แปลกใจที่หลินฟานยอมเข้าร่วมการแข่งขันแบบจำลองทางคณิตศาสตร์?

และอะไรคือลงแข่งเล่นๆ?

หลินฟานจะไปรังแกนักศึกษาคนอื่นงั้นหรอ?

สองสามคำที่หูชวน คณบดีแผนกคณิตศาสตร์พูดออกมา ทำให้จางหยงมึนงงอย่างสมบูรณ์

นี่…

สถานการณ์ตอนนี้มันยังไงกันแน่?

แต่อย่างไรก็ตาม หูชวนก็ไม่ได้อธิบายอะไรต่อ

เพราะในตอนนี้ เซินเหลียงอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเจียงเป่ยก็ได้เดินเข้ามาพอดี

หูชวนจึงรีบทำการทักทายเขาและเชิญให้เซินเหลียงนั่งลงในที่นั่งหลัก

แต่เซินเหลียงก็ได้พูดขัดขึ้นมาในทันที“วันนี้เป็นเรื่องใหญ่ในแผนกคณิตศาสตร์ของคุณ และคุณก็เหมาะกับการเป็นผู้นำเกี่ยวกับเรื่องนี้มากกว่า เพราะฉะนั้นแล้ว คุณสมควรจะได้นั่งในที่นั่งหลัก ไม่ใช่ฉัน”

หูชวนหยุดคิดอยู่ชั่วขณะนึง และเขาก็นั่งตรงที่นั่งหลักตามที่เซินเหลียงเป็นคนบอก

จากนั้นสายตาของเขาก็มองออกไปนอกประตูเป็นครั้งคราว ราวกับว่าเขากำลังรอใครซักคนอยู่ จึงยังไม่ได้ประกาศเริ่มการประชุมขึ้นสักที

จนศาสตราจารย์คนหนึ่งได้พูดเร่งขึ้นมา “คณบดีหู รีบเริ่มการประชุมเถอะ ฉันยังมีเรื่องที่ต้องไปจัดการอยู่อีกมากมาย”

“ใช่ ฉันก็ยังมีโครงการที่ต้องไปทำอยู่เหมือนกัน”

……

หูชวนเห็นศาสตราจารย์หลายคนเริ่มไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ

จากนั้นเขาก็ได้กระแอมออกมาแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น เราเริ่มประชุมกันเลยแล้วกัน”

“ดูเหมือนว่าจะยังมีอีกหลายคนเลย ที่อาจจะไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้มีคนในมหาวิทยาลัยของเราแก้ไขปริศนาของโจวได้แล้ว”

ทันทีที่คำกล่าวนี้ถูกพูดออกมา อาจารย์ที่กำลังจะบ่นอย่างไม่พอใจก็ปิดปากเงียบในทันที

และทันทีหลังจากนั้น ห้องประชุมทั้งห้องก็ได้เดือดพล่านกันไปหมด

ถึงบางคนในที่นี้ อาจจะมีคนที่ไม่ใช่อาจารย์หรือคณบดีในแผนกคณิตศาสตร์ก็ตาม

แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าปริศนาของโจวนั้นคืออะไร

ถ้าสามารถแก้ไขปริศนาของโจวได้สำเร็จ ก็สามารถพูดได้เลยว่าวงการคณิตศาสตร์นั้นได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมาก!

แถมก้าวที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ยังเเป็นก้าวที่เกิดขึ้นจากคนของมหาวิทยาลัยเจียงเป่ยของเรา!

นี่มันน่าตื่นเต้นมากๆเลยนะ!

“คณบดีหู ศาสตราจารย์คนไหนงั้นหรอ ที่สามารถแก้ไขปริศนาของโจวได้สำเร็จ”

“ขอโทษนะ คณบดีหู เขาคนนั้นตอบถูกจริงๆใช่มั้ย”

“และคำตอบเหล่านั้นได้ผ่านการตรวจสอบมาหรือยัง”

……

คำถามมากมายได้ผุดขึ้นมาเป็นชุดเหมือนกับลูกกระสุนปืนใหญ่

คณาจารย์ที่เป็นเหมือนกับสุภาพบุรุษมาโดยตลอด แต่ตอนนี้พวกเขากับเหมือนพวกที่กำลังคลั่งลัทธิอะไรบ้างอย่างอยู่ และได้ตะโกนออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน

จากนั้นหูชวนก็พูด “ตอนที่เขาคนนั้นกำลังแก้ปริศนาของโจวอยู่ ฉันและอาจารย์อีกหลายคนก็ได้ทำการตรวจสอบการคำนวณอยู่ด้วยกัน แล้วจึงรวบรวมเป็นเอกสารและส่งไปที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน”

“และวันนี้ มหาวิทยาลัยพรินซ์ตันก็ได้ตอบอีเมลกลับมาว่าคำตอบที่ส่งไปนั้นถูกต้องทั้งหมด!”

“ซึ่งในเวลาเดียวกันกับตอนนั้น องค์การคณิตศาสตร์โลกก็ได้ส่งคำเชิญมาให้กับเรา โดยหวังว่าผู้ที่แก้ปริศนาของโจวได้ จะมาที่เพรสตันด้วย เพราะเขาต้องการจะสัมมนาเกี่ยวกับเรื่องนี้!”

ขณะที่หูชวนกำลังพูด น้ำเสียงของเขาเองก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก จนยากที่จะปกปิดมัน

เพราะในเรื่องของคณิตศาสตร์ เพรสตันนั้นถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัยอะไรเลย

และการที่นักนักคณิตศาสตร์ได้ไปสัมมนาที่เพรสตัน ก็นับเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจสูงสุดเลยเช่นกัน

การประชุมครั้งนี้เป็นงานประชุมที่ใหญ่มาก และแทบจะใหญ่ที่สุดในบรรดางานประชุมคณิตศาสตร์ทั้งหมด!

เรื่องนี้เป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับทุกคน เป็นเกียรติที่สูงที่สุดเลยก็ว่าได้!

“การประชุมใหญ่ที่เพรสตัน?”

“โอ้พระเจ้า!”

“ท่านคณบดีหู ได้โปรดบอกกับฉันที ว่าใครในโลกนี้ที่เป็นคนไขปริศนาของโจวได้?”

……

หูชวนกล่าว “คนที่ตอบปริศนาของโจวได้ก็คือ…หลินฟาน!”

“อะไรนะ!!”

ทันทีที่หูชวนพูดจบ มันก็เกิดความโกลาหลในห้องประชุมแห่งนี้ขึ้นทันที

ทุกคนที่อยู่ในห้องทั้งหมดต่างก็ตกตะลึงกันเป็นอย่างมาก และในหมู่ของพวกเขานั้น ได้มีดวงตาคู่หนึ่งเบิกโตมากกว่าใครอื่น นั่นก็คือดวงตาของจากหยงนั่นเอง

เขาพึ่งได้ยินอะไร

หลินฟานเป็นคนที่แก้ปริศนาของโจวได้หรอ?

นักศึกษาปริญญาตรีคนนั้นน่ะหรอ?

ตอนนี้จางหยงเริ่มเข้าใจแล้ว ว่าทำไมหูชวนถึงได้บอกว่าหลินฟานเข้าร่วมการแข่งขันทางคณิตศาสตร์แบบเล่นๆเท่านั้น

และที่บอกว่า ถ้าหลินฟานไปแข่งขันต่อที่เมืองหลวง ก็เหมือนกับการไปรังแกนักศึกษาคนอื่น เขาก็เข้าใจความหมายนั้นแล้วเช่นกัน

เพราะถ้าคนที่แก้ไขปริศนาของโจวได้ ไปเข้าร่วมการแข่งขันทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนระดับมัธยมปลายและนักศึกษาระดับมหาลัยแล้วละก็!

จะไม่ให้เรียกว่ารังแก แล้วจะให้เรียกว่าอะไรล่ะ?

หูชวนพูดต่อ “จุดประสงค์หลักของการประชุมในวันนี้คือการเตรียมการสำหรับการไปบรรยายที่เพรสตัน”

“เรื่องนี้ ต้องรอให้หลินฟานมาก่อนแล้วค่อยพูดคุยกันอย่างช้าๆจะดีกว่า…”

จากนั้นเขาก็เหลือบมองดูเวลาอีกครั้งแล้วพูดว่า “บางที ที่หลินฟานมาช้าคงเพราะติดธุระบางอย่างอยู่ ทุกคนโปรดรอกันสักครู่ ฉันจะโทรไปถามเขาให้”

หลังจากพูดจบ หูชวนก็ลุกออกไปและกดไปที่โทรศัพท์

ในตอนนี้ หลินฟานได้ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียก่อนจะกดรับโทรศัพท์

“หลินฟาน นายเห็นข้อความที่ฉันบอกว่าให้นายมาที่ห้องประชุมแล้วหรือยัง” หูชวนกล่าว

“ประชุม? ประชุมอะไรครับ?”หลินฟานพูดด้วยความงุนงง

“ก็เรื่องปริศนาของโจวที่นายเป็นคนแก้ไง ตอนนี้ได้ถูกยืนยันแล้วว่าคำตอบทุกอย่างนั้นถูกต้อง และตอนนี้สหภาพคณิตศาสตร์นานาชาติ ก็ส่งคำเชิญให้นายไปที่เพรสตันและเพื่อจัดการบบรยายครั้งใหญ่ขึ้นมา!” หูชวนกล่าว

แม้ว่าเขาจะพึ่งพูดประโยคนี้ไปแล้วเมื่อครู่นี้ก็ตาม

แต่เมื่อหูชวนพูดซ้ำอีกครั้ง เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น

“งานสัมมนาที่เพรสตัน? ผมไม่อยากไป” หลังจากที่หลินฟานพูดจบ เขาก็กดวางสายแล้วผล็อยหลับไปอีกทันที

ถึงแม้ตอนนี้หลินฟานกำลังงัวเงียอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้ตอบไปอย่างส่งๆ

เพราะถึงเขาจะอยู่ในสภาวะตื่นเต็มที่ หลินฟานก็คงจะตอบไปแบบนี้เช่นเดียวกัน

ไปบรรยายที่เพรสตันอะไรกัน?

ในหัวของหลินฟาน นี่มันแย่ยิ่งกว่าการไปแข่งต่อที่เมืองหลวงซะอีก!

เพราะเพรสตันนั้นอยู่ไกลกว่าเมืองหลวงอย่างมาก!

และนอกจากนี้ เขาจะต้องเจอกับคำถามมากมายจากชาวต่างชาติด้วยแน่นอน

เขาไม่รู้สึกสนใจเรื่องพวกนี้เลย…

หลังจากที่หูชวนถูกวางสาย เขาก็อยู่ในอาการตกตะลึงไปสักพัก

และตอนนี้เขาคงจะมึนงงอยู่ไม่น้อยเกี่ยวกับคำตอบของหลินฟาน

เมื่อผ่านไปครู่หนึ่ง หูชวนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรไปหาหลินฟานเพื่อที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง

แต่คำตอบที่หูชวนได้ยินกลับมา ก็เป็นแค่เสียงตัดสายเพียงเท่านั้น

หูชวนรู้สึกเสียใจอยู่สักพักก่อนจะเดินไปยังที่นั่งของเขา

“คณบดีหู หลินฟานจะมาถึงหรือยัง” ศาสตราจารย์คนหนึ่งรีบถามขึ้นมา เพราะเขาแทบจะรอไม่ไหวแล้ว ที่จะได้เห็นคนที่ไขปริศนาของโจวด้วยสายตาของตัวเอง

จากนั้นหูชวนก็ได้ตอบไปอย่างสับสน ” เขาบอกฉันว่า เขาจะไม่ไปงานสัมมนาที่เพรสตัน”

ชืออออ!

ทั้งห้องประชุมได้เงียบลงทันที

ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความสับสน

นี่มันน่าตกใจยิ่งกว่าการได้ยินว่ามีใครซักคนที่แก้ไขปริศนาของโจวได้เสียอีก!