หลังจากชะโงกเข้าไปสำรวจใกล้ๆ หนึ่งรอบ หลิงม่อก็ค้นพบว่าสาเหตุที่คลังอาหารใต้ดินแห่งนี้สามารถคงอยู่ในสภาพเดิมมาจนถึงตอนนี้ได้ และยังไม่มีท่าทีว่าจะถล่มลงมา เพราะว่าเจ้าแมงมุมหัวคนตัวนั้นถักทอใยแมงมุมหนาๆ ไว้บนเพดานหนึ่งชั้น และด้านล่างใยสีขาวๆ เหล่านี้ ก็มีศพของหญิงสาวเหล่านี้ถูกห้อยไว้ราวกับเหยื่อก็ไม่ปาน…
หลิงม่อสำรวจศพเหล่านี้อย่างละเอียดไปพลาง เคลื่อนไหวไปตามช่องว่างแคบๆ ไปพลาง แต่ในตอนนี้เอง หางตาของเขาเหลือบเห็นมือข้างหนึ่งโผล่มากะทันหัน…
ตรงช่องว่างระหว่างศพสองศพ มือข้างนั้นกวักมือท่ามกลางความมืดหนึ่งครั้ง จากนั้นก็หายไปจากคลองสายตาของหลิงม่อ…
หลิงม่อพลันชะงักหยุด เขาพยายามมองไปข้างหลังอย่างสุดกำลัง ขณะเดียวกันก็เริ่มปรับจังหวะลมหายใจ…
“เอาล่ะ…รออยู่ตรงนั้นเสียดีๆ รอฉันไปหาช้าๆ…”
หลิงม่อพึมพำ ขณะเดียวกันก็ค่อยๆ หมุนกาย และในเสี้ยววินาทีที่เขาหมุนตัวได้ 1 ใน 3 เสี่ยวเฮยที่อยู่ด้านล่างกลับยกแขนขึ้นทันใด ขณะเดียวกัน ร่างหลิงม่อก็ถูก “ขว้าง” ไปอยู่ตรงหน้าศพสองศพนั้นภายในพริบตาเดียว
“จับได้แล้ว!”
เมื่อหลิงม่อยื่นมือคว้าอากาศตรงหน้า หนวดสัมผัสพลันพุ่งพรวดออกไปทันใด วินาทีถัดมา แขนข้างนั้นก็ถูกกระชากออกมา แต่สิ่งที่ถูกกระชากออกมาพร้อมกัน ยังมีศพหญิงสาวที่แทบไม่มีเสื้อผ้าปกผิดเรือนร่างเลย…
เสี้ยววินาทีที่ศพหญิงสาวปรากฏ หลิงม่อก็มั่นใจทันที…เธอไม่มีกลิ่นอายชีวิตหลงเหลือแล้วแม้แต่น้อย…ดังนั้นตั้งแต่แวบแรกที่เขาเห็นเธอถูกกระชากมาตรงหน้าตัวเอง หลิงม่อจึงรีบเลื่อนสายตาออกไปทันที และพูดเสียงเบาว่า “ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น! ชิท…นี่เรามองผิดไปหรอ? ศพจะกวักมือเรียกได้ยังไง…ใช่แล้ว ไม่แน่ว่ามือของเธออาจถูกใยแมงมุม…เดี๋ยวนะ!”
หนึ่งวินาทีต่อมา สีหน้ากระอักกระอ่วนของหลิงม่อพลันค้างเติ่ง เขาขมวดคิ้วเบาๆ สายตาพลันฉายแววระแวดระวังขึ้นมา พร้อมกับหันหลังขวับทันที
เห็นเพียงศพที่แต่เดิมแน่นิ่งไม่ไหวติงพลันเบิกตากว้าง ดวงตาสีแดงเข้มคู่หนึ่ง แต่กลับไม่มีแววโกรธขึ้งกำลังจ้องมาที่หลิงม่อเขม็ง ขณะเดียวกันปากของเธออ้ากว้าง เผยให้เห็นฟันแหลมคมเต็มปาก แขนทั้งสองข้างยกขึ้น และพุ่งมาทางหลิงม่ออย่างรวดเร็ว
“อะไรวะเนี่ย!”
หลิงม่อตอบสนองทันที บวกกับเมื่อกี้เขาเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว เวลานี้แม้สีหน้าดูตื่นตะลึง แต่การเคลื่อนไหวกลับไม่มีสะดุดแม้แต่น้อย
นิ้วมือเสี่ยวเฮยขยับอย่างต่อเนื่อง หลิงม่อเหวี่ยงหนวดสัมผัสออกไป ทั้งถอยหลังและโจมตีในเวลาเดียวกัน เมื่อหลิงม่อยืนอย่างมั่นคงห่างออกไปหลายเมตร และยื่นมือกำหมัดกลางอากาศ พลางมองไปยังศพที่ถูกพันธนาการแน่นหนา ก็พบว่าเวลาเพิ่งผ่านไปไม่ถึงหนึ่งวินาทีด้วยซ้ำ
“พี่หลิง เกิดอะไรขึ้น!”
ซย่าน่าที่กำลังเงยหน้าสำรวจสถานการณ์พลันสังเกตเห็นความผิดปกติในเสี้ยววินาทีนั้นทันที จึงตะโกนเสียงดังมาจากเบื้องล่าง
“ฉันไม่เป็นไร!” หลิงม่อตอบกลับ ในขณะที่สายตากลับจับจ้องที่ศพนั้น “แต่…นี่มันอะไรกัน?”
เขาจ้องมองศพนั้นเขม็ง แต่กลับต้องอึ้งงันทันใด ศพนี้…เหมือนจะกลับไปอยู่ในสภาพไร้วิญญาณอีกครั้งแล้ว
ดวงตาของเธอปิดลงแล้ว ปากก็ปิดสนิท มีเพียงสองแขนที่ยังค้างอยู่ในท่าบิดเบี้ยวไม่ธรรมชาติ…หลิงม่อยืนช่วยเธอจัดท่าทางให้กลับไปเป็นเหมือนเก่าอยู่ที่เดิมเงียบๆ สุดท้ายเขาก็ได้คำตอบที่ประหลาดมาก…ท่าทางก่อนที่ศพหญิงสาวจะถูกจับได้ เป็นไปได้มากว่า…เป็นท่ากวักมือเรียก…
และสาเหตุที่เธอกลายเป็นอย่างนี้ เกรงว่าเพราะว่าฝืนเปลี่ยนการเคลื่อนไหว…ทว่าเพราะมีลักษณะเด่นของซอมบี้อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะตายไปแล้ว แต่แขนของเธอก็ไม่ถูกบิดจนหลุดออกมาง่าย ตรงกันข้าม กลับถูกบิดหมุนจนอยู่ในท่าที่น่ากลัวกว่าเดิม เหมือนปลาหมึกก็ไม่ปาน…
แต่ไม่ว่าอย่างไร…
“ศพที่กวักมือเรียกท่ามกลางกองศพมากมาย? กำลังล้อเล่นหรือไง! ที่นี่ไม่ใช่ร้านอาหารธีมสยองขวัญซักหน่อย! ไม่ว่าเจ้าแมงมุมยักษ์ตัวนั้นจะว่างซักแค่ไหน ก็คงไม่เบื่อจนทำเรื่องแบบนี้หรือเปล่า! นอกจากนี้ ถึงจะเมินปัญหาเรื่องการ ‘โพสท์ท่า’ ไป แต่เมื่อกี้ศพศพนี้เคลื่อนไหวได้ยังไงกัน?”
“หรือว่า…ความจริงแล้วในร่างกายของเธอถูกติดตั้งไขลานไว้แต่แรกแล้ว พอเราเดินเข้าไปหาเพราะเห็นเธอกวักมือเรียก ก็จะไปกระตุ้นการเปิดปิดไขลานโดยอัตโนมัติงั้นหรอ? แต่ถ้าเป็นกับดัก มันจะไม่เป็นการพึ่งโชคมากเกินไปหน่อยหรอ! นอกจากว่ามันจะเดาได้แต่แรกแล้วว่าต้องมีใครเข้าใกล้เพดานของมันอย่างนี้ แถมคนคนนั้นจะต้องสำรวจอย่างละเอียดผิดปกติ ขณะเดียวกันก็ต้องรับประกันว่าหลังจากเห็นศพนี้ คนคนนั้นจะเข้ามาสำรวจอย่างไม่ลังเล…
หลิงม่อจ้องมองศพอยู่นานสองนานด้วยสายตาสับสน อยู่ๆ เขาก็กระดกคิ้ว “หื้ม?” เขาชะโงกเข้าไป และยื่นมือไปที่ดวงตาของศพโดยตรง…ในระหว่างนี้ ลำคอและแขนขาทั้งสี่ของศพศพนี้ถูกหนวดสัมผัสสีแดงที่มองไม่เห็นรัดไว้อย่างแน่นหนาแล้ว…ทำอย่างนี้ก็เพื่อยืนยันว่าหลิงม่อจะปลอดภัย ในวินาทีที่เขาลงมือ หนวดสัมผัสเหล่านี้พลันหนาขึ้นหนึ่งเท่า กลายเป็นโซ่พันธนาการมากมายหลายเส้น…
“ตามคาด!”
หลิงม่อหยิบใยแมงมุมบางๆ เส้นหนึ่งมามองใกล้ๆ จากนั้นก็พบว่าตรงแขนขาทั้งสี่ข้างรวมถึงขอบปากของศพหญิงสาวก็มีอีกหลายเส้น แม้ว่าใยแมงมุมเหล่านี้จะเล็กจนแทบมองตาเปล่าไม่เห็น แต่ความแข็งแรงทนทานกลับสูงจนน่าทึ่ง และการเคลื่อนไหวอันน่าขนลุกทั้งหมดของศพหญิงสาวเมื่อกี้ เห็นชัดว่าเกิดจากใยแมงมุมพวกนี้…
“เจ้าแมงมุมยักษ์นั่นทิ้งไว้งั้นหรอ? ไม่สิ…” หลิงม่อเงยหน้ามองข้างบนแวบหนึ่ง…เทียบกันแล้ว ตาข่ายใยแมงมุมชั้นนั้นกับใยแมงมุมเหล่านี้ แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด…หากดูจากภายนอกอย่างเดียว ความหนาบางของตาข่ายใยแมงมุมรวมถึงสี แตกต่างจากใยแมงมุมเหล่านี้มาก นอกจากนี้ ใยแมงมุมเหล่านี้ยังมีกลิ่นอายอะไรบางอย่างจางๆ อยู่อีกด้วย ซึ่งนี่ทำให้หลิงม่อนึกถึงบางคำขึ้นมาทันที : ของใหม่…
“ก็หมายความว่า ใยแมงมุมพวกนี้เพิ่งถูกพ่นออกมาได้ไม่นาน…ถ้าอย่างนั้นหากบวกรวมกับการเคลื่อนไหวของศพเมื่อกี้…” หลิงม่อลอบกวาดมองรอบข้างอย่างเงียบงัน เห็นชัดว่า ท่ามกลางศพกองพะเนินเหล่านี้ มีตัวหนึ่งหนึ่งที่สามารถขยับตัว และกำลังลอบหาโอกาสเล่นงานเขาอยู่ในที่ลับ…
“สิ่งที่ทำอย่างนี้ได้ คงมีแต่เจ้าสิ่งนั้นเท่านั้นสินะ…ผลงานสำเร็จ!”
หลิงม่อแค่นเสียงเย็นชา เขายังไม่ทันตามหาอีกฝ่ายเจอ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นฝ่ายมาหาเขาก่อน…แต่โชคดีที่ก่อนจะเผชิญหน้ากัน หลิงม่อก็ได้รู้รายละเอียดบางส่วนเกี่ยวกับตัวมันแล้ว…มันคือสิ่งที่รู้จักอำพรางตัวเป็นเลิศ เจ้าเล่ห์เพทุบาย ทั้งยังพ่นใยเป็นอีกต่างหาก…เมื่อคำนึงว่ารูปร่างภายนอกของมันคงไม่ได้พิเศษอะไรมาก ดังนั้นผลงานสำเร็จชิ้นนี้ อย่างมากก็น่าจะเป็นเจ้าแมงมุมหัวคนในเวอร์ชั่นซอมบี้…
“เด็กโง่พูดถูกแล้ว ซอมบี้ตัวนั่นกับเจ้าแมงมุมหัวคนนั่น กำลังคิดหาทางสร้างร่างรวมขึ้นมา…”