บทที่ 689 ทวงคืนความยุติธรรม / บทที่ 690 ขอโทษกงซวี่

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 689 ทวงคืนความยุติธรรม

กงซวี่กำหมัดจนกระดูกลั่น สูดหายใจเฮือกหนึ่ง ในที่สุดก็ถอยกลับไป และเหวี่ยงแฟนคลับคนนั้นลงบนพื้นอย่างแรง จากนั้นกลับไปนั่งข้างเยี่ยหวันหวั่นเงียบๆ

สื่อมวลชนเห็นกงซวี่ถูกห้ามไว้ ก็ล้วนมีสีหน้าเสียดาย…

ในขณะเดียวกัน สายตาของสื่อมวลชนก็จับอยู่บนร่างผู้จัดการอายุน้อยด้านข้างกงซวี่

คนนี้เป็นใครกันแน่ ในสถานการณ์เมื่อครู่ถึงขั้นดึงกงซวี่กลับไปได้…

พวกสื่อคล้ายกับพบตัวจุดระเบิดอันใหม่

มีนักข่าวโพล่งขึ้นว่า “ผู้อำนวยการเยี่ย ขอถามคุณสักหนึ่งคำถามได้ไหม!”

เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “ได้ครับ”

นักข่าวใช้น้ำเสียงคมกริบ “ผู้อำนวยการเยี่ย สองทุ่มของเมื่อวานคุณกดรีเว่ยป๋อของกงซวี่ แสดงว่าอยู่ข้างเดียวกับเขา นี่หมายความว่าคุณเห็นด้วยและสนับสนุนสิ่งที่กงซวี่ทำใช่ไหม!”

กงซวี่มองแขนที่ได้รับบาดเจ็บของผู้จัดการด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ตอนนี้ได้ยินนักข่าวพุ่งเป้าไปที่ตัว เยี่ยไป๋ ก็พลันขมวดคิ้ว ใบหน้าไม่น่ามองขึ้นกว่าเดิม

สีหน้าเยี่ยหวันหวั่นไม่เปลี่ยนแปลง ให้คำตอบชัดเจนตรงไปตรงมา “ครับ”

นักข่าวได้ยินก็หัวเราะร่วน “คนประเภทเดียวกันก็มาอยู่ด้วยกันจริงๆ ไม่น่าล่ะตอนนั้นกงซวี่ถึงได้เลือกคุณเป็นผู้จัดการของตัวเอง ที่แท้เป็นหนูตะเภากลุ่มเดียวกันนี่เอง! ขายอาชีพและจรรยาบรรณตัวเองเพื่อเงินทองกับอำนาจ นี่คือความเป็นมืออาชีพในฐานะผู้จัดการของคุณเหรอ?”

นักข่าวคนอื่นพากันสนับสนุน “คุณเป็นสุนัขรับใช้ให้คนอย่างกงซวี่ คุณรู้สึกผิดต่อตัวเองบ้างไหมคะ?”

“ในเมื่อคุณเป็นผู้จัดการของกงซวี่ ก็อย่าเอาแต่หลบด้านหลังไม่พูดอะไร ต้องให้คำอธิบายกับสื่อมวลชน แฟนคลับ และประชาชนทุกคน! มอบความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหายสิ!”

กงซวี่กำหมัด ตะโกนขึ้นด้วยความโกรธ “พวกคุณอย่ามากระพือข่าวมั่วๆ ตรงนี้ ผมขอเตือนพวกคุณเลยนะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับคนอื่น! อยากจะหาที่ลงก็มาลงกับผมนี่!”

กงซวี่กำลังจะพูดต่อ เยี่ยหวันหวั่นก็วางมือลงบนไหล่เขา กดคำพูดต่อจากนั้นของเขากลับไป ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืน

พอเห็นเยี่ยหวันหวั่นลุกขึ้น กล้องทุกตัวก็จ่อมาที่เธอทันที

ตัวแทนของกงซวี่เตรียมจะยอมรับผิด แล้วพูดขอโทษแทนกงซวี่?

ปกติแล้วถ้านักแสดงรับมือไม่ได้ ก็มีแต่ต้องให้ต้นสังกัดออกหน้า

ถึงอย่างไรจากกระแสสังคม ถ้าเวลานี้ยังไม่ยอมพูดขอโทษอีกก็เท่ากับรอความตายแล้ว

ท่ามกลางสายตาทุกคน เยี่ยหวันหวั่นใช้สายตาเย็นชากวาดมองคนรอบๆ จากนั้นเอ่ยเน้นทีละคำ “เมื่อกี้มีเพื่อนๆ นักข่าวพูดถึงคำอธิบายกับความยุติธรรม ถูกต้องแล้ว ในงานแถลงข่าววันนี้ ผมต้องการทวงคืนความยุติธรรม ขอให้นักแสดงในสังกัดหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ นำโดยว่านชานชานและหลิงเส่าเจ๋อ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ให้อธิบายกับกงซวี่ และขอให้พวกคุณขอโทษกงซวี่ด้วย!”

พริบตาที่เสียงของเยี่ยหวันหวั่นขาดลง ในห้องโถงงานแถลงข่าวก็เงียบงัน เข็มตกก็ได้ยิน

สื่อมวลชนทั้งหมดต่างมีสีหน้าเหลือเชื่อ

เมื่อกี้ตัวแทนของกงซวี่…พูดว่าอะไรนะ?

เขาต้องการทวงคืนความยุติธรรม? เขาต้องการให้ว่านชานชานและหลิงเส่าเจ๋ออธิบายกับกงซวี่?

เขาถึงกับให้คนอื่นพูดขอโทษกงซวี่ด้วย?

คนคนนี้เสียสติไปแล้วหรือไง?

หยางจิ้นหยวนตื่นตกใจเช่นกัน โมโหจนลมออกหู มองเยี่ยหวันหวั่นที่ทำตามใจชอบพร้อมลดเสียงตวาดว่า “เยี่ยไป๋ บ้าไปแล้วเหรอ! นายพูดบ้าอะไรของนาย! รีบหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

ไม่ใช่แค่สื่อมวลชนกับผู้บริหารอย่างหยวนจิ้นหยาง กงซวี่ก็งงงันอยู่กับที่ด้วย

ถ้าวันนี้เยี่ยไป๋ยอมประนีประนอมเพราะแรงกดดัน เขาก็ไม่อาจพูดอะไรได้ แต่ยังไงเขาก็นึกไม่ถึงเลยว่าเยี่ยไป๋จะพูดแบบนี้…

—————————————————

บทที่ 690 ขอโทษกงซวี่

“โอ้โห! ถึงกับให้หลิงเส่าเจ๋อขอโทษกงซวี่เลยเหรอ บ้าไปแล้วรึไง ทำไมถึงมีคนหน้าไม่อายแบบนี้อยู่อีก?”

“ว่าแล้ว ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่หลิงเส่าเจ๋อโดนกงซวี่แกล้งเลยไม่พูดอะไร คนพวกนี้หน้าไม่อายเกินไปแล้ว!”

“ขนาดนักแสดงที่ถ่อมตัวอย่างหลิงเส่าเจ๋อยังถูกคนพวกนี้แกล้ง คนอื่นๆ ไม่รู้ว่าถูกกงซวี่ข่มเหงขนาดไหน!”

“ฉันว่า ครั้งนี้ถ้าลั่วเฉินออกหน้าปกปิดแทนกงซวี่จะต้องถูกกดดันมาแน่ มีใครไม่รู้บ้างว่ากงซวี่กับลั่วเฉินมีความสัมพันธ์เลวร้ายมาตลอด เขารังแกลั่วเฉินสารพัด จะช่วยลั่วเฉินทำไม พูดมาได้ไม่อายปาก อยากจะเห็นนักว่าเยี่ยไป๋นี่เตรียมแต่งเรื่องยังไง!”

คล้อยหลังคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น ในห้องโถงงานแถลงข่าวก็เกิดความวุ่นวาย ทุกคนด่าทออย่างบ้าคลั่ง

เยี่ยหวันหวั่นไม่พูดอะไร นั่งสีหน้าเฉยชาอยู่ที่นั่น นำแฟรชไดร์ฟอันเล็กๆ ออกมา เดินขึ้นเวที ก่อนเสียบมันเข้ากับคอมพิวเตอร์ “ต่อจากนี้ขอให้ทุกคนดูคลิปหนึ่ง”

คลิป?

เยี่ยไป๋จะทำอะไร?

ทุกคนกระซิบกระซาบพลางมองไป

“ใครจะรู้ล่ะ! ลองดูแล้วกัน!”

“ไม่น่าเชื่อว่ามาถึงขนาดนี้ก็ยังแถต่อได้!”

“จริงด้วย…”

เยี่ยหวันหวั่นคลิกที่ตรงกลางแถบสถานะ จากนั้นกดปุ่มเล่น มีคลิปฉายบนจอใหญ่ด้านหน้าทุกคน

‘กงซวี่! นายทำอะไรวะ!’

‘ตอนนี้ เสื้อผ้าชุดนี้เป็นของฉันแล้ว คุณชายคนนี้จะสาดลงบนชุดตัวเอง เกี่ยวอะไรกับนายด้วย นายแหกปากโวยวายอะไรฮะ?’

‘นาย…’

‘หา ฉันทำไม นายบอกไม่ใช่เหรอว่าชดใช้เงินให้ก็ได้แล้ว? ยังรออะไรอยู่ล่ะ ถอดสิ! เสื้อผ้าของคุณชายคนนี้ใส่แล้วสบายขนาดนั้นเลยเหรอ’

สิ่งที่เล่นอยู่ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่กงซวี่แกล้งนักแสดงคนอื่น และเป็นคลิปที่ว่านชานชานปล่อยลงในเวยป๋อ

พอเห็นคลิปนี้อีกครั้ง ความโกรธของทุกคนพลันปะทุขึ้นมาอีก

“ไอ้ผู้จัดการแซ่เยี่ยนี่คิดจะทำอะไรกันแน่ แกล้งคนอื่นขนาดนี้ยังไม่พอ ยังให้ทุกคนต้องนึกย้อนว่านักแสดงของเขาหน้าไม่อายขนาดไหนอีกเหรอ?”

“คุณเอาคลิปของว่านชานชานให้พวกเราดูอีกรอบแล้วจะมีความหมายอะไร ใครมันอยากจะเห็นหนังหน้าที่น่ารังเกียจของกงซวี่อีก!”

ขณะนักข่าวกำลังด่า ก็มีนักข่าวมากประสบการณ์ในกลุ่มพบจุดผิดปกติ “แปลกนะ คลิปนี้…เหมือนไม่ใช่อันเดียวกับที่ว่านชานชานอัปบนเวยป๋อ…”

“ทำไมถึงไม่ใช่ล่ะ ใช่ไม่ใช่เหรอ? เหมือนกันเป๊ะๆ นี่!”

“พวกคุณดูดีๆ สิ เนื้อหาเหมือนกัน แต่คนละมุม คลิปนี้คนถ่ายเป็นคนละคน นอกจากนี้เยี่ยไป๋ทำไมต้องเริ่มคลิปตรงกลางด้วย?” นักข่าวอายุมากมีสีหน้าสงสัย

“บางทีตอนนั้นอาจมีคนอื่นถ่ายไว้ด้วย แต่ว่าติดที่อำนาจของกงซวี่เลยไม่กล้าปล่อยอกมา แปลกตรงไหนกัน?”

ไม่ทันไรคลิปก็จบลง

เยี่ยหวันหวั่นกวาดมองทุกคนที่อยู่รอบๆ “เป็นคลิปนี้เองที่ตอกกงซวี่ไว้กับแท่นประหารของความผิดร้ายแรง ต่อจากนั้น คำให้การของว่านชานชาน หลิงเส่าเจ๋อ รวมถึงนักแสดงทุกคนของหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่บอกว่ามีหลักฐาน ก็ได้ทำลายคำอธิบายทั้งหมดของเรา คำด่าทอทั้งหมดและความโกรธบนอินเทอร์เน็ตก็เริ่มจู่โจมกงซวี่เป็นชุด!”

เยี่ยหวันหวั่นเว้นช่วงครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยต่อ “แต่ความจริงของเรื่องราวเป็นยังไงกันแน่ ดูเหมือนไม่มีคนคิดจะสืบหาอีกแล้ว เพราะพอทุกคนบอกว่าเขาทำผิดเกินให้อภัย อย่างนั้นเขาก็ต้องเลวทรามชั่วร้าย นี่ก็คือความจริง!”

……………………………………….