163 : ก็นี่มันอาคารของคนๆนั้นจะไปผิดกฏได้ยังไง!

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ ตอนที่ 163 : ก็นี่มันอาคารของคนๆนั้นจะไปผิดกฏได้ยังไง!

 

สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ต้นเสียงทันที!

 

ผู้คนนับไม่ถ้วนแค่นเสียงเย็นชาออกมา

 

“ใครอีกล่ะทีนี้”

 

“พวกเธอมีส่วนกับการสมรู้ร่วมคิดในการโกงก็สมควรให้เป็นโมฆะแล้วไม่ใช่รึไง?”

 

“เขาเป็นใครกันขนาดประธานพูดแล้วยังกล้าค้านออกมา?”

 

เสียงพูดคุยของคนจํานวนนับไม่ถ้วนดังออกมา

 

มู่เฉิงเฉิงกับเฉินเค่อเฉียนหันตกตะลึงเพราะคนที่พูดออกมาก็คือ เจียงเฉิน!

 

หวางชวนกลัวว่าเจียงเฉินนั้นจะทําให้ลู่จี่โมโหไปมากกว่านี้จนทําให้แม่ของเขาต้องโดนลงโทษรุนแรงขึ้นเขาจึงชี้ไปที่เจียงเฉินแล้วพูดออกมา “ออกไปซะ! แกมันก็แค่คนขับตี้ตี้แกมีสิทธิ์อะไรมาพูดที่นี่? ไม่เห็นรึยังไงว่าท่านประธานกําลังโมโหอยู่?!”

 

กลุ่มคนที่เข้ามาสมัครงานเมื่อได้ยินว่าแท้จริงแล้วเจียงเฉินนั้นเป็นคนขับตี้ตี้พวกเขาก็หัวเราะเยาะออกมาทันที

 

แต่เมื่อลูจีได้เห็นเจียงเฉินชัดๆดวงตาของเขาก็เปลี่ยนไปทันที!

 

เขานั้นเคยได้พบเจียงเฉินในงานประชุมของเจ้าของอาคารมาก่อน

 

ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็ต้องรู้แล้วว่าเจียงเฉินนั้นเป็นเจ้าของตัวจริง!

 

สําหรับเขาแล้วเจียงเฉินนั้นเป็นเหมือนกับราชามารที่เงียบขรึม!

 

ลู่จี่ตกตะลึงไปซักพักก่อนจะเริ่มหัวเราะออกมา “งั้นผมควรทํายังไงดีล่ะครับ?”

 

เจียงเฉินชี้นิ้วไปที่ซ่งซานก่อนจะพูดออกมาเบาๆ “คนๆ นี้ต่างหากที่มีปัญหาแน่นอนว่าเธอสมควรถูกไล่ออก!”

 

เจียงเฉินพูดจบก็ชี้นิ้วไปที่มู่เฉิงเฉิงกับเฉินเค่อเฉียนอีกครั้ง “ผู้หญิงสองคนนี้ไม่มีปัญหาอะไร พวกเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกชายของซ่งซานไปพูดคุยเรื่องการช่วยพวกเธอให้เข้าทํางานกับแม่ของเขาด้วยซ้ำ ดังนั้นการตัดสินให้ผลของพวกเธอเป็นโมฆะและทําการติดบัญชีดําพวกเธอจึงไม่ยุติธรรม”

 

บรรดาผู้สมัครที่ไม่ผ่านต่างก็กังวลว่าผลที่โมฆะไปของมู่เฉิงเฉิงกับเฉินเค่อเฉียนจะถูกยกเลิกทําให้พวกเขาหมดโอกาศ เมื่อพวกเขาได้ยินคําของเจียงเฉินพวกเขาก็หัวเราะเยาะออกมาทันที

 

“เป็นค่คนขับตี้ตี้ยังมีหน้ามาชี้นุ่นชี้นี่อีกหรอ?”

 

“ไร้สาระ!”

 

“ใช่ๆ ไร้สาระจริงๆ!”

 

กลุ่มคนส่งเสียงประท้วงออกมาหวางชวนที่เห็นก็ดีใจจนกระโดดโลดเต้น “ทําไมต้องไล่แม่ของฉันออกด้วย? แกอายุเท่าไหร่กันหะ ใช่ที่ๆแกจะพูดออกมายังไงกัน?!”

 

มู่เฉิงเฉิงกับเฉินเค่อเฉียนสิ้นหวัง

 

เจียงเฉินนั้นก็แค่คนๆหนึ่งที่มีตัวตนเล็กๆเท่านั้น

 

เขาพูดของเขามันมีน้ำหนักน้อยเกินไป

 

ประธานลู่เขาจะมาฟังคําพูดของเขาได้ยังไงกัน?

 

แต่ใครจะรู้…

 

วินาทีต่อมา

 

ลู่จี่ก็ตบต้นขาของตัวเอง!

 

“ผมคิดว่าสิ่งที่คุณพูดมาก็มีเหตุผลอยู่เหมือนกัน”

 

ทุกคน “???”

 

ซ่งซาน “???”

 

หวางชวน “???”

 

เฉินเค่อเฉียน “???”

 

มู่เฉิงเฉิงเองก็ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เธอได้ยิน!

 

เจียงเฉินที่เป็นแค่คนขับรถเพียงแค่เขาพูดออกมาไม่กี่ประโยคผลลัพธ์ก็คือ..

 

ประธานคู่กับฟังเขา?

 

เป็นไปได้ด้วยหรอ?

 

ลู่จี่โบกมือของเขาก่อนจะพูดออกมาอย่างจริงจัง “ทุกคนหลังจากที่ผมได้ฟังคําแนะนําของคุณเจียง ผมก็คิดว่ามันถูกต้องแล้ว เพราะมีเพียงแค่ผู้คุมสอบคนนี้กับลูกชายของเธอเท่านั้นที่นําไปสู่ปัญหา แต่ผลคะแนนที่ออกมานั้นย่อมต้องมีความยุติธรรมอยู่แล้ว เพราะผลคะแนนนี้มาจากการลงคะแนนของคนนับสิบคนและครึ่งหนึ่งก็เป็นชาวต่างชาติดังนั้นมันย่อมไม่มีปัญหา”

 

“ดังนั้นผมจึงขอประกาศออกมา ณ ที่นี้!”

 

“ทางบริษัทจะรับมู่เฉิงเฉิงกับเฉินเค่อเฉียนเข้าทํางาน!”

 

“อะไรนะ?!!”

 

ผู้คนพากันเดือดทันที!!

 

พระเจ้า! มันจะเปลี่ยนเร็วเกินไปแล้ว!

 

คําพูดของคนขับตี้ตี้คนหนึ่งกลับสามารถเปลี่ยนผลการสมัครงานได้ทันที!

 

มู่เฉิงเฉิงที่ได้ยินก็ไม่อยากเชื่อหูของพวกเธอ!

 

น้ำตาของสองหญิงสาวค่อยๆไหลออกมาพวกเธอเข้ากอดกันพร้อมกับหลั่งน้ำตาออกมา

 

หวางชวนตกตะลึง~~~

 

ซ่งซานตกตะลึง~~~

 

คนๆนี้คือใครกัน?

 

ลู่จี่หันไปหาซ่งซานด้วยสีหน้าเย็นชา “ในฐานะที่เธอนั้นทําการโกงการสอบและเล่นพรรคเล่นพวกดังนั้นเธอถูกไล่ออก!”

 

“ไม่~~~”

 

ซ่งซานร้องไห้ออกมาอย่างขมขืนเธอเข้าไปกอดขาของลู่จี่ไว้ “ท่านประธาน คุณรับพวกเธอสองคนเข้าทํางานแล้วทําไมต้องไล่ฉันออกด้วย?”

 

ลู่จี่สลัดเธอออกก่อนจะพูดออกมาเบาๆ “ก็เพราะคุณเจียงพูดยังไงล่ะ!”

 

เขาแค่นเสียงออกมา

 

ซ่งซานกับหวางชวนมองไปทางเจียงเฉินที่กําลังหันหลังให้แล้วเดินจากไป

 

“แม่งเอ้ย!!”

 

หวางชวนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนจะคํารามออกมา!

 

ผลที่พวกเขาได้กลับเป็นโศกนาฏกรรม!

 

ตัวเองโอ้อวดก็ไม่สําเร็จ เงินเดือนรายปีหลักล้านของแม่ก็หายไป

 

มู่เฉิงเฉิงกับเฉินเค่อเฉียนก็มองเขาด้วยความเกลียดชัง

 

เพราะเขานั้นเกือบทําให้พวกเธอต้องสินอนาคต!

 

ซ่งซานมองหวางชวนด้วยความโกรธ ความโกรธของเธอพุ่งทะลุฟ้าเธอหันไปหยิบไม้กวาดพื้นแล้ววิ่งตามหวางชวนไปทันที!

 

“เจ้าลูกชายขยะ! หยุดให้แม่ของแกเดี๋ยวนี้”

 

“แม่จํา ไว้ชีวิตผมด้วย!”

 

หวางชวนกลัวมากจนเขากระโดดลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็ว!

 

สมแล้วที่เขาเป็นถึงนักกีฬาบาสเก็ตบอลของมหาลัยเขานั้นทั้งวิ่งทั้งลงบันไดได้ไวกว่าเจียงเฉินซะอีก

 

หวางชวนวิ่งหนีไปด้วยความโกรธเคือง~~

 

ไม่มีทาง!

 

ฉันจะต้องตอบโต้

 

ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่าเจียงเฉินนั้นจอดรถผิดกฏของที่นี่

 

ฉันจะต้องไปแจ้งรปภ.!

 

ให้พวกเขาลากรถของหมอนั่นไปซะ!

 

ในเวลานี้เองก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจํานวนมากกําลังล้อมรถของเจียงเฉินอยู่!

 

เขาดีใจมากและวิ่งเข้าไปหาทันที

 

“พวกคุณน่ะ ไม่เห็นรึยังไงว่ารถคันนี้จอดผิดกฎระเบียบ! ลากรถออกไปได้แล้ว!”

 

แต่ก็คิดไม่ถึงว่า

 

เหล่าบรรดารปภ.จะมองเขาด้วยสายตาที่ราวกับกําลัง “สงสารคนที่สติไม่สมบูรณ์อยู่” จนทําให้เขานั้นต้องขนลุก

 

“อัปส์!”

 

เหล่ารปภ.ต่างยิ้มกันออกมา “จอดรถผิดกฎระเบียบงั้นหรอ?”

 

“ใช่แล้ว!”

 

“หวางชวนชี้นิ้วไปที่รถ Audi ของเจียงเฉิน “ก็รถคันนี้จอดอยู่ตรงนี้มันไม่ผิดกฏร์ยังไง?”

 

“ผิดกฎหรอ? ก็นี่มันอาคารของคนๆนั้นจะไปผิดกฏได้ยังไง?”

 

“รถคันนี้นะ ต่อให้เข้าไปจอดในล็อบบี้ของอาคารก็ไม่มีใครกล้าห้ามหรอกนะ!”

 

“อะไรนะ?”

 

หวางชวนตกตะลึง….

 

ในเวลานี้เองเจียงเฉินก็เดินตามลงมาจนถึง รปภ.ที่เห็นเจียงเฉินมาถึงก็เปิดทางให้เขาเข้าไปหารถ Audi ของเขาทันที

 

พนักงานของอาคารก็มานําป้ายกั้นหน้ารถออกไป

 

รปภ.ที่อยู่ใกล้ก็ยิ้มทักทายเขาก่อนจะพากันหลีกทาง

 

เจียงเฉินเดินไปขึ้นรถก่อนจะหันมายิ้มให้หวางชวนแล้วค่อยๆขับออกไป

 

หวางชวนมองการปฏิบัติอย่างพิเศษของพนักงานของอาคารที่มีให้กับเจียงเฉินแล้วทันใดนั้นประโยคที่รปภ.พูดเมื่อกี้ก็ดังเข้ามาในหัวของเขา

 

ก็นี่มันอาคารของคนๆนั้นจะไปผิดกฏได้ยังไง?

 

ไม่มีใครกล้าห้ามเขาด้วยซ้ำถ้าเขาจะไปจอดในล็อบบี้

 

หวางชวนมองตามหลังรถ Audi ของเจียงเฉินที่กําลังจากไปก่อนที่ตัวของเขาจะเริ่มสั่น

 

แม้ตอนนี้เขาจะยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเจียงเฉินเป็นใคร

 

แต่เขารู้อย่างแน่นอนว่าคืนนี้พ่อกับแม่ของเขาจะเล่นยงานเขาอย่างหนักแน่!

 

หลังจากที่เจียงเฉินออกมาจากอาคารศูนย์กลางทางการเงิน เขาก็นึกบางสิ่งขึ้นมาได้

 

เรื่องเมื่อตอนที่เขานั้นไปที่โรงแรมผางกู่แล้วเขานั้นขอให้ทุกคนช่วยตรวจสอบหลิงหยุนให้เขานั้นจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้เลี้ยงข้าวตอบแทนพวกเขาเลย

 

และบังเอิญว่าเขานั้นรู้สึกว่าตัวเองนั้นอยู่ในเมืองมานานเกินไปแล้วดังนั้นเขาจึงอยากจะเปลี่ยนสถานที่สูดอากาศซักหน่อย

 

ทะเลสาบชิงหลงที่ตอนนั้นเขาไปตามจับหัวขโมยอาเฟยตอนนั้นก็ดูเหมือนจะดีไม่น้อยเลย

 

เจียงเฉินกดโทรศัพท์ออกไป

 

“พี่เทียนเหิง วันอาทิตย์นี้พี่พอจะมีเวลาว่างไปตกปลาที่ทะเลสาบชิงหลงหน่อยไหม?”

 

“พี่โจวหมิง! ไม่ตกปลางั้นหรอ? พอดีผมนัดพี่เทียนเหิงไปตกปลาที่ทะเลสาบชิงหลงแล้วนะ!”

 

“น้องลู่! วันอาทิตย์นี้ไปทานอาหารกันหน่อยไหม? มีพี่เทียนเหิงจากบริษัทกฎหมายเทียนกวนมีพี่โจวหมิงจากบริษัทหลักทรัพย์กัวด่นะ”

 

“พี่เว่ย! ฉันมีนัดวันอาทิตย์นี้นะ นายจะมารึเปล่า?”

 

จนท้ายที่สุดเจียงเฉินก็โทรหาฉันกั๋วต่ง

 

ฉินกั๋วต่งบอกว่าเขานั้นอยู่ต่างประเทศกําลังประชุมหารือเรื่องความมั่นคงระหว่างประเทศอยู่

 

เขาพูดออกมาด้วยความเสียใจ เพราะนี่เป็นถึงคําเชิญจากเจียงเฉินผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่งของบริษัทรักษาความปลอดภัยเทียนเฉิน!

 

ฉินกั๋วต่งถอนหายใจออกมาในสายตาของเขาการประชุมระหว่างประเทศนี้ยังไม่ดีเท่ากับการได้ไปทานอาหารร่วมกับเจียงเฉินด้วยซ้ำ!

 

แต่น่าเสียดายที่เขาคงไม่สามารถบินกลับไปได้ในเวลานี้!