ตอนที่ 443 เข้าใจผิด

พลิกชะตาชายาสยบแค้น

ตอนที่ 443 เข้าใจผิด

“พระชายา ในที่สุดท่านก็กลับมาเสียทีเจ้าค่ะ” ปี้จูและหมิงซินรออยู่หน้าประตูก็รีบเข้ามาประคองอันหลิงเกอเข้าจวนและเป็นหมิงซินที่บ่นจนโดนปี้จูถลึงตาใส่

“ทำไมหรือ ? ข้ามิอยู่แค่คืนเดียวพวกเจ้าโดนผู้ใดรังแกอย่างนั้นหรือ ? ” อันหลิงเกอเลิกคิ้วขึ้นพลางเอ่ยหยอกล้อสาวใช้ของตน

อันหลิงเกอกลับมาที่จวนเพียงคนเดียวโดยแยกกับมู่เหล่าหวางเฟยและซางกวนถงก่อนหน้านี้แล้ว ยามนี้นางกำลังสั่งให้หมิงซินจัดเตรียมห้องให้ไป๋เถียนเถียนอยู่

ปี้จูรีบรินชาให้พระชายาอย่างว่องไวแล้วกล่าวอย่างระมัดระวัง “พระชายาพูดเกินไปแล้ว เพียงแต่เมื่อคืนที่ท่านมิอยู่ ท่านอ๋อง…”

“ท่านอ๋องไปที่เรือนของอวี๋หมิงหลันอย่างนั้นหรือ ? ” อันหลิงเกอรับถ้วยชาแล้วยกขึ้นจรดริมฝีปาก

หลังปี้จูตอบว่า ‘เจ้าค่ะ’ อันหลิงเกอก็มิได้กล่าวอันใดออกมาอีก

ผ่านไปพักใหญ่ปี้จูจึงได้ยินเสียงนางสั่งการเบา ๆ “ในเมื่อ ในเมื่ออวี๋หมิงหลันได้รับเมตตาแล้ว เจ้าก็สั่งคนนำของไปมอบให้อวี๋หมิงหลันเพื่อเป็นการแสดงความยินดีหน่อยแล้วกัน”

ปี้จูก้มหน้ารับคำสั่งโดยมิกล้ามองสีหน้าของอันหลิงเกอเลย

อันหลิงเกอหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วจิบชาที่เริ่มอุ่นลงคอ มิรู้ว่ายามนี้นางกำลังนึกสิ่งใดอยู่

มิว่านายหญิงในจวนนี้จักคิดอย่างไร สิ่งที่หมิงซินต้องทำก็คือการหาแม่นมมาชี้แนะแม่นางที่พระชายาพากลับมาด้วยนั่นเอง

“แม่นมหลี่ถือว่าเป็นคนเก่าแก่ของจวน ต่อไปเจ้าต้องคอยติดตามนางเพื่อเรียนรู้เรื่องต่าง ๆ ให้ดี อย่าให้เกิดอันใดผิดพลาด” หมิงซินสั่งย้ำอีกมิกี่ประโยคก็ส่งไป๋เถียนเถียนให้แม่นมหลี่ดูแลต่อ

ไป๋เถียนเถียนแม้เป็นนักขับร้องแต่ก็รู้เรื่องมารยาท นางจึงพยักหน้าให้หมิงซินพร้อมรอยยิ้ม “ขอบคุณมาก”

หมิงซินพยักหน้าและมิได้ตอบสิ่งใด

“ข้าให้คนไปตามแม่นมหลี่มาให้แล้ว ตอนนี้ยังต้องไปดูแลพระชายาต่อ ข้าขอตัวก่อนแล้วกัน”

ไป๋เถียนเถียนร่ำลาอีกฝ่ายอย่างนอบน้อมแล้วก็ยืนรอแม่นมอยู่ที่เดิม

“เจ้าคือคนที่หมิงซินกล่าวถึงใช่หรือไม่ ? ” ดวงตาที่เฉียบคมประเมินสตรีตรงหน้าอย่างละเอียด ก่อนที่แม่นมหลี่จักยิ้มออกมาและพยักหน้าให้ไป๋เถียนเถียน

“แม่นาง ในเมื่อเข้ามาในจวนนี้ก็ต้องทำตามกฎของจวน เจ้าจักหาว่าข้ามิเตือนมิได้” แม่นมหลี่เอ่ยออกมาก่อนเริ่มสอนกฎระเบียบต่าง ๆ

ความจริงแล้วแม่นมหลี่ก็รู้สึกมิพอใจอยู่บ้าง แม้ตนมิได้มีหน้าที่คอยดูแลพระชายาตลอดแต่ก็ใช่ว่าจักสั่งให้ตนทำอันใดก็ได้ อยู่ดี ๆ ก็ให้มาคอยสั่งสอนนักขับร้องที่ไหนมิรู้…

“ทำไมหรือ ? เจ้าคุกเข่ามิเป็นหรือไร ? ” แม่นมหลี่หัวเราะเยาะ ก่อนฟาดไม้ท่อนเล็ก ๆ ที่อยู่ในมือลงบนมือของไป๋เถียนเถียน

ไป๋เถียนเถียนแม้เป็นนักขับร้องแต่ก็ถูกดูแลมาอย่างดี ยามนี้จึงอดน้ำตาคลอขึ้นมามิได้แต่ก็จำใจต้องกัดฟันฝึกต่อไป

แม่นมหลี่ที่โมโหอยู่แล้วจึงตั้งใจกลั่นแกล้งไป๋เถียนเถียนต่างต่างนานา แต่นิสัยของอีกฝ่ายก็ทำให้นางชื่นชมมิน้อย

ในตอนนั้นเองอวี๋หมิงหลันที่กำลังออกมาเดินเล่นในสวนก็บังเอิญเหลือบเห็นความเคลื่อนไหวบางอย่างจึงเอ่ยถามอย่างสงสัย “ตรงนั้นเกิดอันใดขึ้น ? ”

สาวใช้ข้างกายเงยหน้ามองแล้วก้มหน้าตอบ “เรียนกู่เหนียง คงเป็นแม่นมที่สอนเรื่องมารยาทกำลังอบรมสาวใช้อยู่เจ้าค่ะ”

“หืม ? ” สมองของอวี๋หมิงหลันไตร่ตรองอย่างรวดเร็วแล้วขมวดคิ้ว “มิใช่ สาวใช้ปกติต้องเข้ามาเป็นชุดและสอนพร้อมกันมิใช่หรือ เหตุใดสาวใช้คนนี้จึงถูกเรียกมาสอนเพียงผู้เดียว ? ”

อวี๋หมิงหลันมีฐานะสูงส่ง เรื่องเช่นนี้นางย่อมรู้อยู่แล้ว

เมื่อเห็นเจ้านายสนใจ สาวใช้จึงประคองอวี๋หมิงหลันไปยังที่ไป๋เถียนเถียนกำลังถูกแม่นมหลี่สั่งสอน

“ข้าน้อยคารวะอวี๋กู่เหนียงเจ้าค่ะ” แม่นมหลี่มีสายตาเฉียบแหลม เพียงเห็นหน้าอีกฝ่ายก็รู้ได้ทันทีว่าคนตรงหน้าเป็นใครจึงรีบคำนับ

อวี๋หมิงหลันพยักหน้าเบาๆ ก่อนเหลือบมองสาวใช้ข้างกาย สาวใช้เมื่อเห็นสายตาของเจ้านายก็เอ่ยถามทันที “แม่นม มิทราบว่ากำลังทำอันใดอยู่หรือ ? ”

แม่นมหลี่ตัวสั่นเล็กน้อยขณะยืนขึ้นพร้อมก้มหน้าตอบ “เรียนอวี๋กู่เหนียง นาง…นางเป็นสาวใช้มาใหม่ยังมิคุ้นเคยกฎระเบียบของจวน ดังนั้นข้าน้อยจึงสั่งสอนนางเจ้าค่ะ”

อวี๋หมิงหลันยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนเหลือบมองไป๋เถียนเถียนที่คุกเข่าอยู่บนพื้น “เจ้าเงยหน้าขึ้นมาสิ”

อวี๋หมิงหลันเมื่อเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายก็หัวเราะออกมาเบา ๆ “หน้าตางดงามมิน้อยเลย”

ได้ยินดังนั้นแม่นมหลี่ก็เกิดความสงสัยแต่มิกล้าเอ่ยสิ่งใด

อวี๋หมิงหลันหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมือของตนแล้วยิ้ม “เจ้าคงเป็นนักขับร้องที่พี่สาวพาเข้าจวนวันนี้”

ไป๋เถียนเถียนตอบรับนิ่ง ๆ ทำให้แม่นมหลี่หวาดกลัวมิน้อยเพราะมิรู้ว่าควรทำเช่นไรดี

“เอาล่ะ ข้าแค่สงสัยเลยมาดูเท่านั้น พวกเจ้าสั่งสอนกันต่อเถิด” อวี๋หมิงหลันกล่าวจบก็เดินจากไป

เมื่ออวี๋หมิงหลันจากไปแล้ว แม่นมหลี่ก็ตั้งใจสั่งสอนไป๋เถียนเถียนมากขึ้นและมิได้กลั่นแกล้งเช่นก่อนหน้านี้อีก ทว่ามิมีใครทันเห็นสายตาก่อนจากไปของอวี๋หมิงหลันแม้แต่คนเดียว

“กู่เหนียง…มิได้เป็นอันใดใช่หรือไม่เจ้าคะ ? ” สาวใช้ถามอย่างเป็นห่วงยามประคองอวี๋หมิงหลันไปนั่งยังศาลาที่มิไกลนัก

ดี ดีเสียจริง ! มือที่อยู่ในแขนเสื้อของอวี๋หมิงหลันกำแน่นจนเลือดแทบไหล

มิน่า อยู่ ๆ เมื่อวานอันหลิงเกอก็ออกไปข้างนอกทั้งยังกลับมาพร้อมผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ดูท่าแล้วคงอยากให้ผู้หญิงคนนั้นไปอยู่ข้างกายท่านอ๋อง !

อวี๋หมิงหลันได้ยินเรื่องราวเช่นนี้ตั้งแต่เด็กจึงมิแปลกที่จักคาดเดาอันหลิงเกอไว้เช่นนั้น

หากท่านอ๋องโปรดปรานขึ้นมา ตนคงมิสามารถต่อกรกับพวกนางสองคนได้แน่

อวี๋หมิงหลันยกมือขึ้นจับปิ่นปักผม เมื่อเห็นไป๋เถียนเถียนที่อยู่มิไกล แววตาของนางก็ฉายแววอาฆาตออกมา

“กู่เหนียง เมื่อครู่ท่านบอกว่าสาวใช้คนนั้นพระชายาพาเข้ามาหรือเจ้าคะ ? ” สาวใช้ถามขณะวางจานของว่างบนโต๊ะ

อวี๋หมิงหลันมิได้ตอบอันใด นางแค่พยักหน้าให้เนือย ๆ สาวใช้เห็นดังนั้นก็กล่าวออกมาอย่างฉลาด

นางกล่าวไปพลางนวดบ่าให้เจ้านายไปด้วย “กู่เหนียง หากเป็นเช่นนั้นท่านควรเตรียมพร้อมไว้ให้ดีเจ้าค่ะ พวกเราจักรอให้อีกฝ่ายทำสำเร็จง่าย ๆ มิได้เด็ดขาด”

แม้แต่พระชายาคนเดียวพวกนางยังสู้มิได้ หากเพิ่มมาอีกคน…

อวี๋หมิงหลันเม้มปากแน่น ก่อนไล่ให้คนดูแลคนอื่นถอยออกไป ระหว่างที่นั่งอยู่ในศาลามือขวาของนางก็จับที่ปิ่นอีกครั้งโดยมิรู้ตัว

หลังคิดไปคิดมาครู่หนึ่ง อวี๋หมิงหลันที่เหมือนตัดสินใจบางอย่างได้ก็ดึงปิ่นปักผมออก ก่อนเดินไปที่ห่อผ้าของไป๋เถียนเถียนซึ่งวางไว้บนพื้น มือที่สั่นน้อยๆ ยัดปิ่นลงในห่อผ้า

“ไปเถิด กลับเรือนได้แล้ว” อวี๋หมิงหลันสั่งสาวใช้ของตน ขณะที่เดินกลับเรือนก็ทำเหมือนมิมีอันใดเกิดขึ้น