ตอนที่ 335: ผู้แข่งขันที่เก่งกาจทั้งสิบ (5)
สามารถได้ยินเสียงระเบิดได้สองครั้งเมื่ออาวุธเซียนของชายสองคนพุ่งไปข้างหน้า.
กระบี่สีเงินของคาซด้าเฟยนั้นดูราวกับว่าเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่ยิงไปข้างหน้าด้วยการโจมตีสองครั้งที่ดูเหมือนกับกระบี่ไขว้ การโจมตีไขว้ที่เปล่งประกายแวววาวในสายตาของทุกคน เหลือไว้เพียงภาพที่เหมือนดวงอาทิตย์ส่อง
กระบี่ไขว้บินไปหาหมิงตงด้วยพลังจำนวนมหาศาล.
กระบี่ของหมิงตงก็เฉือนคาซด้าเฟยเช่นกัน. เมื่อกระบี่ของเขาถูกเหวี่ยงออกไป,ลมก็เริ่มแปรปรวนเมื่อท้องฟ้ามืดลง. มีเพียงปราณกระบี่ที่ถูกบีบอัดเท่านั้นที่สามารถเห็นได้ในขณะที่มันบินไปยังคาซด้าเฟยและชนกับกระบี่ไขว้ เมื่อเกิดการระเบิด เสียงกระเพื่อมของพลังงานขนาดใหญ่ก็กระจายไปทั่วทั้งพื้นที่ทันที
การฟันของหมิงตงเฉือนปะทะกับกระบี่ไขว้ มันแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หลังจากนั้นเขาจึงพุ่งไปยังคาซด้าเฟย ในท้ายที่สุด มันเจาะเข้าไปในร่างกายของเขาก่อนที่จะกระแทกกับม่านพลังด้านหลังเขา เมื่อเกิดการระเบิด ม่านพลังจึงกระเพื่อมเล็กน้อยก่อนที่การโจมตีจะสลายไป
พลังงานระเบิดที่เกิดจากการต่อสู้ถูกม่านพลังที่อยู่รอบสังเวียนดูดซับไว้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าพลังงานจะปะทะกับม่านพลัง มันก็เหมือนก้อนกรวดที่ถูกโยนลงทะเลและหายไปโดยไม่มีผลกระทบ ภายในชั่วพริบตา ทั่วทั้งสังเวียนสะอาดไร้พลังงานใด ๆ
หมิงตงยังคงรู้สึกถึงความรุนแรงของผลการปะทะที่น่าสะพรึงกลัวนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้มีสีหน้ารื่นเริงเหมือนเดิมอีกต่อไป ตอนนี้เขาหน้าซีดมาก ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์กลืนกินพลังเซียนไปจำนวนมาก และหลังจากการโจมตีที่น่าตกใจ พลังเซียนของเขาก็ถูกใช้ไปเกือบหมด
คาซด้าเฟยยืนอยู่เบื้องหน้าเขาด้วยสายตาที่เฉื่อยชาและท่าทางที่งุนงง
“แคร่ก” ทันใดนั้นชุดเกราะสีขาวที่คลุมร่างของคาซาด้าเฟยเริ่มแตกเป็นรอยร้าวขนาดใหญ่จากหน้าผากจนถึงจุดระหว่างขาของเขาพร้อมกับเลือดสีแดงสดที่ทะลักออกมา ตอนนี้เกราะสีเงินสะดุดตาเป็นอย่างมาก
ในช่วงเวลาต่อไป สิ่งที่น่าประหลาดใจอย่างแท้จริงเกิดขึ้นเมื่อร่างกายของคาซด้าเฟยแยกเป็นสองซีกก่อนที่จะตกลงสู่พื้น อวัยวะภายในของเขาละเอียดเป็นชิ้นโดยมีเลือดไหลนองไปทั่ว
หลังจากทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ทั้งสองได้ปะทะกัน หมิงตงไม่มีบาดแผลแต่คาซด้าเฟยถูกผ่าออกเป็น 2 ซีก
ภาพตรงหน้าทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นั่นหายใจไม่ทั่วท้อง แม้แต่เซียนสวรรค์เองก็พูดไม่ออก ในขณะนี้ มีผู้คนนับล้านที่ดูรอบชิงชนะเลิศ แต่ทั่วทั้งสถานที่กลับเงียบกริบ ความเงียบจึงเป็นเหตุให้ได้ยินจังหวะการเต้นของหัวใจของทุกคนที่กระแทกอย่างรวดเร็ว
เมื่อทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ทั้งสองปะทะกัน ทุกคนต่างก็จินตนาการถึงผลของมัน คนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าทั้งสองฝ่ายจะได้รับบาดเจ็บสาหัสและจบลงด้วยการเสมอกัน พวกเขาไม่ได้จินตนาการว่าจะมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น และหลังจากที่ทั้งสองเริ่มใช้ทักษะการต่อสู้ของพวกเขา หนึ่งในคู่ต่อสู้ได้เสียชีวิตอย่างน่าสยดสยองโดยถูกผ่าออกเป็น 2 ซีก ส่วนอีกคนหนึ่งไม่ได้รับอันตรายใด ๆ เลย
ผู้อาวุโสที่สวมชุดคลุมผ้าไหมทะยานขึ้นมา เขาลอยอยู่ในอากาศ เขาปฏิบัติตัวเหมือนกับว่าเขาแข็งแกร่งกว่าเซียนปฐพีและเซียนสวรรค์ แต่เขาก็ไม่หยาบคาย ไม่มีเซียนสวรรค์ที่อยู่ข้างล่างคนใดมีข้อร้องเรียนหรือไม่พอใจชายผู้นี้ เซียนสวรรค์ทุกคนต่างให้ความเคารพยำเกรงกับเขา
ผู้อาวุโสจ้องสังเวียนด้านล่างก่อนที่จะพูดพึมพำว่า,” เซียนปฐพีวัฏจักรที่ 6 ปะทะกับเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 5 ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ขั้นสูงปะทะกับทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ขั้นต้น ผลลัพธ์แบบนี้ก็เป็นไปตามคาด” ในขณะที่ผู้อาวุโสไม่ได้พูดเสียงดังเกินไป เสียงของเขาก็สามารถได้ยินกันทั่วสังเวียน
ทันใดนั้นฝูงชนก็ส่งเสียงอึกทึก พวกเขามองหมิงตงด้วยความอิจฉาและความชื่นชม
“เขามีทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ชั้นสูงหรือ ? ข้าเป็นเซียนสวรรค์มานานกว่ายี่สิบปี แต่ทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของข้าก็เป็นแค่ระดับปฐพีขั้นสูง..”
“เขาอายุแค่นี้เอง เขาเป็นเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 6 แล้วหรือ ? สวรรค์โปรด นั่นเป็นไปไม่ได้..”
“ข้าหูฝาดหรือไม่ ? เขาอายุไม่ถึง 30 ปี เขาจะเป็นเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 6 ได้อย่างไร? และทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ เทพสวรรค์โปรด นั่นช่างน่าตกใจเกินไป ! งานชุมนุมกลุ่มทหารรับจ้างครั้งนี้น่าทึ่งจริง ๆ “
ในช่วงเวลาสั้น ๆ สามารถได้ยินความคิดเห็นต่างต่างนานารอบ ๆ สังเวียน บางคนแสดงความยินดี บางคนบ่นหรือซุบซิบเกี่ยวกับความคิดของพวกเขาที่มีต่อหมิงตง
ผู้อาวุโสที่ลอยอยู่มองหมิงตงด้วยรอยยิ้มที่มีความอิจฉาเล็กน้อยก่อนที่จะพูดกับตนเองอย่างเหม่อลอยว่า ” ใครจะรู้ว่าผู้อาวุโสสูงสุดจะมอบทักษะที่ทำให้เจ้ากลายเป็นที่รู้จักไปทั่ว ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าเด็กหนุ่มจะมีพลังควบคุมกระบี่ทรราชได้ยอดเยี่ยมเพียงนี้ ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสสูงสุดไม่ได้เสียเวลาฝึกฝนเจ้าโดยเปล่าประโยชน์ หมิงตง เจ้าเป็นใคร ทำไมผู้อาวุโสสูงสุดจึงยอมเสียสละเวลาและพลังงานอย่างมากมายเพื่อฝึกฝนเจ้า ? “
ผู้ชนะของการแข่งขันรอบนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดแก่สายตาของทุกคน แม้ว่าหมิงตงจะยังไม่ได้ยินเสียงโห่ร้องแห่งชัยชนะ แต่ประตูมิติก็เปิดออกให้เขาเดินออกมา
หมิงตงมองศพของคาซด้าเฟยด้วยความโล่งใจและพูดว่า “ข้าบอกเจ้าว่าข้าจะแยกเจ้าออกเป็น 2 ส่วน ตอนนี้เจ้าเชื่อข้ารึยัง” หลังจากนั้นเขาก็เดินออกไปและเข้าไปในประตูมิติ
ประตูมิติที่อยู่ด้านหลังคาซด้าเฟยก็ถูกเปิดออก สมาชิกหลายคนของเมืองทหารรับจ้างเดินเข้ามาข้างในอย่างรวดเร็วและเริ่มทำความสะอาดสังเวียน
หมิงตงกลับมายืนข้างเจี้ยนเฉิน ทุกคนจ้องมองเขาในแง่มุมใหม่ ตอนนี้แต่ละคนมีความหวาดกลัวที่ตราตรึงอยู่ในใจ แม้แต่คารากาก็มองหมิงตงด้วยความรู้สึกใหม่จากเดิมอย่างสิ้นเชิง
เจี้ยนเฉินและหมิงตงมองหน้ากันกันก่อนที่ทั้งคู่จะนั่งลงบนเก้าอี้เพื่อดูการแข่งขันที่เหลือ
ในตอนนี้ ฉินจี๋ก็เดินเข้ามาหาหมิงตงด้วยท่าทางที่แสดงความเคารพ “ขอแสดงความยินดีกับพี่หมิงตงที่ได้เป็นหนึ่งในสิบอันดับแรก คนที่แข็งแกร่งอย่างเจ้า การเข้าสู่สามอันดับแรกจะไม่ใช่งานที่เป็นไปไม่ได้เลย”
หมิงตงหัวเราะลั่นและเริ่มพูดคุยกับฉินจี๋อยู่สักพัก
ในขณะที่ทั้งสองพูดคุยกัน,รอบชิงชนะเลิศยังคงดำเนินต่อไปด้วยความพิศวง,แต่หลังจากการแข่งขันระหว่างหมิงตงและคาซด้าเฟยก็ไม่มีอะไรเทียบได้กับการปะทะที่สวยงามของพวกเขา การแข่งขันหลังจากนั้นจึงไม่ได้น่าตื่นเต้นมาก
หลังจากสรุปการแข่งขัน 8 รอบ พวกเขาก็ได้ผู้ชนะทั้ง 8 คน. อาริเดีย, ซาร์เอี้ย, เจี้ยนเฉิน, หมิงตง, ปาหลีตง, คารากาและซ่างกวนหยุนเฟิ่ง
สิ่งที่ทำให้เจี้ยนเฉินตกใจมากคือเซียนธาตุลมที่เขาเคยเจอตอนช่วงที่เก็บเหรียญตราก็ได้เป็นหนึ่งในแปด เขาก็คือซ่างกวนหยุนเฟิ่ง
หลังจากการจัดแปดอันดับแรก จื่อและเทียนมู่หลิงก็สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้จนได้กลับเข้ามาสู่สิบอันดับแรก
ในที่สุดการจัดสิบอันดับของผู้เข้าแข่งขันก็เสร็จสมบูรณ์ อาริเดีย, ซาร์เอี้ย,เจี้ยนเฉิน,หมิงตง,ฉินจี๋, ปาหลีตง,คารากา, ซ่างกวนหยุนเฟิ่ง, จื่อและเทียนมู่หลิง
หลังจากนั้นการแข่งขันก็พร้อมที่จะก้าวสู่รอบต่อไป การแข่งขันจะไม่สิ้นสุดจนกว่าจะพบราชาแห่งทหารรับจ้าง มีเพียงผู้เข้าแข่งขันแปดอันดับแรกเท่านั้นที่จะสามารถแข่งขันชิงตำแหน่งดังกล่าวเช่นเดียวกับ เทียนมู่หลิงและจื่อที่เข้ามาเป็นที่เก้าและที่สิบ
ทั้งแปดคนเริ่มเลือกหมายเลขของพวกเขาเพื่อประกาศการแข่งขัน ผลก็คือ :
เจี้ยนเฉิน ปะทะกับ คารากา
หมิงตง ปะทะกับ ซ่างกวนหยุนเฟิ่ง
ฉินจี๋ ปะทะกับ ซาร์เอี้ย
อาริเดีย ปะทะกับ ปาหลีตง
รอบสุดท้ายจะถูกจัดขึ้นในอีกสามวันข้างหน้า ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนเข้าไปพักในโรงเตี๊ยมพิเศษที่เตรียมไว้ให้พวกเขาพักผ่อน โรงเตี๊ยมจะได้รับการป้องกันโดยม่านพลังทำให้มีเพียงผู้เข้าแข่งขันเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ ในเวลาเดียวกันพวกเขาไม่สามารถออกจากม่านพลังได้ เสี่ยวเอ้อในโรงเตี๊ยมทั้งหมดก็เป็นคนของเมืองทหารรับจ้างที่ได้รับความไว้วางใจ
ในช่วงสามวัน เจี้ยนเฉินใช้เวลาส่วนใหญ่ของเขาเพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายของเขาจะอยู่ในสภาพดีที่สุด หลังจากนั้นเขาก็นำกระบี่ตันหยวนและผนึกสมบัติภูเขาออกมาตรวจสอบ หลังจากตรวจดูมาครึ่งวัน เขาก็มาถึงข้อสรุปสุดท้าย เขาจะไม่สามารถใช้ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฏได้ และแม้ว่าเขาจะใช้พลังเซียนของตัวเองเพื่อบังคับมัน มันก็จะถูกกำจัด ผนึกสมบัติภูเขาเป็นเหมือนที่พี่น้องสี่คนของตระกูลไคกล่าว เจี้ยนเฉินไม่สามารถใช้มันได้ มันเป็นเพียงเศษเหล็กเมื่ออยู่ในในมือของเขา
“เป็นไปได้หรือไม่ว่าคำพูดของสี่คนนั้นเป็นจริง ? ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฏจำเป็นต้องมีสายเลือดที่ถูกต้องเพื่อใช้งานหรือ ? ” เจี้ยนเฉินไตร่ตรองขณะที่เขามองวัตถุตรงหน้า นี่เป็นคำอธิบายเดียวที่สมเหตุสมผลสำหรับเขา
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินเก็บยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎทั้งสองชิ้นกลับเข้าไปในแหวนมิติและเริ่มศึกษาทักษะมายาพริบตา
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา พี่น้องสี่คนของตระกูลไคได้เผยแพร่ข่าวการเสียชีวิตของชิเซียงกรานว่าเป็นฝีมือของเจี้ยนเฉิน และเขายังยึดยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฏของตระกูลชิไว้อีกด้วย เมื่อตระกูลชิได้ยินข่าวดังกล่าว ผู้นำตระกูลก็ตกตะลึงจนไม่อยากจะเชื่อและโกรธเคืองอย่างมาก แม้ว่าชิเซียงกรานจะเป็นบุตรชายคนที่สามพรสวรรค์ในการบ่มเพาะของเขาก็อยู่เหนือกว่าคนอื่น เขาเป็นคนที่โดดเด่นที่ปรากฏตัวครั้งหนึ่งในพันปี
2 ชั่วยามหลังจากได้รับข่าว เซียนสวรรค์ทั้งสองคนก็ถูกส่งไปยังเมืองทหารรับจ้าง