“ทำไมมันถึงมีราคาสูงจัง!?” หลิวหนิงหยุนตัดพ้อ ตั้งแต่เธอเล่นเกมมาไม่มีอะไรในเกมที่ดูแพงสักนิด เธอเล่นอาชีพนักเวทย์อยู่ในระดับยี่สิบและทักษะที่ถนัดของเธอคือกำแพงไฟซึ่งเป็นของขวัญจากรวนหนิง
อย่างไรก็ตามตอนนี้ ..
เธอรู้สึกว่าเธอไม่สามารถเอื้อมถึงทักษะอย่างพายุหิมะ เกราะเวทย์มนตร์หรือไอเทมอื่นๆ ที่มีราคาสูงได้เลย สำหรับนักสือแสงเสน่ห์นั้นก็เช่นกัน ราคาสูงเกินไปแม้ว่านี่จะเป็นแค่เพียงราคาเริ่มต้นก็เถอะ!
“แปดหมื่น!” จือไป่จากสำนักมังกรขาวเสนอราคาด้วยความรวดเร็ว
ผู้คนอ้าปากค้างทันทีเขาเสนอราคาเพิ่มขึ้นถึงสามหมื่นคริสตัล .. นั่นถือเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลยเปรียบกับคนธรรมดาสามัญแล้วบางทีนั้นอาจเป็นเกือบทั้งชีวิตของการทำงาน
อย่างไรก็ตามนี่มันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น “หนึ่งแสน!” ปีศาจดำตะโกน
“แสนสอง!” หยวนเฮงไม่ได้สะทกสะท้านเขาเสนอราคาที่สูงขึ้นอีก
“แสนสาม!” ตามมาด้วยอาจารย์ซีชิ แต่แล้วก็ต้องพ่ายไปเมื่อเสียงตะโกนตามหลังจากกลุ่มเฮารันเพิ่มขึ้นเป็นแสนสี่
“แสนห้า!” นักบวชเต๋าเก่าแก่ของวังยี่มุเสนอราคา
ราคายังคงพุ่งขึ้นและในไม่ช้าราคาของมันได้ทะลุสองแสนไปแล้ว!
หากเป็นการประมูลในหมู่ผู้เล่นเจ้ากระบี่ขั้นเทพราคาคงไม่สูงเท่านี้ เพราะท้ายสุดแล้วมันไม่ได้สำคัญว่าสิ่งของนั้นจะมีค่ามากแค่ไหนหรือเอาไว้ใช้ทำอะไร สิ่งของเหล่านี้ทุกคนมีโอกาสที่จะได้รับหลังจากที่พวกเขากำจัดหัวหน้าสัตว์ประหลาดหรือจัดการกับเหตุการณ์สัตว์ประหลาดครองเมืองได้สำเร็จ
แต่ถึงอย่างนั้นผู้ฝึกฝนที่นี่ไม่ได้สัมผัสหรือเล่นเกม พวกเขาจึงมองว่าหนังสือหรือสิ่งของต่างๆ นั้นคุ้มค่ากับราคา เพราะสำหรับพวกเขาแล้วเงินเป็นเหมือนสิ่งที่หาง่ายเหมือนกระพริบตาเว้นแต่ว่ามันจะถูกแปลงเป็นจุดแข็งแก่พวกเขา
บรรยากาศในงสยประมูลตอนนี้ดูหมองหม่นจากความสิ้นหวังของผู้เล่นเจ้ากระบี่ขั้นเทพ ราคาสูงเกินจะเอื้อมถึง!
“สองแสนหนึ่งหมื่น!” ปีศาจดำยังคงไม่ยอมแพ้เขา
“สองแสนสอง!” สำนักมังกรขาวจำต้องกัดฟันเอ่ยออกไป
“สองแสนสองหมื่นห้าพัน!” ซีเฉินโจขมวดคิ้วเห็นได้ชัดว่าราคาเริ่มเกินตัวเขา
“สองแสนห้า!” ผู้ฝึกฝนตาแดงจากตระกูลเฟิงปรายตามองรอบๆ รอบกับทุกคนคือคู่แข่งของเขา
“ข้าอยากเห็นว่าจะมีใครเสนอราคาที่สูงกว่าข้าอีกมั้ย!?” ผู้ฝึกฝนจากตระกูลเฟิงหรี่ตมองรอบๆ
แน่นอนพวกเขาหลายคนเตรียมการมาเพื่อขุมทรัพย์อันยิ่งใหญ่ซึ่งกำลังจะถูกนำมาประมูลในตอนท้ายดังนั้นพวกเขาจึงนำคริสตัลมาเกินจะนับไหว
แม้ว่าจะไม่มีใครอยากจะเสียสมบัติอันล้ำค่าที่สุดไป แต่ถึงยังนั้นในใจลึกพวกเขาหลายคนก็มีความต้องการหนังสือแสงเสน่ห์อย่างมาก หากพวกเขาใช้เงินไปกับสิ่งนี้พวกเขาจะไม่มีเงินเพียงพอสำหรับสมบัติชิ้นสุดท้าย
หลายคนกำลังชั่งน้ำหนักความคิดตัวเองส่วนผู้ฝึกฝนจากตระกูลเฟิงนั้นมีความเห็นตรงกันที่จะครอบครองแสงมนตร์เสน่ห์อย่างชัดเจน เพราะเขาตั้งใจเพิ่มราคาไปถึงสองแสนห้าหมื่นเพื่อตัดโอกาสคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด
“สองแสนหกหมื่น!” นักบวชจากกลุ่มปีกแดงยื่นข้อเสนอ
นั่นยังไม่ใช่จุดจบ
ในไม่ช้าอาจารย์ซีชิก็พูดขึ้น “สองแสนแปดหมื่น!”
“ท่านอาจารย์!” หลิวหนิงหยุนตกใจอย่างมาก เรามาที่นี่เพื่อทวงคืนสมบัติอันยิ่งใหญ่ของเราไม่ใช่หรอกหรือ!? ไม่งั้นเราคงไปจากที่นี่กันนานแล้ว .. เธอคิด
อาจารย์ซีชิอธิบายต่อพวกเธอ “ตอนนี้คนเหล่านี้มีคริสตัลอยู่มากมาย มันชัดเจนว่าพวกเขาเดินทางมาที่นี่เพื่อสมบัติล้ำค่า เราจำต้องเพิ่มราคาเพื่อทำให้คู่แข่งของเราน้อยลง!”
“เอ่อ ..” โมเซียนตะกุกตะกัก “ท่านอาจารย์เฉียบแหลมมาก!”
การประมูลเริ่มดุเดือดอีกครั้ง ฟางฉีพอรู้มาว่าหากเปรียบเทียบความมั่งคั่งของตาจินและทะเลดวงดาวแล้วผู้ฝึกฝนที่อาศัยอยู่ในดินแดนทะเลดวงดาวนั้นมั่งมีกว่าที่ตาจินอย่างมาก แต่เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าพวกเขาจะมั่งคั่งมากขนาดนี้ พวกเขาสามารถเสนอเงินแสนโดยลังเลยใจ
แน่นอนว่าหลายคนยังคงตั้งมั่นตั้งใจที่จะได้หนังสือทักษะแสงสเน่ห์มาครอบครองเพื่อใช้เป็นสมบัติสูงสุดของกลุ่มเพื่อให้คุ้มค่ากับจำนวนเงินที่สูญเสียไป
หลายคนรวมถึงอาจารย์ซีชิราคานี้ถือเป็นราคาที่สูงมากมีเพียงไม่กี่คนที่จะกล้าเสี่ยงด้วยทุนของตัวเอง
อย่างไรก็ตามหากใช้เงินทุนกองกลางของกลุ่มแต่ละกลุ่ม พวกเขาก็มองว่าราคานี้ไม่ได้สูงเกินเอื้อม
ดังนั้นราคายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง .. ใช่! ตอนนี้มันพุ่งไปถึงสามแสนเป็นที่เรียบร้อย ผู้เล่นเจ้ากระบี่ขั้นเทพถูกบีบออกไปโดยปริยายสำหรับพวกเขาราคานี้สูงเกินคาดหมายในทางกลับกันพวกเขาปฏิญารตนว่าหากกลับไปเล่นจะตั้งใจมุ่งหน้าฆ่าหัวหน้าสัตว์ประหลาดเพื่อค้นหาหนังสือทักษะที่ต้องการ
ด้วยความคิดนี้พวกเขาจึงถอยออกจากการประมูลและผู้ประมูลที่ยังคงอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่ผู้เล่นแม้แต่คนเดียว
ผู้ที่ไม่เล่นพวกเขาไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วหนังสือทักษะต่างๆ สามารถได้รับจากหัวหน้าสัตว์ประหลาดได้เพียงแต่ว่ามันอาจจะยากหรือเราอาจจะต้องตายซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกว่าจะแข็งแกร่งและอัตราการตกของของก็น้อยมากเช่นกัน
“สามแสนหนึ่งหมื่น!” ตระกูลเฟิงเสนอราคา
หลายคนที่อยู่ลังเลที่จะเสนอราคาต่อ ผู้เล่นทุกคนยังคงอยู่เพื่อดูต่อไปว่าใครกันที่จะได้หนังสือเล่มนี้มาครอบครอง
“สามแสนหนึ่งหมื่นห้าพัน!” ผู้ฝึกฝนจากกลุ่มเฮารันตะโกน
“สามแสนสองหมื่น!” ผู้ฝึกฝนจากตระกูลเฟิงสวนขึ้นดูเหมือนใบหน้าของเขาจะผิดหวังเล็กน้อย
“สามแสนหก!” เสียงดังขึ้นจากอีกฝั่งหนึ่ง เขาคือนักบวชเต๋าจากกลุ่มปีกแดงผู้สวมชุดสีแดงเข้ม!
เห็นได้ชัดว่าผู้ฝึกฝนจากตระกูลเฟิงเริ่มรู้สึกตัวว่าคงไม่มีโอกาสได้รับสมบัติอันสูงสุดแน่นอน เพราะเงินทั้งหมดกำลังจะหมดไปกับหนังสือ เขาหรี่ตามองนักบวชทันที
ขณะเดียวกันรวนหนิงหันไปพูดกับฟางฉีที่นั่งถัดจากเธอ “หัวหน้าสมาคม หยิกข้าทีข้าอยากรู้ว่าข้าฝันไปใช่มั้ย?” ความสุขจากการเฝ้ามองแต่ละคนแย่งชิงนั้นเกิดขึ้นไวจนเธอเกือบเสียสติ
“โอ้ย!” รวนหนิงร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวดก่อนจะมองไปที่แขนขาวๆ ของตัวเอง “เจ้าหยิกให้มันเบากว่านี้ไม่ได้หรอ?”
“เจ้าอ่อนนุมและอ่อนโยนหรอ? ข้านึกว่าเจ้าเป็นคนรุนแรง” ฟางฉีตอบกลับ
“เจ้าอิจฉาที่ข้ารวยใช่มั้ยถึงได้ทำรุนแรงแบบนี้” รวนหนิงจ้องหน้าเขาและพูดเย้ย “ตอนแรกข้าวางแผนจะให้ซองแดงเจ้าแต่ตอนนี้ .. หึ!”
(ผู้แปล : ซองแดงของคนจีนหมายถึงขวัญหรือการมอบเงินให้ในโอกาสพิเศษ)
“ว้าว! เจ้ารู้จักดูแลหัวหน้าสมาคมด้วยช่างมีน้ำใจเสียจริง!” ฟางฉีทำหน้าตาประหลาดใจล้อเลียนเธอ
“หึ!”
หลังจากผ่านไปไม่นานการนำเสนอได้จบลงที่ราถา สามแสนหกหมื่นคริสตัล!
สำหรับผู้เล่นเจ้ากระบี่ขั้นเทพราคานี้เป็นราคาที่สูงเกินการคาดเดาของพวกเขาไปมาก!
“ศิษย์น้องซียื่อเจ้าต้องระวัง ..” รวนหนิงมองหน้าเธอด้วยความเป็นห่วงเพราะสุดท้ายแล้วซียื่อคือผู้ฝึกฝนเพียงคนเดียวในเวลานี้ที่เข้าใจแสงมนตร์เสน่ห์ที่สุด
โมเทียนซิงหัวเราะ “ข้าหว่างว่าผู้ซื้อจะไม่คิดว่านี่คือจุดจบของเรื่องทั้งหมดหรอกนะ!”
“ท่านผู้อาวุโสโมท่านหมายถึงอะไร?” รวนหนิงขมวดคิ้ว
เธอหันไปทางโต๊ะของผู้ฝึกฝนตระกูลเฟิงพลางเห็นพวกเขากำลังจ้องมองไปที่ผู้ชนะการประมูล!