ตอนที่ 1451 ใครสอบสวนใครกันแน่ (3)
คนที่ได้รับเลือกให้เป็นพาหะ ส่วนใหญ่เป็นคนอ่อนแอขี้โรค เนื่องจากร่างกายของพวกเขาอ่อนแอ ความต้านทานยาและแบคทีเรียของพวกเขาจึงไม่แข็งแรง หลังจากถูกฉีดแบคทีเรียเข้าไปไม่นาน พวกเขาก็จะตาย พอพวกเขาตาย แบคทีเรียก็จะแพร่กระจายอย่างเงียบๆไม่มีใครทันสังเกต แล้วพวกเขาก็จะบรรลุวัตถุประสงค์ที่ชั่วร้าย
การที่ท่านผู้นั้นให้เมืองชิงเฟิงรับคนสูงอายุ ผู้หญิงอ่อนแอ และเด็กเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เจตนาของเขาคงเหมือนกับสงครามแบครีเรียนั่น เพียงแค่แบคทีเรียจากชาติก่อนของจวินอู๋เสียถูกแทนที่ด้วยยาชนิดหนึ่งซึ่งแพร่กระจายได้ง่ายเพื่อให้ได้ผลแบบเดียวกัน ถ้านางคิดถูก คนถูกให้กินยาพวกนั้นต้องถูกส่งไปยังสถานที่ต่างๆทั่วอาณาจักรล่างอย่างลับๆ
ภายใต้ความสับสนวุ่นวายของสงครามและการต่อสู้ จึงเกิดผู้ลี้ภัยจำนวนนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน การได้เจอผู้ลี้ภัยที่สับสนและเจ็บป่วยไม่ใช่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจจากใคร และเนื่องจากคนเหล่านั้นมีภูมิคุ้มกันและความต้านทานยาต่ำ การตายของพวกเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว!
นั่นเป็นเหตุผลที่ท่านผู้นั้นเรียกร้องเอาแต่คนแก่ ผู้หญิงอ่อนแอ และเด็กให้เข้ามาในเมือง นอกจากนั้นสภาพเลวร้ายที่ผู้ลี้ภัยจำเป็นต้องอยู่ยิ่งทำให้พลังชีวิตของผู้ลี้ภัยเหล่านั้นหมดลงไปอีก เมื่อครบ 7 วัน ร่างกายของพวกเขาก็อ่อนแอถึงที่สุด มันจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการใช้พวกเขาให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เลวทรามต่ำช้า!
ใช้มนุษย์เป็นพาหะในการแพร่กระจายพิษ วิธีการที่ชั่วร้ายเช่นนั้นทำให้เย็นยะเยือกไปทั้งสันหลังจริงๆ เมื่อนางนึกภาพผู้ลี้ภัย 300 คนที่มีพิษอยู่ในร่างกายถูกส่งไปตามที่ต่างๆในอาณาจักรล่างทุกวัน จวินอู๋เสียก็รู้สึกได้ถึงไฟโทสะที่โหมกระหน่ำอยู่ภายในอก กองทัพคนพิษได้รับการเสริมกำลังทุกวัน พวกมันจึงมีมาเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด และที่มาของทั้งหมดก็คือคนที่นี่
ขนาดคนอย่างจวินอู๋เสียก็ยังอดรู้สึกโกรธไม่ได้
“ตอนนี้ท่านผู้นั้นอยู่ที่ไหน?” จวินอู๋เสียถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกน่ากลัว
“ข้า……ข้าไม่รู้……ท่านผู้นั้นเคยเจอกับข้าแค่ครั้งเดียว หลังจากนั้นคำสั่งทั้งหมดที่ท่านผู้นั้นสั่งข้าก็ส่งผ่านมาทางลั่วซี เรื่องเกี่ยวกับท่านผู้นั้น……ลั่วซีรู้ดีกว่าข้ามาก! ข้า……ข้าไม่รู้อะไรเลยจริงๆ……” เจ้าเมืองเริ่มโอดครวญ
จวินอู๋เสียนิ่งเงียบ คำพูดของเจ้าเมืองฟังดูเหมือนไม่ได้โกหก ดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ลั่วซีสามารถสั่งเจ้าเมืองได้จริงๆ ไม่งั้น พอพบว่าผู้ลี้ภัยย้ายออกจากค่าย คนแรกที่มาปรากฏตัวในสองคนนี้ไม่ใช่เจ้าเมือง แต่เป็นลั่วซีที่มาก่อปัญหา
“วันนี้เจ้าจะทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ข้าไม่เคยมาที่จวนเจ้าเมืองและไม่เคยได้ยินสิ่งที่เจ้าพูด” จวินอู๋เสียพูด
เจ้าเมืองมองจวินอู๋เสียอย่างมึนงง น้ำมูกน้ำตายังคงเปรอะเปื้อนไปทั่วใบหน้า
“หมาย……หมายความ……ว่ายังไง……”
“บอกลั่วซีว่าวันนี้เจ้าทำไม่สำเร็จ ให้เขาหาวิธีอื่น” จวินอู๋เสียลุกขึ้น เจ้าเมืองชิงเฟิงเป็นแค่หมากตัวหนึ่งบนกระดานหมากรุก หากจะตกปลาใหญ่ นางต้องจัดการลั่วซี
เจ้าเมืองยังคงมองจวินอู๋เสียอย่างประหลาดใจ
“เจ้าต้องให้ข้าสลักคำพูดพวกนี้ลงบนตัวของเจ้ารึเปล่า?” จวินอู๋เสียหรี่ตาอย่างน่ากลัว ดวงตาทอประกายอำมหิต
เจ้าเมืองหมอบราบลงกับพื้นทันที ตัวสั่นระริกเหมือนลูกเจี๊ยบที่บาดเจ็บ เขารีบพูดว่า “ข้าน้อยจำได้ขอรับ! ข้าเข้าใจสิ่งที่คุณชายพูด ข้าจะทำตามคำสั่งของคุณชายขอรับ!”
จวินอู๋เสียพอใจ นางหันหลังเดินจากไป และหายตัวไปจากจวนเจ้าเมืองพร้อมเย่ฉาราวกับว่าไม่เคยมาที่นี่มาก่อน
จนกระทั่งจวินอู๋เสียและเย่ฉาจากไปแล้ว เจ้าเมืองก็ยังนอนกองหมดเรี่ยวหมดแรงอยู่บนพื้น ไม่รู้ว่าทำไม แต่เขารู้สึกแปลกๆขึ้นมา ดูเหมือนเขาจะรู้สึกว่าผู้เยาว์ตัวเล็กที่เย็นชาและสงบนิ่งคนนี้น่ากลัวกว่าท่านผู้นั้นที่มีพลังอำนาจมหาศาลซะอีก!