เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ บทที่ 371 งานเลี้ยงอาหารค่ำที่ไม่น่ายินดี
แอเรียนหัวเราะอย่างน่าอึดอัดขณะที่เธออ่านข้อความบนหน้าจอจากแจ็คสัน “ฉันไม่รู้… ฉันมั่นใจว่าปกติเขาจะไม่มาอยู่ที่นี่ พวกเราควรทำอย่างไรดี?”
นิ้วของทิฟฟานี่เคาะบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว ความกังวลบนใบหน้าของเธอค่อย ๆ เพิ่มขึ้น “ไม่นะ เราแย่แน่ ๆ เขาบอกว่าที่นี่ไม่มีที่นั่งอื่นเหลือเลยเพราะฉะนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องร่วมโต๊ะกับเรา แม่ของเขาก็เห็นด้วยและบอกว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้รับประทานอาหารร่วมกัน พวกเราควรทำอย่างไรดี? นี่ถือเป็นการพบปะผู้ปกครองหรือไม่? ฉันบอกเขาไปแล้วว่าเราจะจบกัน แต่ฉันยังต้องแสดงเพื่อเขาอีกเหรอ? พวกเขาจะมาที่นี่เช่นกัน ฉันควรทำอย่างไรดี? ฉันควรวิ่งดีไหม?”
แอเรียนเรียกพนักงานมาเคลียร์ขยะบนโต๊ะ “อย่าเพิ่งสติแตกไป ฉันอยู่นี่ไง ตอนนี้ไม่เหลือวิธีอื่นแล้ว เธอจะต้องรวบรวมสติและอารมณ์ก่อน แต่ว่า… อีธานก็อยู่ที่นี่ด้วย จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ทิฟฟานี่ผงะ “น่าจะ…ไม่เป็นไรนะ?” เธอเองก็ไม่แน่ใจเช่นกันเพราะอีธานบอกคนเหล่านั้นว่าเธอเป็นแฟนของเขา คงจะเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดหากพวกเขาต้องพบและพูดคุยกันอีกครั้ง
แอเรียนไม่ได้รู้สึกกังวลเท่าไหร่ สุดท้ายแล้วมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ เธอไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก เมื่อเธอเห็นมาร์คและแจ็คสันพาลิเลียนและซัมเมอร์ซึ่งเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มากสองคนมาอย่างบอดี้การ์ดเธอก็รู้สึกว่าเธอเองก็ไม่มีที่ให้วิ่งหนีได้เช่นกัน เธอและมาร์คอยู่ท่ามกลางสงครามเย็นกันมาหลายวันแล้ว นี่มันสถานการณ์ไร้สาระอะไร? ทำไมเขาถึงได้เข้ามาเกี่ยวข้องในการทำความรู้จักพ่อแม่ของคนอื่น
“ทิฟฟ์… แม่มาแล้ว!” ลิเลียนมีความมั่นใจและความพึงพอใจที่หายไปนานซึ่งเป็นคุณสบมบัติของภรรยาของชายที่ร่ำรวย เธอยังปฏิบัติต่อทิฟฟานี่ด้วยความอ่อนโยนมากขึ้นด้วย
ทิฟฟานี่ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะพบรอยแตกบนพื้นเพื่อฝังตัวเองลงไปในนั้น ถ้าให้เธออธิบายสถานการณ์ในตอนนี้ลิเลียนจะต้องต่อว่าเธอว่าพูดมากต่อหน้าทุกคนอย่างแน่นอน!
มาร์ควางมือข้างหนึ่งลงในกระเป๋าของเสื้อสูท ออร่าที่เย็นชาของเขาดึงดูดความสนใจจากทุกคนรอบตัวเขา สายตาของเขาจ้องไปที่แอเรียน เขาขมวดคิ้วหล่อเหล่าของเขาด้วยความไม่พอใจที่เธอไม่เชื่อฟังและออกจากบ้านอย่างเห็นได้ชัด อากาศก็ร้อนและเวลาเพิ่งผ่านไปได้ไม่ถึงเดือนเลยด้วยซ้ำที่เธอแท้งลูก
แจ็คสันปกปิดนิสัยขี้เล่นตามธรรมชาติของเขาและทำตัวเหมือนคนซื่อสัตย์ต่อหน้าลิเลียน แม้แต่รอยยิ้มบนใบหน้าเขาก็ดูเหมือนจะแสดงให้เห็นถึงเด็กชายข้างบ้านที่เชื่อฟังพ่อแม่ ไม่ เขาดูเหมือนผู้ชายที่โตแล้วมากกว่า เขามีคำว่า “ใจดี” “บริสุทธิ์” และ “น่ารัก” เขียนอยู่ทั่วใบหน้าของเขา
ทิฟฟานี่ทำฮึดสู้ครั้งสุดท้ายตอนที่พวกเขามาถึงตรงหน้าเธอ เธอฝืนยิ้มปลอม ๆ แล้วพูดว่า “ฉันว่าเรา… เราไปกินข้าวที่อื่นกันดีไหม? หรือเราจะนั่งแยกโต๊ะกันก็ได้ ดูสิ ฉันกับแอรินั่งโต๊ะสำหรับสี่คนกัน มันไม่เพียงพอสำหรับหกคน คราวหน้าจะดีกว่านี้ถ้าบอกเราล่วงหน้าหน่อย แจ็คสันจะได้จองห้องส่วนตัวให้”
แอเรียนก้มศีรษะของเธอ และไม่ยอมมองไปที่มาร์ค เธอไม่จำเป็นต้องมองหน้าเขาเพื่อรู้ว่าเขากำลังทำหน้าอะไรอยู่
ซัมเมอร์ไม่ได้รู้สึกว่าโต๊ะนี้จะมีปัญหาอะไร “ไม่เป็นไร เราจะเพิ่มเก้าอี้อีกสองตัว แจ็คสัน บอกให้ใครเอาเก้าอี้มาให้เราหน่อย” แจ็คสันค่อนข้างเชื่อฟัง เขาออกไปเพื่อนำเก้าอี้นุ่ม ๆ สองตัวมาวางไว้ใกล้ทางเดิน โชคดีที่ทางเดินกว้างพอ เก้าอี้สองตัวนั้นจึงไม่ได้รบกวนอะไร
ซัมเมอร์เป็นคนที่ยึดติดเรื่องมารยาท ดังนั้นเธอจึงดึงแจ็คสันให้นั่งเก้าอี้ที่เขานำมากับเธอและให้ที่นั่งที่ดีสำหรับแขกของพวกเขา ลิเลียนนั่งลงข้าง ๆ ทิฟฟานี่อย่างมีความสุข ส่วนมาร์คก็ไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องนั่งข้าง ๆ แอเรียน นอกจากนี้ซัมเมอร์ยังสั่งอาหารที่แพงที่สุดในร้านอาหารอย่างใจกว้าง เธอจะสั่งมากกว่านั้นอีกถ้าแจ็คสันไม่เตือนเธอก่อนว่าพวกเขาจะไม่มีที่พอให้วางบนโต๊ะ
แก้มของลิเลียนเปล่งประกายเมื่อเธอจ้องไปที่แจ็คสันอย่างไม่ละสายตา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความพึงพอใจ ทิฟฟานี่แอบประหม่าและจะมองไปที่ห้องส่วนตัวของอีธานเป็นครั้งคราว
“คุณเวสต์ ให้ผมนั่งข้างแจ็คสันเถอะ คุณควรมานั่งข้างแอริ” จู่ ๆ มาร์คก็พูดขึ้นและแนะนำให้ซัมเมอร์เปลี่ยนที่นั่งกับเขา
ซัมเมอร์ไม่ปฏิเสธ ท้ายที่สุดแจ็คสันและมาร์คเป็นผู้ชายเพียงสองคนบนโต๊ะนี้ นี่เป็นการปฏิบัติตนของสุภาพบุรุษ
“คุณเวสต์ คุณใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบไหน? มันสร้างความมหัศจรรย์ให้กับคุณจริง ๆ ดูเหมือนคุณจะไม่แก่ลงเลย จริง ๆ คุณกับแจ็คสันดูเหมือนพี่น้องมากกว่าแม่ลูกเสียอีก”
หัวข้อเหล่านี้เป็นหัวข้อที่ผู้หญิงมักพูดคุยกันทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน ลิเลียนเป็นคนที่ทำตัวเป็นกันเองมากมาตลอดเธอจึงพูดกับซัมเมอร์ราวกับว่าพวกเขารู้จักกันมานานหลายปี
ซัมเมอร์เปิดเผยแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เธอใช้และลิเลียนก็แสดงท่าทีประหลาดใจพร้อมกับแสดงความเสียใจว่า “นั่นเป็นแบรนด์ที่มีราคาแพงมาก แต่ได้ผลดีจริง ๆ ฉันเคยใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวยี่ห้อนั้นด้วยตัวเอง ตอนนี้… ฉันไม่ได้ซื้อมันมาสักพักแล้ว ฉันต้องนึกถึงทิฟฟ์ เธอต้องดิ้นรนมากกว่าจะหาเงินมาได้”
ทิฟฟานี่รู้สึกราวกับว่าหนังศีรษะของเธอชา เธอเกลียดการกระทำที่เสแสร้งเหล่านี้ ถ้าลิเลียนให้ความสำคัญกับการดิ้นรนหาเงินของเธออย่างที่เขาพูดก็ดีสิ
“ไม่เป็นไร ฝากใบเสร็จผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของคุณไว้ให้ฉันได้” ซัมเมอร์ประกาศอย่างกล้าหาญว่า “ไหน ๆ เราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว อย่าพูดราวกับว่าเราไม่รู้จักกันสิ ฉันจะพาคุณไปช้อปปิ้งหลังอาหารมื้อนี้ เราจะซื้อทุกอย่างที่คุณขาด”
ทิฟฟานี่ก้มหัวของเธอ ใบหน้าของเธอซีดเสียว เธอเกลียดการกระทำที่หลอกลวงเสแสร้งและการแสดงละครแบบนี้ ถึงแม้ลิเลียนจะไม่เห็นว่ามันผิด แต่ทิฟฟานี่รู้สึกอาย…
แจ็คสันเหลือบมองทิฟฟานี่และตัดบทสนทนาระหว่างแม่ทั้งสอง “แม่ เราคุยเรื่องอื่นได้ไหม? มาร์คและผมเป็นผู้ชายทั้งคู่ เราคุยเรื่องนี้ด้วยไม่ได้ ได้โปรดคุยกันในหัวข้อทั่วไปได้ไหม?”
ซัมเมอร์หัวเราะคิกคักพร้อมปิดปากของเธอ “โอเค โอเค ฉันเข้าใจแล้ว มาร์ค คุณและแอริแต่งงานกันมาระยะหนึ่งแล้วใช่ไหม? คุณไม่ได้วางแผนที่จะมีลูกกันหรอ?”
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารกลายเป็นป่าช้าทันที่เธอพูดจบ สีหน้าของแจ็คสันเปลี่ยนเป็นเครียดทันที “แม่ ผมอยากพูดถึงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมากกว่า ผมชอบฟังเรื่องนั้น!”