่งหมื่น!” เมื่อเธอพูดจบ ปีศาจดำตะโกนขึ้นทันที
“หมื่นสอง! ” ตามด้วยเสียงของซีชิ
อาจารย์ซีชิเริ่มสเนอราคาอีกครั้ง โมเซียนที่นั่งข้างๆ เริ่มมีหน้าตาขมขื่นอีกครั้ง
“มันเป็นทักษะของระดับสามสิบห้า เธอจะได้เรียนรู้เมื่อไร ..” หลิวหนิงหยุนกำลังคิดในหัวว่าเธอควรจะห้ามอาจารย์ของเธอดีหรือไม่
“ท่านพ่อ ..เราควร” ก่อนที่เด็กชายอายุสิบสองจะห้ามปราม ผู้ฝึกฝนของกลุ่มเฮารันที่นั่งถัดจากเขายืนขึ้น “หมื่นห้า!”
“หมื่นหก!” ตังหยวนแห่งหยวนเฮงตะโกนสวนทันที
แม้ว่าหลายคนจะต่อสู้เพื่อแช่งชิงมันแต่คนที่นี่ส่วนมากไม่มีใครเคยเห็นถึงใช้ทักษะขึ้นสูงของนักเวทย์มาก่อน นั่นก็หมายความว่าหากใครก็ตามที่ได้หนังสือทักษะพายุหิมะไปครอบครองละก็ .. พวกเขาจะถูกจัดเป็นนักเวทย์อันดับสูงคนหนึ่งเลยทีเดียว
“สองหมื่น!” ซีเฉินโจวไม่เต็มใจจะยอมรับความพ่ายแพ้
“สองหมื่นห้า!” ชายคนหนึ่งผู้สวมชุดสีขาวลายพระจันทร์พูดด้วยท่าทางชั่วร้าย “บัลลังก์นักเวทย์ต้องเป็นของข้า!”
“คืออะไร?”
ผู้ฝึกฝนทุกคนหันมองหน้ากัน
ตรงที่นั่งของเหล่าตระกูลเฟิงมองหน้ากันและถามว่า “พวกเข้ารู้หรือไม่ว่าพวกเขากำลังพูดถึงอะไรกัน?”
คนอื่นๆ ใบโต๊ะส่ายหัว
“แปลก ..” ผู้ฝึกฝนตระกูลเฟิงมองหน้าพวกเขาอย่างสงสัย “คาถาทางจิตวิญญาณที่ทรงพลังนี้มันเกี่ยวข้องกับอันดับหนึ่งยังไง ข้าสงสัยว่าความลับในเมืองนี้ที่ข้ายังไม่รู้คืออะไร?”
ราคาช่างสูงเกินไปสองหมื่นห้าคริวตัลนั้นช่างเกินขีดจำกัดในที่สุดจือไป่ก็ได้ไปครอง
ต่อมา .. ภาพบนหน้าจอแสดงรูปร่างของคฆาหยกที่มีรูปร่างคล้ายกระดูกของสัตว์ “สำหรับสิ่งนี้ผมเชื่อว่าหลายคนคงจะสัมผัสได้ถึงคุณค่าของมัน”
“คฆาหยกลดระยะร่ายเวทย์ 2-6 สร้างความเสียหาย 6-12 เป็ยอาวุธที่ถูกขนานนามว่าเป็นของพระเจ้าจากตำนานของโลกแห่งจินตนาการ” หญิงสาวกล่าวว่า “ไอเทมชิ้นนี้ทำจากหยกผสมผสานเข้ากับกระดูกมังกรปีศาจมีพลังที่แข็งแกร่ง นี่ถือเป็นของชิ้นแรกที่ข้าสัมผัสได้ถึงพลังของมันขอเปิดราคาการประมูลเริ่มต้นสองหมื่นบิทขั้นต่ำครั้งละหนึ่งพัน!”
“สามหมื่น!” ปีศาจดำยังคงเป็นคนแรกในการเสนอราคา เขาบิทถึงหนึ่งหมื่นเลยทีเดียว
“สามหมื่นห้า!” ผู้ฝึกฝนตระกูลเฟิงเข้าร่วมการประมูล
“สี่หมื่น!” ของมีค่าเหล่านี้มาจากโลกแฟนตาซีแต่มันช่างดึงดูดความสนใจของอาจารย์ซีชิไม่น้อย ไม่นานเธอต้องไปดูให้เห็นกับตาตัวเองเธอเลยคิดว่าอยากจะเตรียมสมบัติอีกสักสองสามชิ้น
แน่นอนสาวกของเธอในตอนนี้หมดหวังแล้ว ..หลิวหนิงหยุนคิดว่าเธอคงไม่สามารถหยุดอาจารย์ได้อีก โมเซียนเองก็เช่นกัน ใครก็ได้โปรดชิงของไปจากอาจารย์ข้าที ..
ราวกับสวรรค์ได้ยินคำอธิฐานภายในใจของเธอ “สี่หมื่นห้า!” ตังหยวนแห่งหยวนเฮงเสนอราคา
“ห้าหมื่น!” คนจากกลุ่มเฮารันอดทนไม่ไหว
“หกหมื่น!” จือไป่จากสำนักมังกรขาวเสนอราคา
ในราคาที่สูงถึงหกหมื่นตอนนี้ หลายคนเริ่มลังเลที่จะสู้ต่อ
หลายคนก็วกกลับมาคิดถึงว่าท้ายสุดแล้วมันไม่สามารถนำออกมาใช้ในโลกแห่งความจริงได้แม้ว่าในโลกเสมือนจริงมันจะเปี่ยมล้นไปด้วยประสิทธิภาพก็ตาม ขณะนี้มีเพียงแค่สำนักหยวนเฮงเท่านั้นที่บิทสู้อีกหนึ่งพันคริสตัล
ผู้ฝึกฝนที่ได้หนังสือเกราะเวทย์มนตร์ไปไม่น้อยหน้าเขาเสนออีกหนึ่งพัน!
หยวนเฮงยังคงสู้ต่ออีกหนึ่งพันทำให้ตอนนี้มันมีราคาสูงขึ้นถึงหกหมื่นสาม .. ในที่สุดสำนักหยวนเฮงก็ได้ไปครอบครองเขาคือคนแรกที่ได้ครอบครองคฆาหยกอันแรกของเซิร์ฟ
รายการต่อมาคือหนังสืออันเชิญพระเจ้าแห่งสัตว์ร้ายซึ่งซือชุยหลงจากสำนักมังกรขาวได้มาครอบครองในราคาเจ็ดหมื่นคริสตัล!
ในที่สุดก็ถึงเวลาของไอเทมชิ้นสุดท้าย .. หนังสือทักษะแสงมนตร์เสน่ห์!
“รายการนี้น่าจะเป็นรายการที่ดีที่สุดในการประมูลครั้งนี้ เพราะข้าเองยังอยากเข้าร่วมประมูลด้วยเช่นกัน!” เธอพูดพลางหัวเราะ
“ต่อไปเราจะให้ซียื่อจากสำนักงานม้วนช่วยแสดงให้ดูสักเล็กน้อย” หลังจบประโยคกลุ่มผู้ฝึกฝนได้ผลักกรงเหล็กขนาดใหญ่เข้ามาในห้องโถง ซึ่งในกรงมีนกอินทรีตัวใหญ่ขนาดหนึ่งเมตรขนของมันเปล่งประกายอย่างสง่างาม ท่าทางของมันดูไม่เชื่องและดุร้ายแม้จะอยู่ในกรง
อีกฝั่งหนึ่งซียื่อเองได้เดินขึ้นไปตามคำบอกของหญิงสาว เธอได้พบเข้ากับเจ้าอีแร้งขนาดใหญ่กรงของนกทั้งสองอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกันนัก
“นกอินทรีตัวนี้เป็นนกจากศาลาสวรรค์ของเราซึ่งเคลื่อนย้ายมาจากสนามสัตว์มาที่นี่เพื่อเป็นสิ่งทดลองต่อการประมูลครั้งนี้ ความแข็งแกร่งของมันเทียบเท่ากับผู้ฝึกฝนระดับสูงระยะต้น” หญิงสาวกล่าวว่า “ส่วนอีแร้งข้างๆ ซียื่อนั้นมีความแข็งแกร่งในระดับกลางเกือบสูง”
เธอถามด้วยร้อยยิ้มว่า “ท่านคงจะจินตนาการไม่ถูกเลยหากสัตว์ทั้งสองต่อสู้กัน”
“จะเกิดอะไรขึ้นหากสัตว์ทั้งสองตัวที่มีระดับต่างกันต่อสู้กัน?”
“ด้วยเกราะเวทย์มนตร์อาจช่วยปกป้องการโจมตีจากสัตว์ได้ แต่คงได้แค่ป้องกันก็เท่านั้น” หญิงสาวยิ้มด้วยรอยยิ้มเคลือบแคลง จากนั้นเธอถอดคาถาควบคุมกรงเหล็กออก
อีแร้งนั้นบินไปหยุดหน้ากรงเหล็กอีกฝั่ง ด้วยเสียงกรีดร้องที่แหบแห้งของอินทรี มันพุ่งเข้าหาอีแร้งสีดำเพื่อโจมตีทันที
ตู้ม! มันกระแทกกันอย่างดุเดือดโดยใช้กรงเล็บและปากอันเรียวแหลมคมของมัน
เจ้านกอินทรีตัวใหญ่ที่ดูแข็งแกร่งนั่นกำลังถูกบดขยี้ เลือดของมันไหลออกมาจากจมูกและหัวมันล่วงลงพื้นและกระตุกสองสามครั้ง
“เป็นไปไม่ได้!”
ฉากที่ปรากฎตรงหน้าทำให้ผู้ฝึกฝนหลายคนลุกขึ้นยืนอย่างไม่อาจควบคุมตัวเองได้