ตอนที่ 181

“อืม เจ้าพัฒนาขึ้นมาก เมื่อเทียบกับการฝึกฝนเมื่อวานศิษย์เฟย”

หยวนพูดกับเธอพร้อมกับรอยยิ้มที่เห็นได้ชัดบนใบหน้าของเขา หลังจากฝึกฝนมาทั้งวันคล้ายกับวิทยากร

“ขอบคุณ…”

เฟยยู่หยานพูดด้วยน้ําเสียงที่หดหูเล็กน้อย โดยไม่แน่ใจว่าเธอควรรู้สึกอย่างไรกับสถานการณ์ของเธอ

ในอีกด้านหนึ่งทักษะพิณของเธอพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน แต่ในทางกลับกันเธอได้รับการสอนจากศิษย์รุ่นน้องที่มีประสบการณ์น้อยกว่าเธอทั้งๆที่เธอมีสถานะอาวุโสกว่างั้นหรอและมันเหมือนการตบหน้าเธอด้วยพรสวรรค์ที่เหมือนพระเจ้าของเขา

“ดูเหมือนว่าข้าเป็นคนเดียวที่ได้รับประโยชน์จากการฝึกฝนนี้จริงๆ … “เฟยยู่หยานถอนหายใจในใจรู้สึกละอายตัวเองเล็กน้อย

“ถ้าเป็นแบบนี้หยวนอาจชนะการแข่งขันทั้งหมดด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าศิษย์เฟย”

ซวนหวู่ฮั่นพูดกับเธอด้วยรอยยิ้ม

เฟยยู่หยานต้องการหักล้างคําพูดของซวนหวู่ฮั่น แต่เธอไม่สามารถพูดอะไรได้ เพราะเธอก็เห็นด้วยว่าหยวนมีความสามารถในการพาเธอไปสู่อันดับที่สามได้

ในเวลาต่อมาเมื่อการฝึกฝนสิ้นสุดลง หมินลี่ก็กลับไปที่บ้านของเธอที่อยู่ข้างๆ ในขณะที่คนอื่นๆต่างก็ไปทําสิ่งต่างๆของตัวเอง

“อย่าบอกนะว่าคืนนี้เจ้าจะพักที่นี่อีก ข้าคิดว่ามันเป็นแค่คืนเดียวเท่านั้น”

เฟยยู่หยานพูดกับซวนหวู่ฮั่นที่กําลังนอนเล่นอยู่บนเตียง และไม่มีความตั้งใจที่จะออกไปในเร็วๆนี้

“ข้าบอกว่าแค่คืนเดียวเหรอ เนื่องจากข้ามาอยู่ที่นี่แล้ว มันก็ไม่สําคัญว่าข้าจะอยู่ที่นี่อีกวันหรือสองสามวัน”

ซวนหวู่ฮันพูดด้วยน้ําเสียงไร้ยางอาย

เฟยยู่หยานส่ายหัว และไม่สนใจซวนหวู่ฮันราวกับว่าเธอคุ้นเคยกับพฤติกรรมของเธอแล้ว

วันต่อมาหยวนและเฟยยู่หยานไปที่สวนหลังบ้านแต่เช้าตรู่เพื่อฝึกพิณส่วนซวนหวู่ฮั่นไปในฐานะผู้ชมเช่นเดียวกับหมินลี่ที่ไม่สนใจกิจวัตรประจําวันของเธอและใช้เวลากับหยวนมากขึ้นเพื่อที่เธอจะได้ไม่เป็นรองของทั้งสองที่อยู่ข้างหน้าเธอในเรื่องของความสัมพันธ์ และความใกล้ชิด

ถ้าครอบครัวของเธอรู้เรื่องนี้พวกเขาคงจะดุเธอแน่ๆแต่โชคดีสําหรับเธอ เธอเป็นคนเดียวจากตระกูลหมินในวิหารแก่นมังกรในขณะที่พี่น้องของเธออยู่ในนิกายชั้นยอดอื่นๆและมีอํานาจมากกว่า

ในเวลาต่อมาวันที่สี่ของการฝึกซ้อมก็สิ้นสุดลง

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ทุกคนเตรียมพร้อมที่จะออกจากสนามหลังบ้านเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น

“ศิษย์เฟยข้ามาแล้ว!”

ผู้อาวุโสชานไม่รอให้คนใดคนหนึ่งเปิดประตู และเปิดประตูด้วยกุญแจของเธอเอง ก่อนที่จะปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาในอีกสักครู่ต่อมา

“อาจารย์มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?”

เฟยยู่หยานมองไปที่เธอด้วยใบหน้างงงวย สงสัยว่าทําไมผู้อาวุโสชานถึงดูตื่นเต้นมาก

“เจ้าไม่เคยได้ยินเหรอ มีการประกาศผู้ตัดสินสําหรับการแข่งขันพิณ และเจ้าจะไม่เชื่อว่าใครจะเป็นผู้ตัดสินการแข่งขันในปีนี้!”

ผู้อาวุโสชานกล่าว

“ใครงั้นหรอผู้อาวุโสชาน?”

เฟยยู่หยานถามด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อย เนื่องจากเธอไม่เคยเห็นผู้อาวุโสชานตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อน

“ผู้นําของสถาบันดนตรีแห่งสวรรค์ ผู้อาวุโสซ่งหลิงเอ๋อ!”

ผู้อาวุโสชานกล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

“อะไรนะ?! ผู้อาวุโสซ่งหลิงเอ๋องั้นหรอ?!”

เฟยยู่หยานร้องด้วยน้ําเสียงตกใจ ทําให้หยวนและอีกสองคนตกใจ

“ผู้อาวุโสซ่งหลิงเอ๋อ? คือใคร?”

หยวนตัดสินใจถามเธอ

“เจ้าไม่รู้จักเจ้าแม่แห่งเพลงหรอ ผู้เชี่ยวชาญพิณอันดับหนึ่งของสวรรค์ชั้นล่าง เธอถูกเรียกว่าเป็นเทพธิดาแห่งดนตรีด้วยซ้ํา!”

เจ้าแม่แห่งเพลง? หยวนเลิกคิ้วอย่างไม่แน่ใจ ว่าควรรู้สึกอย่างไรกับชื่อที่เอาแต่ใจเช่นนี้

“สถาบันดนตรีแห่งสวรรค์ เป็นนิกายชั้นยอดที่มุ่งเน้นไปที่เครื่องดนตรีโดยเฉพาะ ศิษย์ส่วนใหญ่จะใช้เครื่องดนตรีเป็นอาวุธและผู้นํานิกายของพวกเขาผู้อาวุโสซ่งหลิงเอ๋อร์มีความเชี่ยวชาญในเครื่องดนตรีหลายสิบชนิดโดยมีพิณเป็นเครื่องดนตรีโปรดของเธอ”

ผู้อาวุโสชานอธิบายกับหยวน

“ตามจริงแล้วข้าอยากเข้าร่วมสถาบันดนตรีแห่งสวรรค์ในตอนแรก ก่อนที่จะเข้าวิหารแก่นมังกรแต่ข้าไม่ได้ตั้งใจมากพอที่จะมุ่งเน้นไปที่พิณในเวลานั้น ดังนั้นข้าจึงมาอยู่ที่วิหารแก่นมังกรแทน”

เฟยยู่หยานยักไหล่

“เสียดายมั้ย?” จู่ๆผู้อาวุโสชานก็ถามเธอ

“เจ้าคงกลายเป็นศิษย์หลักที่นั่นด้วยทักษะพิณของเจ้าได้แน่ๆ”

“ข้าคงจะโกหก ถ้าข้าบอกว่าไม่เสียดาย เพราะมีหลายครั้งที่ข้าสงสัยว่าข้าจะทําได้ดีกว่านี้ไหมในฐานะศิษย์ที่สถาบันดนตรีแห่งสวรรค์ แต่ส่วนใหญ่ข้าก็ดีใจที่ได้เข้าร่วมวิหารแก่นมังกรอาจารย์”

เฟยยู่หยานกล่าว

ผู้อาวุโสชานพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและกล่าวต่อว่า

“อย่างไรก็ตามจะมีกรรมการอีกสองคนอยู่เคียงข้างผู้อาวุโสซ่ง แต่พวกเขาก็อาจจะไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วยเมื่อผู้อาวุโสซ่งอยู่ที่นั่น! เป็นประโยชน์ทั้งต่อเจ้าและความสัมพันธ์ระหว่างของวิหารแก่นมังกรกับสถาบันดนตรีแห่งสวรรค์ด้วย”

“แม้ว่าสถาบันดนตรีแห่งสวรรค์จะแตกต่างจากนิกายอื่นๆอย่างมาก แต่อย่าดูถูกความสามารถของพวกเขาต่ําเกินไปเนื่องจากพวกเขาอยู่ในอันดับที่ 3 ของนิกายที่แข็งแกร่งที่สุดในสวรรค์ชั้นล่าง”

“แล้ววิหารแก่นมังกรของเราล่ะเราอยู่อันดับไหน?”

จู่ๆหยวนก็ถามขึ้น

รอยยิ้มหวานอมขมกลืนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้อาวุโสชานและเธอตอบว่า

“ในยุคของผู้ก่อตั้งวิหารแก่นมังกร เราเป็นอันดับหนึ่ง แต่นับตั้งแต่เขาหายตัวไป อันดับของเราก็ลดลช้าๆและตอนนี้เราอยู่ที่ 7 เท่านั้นในการจัดอันดับ “

“ที่ 7 ก็ดีมากแล้วไม่ใช่เหรอ”

หยวนเลิกคิ้ว

“แน่นอน แต่เมื่อเทียบกับความรุ่งเรืองในอดีตของเราแล้ว มันค่อนข้างน่าอับอายและเป็นการตบหน้าบรรพบรุษของเรา…”

ผู้อาวุโสชานถอนหายใจ

“อย่างไรก็ตามข้าเชื่อว่าการจัดอันดับของเราจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นในไม่ช้า ดังนั้นทุกอย่างจะดีขึ้น”

ผู้อาวุโสชานขยิบตาที่สวยงามของเธอให้กับหยวนทําให้ผู้หญิงทั้งสามคนที่นั่นตกตะลึงและพวกเขาก็สงสัยอย่างเงียบๆว่าหยวนซ่อนอะไรจากพวกเขาอีก