ผู้ชมที่กำลังจับตามองต่างงงงวยกับพายุอันรุนแรงราวกับกระแสน้ำวนที่พร้อมจะดูดกลืนและดูว่าไม่มีที่สิ้นสุดลง ไม่กี่วินาทีต่อมาเกิดห่วงแสงแพรวพราวออกมาจากพายุ มันคือแสงแห่จิตวิญญาณที่ปลุกทุกสรรพสิ่งที่มีชีวิตบนโลกใบนี้ให้ตื่นขึ้น! แสงที่สาดส่องเข้าตานั่นทำให้ผู้คนไม่สามารถลืมตาขึ้นมามองได้มันช่างจ้าซะเหลือเกิน
เสียงดังสั่นราวกับโลกจะแยกตัวออกจากกัน จากพื้นดินสู่ยอดเขากระทบเมฆนั้นเกิดแรงสั่นสะเมือนอย่างรุนแรก ภูเขาถูกแยกออกจากกันราวกันว่ามันคือวันสิ้นสุดโลก!
“เธอบล็อกมันใช่มั้ย?” ทุกคนจ้องมองที่ท้องฟ้าด้วยความตกใจ แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
หญิงสาวคนรักของเสี่ยวฟานคนนั้นบล็อกมัน! เธอบล็อกพลังด้วยดาบสังหารอมตะพลังแห่งคำสาปแห่งรักนั้นมีพลังมาก ตอนนี้ผู้ชมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมคำสาปที่ชั่วร้ายถึงถูกเรียกว่าคำสาปแห่งรัก
ความรักที่ลึกซึ้งที่ยากจะหาความหมายนี้สามารถทำลายล้างทุกสิ่งและสาปแช่งด้วยเลือดอันชั่วช้าแม้ว่าพวกเขาจะต้องตกนรกตลอดไปก็ตาม!
ร่างจากกลุ่มเมฆเขียวนั้นร่วงโรยหล่นจากท้องฟ้าราวกับตุ๊กตาที่แตกสลาย ทุกสิ่งล้วนมีเกิดและดับ เหตุการณ์ต่อสู้ครั้งนี้เกิดการสูญเสียอย่างมาก
“มันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร!? อะไรกัน?” เจียงเสี่ยวหยูอารมณ์ดีหลังจากทำเงินส่วนแบ่งได้เป็นจำนวนมากจากเกมเจ้ากระบี่ขั้นเทพ แต่ตอนนี้เธอกลับต้องมานั่งร้องไห้เสียใจ “ในที่สุดเสี่ยวฟานก็มีคนที่รักมากที่สุดแล้วมันจบแบบนี้ได้ยังไง!?”
“ไม่นะ ปี้เหยาต้องไม่ตาย ..” โมเซียนและสาวๆ คนอื่นๆ จากกลุ่มหนานหัวต่างร่ำไห้ออกมา
คนหนุ่มสาวจากสำนักหลิงหยวนรู้สึกว่าหัวใจของพวกเขานั้นว่างเปล่าราวกับหัวใจของพวกเขาหายไปพร้อมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ท่านอาจารย์ .. ฮือ เสี่ยวฟานและปี้เหยาช่างน่าสงสาร” เฟงหัวและยูซินร้องไห้และพูดไปซูดน้ำมูกไป
“ไม่มีสิ่งใดในโลกที่คงอยู่ตลอดไป แม้มันจะทำให้เราต้องเสียใจมากแค่ไหนก็ตาม ..” ในฐานะอาจารย์แห่งวังซัวเต๋า เขาเข้าใจการกระทำของเต๋าซวน แต่เขาก็ถอนหายใจและหนักใจไม่น้อยในฐานะผู้ชม
“…”
ในโลกที่ยุ่งเหยิงและวุ่นวายผู้คนส่วนมากมักคิดถึงแต่ผลกำไร ไม่มีใครที่เสียสละตัวเองและอยู่ในนรกตลอดการเพื่อแลกกับชีวิตของคนอื่น
สำหรับผู้ฝึกฝนพวกเขาเองก็มีเหตุผลในแบบของตัวเองการจะกระทำอะไรทั้งหลายพวกเขาต้องคำนึงถึงตัวเองและเวลาที่ฝึกฝนไปเพื่อไม่ให้เวลาสูญเปล่า
ในหมู่ผู้ชมพวกเขาก็ไม่คาดคิดหรือจินตนาการได้เลยว่าพวกเขาจะสามารถทำสิ่งนี้แบบในละครได้หรือไม่ .. ไม่มีใครเลยในตอนนี้ที่เข้าถึงคำสาปแห่งรัก
เหตุการณ์ในละครเป็นเรื่องที่สะเทือนใจไม่น้อยเป็นฉากที่ทำให้พวกเขาตกใจมาก พวกเขาต่างอาลัยอาวรกับความรักของจางเสี่ยวฟานที่มีต่อปี้เหยามันช่างเจ็บปวดระบมไปทั้งหัวใจ
ผู้ฝึกฝนระดับสูงส่วนใหญ่ในเขตคิวโซนของฟางฉีได้ใช้เวลาช่วงวัยเยาว์ที่ดีที่สุดไปกับการฝึกฝนและยังคงต่อสู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งน่าเศร้าที่ความรักเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิต
ทุกคนดูเศร้ามากขณะที่เสี่ยวฟานกำลังคำรามอย่างดุเดือดราวกับว่าทั้งโลกกำลังจะพังทลายลง!
…
ซูเทียนจิที่นั่งดูละครนั้นเหลือบมองไปรอบๆ ด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าของร้านอยู่ไหน!?”
“ท่าน! ออกมาสิ!” ตงชิงลี่, เฉินชิงชิงและคนอื่นๆ ที่เป็นแฟนตัวยงของละครรู้สึกเกิดคำถามมากมาย .. จะเกิดอะไรขึ้นในตอนต่อไป!?
ปี้เหยาจะฟื้นคืนชีพมาได้มั้ย? จะเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวฟาน บอกที!
หลิวหนิงหยุนไม่เคยรู้สึกผิดหวังอย่างนี้มาก่อน ..
ในฐานะผู้บังคับบัญชาแห่งเมืองมังกรดำหวังปู่เต๋าไม่เคยรู้สึกผิดหวังเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในหลุมลึกขนาดใหญ่และไม่สามารถหาทางออกได้!
ที่สำคัญกว่านั้นมีผู้ชมกลุ่มใหม่มากมายได้เข้าร่วมการดูละครครั้งนี้อีกด้วย
“นี่เจ้าจะไม่ปล่อยตอนเพิ่มอีกหรือ!?” โมเทียนซิงก็ไม่สามารถสงบใจได้ แม้แต่คนที่มากับเขาอย่างยูคังชานผู้ที่มีอายุมากและอวบอั้นยังพูดอย่างใจจดใจจ่อ “ข้าทนไม่ได้กับเรื่องนี้!”
“เจ้าฟางฉี! ออกมาได้แล้ว!” เห็นได้ชัดว่าฟางฉีได้คาดถึงสถานการณ์นี้ไว้เรียบร้อยแล้ว เขาเลือกที่จะออกไปก่อนละครจะจบลง พวกเขาหาเขาไม่เจอแม้ว่าจะมองไปรอบๆ เพื่อค้นหาแล้วก็ตาม เขาคิดไว้แล้วว่าหากเขาอยู่ที่นี่คงมีคำถามมากมาย
อันที่จริงฟางฉีได้ออกจากโลกเสมือนจริงอย่างเรียบเนียนและชาญฉลาด เขาวางหูฟังเสมือนจริงไว้บนเก้าอี้คอมพิวเตอร์และมองดูคนอื่นๆ ที่กำลังตามหาเขาด้วยใจว้าวุ่น ขณะที่เขากำลังจิบโค้กอย่างสายใจ
ทันใดนั้นบรรยากศก็เริ่มอึมครึมราวกับพายุกำลังก่อตัว .. ฟางฉีมองไปรอบๆ เขาสะดุดกับหลิวหนิงหยุนที่กำลังยืนมองเขากลับมาด้วยสายตาเย็นชา!
การแสดงออกของหวังปู่เต๋ามีท่าที่ที่หมองหม่น รวนหนิงที่อยู่ข้างๆ พร้อมสาวๆ นั้นยืนมองฟางฉีด้วยดวงตาแดงกล่ำ
“เจ้ากำลังทำอะไร!?” ฟางฉีสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่น่าอึดอัดเขาพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม “ข้าขอเตอือนว่า หากพวกท่านทำร้ายข้าจะได้รับการปฏิบัติในฐานะผู้สร้างปัญหา!”
“ข้าโกรธมาก!” รวนหนิงและคนอื่นๆ รู้สึกอยากจะระเบิดความโกรธ
ขณะเดียวกันเสียงเตือนใน QQ ดังขึ้น
หิมะใหม่ [นี้เจ้า! เจ้าต้องมาจัดการก่อน!]
มันเป็นข้อความากมายจากคนที่ตาจิน
จากนั้น ..
“เจ้ามันบ้าไปแล้ว!”
…
ในที่สุดฟางฉีก็เลือกใช้สิทธิ์ของเขาในฐานะเจ้าของ นาหลันหมิงสือได้รับโทษที่เป็นหัวหน้ากลุ่มผู้สร้างปัญหา เธอถูกห้ามไม่ให้ใช้คอมพิวเตอร์สามวันและห้ามซื้อขนมเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์!
ผู้เข้าร่วมขบวนการคนอื่นๆ ถูกแบนเป็นเวลาหนึ่งวันเต็ม!
ในที่สุดเขาก็แสดงพลังของเขาออกมาในฐานะเจ้าของร้าน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถห้ามพวกเขาจากการสบประมาทในฐานะเจ้าของร้านได้
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ นี้ไม่สามารถบรรเทาความโศกเศร้าของผู้คนได้ หลายคนยังคงหลงอยู่ในเรื่องกระบี่เทพสังหาร มันทำให้ความรู้สึกส่วนหนึ่งของพวกเขาหายไป
เวลาเดียวกันสมาคมใหญ่ๆ กำลังเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ในเมืองทะเลทราย แม้ว่าในใจยังเศร้าไม่น้อยแต่เรื่องสงครามก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน
หลายคนรวมถึงอาจารย์ซีชิเองแม้ว่าจะเริ่มดูตอนอื่นไปแล้วแต่ความเศร้าก็ยังผุดขึ้นในหลายๆ ครั้งที่นึกถึง
“มนุษย์มีความรักความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเช่นนี้หรือ!?” หนิงไป่ถามขณะที่เธอกำลังเล่นเกมคิงออฟไฟเตอร์
“น่าจะ ..” ฟางฉีตอบขณะที่บุหรี่ยังคาอยู่ที่ปาก “ใครจะไปรู้ ..” เขาตอบพลางบังคับจอยสติ๊กในมือ