ตอนที่ 334: ผู้แข่งขันที่เก่งกาจทั้งสิบ (4)
การต่อสู้ของหมิงตงตามหลังเจี้ยนเฉินทันที ดังนั้นหลังจากการประกาศ เขาและคู่ต่อสู้ของเขาจึงเข้าไปในประตูมิติ
ราวกับว่าสวรรค์จัดเตรียมไว้ให้ คู่ต่อสู้ของหมิงตงเป็นหนึ่งในสองคนที่ล้อเลียนพวกเขา คาซด้าเฟย
ก่อนที่หมิงตงจะจากไป เขามีรอยยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้า “เจี้ยนเฉิน,ข้าต้องผ่าชายผู้นี้เป็น 2 ท่อน”
เจี้ยนเฉินตบไหล่หมิงตง มองเขาเป็นการให้กำลังใจโดยไม่พูดอะไร
คาซด้าเฟยยิ้มกว้างขณะที่เขาพูดว่า ช่างบังเอิญ คู่ต่อสู้ของข้าคือเจ้ารึ ? ดูเหมือนว่าพระเจ้าไม่ต้องการให้เจ้ามีชีวิตอยู่อีกต่อไปและปล่อยให้ข้าจัดการ เจ้าหนู เจ้าไม่โกรธรึ ? ไม่เป็นไร อีกไม่นานเจ้าได้โกรธแน่”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น หมิงตงก็ปล่อยลำแสงอำมหิตขณะที่เขาพูดว่า อย่าเพิ่งรีบพูดมากไป รอจนกว่าเราจะได้เข้าไปในสังเวียน ข้าจะทำให้เจ้าร้องไม่ออก ” หลังจากพูดจบหมิงตงก็เดินผ่านประตูมิติและเข้าไปในสังเวียนทันที
“หืม ถึงแม้ความตายจะอยู่ใกล้แค่เอื้อม เจ้าก็ยังเป็นคนที่หยิ่งผยอง” คาซด้าเฟยพูดด้วยความรังเกียจในขณะที่เขาเดินเข้าไปในสังเวียน
เริ่มได้ ! ทันทีที่ชายทั้งสองเดินเข้าไป ก็มีเสียงดังเรียกพวกเขาอีกครั้ง
ทันใดนั้นลำแสงอำมหิตจำนวนมากก็ไหลเวียนมาจากคาซด้าเฟยในขณะที่เขาจ้องมองหมิงตงเหมือนว่าเขาเป็นสัตว์อสูรที่กระหายเลือด กระบี่ที่มีพลังเซียนประกายแสงปรากฏในมือของเขา มันก่อตัวเป็นกระบี่ยาว 2 เมตร กระบี่ยาวเปล่งแสงสีขาวสว่างออกมาทำให้ดูเหมือนราวกับว่ามันเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์
“ไปตายซะ ! ” คาซด้าเฟยคำรามขณะที่เขาบินไปหาหมิงตงพร้อมด้วยกระบี่ที่แกว่งไปมาอย่างรุนแรง
หมิงตงหัวเราะและหยิบกระบี่สีฟ้าออกมาก่อนที่จะหายไปจากสายตา ภายในพริบตา เขาบินไปยังคาซด้าเฟยและราวกับว่ากระบี่ของเขากลมกลืนไปกับสายลม มันพุ่งเข้าหาเอวของคาซด้าเฟยด้วยแสงสีฟ้า ทิ้งบาดแผลที่ดูโหดร้ายไว้เบื้องหลัง
หมิงตงเร็วมากอย่างไม่น่าเชื่อ คาซด้าเฟยเองยังตามไม่ทัน เมื่อคาซด้าเฟยรู้สึกถึงบาดแผลที่เอว เขาก็เห็นแค่มือของเขาที่เปียกโชกไปด้วยเลือดของตัวเอง
ด้วยการแสดงออกที่น่าเกลียด คาซด้าเฟยพยายามคิดว่าเขาโดนทำร้ายตอนไหน เขาเพิ่งดูถูกและขู่หมิงตงว่าหมิงตงจะไม่ได้ออกจากสังเวียนในสภาพที่มีชีวิต เขาจึงไม่คิดว่าในการปะทะกันครั้งแรก เขาเองที่เป็นฝ่ายบาดเจ็บ นี่เป็นความอัปยศที่เขาไม่อาจทนไหว
“เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้าต้องตาย ! ” คาซด้าเฟยจ้องมองอย่างโหดเหี้ยมก่อนที่แสงสีขาวนวลจะส่องออกมาจากบาดแผลของเขาในเวลาเดียวกันกับที่เขาพูด ทำให้แผลของเขาได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว
หมิงตงเยาะเย้ยด้วยความรังเกียจ “ข้าได้ยินมาว่าผู้บ่มเพาะที่มีพลังเซียนธาตุแสงฆ่าไม่ตายและถูกเรียกว่าเป็นอมตะ วันนี้เราจะเห็นว่าเจ้าเป็นอมตะอย่างไร” หลังจากพูดจบหมิงตงจึงบินไปที่คาซด้าเฟยและหายตัวไปในวินาทีถัดมา
“ช่างรวดเร็วเสียจริง ! “
“สวรรค์โปรด สำหรับความเร็วขนาดนั้น เขาเป็นเซียนสวรรค์ธาตุลมหรือ ? “
ข้างนอกสังเวียน หลายคนร้องตะโกนด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นความเร็วที่หมิงตงเพิ่งเปิดเผย
แม้แต่คาซด้าเฟยก็ประหลาดใจมากในขณะที่เขาเฝ้าดูหมิงตงหายตัวไป ทันทีที่เขาเข้าใกล้ คาซด้าเฟยก็คำรามเสียงดังออกมาทันที เขาใช้อาวุธเซียนธาตุแสงของเขาแทงเข้าใส่หน้าอกของหมิงตง อย่างไรก็ตามเขาทำได้เพียงตัดเข้าไปในอากาศที่ว่างเปล่าซึ่งเป็นแค่ภาพติดตาของหมิงตง
ให้ตายเถอะ ! คาซด้าเฟยอุทานกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ ความเจ็บปวดจากการถูกแทงอย่างฉับพลันก็สามารถรู้สึกได้จากด้านหลังราวกับว่ากระบี่สีฟ้าแทงเข้ามาที่หน้าอกของเขา
คาซด้าเฟยตะโกนออกมาด้วยความโกรธเมื่อเขาพุ่งไปข้างหน้าเพื่อให้กระบี่ถูกดึงออกไปจากร่างของเขา ในช่วงเวลาต่อมา พลังเซียนประกายแสงจำนวนมากก็ไหลผ่านร่างของเขาเพื่อรักษาบาดแผล ในขณะที่แผลบนหน้าอกของเขาไม่ถึงขึ้นทำให้ตาย มันก็ยังคงเป็นอาการบาดเจ็บสาหัสที่จะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการต่อสู้ของเขา
“เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้าทำให้ข้าโกรธจริง ๆ ข้าจะบดร่างกายของเจ้าให้เป็นผุยผง ! ” ดวงตาของคาซด้าเฟยเริ่มมีเลือดแดงส่องจ้า เขาจ้องมองหมิงตงด้วยท่าทางที่โกรธแค้น
“เจ้าคิดว่าตัวเองอยู่ยงคงกระพันจริง ๆ รึ ถ้าข้าต้องการที่จะฆ่าเจ้า ข้าคงแทงเข้าไปที่หัวใจของเจ้าก่อนหน้านี้ เจ้าคงตายไปแล้ว” หมิงตงหัวเราะราวกับว่าเขากำลังเล่นอยู่
คาซด้าเฟยส่งเสียงคำรามที่โกรธแค้น เขาระเบิดพลังเซียนธาตุแสงออกมา มันก่อตัวเป็นชุดเกราะสีขาวเงินที่ปกคลุมร่างกายของเขา
คารากาและซาร์เอี้ยมองคาซด้าเฟยที่หุ้มเกราะด้วยความประหลาดใจ หลังจากนั้นซาร์เอี้ยก็ล้อเลียนเขาว่า ” ช่างเป็นเรื่องที่น่ารำคาญ ทำอะไรไปก็ต้องรับกรรม ตอนนี้เขานำชุดเกราะธาตุแสงออกมาแล้ว เขาคงทนอับอายต่อไปไม่ไหวแล้วจริง ๆ “
คารากายืนอยู่ข้างๆ ซาร์เอี้ยด้วยสีหน้าที่โกรธแค้น แต่ไม่พูดอะไรซักคำ
คนอื่น ๆ ตกตะลึงกับความเร็วของหมิงตง แม้ว่าหมิงตงจะไม่ใช่คนที่อายุมาก แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่อ่อนแอไปกว่าคนอื่น ๆ ที่นี่ เขารวดเร็วมากเป็นพิเศษ ทำให้ทุกคนคิดว่าเขาเป็นเซียนสวรรค์ นั่นเป็นเพราะความเร็วของเขาอยู่เหนือกว่าระดับที่เซียนปฐพีสามารถบรรลุได้ และแม้แต่เซียนปฐพีวัฏจักรที่ 6 ก็ไม่สามารถที่จะไปถึงความเร็วดังกล่าวได้
หมิงตงรู้สึกงุนงงเมื่อเห็นชุดเกราะป้องกันของคาซด้าเฟย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นสิ่งนี้ ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงหัวเราะต่อไปว่า “เจ้าคิดว่าการใส่กระดองเต่ามันจะช่วยปกป้องเจ้าหรือ ? ” ด้วยเหตุนี้หมิงตงจึงหายตัวไปอีกครั้งก่อนที่จะปรากฏตัวขึ้นข้างหลังคาซด้าเฟยและเฉือนหน้าอกของเขา
ปัง ! มีเสียงดังโครมเมื่อคาซด้าเฟยบินกลับไปโดยมีรอยเฉือนบนชิ้นส่วนเกราะตรงหน้าอกของเขา
หมิงตงส่ายมือขวาเล็กน้อยในขณะที่เขาพึมพำว่า ช่างเป็นกระดองเต่าที่หนามาก
คาซด้าเฟยจ้องมองหมิงตงอย่างชั่วร้ายในขณะที่เขายกกระบี่ขึ้นมาเหนือหัว “เด็กเหลือขอ เจ้าก้าวร้าวมากพอแล้ว ข้าจะส่งเจ้าไปลงหลุมเอง กระบี่ไขว้-สัจธรรมขั้นหนึ่ง ! ” พลังเซียนธาตุแสงพุ่งออกมาจากร่างของคาซด้าเฟยในขณะที่เขายกกระบี่ขึ้นมา ในขณะเดียวกัน แรงกดดันอันทรงพลังก็ถล่มลงมาบนสังเวียนทำให้หมิงตงรู้สึกหายใจลำบาก แม้ว่าแรงกดดันจะไม่ส่งผลกระทบต่อม่านพลัง แต่สังเวียนและพื้นที่ด้านนอกก็ได้รับผลกระทบ มันทำให้ทุกคนที่อยู่ข้างนอกรู้สึกถึงแรงกดดันที่เหมือนภูเขาถล่มเช่นกัน แรงกดดันนั้นมากจนพวกเขารู้สึกว่าตัวเองเคลื่อนไหว แต่ละคนต่างมีใบหน้าซีดเซียวไปทันที เหมือนกับว่าเลือดเหือดแห้งออกจากใบหน้า
“นี่คือทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ เขาใช้ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ ! ” ผู้อาวุโสผมขาวร้องออกมาด้วยความตกใจทำให้ทุกคนหน้าซีดกับพลังที่ไม่เคยเห็น ในเวลาเดียวกัน ทุกคนต่างก็จ้องคาซด้าเฟยอย่างตื่นเต้น. การได้เห็นพลังของทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์เหมือนเป็นโอกาสทองที่ไม่ได้มีบ่อยครั้ง ไม่มีใครอยากจะพลาดสิ่งนี้ แม้แต่เซียนสวรรค์ก็ยังคงจ้องมองคาซด้าเฟยอย่างใจจดใจจ่อ นี่เป็นเพราะทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์มีราคาแพงมาก และเซียนสวรรค์บางคนยังไม่เคยมีทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์
เมื่อเห็นทักษะการต่อสู้ของคาซด้าเฟย หมิงตงก็มองอย่างจริงจัง “อย่าคิดว่าเจ้าเป็นคนเดียวที่มีทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ ข้าจะแสดงพลังของทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ชั้นสูงให้เจ้าได้เห็น” หลังจากนั้นพลังงานจำนวนมหาศาลก็เริ่มกระเพื่อมจากหมิงตงก่อนที่จะรวมเข้าไปในกระบี่ของเขา
ในช่วงเวลาต่อมา คลื่นความกดดันที่แข็งแกร่งก็พัดกลับมา มันกำลังต่อต้านพลังของทักษะการต่อสู้ของคาซด้าเฟย พลังของมันกระจายออกไปยังพื้นที่ด้านนอกซึ่งทำให้เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษต้องกระอักเลือดออกมาเต็มปากขณะเดียวกันใบหน้าของพวกเขาก็ซีดมากขึ้น
ทันใดนั้นฝูงชนก็เริ่มถูกดันถอยหลังเพราะคนที่ไม่สามารถทนต่อแรงกดดันได้พยายามหนี เสียงร้องของผู้คนที่ตื่นตระหนกดังไปทั่วทุกมุม
“สวรรค์โปรด นี่คือทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์…”
“ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ 2 ทักษะกำลังจะปะทะกัน ใครจะเป็นผู้ชนะและใครจะเป็นผู้แพ้ ? “
“เมื่อทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ทั้งสองกำลังจะปะทะกัน สิ่งนี้จะทำให้แม้แต่สวรรค์ต้องสั่นไหว ใครจะรู้ว่าสังเวียนนี้จะสามารถรับมือกับมันได้หรือไม่ ทุกคนถอยหลัง ! “
” เมื่อทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ทั้งสองปะทะกัน มันจะเกิดอะไรขึ้น เราจะได้รู้กันเร็ว ๆ นี้..”
พลังจากทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ของหมิงตงและคาซด้าเฟยทำให้เกิดความตื่นตระหนกในขณะเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษและเซียนปฐพีก็พลอยโดนลูกหลงไปด้วย ไม่มีใครที่เคยเห็นการปะทะเช่นนี้มาก่อน
ในขณะที่ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ยังคงสร้างพลังอย่างต่อเนื่อง หมิงตงและคาซด้าเฟยยังคงนิ่งเงียบ เพราะพวกเขาจำเป็นต้องสร้างพลังให้เต็มกำลังเสียก่อน
ลมเริ่มที่จะปั่นป่วนและพายุที่รุนแรงถูกพัดไปรอบ ๆ คู่แข่งทั้งสองขณะที่พวกเขาเริ่มใช้ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ของพวกเขา แรงกดดันนั้นทำให้เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษกระเด็นถอยหลังกลับ และแม้กระทั่งเซียนปฐพีบางคนก็ยังต้องถอยหลังกลับไปหลายก้าว
เมื่อถึงจุดนี้ มีเพียงเซียนสวรรค์ที่อยู่ในระยะ 20 เมตรจากสังเวียนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามแต่ละคนก็มีพลังเซียนที่คอยปกป้องพวกเขา
มันต้องใช้เวลาสักครู่หนึ่งในการอธิบาย ในท้ายที่สุดทักษะการต่อสู้ทั้งสองก็เตรียมพร้อม
“กระบี่ไขว้-สัจธรรมขั้นหนึ่ง ! “
“กระบี่ทรราช – คมมีดสะท้านสวรรค์ ! “