ตอนที่ 1452 ข้าจะเล่นกับเจ้าเอง (1)
อย่างที่คาดไว้ เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ลั่วซีตรวจสอบแล้วว่าสิ่งต่างๆที่ทางเหนือของเมืองยังคงเหมือนเดิม เขาก็บุกเข้ามาในจวนเจ้าเมืองด้วยสีหน้าถมึงทึง
เมื่อวานเจ้าเมืองได้รับความตกใจอย่างมากจนล้มป่วยนอนอยู่บนเตียง ข้อเท้าของเขาที่ถูกเย่ฉากระทืบนั้น พันเอาไว้ด้วยผ้าพันแผลอย่างแน่นหนา มีอนุภรรยาคอยดูแลอย่างดีจนแทบจะเห่กล่อมให้เขานอนอยู่แล้ว
เมื่อลั่วซีเข้ามา ใบหน้าของเขาบึ้งตึงอย่างน่ากลัว
“ทำไมงานที่ข้าให้เจ้าไปทำยังไม่เรียบร้อยอีก!?” ลั่วซีมองเจ้าเมืองอ้วนพุงพลุ้ยด้วยสายตารังเกียจ
เจ้าเมืองมองไปที่ลั่วซี ในใจของเขาเย้ยหยัน แต่ใบหน้าดูตื่นตกใจ
“พวกเจ้าออกไปให้หมด” เจ้าเมืองไล่ทุกคนในห้องออกไป ก่อนจะเริ่มสะอื้นคร่ำครวญต่อหน้าลั่วซี “ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากจัดการมัน แต่ข้าทำอะไรไม่ได้จริงๆ! ข้าอยากหาข้ออ้างยึดหอพักพวกนั้นมาเป็นของข้า แต่เจ้าเด็กนั่นฉลาดเกินไป เขาจ่ายเงิน 3 เท่าของราคาเพื่อซื้อทั้งโฉนดบ้านและโฉนดที่ดิน เมื่อวานข้าส่งหลิวเอ้อร์ไปก่อกวน ไม่เพียงทำไม่สำเร็จ ยังโดนฆ่าตายทั้งกลุ่ม หลังจากนั้นข้าก็พาทหารไปที่นั่นแล้วก็โดนดูหมิ่นทำให้ขายหน้า ข้าอยากเลิกเสแสร้งทำดีกับเจ้านั่น แต่ก็นึกได้ว่าท่านผู้นั้นสั่งให้ข้ารักษาภาพลักษณ์คนดีมีเมตตา ข้าเลยต้องอดกลั้นรั้งตัวเองไว้”
ลั่วซีขมวดคิ้วย่นเข้าไปอีก ที่เจ้าเมืองพูดก็ไม่ผิด ภาพลักษณ์คนดีมีเมตตาของเจ้าเมืองถูกสร้างขึ้นด้วยความพยายามอย่างมาก และถ้าพวกเขาอยากรับผู้ลี้ภัยเข้ามาเพิ่มอีก พวกเขาจะทำให้ภาพลักษณ์นั้นเสียไปไม่ได้
ลั่วซีครุ่นคิดอย่างหนัก แล้วสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเท้าของเจ้าเมืองที่ถูกพันด้วยผ้าพันแผลเอาไว้อย่างแน่นหนา
“เท้าเจ้าเป็นอะไร?”
เจ้าเมืองสะดุ้งในใจ เขารีบพูดกลบเกลื่อนว่า “เป็นความผิดของหลิวเอ้อร์นั่นแหละ! ตอนที่ข้าได้ยินว่าเขากับลูกน้องถูกฆ่าตายหมด เขาก็ตกใจจนล้มลงอย่างแรง ข้อเท้าก็เลยหัก”
ลั่วซีมองเจ้าเมืองอยู่นาน ดูเหมือนจะเชื่อคำพูดของเขา
“พวกผู้ลี้ภัยที่ควรไปรายงานตัวที่จวนเจ้าเมืองยังไม่ปรากฏตัวเลย ถ้ายังจัดการเรื่องทางเหนือของเมืองไม่เรียบร้อย ขยะพวกนั้นก็จะยังอยู่ที่นั่น และทำให้งานของท่านผู้นั้นต้องล่าช้าไปมาก” ลั่วซีพูดต่อไป
“ใครว่าไม่ใช่ล่ะ” เจ้าเมืองแอบถอนหายใจโล่งอก
ลั่วซีมองเจ้าเมืองอย่างดูถูก “เจ้ามันไร้ประโยชน์จริงๆ เรื่องเล็กๆแค่นี้ยังจัดการไม่ได้ ต้องให้ข้ายุ่งยากทำเองอีก”
“ข้ารู้ เจ้าเก่งกว่าข้าเยอะ” เจ้าเมืองรีบพูดประจบลั่วซี แต่ในใจของเขาได้ทักทายบรรพบุรุษของลั่วซีไปทั้ง 18 รุ่นแล้ว “แล้วเจ้ามีแผนการยังไงหรือ?”
“เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าฝูหยวนถังของข้าเป็นสถานที่แบบไหน? ไม่ว่าที่ทางเหนือของเมืองจะยอดเยี่ยมแค่ไหน ถ้าเกิดมีคนตายที่นั่นสักสองสามคน คนแก่ๆพวกนั้นก็ไม่กล้าอยู่ต่อแล้ว!” ดวงตาของลั่วซีทอประกายชั่วร้าย
เขาพูดกับเจ้าเมืองอีก 2-3 คำ จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไป
เท้าของลั่วซีเพิ่งก้าวออกไป เจ้าเมืองก็เรียกคนสนิทที่เขาไว้ใจมาทันที หลังจากรีบเขียนจดหมายที่สั้นและกระชับเสร็จ เขาก็สั่งให้คนสนิทของเขาเอาจดหมายไปส่งที่ทางเหนือของเมือง
“ท่านเจ้าเมือง ท่านจะให้เอาจดหมายไปส่งที่ทางเหนือของเมืองหรือขอรับ?” คนสนิทของเขามองเจ้าเมืองอย่างเหลือเชื่อ
เจ้าเมืองพูดว่า “เมื่อวานนี้เจ้าเห็นใครมาที่จวนนี้รึเปล่า?”
คนสนิทส่ายหน้า
เจ้าเมืองถอนหายใจ แล้วพูดว่า “งั้นก็ไม่ต้องถามมาก รีบๆไปส่งให้เร็ว อย่าให้ใครเห็นเด็ดขาด”
“ขอรับ!”
เจ้าเมืองมองตามหลังคนสนิทที่ไว้ใจได้ของเขา ในใจปกคลุมไปด้วยความหนาวเย็น ตอนที่จวินอู๋เสียมาที่จวนเจ้าเมืองเมื่อวาน ทุกคนในจวนถูกทำให้หมดสติและนำไปโยนรวมกันที่สวนหลังบ้าน