บทที่ 1105 โล่เพลิงโลกันตร์

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

ขณะที่หลิงม่อตั้งท่าหมายลงมือเต็มที่ ความรู้สึกถูกจ้องแบบนั้นพลันปรากฏอีกครั้ง…อีกทั้งครั้งนี้ หลิงม่อยังได้รับสัญญาณที่รุนแรงมากอีกด้วย…

แกกล้าหรอ!

“โย่!” แน่นอนว่าหลิงม่อย่อมเหยียดหยามการข่มขู่นี้…อย่าว่าแต่ตอนนี้มันยังตามมาไม่ถึงเลย ถึงมันจะอยู่ที่นี่แล้ว หลิงม่อก็ไม่มีทางยอมปล่อยพลังงานทางจิตมหาศาลอย่างนี้ให้หลุดมือไปแน่…

ทว่าในความเป็นจริง เขาเองก็สัมผัสได้ ว่าระยะห่างระหว่างซอมบี้ตัวนั้นกับพวกเขากำลังหดสั้นลงอย่างรวดเร็ว…

“น่าเสียดาย…แกคงจะมาช้าไป”

หลิงม่อแผ่หนวดสัมผัสออกไปอย่างไม่ลังเล จากนั้นก็พลันกำหมัดแน่น

เมื่อเขาทำอย่างนั้น สายตาที่จ้องมองเขาจากความมืดมิดคู่นั้น พลันพรั่งพรูความโกรธแค้น รวมถึงรังสีอำมหิตอันรุนแรงออกมา! ทว่าหลิงม่อกลับไม่ได้รับผลกระทบจาก “สายตา” ที่เต็มไปด้วยรังสีเข่นฆ่าของอีกฝ่ายซักนิด เขาเพียงมอง “ผลงานสำเร็จ” อย่างใจเย็นเท่านั้น

เมื่อหนวดสัมผัสนับร้อยเส้นที่โอบรอบตัวพลันหดรัด แล้วยังมีหนวดสัมผัสอีกมากมายทิ่มแทงเข้ามาในร่าง ซอมบี้พลังจิตตัวนี้พลันหดเกร็งร่างกาย และเริ่มกระตุกสั่น ถึงแม้ไม่รู้สึกเจ็บ แต่เมื่อเลือดค่อยๆ ถูกบีบเค้นออกจากร่างกายเรื่อยๆ ร่างกายของมันยังคงมีปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณ และเมื่อเลือดไหลมากขึ้น สายตาของมันก็เริ่มว่างเปล่าอย่างรวดเร็ว…

“ตอนนี้แหละ!”

หนวดสัมผัสหลายเส้นพลันพุ่งออกไป หนวดสัมผัสที่มีปุ่มดูดเหล่านี้ทันทีที่สัมผัสดวงแสงแห่งจิตของ “ผลงานสำเร็จ” ก็พลันเกาะหนึบทันใด การกระตุ้นครั้งนี้ทำให้ “ผลงานสำเร็จ” ได้สติชัดเจนอีกครั้ง แต่มันต่อต้านหนวดสัมผัสได้ไม่กี่ครั้ง ก็เริ่มมีอาการมึนเพราะเสียเลือดมากอีกครั้ง และในระหว่างที่พลังชีวิตและพลังงานทางจิตไหลออกจากร่างอย่างรวดเร็ว การต่อต้านของมันก็แปรเปลี่ยนเป็นอ่อนแอลงเรื่อยๆ จนสุดท้าย มันก็ตัวอ่อนแน่นิ่งไป

ขณะเดียวกัน สายตของหลิงม่อกลับเปลี่ยนเป็นเปล่งประกาย ร่างกายของเสี่ยวเฮยก็เริ่มจับตัวกันเป็นรูปร่างมากขึ้น…กระทั่งเมื่อ “ผลงานสำเร็จ” สิ้นลมอย่างแท้จริง ร่างกายท่อนบนของเสี่ยวเฮยก็เกือบสมบูรณ์แล้ว…เพียงแต่ตรงหน้าอกของมัน ยังคงมีหลุมที่ราวกับหลุมวนเปลวเพลิง ดูคล้ายจริงคล้ายไม่จริง…

สำหรับพลังที่ได้จากการกลายพันธุ์ ตอนนี้หลิงม่อยังคงอยู่ในระหว่างคลำทาง ความจริงแล้ว สุดท้ายเสี่ยวเฮยจะมีรูปร่างเป็นอย่างไร แม้แต่ตัวหลิงม่อเองก็ยังไม่รู้ แต่เวลานี้สิ่งที่สามารถดูออกก็คือ กลิ่นอายน่ากลัวที่แผ่ออกมาจากตัวเสี่ยวเฮยเข้มข้นขึ้นกว่าเมื่อกี้อย่างชัดเจน…นิ้วมือของมันมีเปลวเพลิงลุกโชนเป็นสายๆ เปลวเพลิงเหล่านี้ยืดยาวไปตามเส้นระหว่างนิ้ว ลากยาวไปจนถึงด้านหลังหลิงม่อ

หลังจากที่พลังงานทางจิตเหล่านี้รวมกลุ่มเป็นเปลวเพลิง หลิงม่อก็ค้นพบเรื่องน่าอัศจรรย์ใจอย่างหนึ่งทันที พลังงานเหล่านี้ไหลเข้าร่างเขา และจุดที่เขาถูกเส้นสาย “มัด” ไว้นั้น กลายเป็นวงแหวนไฟเหมือนตรงข้อมือ…

หลิงม่อยกสองมือขึ้นอย่างปากอ้าตาค้าง จากนั้นก็ลองเหวี่ยงหมัดดู…

ไม่มีปฏิกิริยา…

“เอิ่ม…วิธีใช้งานไม่เหมือนกับของเจ้าผลงานสำเร็จงั้นหรอ?”

พลังของเสี่ยวเฮยเปลี่ยนไป เห็นชัดว่าเป็นเพราะกลืนกินพลังจิตของ “ผลงานสำเร็จ” แต่นั่นไม่ไหมายความว่าพลังที่มันวิวัฒนาการขึ้นมาจะเทียบเท่ากับ “ผลงานสำเร็จ” ทว่าหลิงม่อรู้สึกได้รางๆ ว่าระหว่างพลังของพวกมันยังมีจุดที่คล้ายกันอยู่…

“ถ้าหากไม่ใช่โจมตี งั้น…”

หลิงม่อกัดฟัน จากนั้นก็ควบคุมหนวดสัมผัสรูปสสารเส้นหนึ่งให้พุ่งมาที่ข้อมือตัวเอง ความจริงแล้วเขาได้เตรียมตัวทำให้หนวดสัมผัสเส้นนั้นสลายหายไปตลอดเวลา แต่ที่ทำให้เขาตื่นตะลึงก็คือ ในเสี้ยววินาทีที่หนวดสัมผัสใกล้สัมผัสถูกเขา วงแหวนไฟวงนั้นพลันระเบิดออก โจมตีหนวดสัมผัสเส้นนั้นจางหายไปในทันใด!

“นี่มันทั้งโจมตีและป้องกันในหนึ่งเดียว!” หลิงม่อเบิกตากว้างอย่างตื่นเต้น ถึงแม้วงแหวนไฟไม่สามารถใช้โจมตีได้โดยตรง แต่ขอเพียงใช้หักล้างพลังงานของอีกฝ่ายได้ ย่อมต้องสร้างความเจ็บปวดสะท้อนกลับไปให้ศัตรูในระดับหนึ่งแน่นอน

“ยังมีอีก ลองอีกครั้งแล้วกัน…” หลิงม่อดึงดาบสั้นออกมาอีกครั้ง พลันพุ่งแทงไปที่ข้อมือตัวเอง เหมือนกับเมื่อกี้ เขาได้เตรียมหนวดสัมผัสไว้แล้ว เพื่อรอหากอีกเดี๋ยวดูท่าไม่ดี ก็จะโจมตีดาบสั้นให้ปลิวออกไปทันที หรือไม่ก็ดึงรั้งข้อมือตัวเองไว้ให้ทันเวลา

เมื่อกี้ตอนใช้หนวดสัมผัสยังดี แต่ตอนนี้พอจะหั่นข้อมือตัวเอง หลิงม่อก็อดตื่นเต้นไม่ได้…

“เกิดถ้ามือลื่นขึ้นมา ก็ให้พุ่งไปทางเจ้า ‘ผลงานสำเร็จ’ แล้วกัน…” หลิงม่อลอบคิดในใจ…

“เคร้ง!”

วงแหวนไฟพลันระเบิด ดาบสั้นราวกับฟันโดนเยื่อหุ้มบางๆ พลันชะงักงันไปครู่หนึ่ง ฉวยโอกาสนี้หลิงม่อดึงแขนตัวเองให้หยุด กางนิ้วทั้งห้าออก และใช้หนวดสัมผัสอีกเส้นหนึ่งรับดาบสั้นไป

“ฮู่ว…ท้าทายจริงๆ…ถ้าเป็นเมื่อก่อน สมควรให้พวกที่ชอบบ่นว่าชีวิตน่าเบื่อต้องการความท้าทาย ลองกรีดแขนตัวเองเล่นแบบนี้ดู รับรองว่าติดใจแน่นอน…” หลิงม่อขยับข้อมือเล็กน้อย แล้วค่อยรับดาบสั้นกลับมาถือ

ขณะที่วงแหวนไฟระเบิดมันไม่ได้สร้างผลกระทบใดๆ ให้กับข้อมือเขา ทว่าตอนที่ปะทะกับดาบสั้น กลับทำให้มือข้างที่ถือดาบรับรู้ถึงแรงสะเทือน

“ดูท่าแล้ว วงแหวนไฟนี่น่าจะมีไว้รับมือกับพลังงานทางจิตโดยเฉพาะ…ทว่ามันสามารถต้านดาบสั้นไว้ได้ชั่วขณะ นั่นแสดงว่าในอนาคตมันจะต้องมีพลังที่สามารถหักล้างอาการบาดเจ็บจากวัตถุได้แน่นอน! นี่มันโล่เพลิงโลกันตร์ชัดๆ” แต่น่าเสียดาย ตอนนี้เปลวไฟนี้ยังใช้ได้แค่ครั้งเดียว…หลังจากที่เสี่ยวเฮยสร้างวงแหวนไฟให้เขาสองวง ก็ไม่อาจสร้างให้เพิ่มเติมได้อีก

หลิงม่อจ้องมองไปที่หัวใจของเสี่ยวเฮยครู่หนึ่ง หลังจากที่วงแหวนไฟหายไป หลุมวนที่อยู่ตรงนั้นก็กลายเป็นสีดำ และโปร่งแสงขึ้นมาก…

“ถ้าหากทำให้หัวใจของมันกลายเป็นเหมือนเปลวไฟของจริงได้ เราก็จะได้โล่เพลิงโลกันตร์แบบสมบูรณ์มาครองสินะ! ถึงแม้จะใช้ได้แค่ครั้งเดียว แต่ขอเพียงทุกครั้งที่เสี่ยวเฮยออกมาและใส่วงแหวนไฟให้เรา ก็จะสามารถเติมเต็มจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของเราได้!”

หลิงม่อตื่นเต้นขึ้นมาทันที เขาพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ แล้วจึงค่อยตระหนักได้ถึงอีกหนึ่งคำถาม “ไม่รู้ว่าจะใส่ให้หุ่นซอมบี้ตัวอื่นได้หรือเปล่า…”

แต่ที่น่าเสียดายก็คือ วงแหวนไฟบนข้อมือซ้ายและขวาล้วนถูกเขาใช้ไปสิ้นแล้ว หากอยากได้คำตอบของคำถามนี้ ก็ต้องรอคราวหน้า

นอกจากนี้ เขาไม่มีเวลาคิดไปมากกว่านี้แล้ว…

หลัง “มองดู” หลิงม่อกลืนกิน “ผลงานสำเร็จ” ดวงตาที่ซ่อนอยู่คู่นั้นเริ่มแรกโกรธขึ้ง ตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา…กระทั่งตอนสุดท้ายที่วงแหวนไฟปรากฏขึ้นมา หลิงม่อยังรู้สึกได้ว่า มันกำลังยิ้มให้เขา…

ซอมบี้พลังจิตที่สร้างขึ้นมาอย่างยากลำบากถูกผู้อื่นทำลายกลางคัน ทำไมมันยังยิ้มออกอยู่ล่ะ? อีกทั้งหลิงม่อยังรู้สึกได้รางๆ ความโกรธกรุ่นก่อนหน้านี้ของเจ้าซอมบี้ตัวนี้ ราวกับล้วนเป็นการแสร้งทำ…บางทีตั้งแต่แรกที่มันปรากฏตัว หลิงม่ออาจไม่ได้สัมผัสรู้ถึงตัวตนของมันด้วยความบังเอิญ…