บทที่ 691 ความจริงของเรื่องราว / บทที่ 692 กลับตาลปัตร

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 691 ความจริงของเรื่องราว

พูดประโยคนี้จบ เยี่ยหวันหวั่นมองหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกรอบ

เสียงคลิกเมาส์ดังขึ้น ครั้งนี้เธอไม่ได้เล่นคลิปตรงกลาง แต่กดปุ่มเริ่มเล่นตั้งแต่ส่วนแรก

จากภาพในคลิปยังพอมองออกว่าเป็นกองถ่ายละครเรื่อง ‘มังกรผงาด2’ นักแสดงหลายคนของหวงเทียนรวมถึง หลิงเส่าเจ๋อและว่านชานชานกำลังล้อมวงซุบซิบกัน

หัวข้อพูดคุยล้วนเป็น ‘นักแสดงตกยุค’ ‘เอาขึ้นเวทีไม่ได้’ เยาะเย้ยลั่วเฉินสารพัด

ผู้ช่วยของลั่วเฉินคิดจะเข้าไปอธิบาย แต่ถูกลั่วเฉินห้ามไว้

ลั่วเฉินเดินไปตำแหน่งของตัวเองเงียบๆ แต่ในตอนนั้นเอง…

ในคลิปปรากฏวงกลมสีแดงวงหนึ่ง ตำแหน่งที่วงไว้เป็นขาของว่านชาชาน สื่อมวลชนจึงเห็นกันอย่างชัดเจนว่าวินาทีต่อมาว่านชานชานจงใจยื่นขาออกไปขัดลั่วเฉิน

กาแฟในมือลั่วเฉินกระฉอก สาดใส่เสื้อของหลิงเส่าเจ๋อโดยไม่ตั้งใจ

เรื่องที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น…ทำให้สื่อมวลชนที่เมื่อครู่อยู่ในอารมณ์คึกคักเงียบเป็นเป่าสาก ปากอ้าตาค้างกัน

ทุกคนไม่นึกว่าทุกสิ่งที่เฉินลั่วอธิบายบนเวยป๋อจะเป็นความจริง

คลิปสั้นๆ กลับเปิดโปงความจริงที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ทุกคนไม่นึกว่าความจริงจะเป็น…ว่านชานชานที่ภายนอกไม่เกรงกลัวอำนาจเป็นฝ่ายจงใจหาเรื่อง นักแสดงของหวงเทียนที่กล้าลุกขึ้นสู้ล้วนช่วยส่งเสริมเรื่องเลวร้าย ต่างเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด และหลิงเส่าเจ๋อผู้เสียหายซึ่งโดนหนักที่สุดกลับเป็นฝ่ายกลั่นแกล้งที่แท้จริง!

กงซวี่ซึ่งถูกสื่อมวลชน ชาวเน็ต แฟนคลับ และคนตามกระแสนับไม่ถ้วนด่ามาห้าวันเต็มก็แค่ทนมอง หลิงเส่าเจ๋อข่มเหงคนไม่ได้ จึงออกหน้าสะสางให้นักแสดงจากบริษัทตัวเอง

สิ่งที่กงซวี่ทำเป็นเรื่องเดียวกันแท้ๆ แต่ตอนนี้หลังจากดูคลิปด้านหน้าด้านหลังต่อกัน กลับทำให้ทุกคนรู้สึกแค่ว่าสะใจมาก

จนกระทั่งคลิปเล่นจบ ในห้องโถงงานแถลงข่าวก็ยังไม่มีใครส่งเสียงอะไรออกมา เงียบชนิดได้ยินเสียงเข็มตก

นักข่าวทุกคนหน้าแดง สบตากันยืนอยู่ที่นั่น ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรเลย…

พวกเขาถามหาความยุติธรรม ใช้ปากและปากกาด่าอยู่ด้านหลังกงซวี่มาหลายวัน สุดท้ายกลับด่าผิดคน?

ในทางตรงกันข้าม คนที่พวกเขาปกป้องสิเป็นคนไร้ยางอายที่แท้จริง เป็นคนชั่วที่ใช้อิทธิพลข่มเหงคนอื่นอย่างแท้จริง…

เยี่ยหวันหวั่นใช้สายตากวาดมองนักข่าวทุกคนรอบๆ เหมือนคมน้ำแข็ง “นี่คือความจริงที่พวกคุณปกป้องใช่ไหม? นี่คือความยุติธรรมที่พวกคุณถามหาไง! นี่คือคำอธิบายที่พวกคุณต้องการ! ไม่ทราบว่าพอใจกันหรือเปล่า?”

ได้ยินน้ำเสียงคมกริบของเยี่ยหวันหวั่น สีหน้าสื่อมวลชนต่างกระอักกระอ่วนกันเล็กน้อย…

“ทำ…ทำไมถึงเป็นแบบนี้…”

“อะแฮ่ม เข้าใจผิด…ที่แท้เป็นความเข้าใจผิด…”

นักข่าวคนที่โวยวายมากที่สุด ด่ากงซวี่เสร็จก็ด่าเยี่ยหวันหวั่นต่อเมื่อครู่นี้พึมพำว่า “แต่แบบนี้ก็ไม่ควรโทษพวกเรามั้ง? ใครจะรู้ว่าความจริงของเรื่องเป็นแบบนี้ล่ะ! ถึงยังไงพวกเราก็เป็นนักข่าว ไม่ใช่พวกตำรวจสักหน่อย ยังไงก็มีเวลาที่สะเพร่ากันบ้าง…”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินก็สาวเท้าเข้าหานักข่าวคนนั้นทีละก้าวๆ

“คุณ…คุณจะทำอะไรน่ะ?” ด้วยแรงกดดันที่รุนแรงเกินไปจากตัวอีกฝ่าย นักข่าวจึงถูกบีบให้ถอยหลังก้าวหนึ่ง

เยี่ยหวันหวั่นจ้องนักข่าว เอ่ยว่า “เหอะ ไม่ใช่ตำรวจ ไม่ใช่ตำรวจงั้นเหรอ ในเมื่อไม่ใช่ตำรวจ แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาปลุกระดมมวลชนตามใจชอบ ชักนำให้เกิดความรุนแรงทางอินเทอร์เน็ต ลงโทษนักแสดงที่บริสุทธิ์แทนตำรวจ แทนกฎหมาย!

เมื่อกี้คุณพูดนักพูดหนาไม่ใช่เหรอว่า คนคนหนึ่งมีอำนาจมากเท่าไร ก็บ่งบอกว่ามีความรับผิดชอบมากเท่านั้น?

ในเมื่อเป็นแบบนี้ ในฐานะสื่อ พวกคุณควบคุมเสียงมวลชน ควบคุมสิทธิ์ในการพูด ถึงขั้นควบคุมอนาคตนักแสดง การทวงคืนความจริงและสืบหาข้อเท็จจริงเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของพวกคุณไม่ใช่เหรอ?

แต่ว่าตอนนี้ อำนาจสาธารณะที่อยู่ในมือนักข่าวและสื่อกลับกลายเป็นอาวุธที่พวกคุณใช้เอาใจคน ใช้สร้างกระแส ใช้ทำร้ายคนอื่นตามอำเภอใจ!

พวกคุณเอาสิทธิ์นี้มาจากใคร?”

————————————————

บทที่ 692 กลับตาลปัตร

“เพื่อระบายอารมณ์ เกาะกระแส หรือถึงขั้นแค่เพราะเบื่อหน่าย พวกคุณใช้คำพูดเลวร้ายที่สุดทั้งหมดในโลกกับคนแปลกหน้าที่ตัวเองก็ไม่รู้จัก หลบอยู่อีกด้านหนึ่งของสายเน็ตแล้วคอยกระหน่ำคีย์บอร์ด ทำลายชีวิตคนอื่นด้วยมือตัวเอง

และพอความจริงปรากฏออกมา แค่พูดว่าเข้าใจผิด แค่พูดว่าสะเพร่า ก็ลบล้างทุกอย่างที่พวกคุณทำกับผู้เสียหายที่บริสุทธิ์ได้หมดแล้ว นี่คือท่าทีของคนเป็นสื่อเหรอ?

สื่อที่เลวร้ายแบบพวกคุณ คนที่เพิ่มความรุนแรงในอินเทอร์เน็ตโดยไม่รู้ผิดชอบชั่วดีแบบนี้ เป็นขยะ เป็นมอดแมลง เป็นขยะของสังคมรึเปล่า?

นักข่าวทุกท่าน ขอให้ทุกท่านที่อยู่รอบๆ ตอบคำถามของผมด้วย!”

แต่ละคำของเยี่ยหวันหวั่นคมกริบดุจคมมีด

“ผม…ผม…” นักข่าวคนนั้นละล่ำละลัก ถูกกดดันจนเหงื่อโซมศีรษะ พูดไม่ออกสักคำ

ทั่วบริเวณเงียบงสงัด ไม่มีนักข่าวคนไหนส่งเสียงอีก

กงซวี่มองหน้าของเยี่ยหวันหวั่นด้วยความงงงัน มองสีหน้าเย็นชาแต่กลับทำให้คนอื่นสบายใจของเธอ มองเธอใช้พลังของตัวเองคนเดียวลบล้างคำด่าเป็นหมื่นเป็นพันที่ต่อว่าเขา จิตใจก็พลุ่งพล่านอย่างไม่อาจควบคุมได้…

เยี่ยหวันหวั่นหยุดไปครู่หนึ่ง สุดท้ายเอ่ยว่า “ส่วนการกระทำที่นักแสดงของหวงเทียนอย่างว่านชานชานและหลิงเส่าเจ๋อใส่ร้ายกงซวี่ กวงเย่ามีเดียจะรักษาสิทธิ์ในการรับหน้าที่ดำเนินการทางกฎหมายจนถึงที่สุด”

ผู้บริหารของกวงเย่ามีเดียที่เหลือถึงค่อยได้สติในที่สุด

“เอ่อ…เรื่องที่เหลือพวกเราจะมอบให้ฝ่ายกฎหมายจัดการ งาน…งานแถลงข่าววันนี้จบลงเพียงเท่านี้…ถ้าทุกคนมีคำถามอะไรเดี๋ยวค่อยหาเวลาอื่น…”

“ทุกคนโปรดออกไปอย่างเป็นระเบียบด้วยครับ!”

หยางจิ้นหยวนมองดูใบหน้าที่ยังเยาว์ถึงขั้นยังเดียงสาอยู่บ้างของเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าตกใจ ภายนอกแสดงท่าทีชมเชย

ไม่ว่าอย่างไรเขาก็นึกไม่ถึงเลย ในสถานการณ์แบบนี้เยี่ยไป๋ยังเปลี่ยนทิศทาง ช่วยเหลือกงซวี่กลับมาได้ นอกจากนี้ยังทำให้สื่อทุกคนหมดคำพูดได้ด้วย

ความคิดของพนักงานคนอื่นในตอนนี้ก็ไม่ต่างกันเท่าไร…

พวกเขาจินตนาการออกว่า หลังจากเนื้อหาในการแถลงข่าววันนี้ถูกเผยแพร่ออกไปจะเกิดเหตุการณ์แบบไหนขึ้น…

“ผู้อำนวยการเยี่ยของเราร้ายกาจเกินไปแล้วมั้ง! ถึงกับเก็บไม้ตายที่เถียงไม่ได้แบบนี้ไว้ด้วย!”

“ฉันเข้าใจแล้ว ครั้งนี้ดูเหมือนหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คิดเล่นงานพวกเรา แต่ความจริงคือพวกเขาทุกคนถูกผู้อำนวยการเราเล่นงานแล้ว!”

“ครั้งนี้หวงเทียนซวยแน่ ว่านชานชานถูกถล่มแหง หลิงเส่าเจ๋อภาพลักษณ์เสียหาย นักแสดงที่เกี่ยวข้องด้วยอย่างน้อยก็มีสิบกว่าคน!”

“ไปเถอะ” ตอนที่เยี่ยหวันหวั่นมองกงซวี่กับลั่วเฉินซึ่งอยู่ด้านข้าง แววตาก็อ่อนโยนลงมาก

“อ้อ…” ผ่านไปนานกงซวี่ถึงค่อยได้สติกลับมา ผุดลุกขึ้น ตามหลังเยี่ยหวันหวั่นไปอย่างว่าง่าย ลั่วเฉินตามอยู่อีกด้านไปติดๆ สายตาจับอยู่บนร่างชายหนุ่มไม่ยอมละไปไหน

ตกดึก ในที่สุดผลลัพธ์ของงานแถลงข่าวเรื่อง ‘กงซวี่กลั่นแกล้งคน’ ที่ทุกคนจับตามองก็ถูกเผยแพร่ออกไป

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในงานแถลงข่าวถูกอัปโหลดลงอินเตอร์เน็ตอย่างครบถ้วน

หลังจากความจริงปรากฏ บนโลกอินเทอร์เน็ตโกลาหลไปหมด

หนังสือพิมพ์และนิตยสารหลายสิบสำนักที่ด่ากงซวี่ตามกระแส หลังงานแถลงข่าวจบลงก็รวมตัวกันแถลงขอโทษ เรื่องราวใหญ่โตมากที่สุดตั้งแต่โลกออนไลน์เคยมีมา

พาดหัวข่าวของรายงานข่าวเรื่องนี้หลังจากคดีพลิกคือ ‘ความรุนแรงบนอินเทอร์เน็ตเป็นการกลั่นแกล้งทางสังคมรูปแบบหนึ่ง’ ‘จุดจบของสื่อ: ผู้ถูกกลั่นแกล้งกลายเป็นผู้กลั่นแกล้ง’

สุดท้ายแม้แต่ความเห็นของคนทั่วไปที่มีต่อกงซวี่ก็กลับตาลปัตร พาดหัวข่าวกลายเป็น ‘คืนกงซวี่ตัวจริงที่สุดให้กับคุณ’ ‘กงซวี่: ดาราน้ำดีคนสุดท้ายของวงการบันเทิง’

……………………………………….