ตอนที่ 78 : ถ้าต้องการฟังบรรยายจริงๆก็มาที่เจียงเป่ยสิ

เศรษฐีผู้ร่ำรวย เริ่มจากการได้รับซองแดง 7 พันล้านซอง

งานสัมนาของเพรสตัน เป็นเวทีที่นักคณิตศาสตร์เกือบทุกคนใฝ่ฝันที่จะได้ไป

แต่…

หลินฟานปฏิเสธที่จะไป?

ผ่านไปไม่นานก็มีคนพูดขึ้น “หลิน…หลินฟานยังเด็กอยู่หนิ บางทีเขาอาจจะยังไม่รู้ว่าการที่ได้ไปสัมมนาที่เพรสตันคืออะไร เขาเลยปฏิเสธออกมา”

จากนั้นทุกคนในห้องประชุมก็พยักหน้าเห็นด้วย

อธิการบดีเซินเหลียงพูด “คณบดีหู คุณสามารถอธิบายให้หลินฟานเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับ การสัมมนาที่เพรสตันในภายหลังได้ไหม ถ้าหลินฟานรู้ถึงความสำคัญและประโยชน์ของการได้ไปสัมมนาที่เพรสตันแล้ว บางที ฉันคิดว่า… เขาน่าจะตอบตกลงที่จะไปที่นั่นอย่างแน่นอน ”

จางหยงที่นั่งอยู่ข้างๆนั้น ก็ได้พยายามที่จะพูดออกมา

สิ่งที่เขาต้องการจะพูดคือ: หลินฟานจะไม่ยอมไปอย่างแน่นอน!

เพราะไม่นานมานี้จางหยงเองก็พึ่งจะพูดอะไรทำนองนี้ให้หลินฟานฟังเช่นกัน 

เพียงแต่ว่าตอนนี้ แค่เปลี่ยนจากการไปที่เมืองหลวง เป็นการไปสัมมนาที่เพรสตันแทนเท่านั้น

ไม่นานนัก การประชุมของวันนี้ก็เป็นอันจบลงแล้ว จากนั้นหูชวนเองก็รีบไปที่หอพัก 104 ด้วยตนเองทันที

ซงหยี่,เจิ้งจินเป่า,หม่าจง และคนอื่นๆต่างก็จ้องมองเมื่อเห็นหูชวนเข้ามา

นี่คือคณบดีของมหาวิทยาลัยของเรา!

พวกเขาจะได้เห็นหูชวนในเฉพาะวันที่มีพิธีเปิดการประชุมใหญ่ๆเท่านั้น

แต่ตอนนี้ ทำไมเขาถึงมาที่หอพักนักศึกษาของเรากัน!

จากนั้นหูชวนก็พูดขึ้น “หลินฟาน ฉันยังไม่ได้บอกนายให้ชัดเจนในสายตอนนั้น เรื่องที่องค์กรคณิตศาสตร์โลกต้องการเชิญนายให้ไปจัดงานสัมมนาในเพรสตัน”

“การสัมมนาครั้งนี้ใหญ่มาก มันแทบจะเป็นการสัมมนาที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้!”

“ และเมื่อถึงตอนนั้น นายก็แค่แสดงขั้นตอนการแก้ปัญหาโดยละเอียด และเผยแผร่แนวคิดปริศนาของโจวต่อหน้านักคณิตศาสตร์ที่มีชื่อเสียงทั่วโลก เท่านั้นเอง!”

“ที่ผ่านมา มีชาวจีนไม่ถึง 10 คนที่เคยได้ไปจัดการสัมมนาในเพรสตัน!”

หูชวนพูดประโยคนี้ออกไปด้วยน้ำเสียงที่มีแต่ความตื่นเต้น

เขาตื่นเต้น ตื่นเต้นจนถึงที่สุด!

ราวกับว่าเป็นเขาเองที่กำลังจะได้ไปจัดการสัมมนาเพรสตัน

อย่างไรก็ตาม…

หลินฟานที่กำลังหาวออกมาอยู่ ก็พูดว่า “งั้นหรอ แต่ผมไม่ได้ต้องการไปที่เพรสตันเลย”

เมื่อประโยคนี้ได้พูดออกมา ก็เหมือนกับมีน้ำเย็นๆเทลงมาที่หัวของหูชวน

หม่าจง,ซงหยี่และเจิ้งจินเป่า ที่กำลังฟังอยู่ ก็ประหลาดใจมากเช่นกัน

พวกเขาได้ยินไม่ผิดใช่ไหมที่หูชวนบอกว่ามีคนจีนไม่ถึง 10 คน ที่เคยได้ไปจัดการสัมมนาเพรสตัน

งั้นก็แสดงว่า ถ้าหากหลินฟานตกลงที่จะไปที่เพรสตันแล้วล่ะก็ เขาก็จะได้เป็นหนึ่งใน 10 คนนั้น!

1 ใน 10 คนของจีน!

แต่หลินฟานก็เลือกที่จะปฏิเสธออกไป!

หูชวนกังวลกับเรื่องนี้มากและเริ่มทำการชักชวนเขาอีกครั้ง

และในที่สุดหลินฟานก็หาทางออกที่เขาพอจะทำได้ จากนั้นเขาก็พูดขึ้นทันที “ถ้าพวกเขาต้องการฟังบรรยายจริงๆ ก็มาฟังที่เจียงเป่ยสิ ผมจะบรรยายให้พวกเขาฟังในเจียงเป่ยเอง ถ้าหากพวกเขาไม่ต้องการจะมาที่นี่ งั้นก็ลืมเรื่องนี้ไปได้เลย”

ตอนนี้หูชวนรู้สึกหมดหนทางอย่างมาก เขาไม่รู้ว่าจะเกลี้ยกล่อมหลินฟานยังไงดี

หลังจากที่ฟังหลินฟานพูดจบ เขาก็เดินออกไปจากห้องทันที

“ตืดดด!”

และทันใดนั้น โทรศัพท์ของหูชวนก็ได้มีเสียงดังขึ้นมา

ซึ่งนั่นก็คือสายเรียกเข้าจากอาจารย์ใหญ่เซินเหลียง

“หลินฟานตกลงจะไปที่เพรสตันเพื่อบรรยายหรือเปล่า” เซินเหลียงถาม

เห็นได้ชัดว่าเขาก็กังวลกับเรื่องนี้มากเช่นกัน

เพราะถ้าเขายอมไป ก็จะสามารถพูดอวดเรื่องนี้ได้ ว่าตัวแทนที่ไปบรรยายมาจากมหาวิทยาลัยเจียงเป่ยของเรา

หูชวนก็ถอนหายใจออกมาก็จะตอบ “ดูเหมือนหลินฟานจะไม่ต้องการไป”

หลังจากหยุดชั่วคราว หูชวนก็พูดต่อ “แต่หลินฟานบอกว่า ถ้าใครต้องการที่จะฟังบรรยายก็ให้มาที่เจียงเป่ยเอาเอง”

ตอนนี้เสียงในโทรศัพท์ได้เงียบไปครู่หนึ่ง

หลังจากนั้นไม่นาน เซินเหลียงก็พูดขึ้นมา “อันดับแรกเลย ลองแจ้งความต้องการของหลินฟานไปยังองค์การคณิตศาสตร์โลกก่อน ถ้าหากพวกเขาเห็นด้วยก็คงเป็นเรื่องที่ดีสำหรับทางเรา”

หูชวนเข้าใจดี ว่าเซินเหลียงหมายถึงอะไร

แต่การจะให้นักคณิตศาสตร์ที่มีชื่อเสียงขนาดนั้นมาที่เจียงเป่ยในประเทศจีน คงเป็นเรื่องที่ยากเกินไป!

หูชวนพูด “ฉันจะลองแจ้งไปยังองค์กรคณิตศาสตร์โลกตามที่คุณบอก”

…………

หลินฟานเป็นกังวลอยู่พอสมควรเกี่ยวกับเรื่องที่หูชวนมาชักชวนเขาถึงที่หอพักในมหาวิทยาลัย ดังนั้นเขาจึงได้ขับรถลัมโบร์กินี่มุ่งหน้าไปยังชุมชนยี่เกอ

ณ ห้อง 2501 ที่ชุมชนยี่เกอ

ดวงตาที่สวยงามของหวงหลิงตอนนี้มีแต่สีแดงและมีน้ำตาไหลออกมาราวกับสายน้ำ

เนื่องจากวันนี้ หวงหลิงมีเที่ยวบินไปยังเกาะแห่งหนึ่ง

แต่ในขณะที่อยู่ในห้องวีไอพี ชาวเกาะที่กำลังกินไอศกรีมอยู่ก็ได้บังเอิญมาชนเข้ากับเธอ

ซึ่งมันไม่ใช่ความผิดของหวงหลิงเลย

แต่ในฐานะของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เธอก็ต้องพูดขอโทษออกมาและทำความสะอาดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง

ซึ่งตอนนั้นชาวเกาะก็ยังยิ้มให้และแสดงความเข้าใจในตัวของหวงหลิง

แต่เมื่อหวงหลิงจากไป ชาวเกาะก็ไปหาหัวหน้าสายการบินและทำการยื่นเรื่องร้องเรียนหวงหลิง

และหลังจากนั้น หัวหน้าก็มาวิพากษ์วิจารณ์ใส่หวงหลิงอย่างรุนแรง

และเพื่อตอบสนองความพึงพอใจของชาวเกาะคนนั้น หัวหน้าจึงได้ทำการยกเลิกเที่ยวบินของหวงหลิงทันที และหักเงินอีก 10% จากโบนัสของเธอในเดือนนี้ ฉิวจือเฉียนจึงลูบหลังของหวงหลิง เพื่อให้เธอรู้สึกผ่อนคลายแล้วได้พูดว่า “ชาวเกาะพวกนี้ช้างร้ายกาจจริงๆเลย! ไม่เป็นไรนะหวงหลิง ไม่ต้องร้องไห้แล้วนะ” 

เห็นได้ชัดว่าเธอรู้จักนิสัยของชาวเกาะพวกนี้เป็นอย่างดี

หลังจากหยุดไปชั่วคราว เธอก็ได้พูดต่อ “หวงหลิง ถ้าเรื่องเป็นอย่างนี้แล้ว เธอก็ลาออกมาเหมือนกับฉันดีกว่ามั้ย”

“ให้ฉันลาออกเหมือนกับเธองั้นหรอ ?” จากนั้น ก็ดูเหมือนว่าหวงหลิงจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และใบหน้าที่สวยงามของเธอก็แดงก่ำขึ้นมาทันที

ฉิวจือเฉียนพยักหน้าแล้วพูด “เธอเองก็ประทับใจในตัวของหลินฟานไม่ใช่หรอ ถ้าอย่างนั้นก็แค่… ”

“แต่งงานและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”

“บางทีในอนาคต ถ้าเธอยังทำงานอยู่ที่นั่น เธอก็อาจจะเจอกับคนที่เธอรักมาก และก็อาจจะมีแรงบันดาลใจในการทำงานเก็บตังเอาไว้ก็จริง”

“แต่กว่าจะถึงวันที่มีเงินมากมายขนาดนั้น ตอนนั้นเธอก็คงจะแก่แล้วล่ะ แล้วเธอจะรู้ได้ยังไงว่าเขาจะไม่ทิ้งเธอไป………… ”

ฉิวจือเฉียนจับมือของหวงหลิงและพูดคุยอยู่เป็นเวลานาน

และสุดท้ายฉิวจือเฉียนก็พูดว่า “หวงหลิง เธอคิดว่ายังไงบ้าง”

หวงหลิงได้กัดริมฝีปากล่างของเธอเบา ๆ

แต่หลังจากลังเลอยู่นาน ในที่สุดเธอก็ได้พยักหน้าลงเบาๆ

“พรึบ!”

ทันใดนั้นประตูก็ถูกเปิดมาเข้า

และหลินฟานก็ได้เดินเข้ามาข้างในบ้าน

ตแนนี้ หวงหลิง, ฉิวจือเฉียนและหลินฟานได้มองหน้ากันไปมา

หวงหลิง ดูเหมือนกำลังคิดที่จะทำสิ่งไม่ดี และใบหน้าที่สวยงามของเธอก็แดงขึ้นทันที

ฉิวจือเฉียนไม่ได้คิดอะไรมาก จากนั้นเธอก็จับมือของหวงหลิงแล้วเดินไปหาหลินฟานอย่างช้าๆ และได้วางมือของหวงหลิงไว้บนมือของหลินฟาน

ซึ่งในคืนนั้น

ก็เกิดปรากฏการณ์แผ่นดินไหวบนเตียงอย่างรุนแรง