“แต่มันจับตัวเจ้าลิงผอมไปเพื่ออะไร?” กู่ซวงซวงส่องไฟฉายลึกเข้าไปในช่องทางเดิน แต่ด้านหน้ากลับมืดสนิท ความเร็วของอีกฝ่ายสูงจนน่าทึ่ง ตั้งแต่จับตัวเจ้าลิงผอมจนหายตัวไป ใช้เวลาทั้งหมดไม่ถึงหนึ่งวินาทีด้วยซ้ำ
ศัตรูแบบนี้ เธอจะไล่ตามทันจริงๆ น่ะหรอ?
“ไม่มีเวลาคิดแล้ว ถ้าฉันไม่ไป ตอนนี้ก็ไม่มีใครไปอีกแล้ว…เกิดถ้าเจ้าลิงผอมเป็นอะไรไปจริงๆ ฉันก็จะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวเห็นผู้อื่นตายแต่ไม่ยอมช่วย ถ้าอย่างนั้นสู้ไปตายเสียดีกว่า…” กู่ซวงซวงกัดริมฝีปาก พลันวิ่งพุ่งตามไป… “ฮึกๆ…เจ้าลิงผอม นายอย่าตายเชียวนะ! ห้ามตายเด็ดขาด! ฉัน…ฉันก็จะไม่มีวันตาย…หัวหน้าจะมาช่วยนายกับฉันแน่นอน…”
กู่ซวงซวงตะโกนลั่นในใจ ใบหน้าชุ่มไปด้วยหยดน้ำมากมาย…แต่แม้กระทั่งตัวเธอก็ยังไม่แน่ใจ ว่ามันเป็นเหงื่อ หรือน้ำตากันแน่…
“หัวหน้า เจอพวกเขาไหม?” เย่ไคถามอย่างรีบร้อน
ความจริงเขาถามถึงพลังจิตสัมผัสรู้ของหลิงม่อ ทว่าสิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ แท้จริงแล้วหลิงม่อกำลังใช้ตามองจริงๆ…ได้ยินเขาถาม หลิงม่อเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ขมวดคิ้วส่ายหน้า “ยังไม่เจอ…”
“แต่เมื่อกี้ตอนที่ได้ยินเสียง…ระยะห่างเหมือนอยู่ตรงจุดที่พวกเขากำลังวิ่งผ่านตอนนี้เลยนี่นา…” สวี่ซูหานวิ่งตามอยู่ข้างหลังหลิงม่อ พลันพูดขึ้น ความเร็วเฉลี่ยของเธอเทียบกับเหล่าซอมบี้ระดับสูงกลุ่มนั้นไม่ได้ เพราะเหตุนี้หลังจากพุ่งกระโจนไปข้างหน้าเป็นบางครั้ง เธอก็จะรักษาความเร็วในการเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ…
แต่แค่ความเร็วสม่ำเสมอในระดับนี้ ก็เป็นระดับที่มนุษย์ทั่วไปหรือซอมบี้ธรรมดายากจะรักษาไว้ให้คงที่ได้ตลอด…
และเวลานี้ อวี่เหวินซวนก็ยกมือชี้ไปข้างหน้า บอกว่า “ใช่สิ ข้างหน้านี้เหมือนจะเป็นผนังฝังศพที่พวกเราเจอก่อนหน้านี้แล้วนะ…”
เวลานี้ พวกเย่เลี่ยนได้ไปถึงบริเวณผนังฝังศพก่อนแล้ว และสิ่งที่ซย่าน่าเห็นในแวบแรก ไม่ใช่เศษผ้าชิ้นนั้น แต่เป็นเรื่องที่น่าตกใจยิ่งกว่า…
“ทุกคนดูนี่…” ซย่าน่าเบิกตากว้างชี้ไปที่ปากถ้ำมืดๆ ที่อยู่ห่างจากผนังฝังศพไม่ไกล “ปากถ้ำนั่น…มันอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วหรอ?”
เย่เลี่ยนลองนึกย้อน จากนั้นก็ส่ายหน้า ตอบว่า “ไม่…ไม่นี่…”
“ปากถ้ำนี้…” หลี่ย่าหลินเดินเข้าไปตรวจดูตรงขอบปากถ้ำอย่างละเอียด จากนั้นก็เงยหน้าบอกว่า “เอาล่ะ มันเพิ่งถูกขุดขึ้นจริงๆ ด้วย…ถ้าดูจากความใหม่ น่าจะเพิ่งถูกขุดไม่นานหลังจากที่พวกเราเดินผ่านไป…อื่มม…”
หลี่ย่าหลินแสร้งพูดด้วยใบหน้าจริงจัง ทว่าด้วยสายตาของซอมบี้ ยากที่จะเกิดข้อผิดพลาดยามแยกแยะเรื่องเหล่านี้
“ขุด? พี่หลิงบอกว่าคนที่มีพิรุธคือผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่หรอ? เธอจะขุดถ้ำนี้ได้หรอ?” ซย่าน่าแคลงใจ เรืองแบบนี้ให้พวกเธอที่เป็นซอมบี้ทำอาจเป็นไปได้ อย่าว่าแต่ถ้ำเลย แม้แต่ช่องทางเดิน พวกเธอก็สามารถใช้มือเปล่าขุดขึ้นมาได้…แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ว่าจะคิดจากมุมไหน ก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้น…
“แต่ว่า…เรื่องจริงปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้วนี่นา…น่าเสียดาย เธอแสดงละครได้แนบเนียนเกินไป จนถึงตอนนี้ฉันยังคิดไม่ออกเลยว่าเธอมีช่องโหว่ตรงไหน ที่พี่หลิงรู้เรื่องนี้ ต้องเป็นเพราะนึกเบาะแสอะไรบางอย่างออกแน่นอน…อีกอย่าง ไม่แน่ว่าก่อนหน้านี้เธออาจจงใจแสดงออกอย่างนั้น จุดประสงค์ก็เพื่อจะให้พี่หลิงทิ้งเธอไว้ เมื่อเป็นอย่างนั้น เธอก็จะสามารถเคลื่อนไหวได้ตามใจใต้เปลือกตาพวกเราแล้ว…” ซย่าน่าบอก…
“น่าจะฆ่าเธอตั้งแต่ตอนนั้นซะ!” หลี่ย่าหลินบอก
“ได้ยังไงกันล่ะ? ตอนนั้นนอกจากรู้สึกว่าเธอต้องการใช้เราเป็นเครื่องมือฆ่าซอมบี้ตัวนั้น ก็ไม่ได้มีปัญหาอื่นอีก ถ้าหากว่าฆ่าตายไปง่ายๆ อย่างนั้น พี่หลิงก็ห่างจากพวกชอบฆ่าผู้บริสุทธิ์แค่เส้นบางๆ แล้ว…คำพูดนี้น่าน่าเป็นคนบอก” ซย่าน่าพูดขึ้น
“ทำไมต้องห่างแค่เส้นบางๆ ด้วยล่ะ…ก็เห็นอยู่ว่านั่นเป็นการฆ่าผู้บริสุทธิ์ชัดๆ อยู่แล้ว…”
ขณะที่ซย่าน่ากับหลี่ย่าหลินคุยกัน เย่เลี่ยนได้เดินเข้าไปในช่องทางเดินเส้นใหม่นั่นสองสามก้าว แล้วเธอก็เห็นเศษผ้าชิ้นนั้น…
“อันนี้…เหมือนจะ…อยู่บนตัวมนุษย์ที่ชื่อเจ้าลิงผอม…” เย่เลี่ยนอ้าปากพูดเสียงแผ่วเบา
ทว่าแม้ว่าเสียงของเธอจะเบามาก แต่กลับดึงดูดความสนใจของซย่าน่ากับหลี่ย่าหลินได้ทันที
“หืมม จริงด้วยแฮะ…” ซย่าน่ารับไปดู แล้วพูดอย่างมั่นใจ
และเวลานี้ หลี่ย่าหลินก็พบร่องรอยหนึ่งบนพื้นข้างผนัง…
。
“ตรงนี้…พวกเธอว่า เหมือนรอยถูกเตะไหม?” เธอชี้ไปที่รอยลากเส้นหนึ่งบนพื้น
ซย่าน่ามองครู่หนึ่ง ขมวดคิ้วบอกว่า “อื่ม…ด้านหน้าลึกด้านหลังตื้น น่าจะเกิดขึ้นระหว่างถูกลาก แล้วปลายเท้าครูดกับพื้น ตอนแรกเขายังขัดขืน แต่พอถึงตรงนี้…ซึ่งก็น่าจะผ่านไปเพียงเสี้ยววินาที เขาก็สูญเสียพลังต่อต้านไปทันที…ดังนั้นร่องรอยด้านหลังจึงตื้นลง จนสุดท้ายก็มองไม่เห็นอีกเลย…”
สามสาวซอมบี้มองหน้ากันครู่หนึ่ง จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปที่ปากทางเดินเส้นใหม่ที่เพิ่งถูกขุดขึ้นมา…
“ไปกัน!”
เมื่อซย่าน่าพูดเสียงเข้ม เงาร่างของทั้งสามก็หายลับเข้าไปในปากถ้ำ และไม่นาน พวกหลิงม่อก็ตามมาถึงที่ดังกล่าว ทว่าหลิงม่อกลับไม่ชะงักหยุด เพียงพาทุกคนพุ่งตรงเข้าไป
“นี่คือ…”
“ทำไมอยู่ๆ ถึงได้มีทางเดินเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเส้นล่ะ…”
“น่าจะถูกขุดไว้นานแล้ว ต่อมาก็ถูกตัดผ่าน หลังจากที่เราเดินผ่านที่นี่ ผู้หญิงคนนั้นก็ตามพวกเรามา เธอคุ้นเคยกับที่นี่มากกว่าพวกเรา แม้แต่ทางเดินที่ซ่อนอยู่หลังผนัง เธอก็รู้” หลิงม่อบอก
“ใช่สิ…” หลิงม่อพลันนึกกลัวขึ้นมา บอกว่า “ฉันเคยรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ…อย่างกับถูกใครจ้องอยู่…แต่พอหันหลังไปดู ก็ไม่เห็นอะไร อีกอย่าง…ฉันรู้สึกอย่างนั้นตอนที่อยู่แถวๆ นี้แหละ…”
“ถ้าอย่างนั้นต้องเป็นผู้หญิงคนนั้นแน่นอน” หลิงม่อพยักหน้า
“นี่มัน…” มู่เฉินเผยสีหน้ารู้สึกผิด ถ้าหากว่าตอนนั้นเขาพูดออกมาตรงๆ ล่ะก็…
“อย่ามัวคิดอะไรแปลกๆ ที่นี่มีสายตาอยู่ตั้งหลายคู่ ใครบ้างไม่คิดแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นผู้หญิงคนนั้นก็ถูกตีสลบไปแล้วจริงๆ ดังนั้นในรายชื่อบุคคลควรระวังของเรา จึงไม่มีเธอรวมด้วยอยู่แล้ว…” หลิงม่อบอก
“ถ้าอย่างนั้น…พวกกู่ซวงซวงกับผู้หญิงคนนั้น ต่างก็เข้าไปในนี้แล้ว…” อวี่เหวินซวนวิ่งไปด้วย พลางทอดมองเข้าไปข้างใน แล้วพูดขึ้น
ตอนที่พวกเขาวิ่งเข้ามาไม่ได้สังเกตอะไรมาก แต่ตอนนี้กลับค้นพบว่า ทางเดินเส้นนี้เป็นทางเดินที่ถูกทิ้งร้างไว้นานแล้วตามคาด ไม่เพียงเต็มไปด้วยหยากไย่ แต่อากาศยังไม่ค่อยถ่ายเทอีกด้วย…
“ซึ่งนั้นบ่งบอกเรื่องหนึ่งได้เป็นอย่างดี…” หลิงม่อบอก “ทางเดินเส้นนี้จะไม่สั้นเกินไปแน่นอน”
เป็นไปตามคาด หลังผ่านไปหลายวินาที พวกหลิงม่อเพิ่งมาถึง “สี่แยก” หนึ่ง…
“หรือว่าเจ้าแมงมุมยักษ์นั้นขุดข้างล่างนี้จนพรุนไปหมดแล้ว?” มู่เฉินมองไปยังทางเดินเส้นใหม่แวบหนึ่ง แล้วบอก
“พวกนายก็เห็นแล้ว มันชอบขุดหลุม แล้วยังมีเวลา…” ทั้งๆ ที่คำพูดนี้ออกมาจากปากของอวี่เหวินซวนที่ยามนี้มีสีหน้าตึงเครียด แต่ไม่รู้ทำไม กลับทำให้คนฟังรู้สึกพูดไม่ออก…
ถ้าเป็นเวลาปกติ หลิงม่อต้องหัวเราะเยาะเขาแน่นอน แต่ตอนนี้เขากลับไม่มีอารมณ์นั้น…เขามองซ้ายมองขวา ไม่นานก็จดจ้องไปที่วงกลมซึ่งถูกวาดไว้บนพื้น “ทางนี้แหละ นี่น่าจะเป็นสัญลักษณ์ที่พวกกู่ซวงซวงทิ้งไว้ พวกเราเดินไปตามสัญลักษณ์ก็พอ”
ความจริงแล้ว พวกซย่าน่าที่เดินผ่านทางนี้ไปก่อนได้มั่นใจแล้ว ว่านี่เป็นสัญลักษณ์ที่พวกกู่ซวงซวงวาดไว้…และเวลานี้ พวกเธอก็ได้มุ่งหน้าลึกเข้าไปในทางเดินเส้นนี้แล้ว…ด้วยความเร็วและพลังของพวกเธอ ไม่เพียงมีโอกาสตามพวกกู่ซวงซวงทัน แต่ยังสามารถรับประกันความปลอดภัยของตัวเองและพวกกู่ซวงซวงได้ดีกว่าด้วย…
“ถ้าอย่างนั้น…กู่ซวงซวงก็จะปลอดภัยชั่วคราวงั้นหรอ? แต่เธอวิ่งมาที่แบบนี้…” มู่เฉินขมวดคิ้ว พูดขึ้น
หลิงม่อถอนหายใจ “เพราะว่าเกิดเรื่องกับเจ้าลิงผอม…มีเพียงคำอธิบายนี้ที่ฟังดูสมเหตุสมผลที่สุด และกู่ซวงซวงก็รู้ดีถึงความแตกต่างระหว่างพลังของตัวเองกับศัตรู ถึงได้ทิ้งสัญลักษณ์ไว้ให้พวกเรา เพราะหวังว่าพวกเราจะตามพวกเขาไปได้เร็วขึ้น…”
ขณะเดียวกับที่พูด หลิงม่อก็ได้เร่งความเร็วขึ้นอีกครั้ง เขารู้สึกได้รางๆ สาเหตุที่ผู้หญิงคนนั้นทำอย่างนี้ เพราะว่าต้องการล่อพวกเขาไปยังสถานที่บางแห่ง…และในสถานที่แห่งนั้น บางทีเขาอาจได้พบกับซอมบี้ตัวนั้น…
“ในเมื่อแกทำเรื่องวุ่นวายขนาดนี้เพื่อที่จะได้เจอฉัน ถ้าอย่างนั้นเรามาเจอกันหน่อยก็แล้วกัน…” หลิงม่อพลันนึกถึงเรื่อง “หัวใจ” ของเสี่ยวเฮยขึ้นมา…ขนาดซอมบี้พลังจิตที่ถูกสร้างขึ้นโดยเจ้าแมงมุมยักษ์กับซอมบี้ตัวนั้นยังมีพลังจิตมากมายถึงเพียงนี้ แล้วถ้าเป็นเจ้าซอมบี้ตัวนั้นเองล่ะ? ถ้าหากว่ากลืนกินมัน…
ทว่าในเวลานี้ หัวใจหลิงม่อกลับไหววูบ…
เขารู้แล้วว่าเคยเจอซอมบี้แบบนี้ที่ไหน…ไม่น่าล่ะ เขาถึงได้รู้สึกคุ้นเคยแปลกๆ…
“ซย่าน่า พวกเธอยังจำซอมบี้แบบนั้นได้ไหม? ที่เหมือนถูกใยแมงมุมหุ้มไว้และเน่าเปื่อยอย่างต่อเนื่อง…ฉันจำได้ว่ามีร่างทารกอะไรซักอย่างด้วย…แล้วก็มีแหล่งแพร่เชื้อ…ซึ่งก็น่าจะเป็นร่างแม่…แต่ว่าตอนนั้นที่พวกเราไปถึง ร่างแม่ตัวนั้นก็ไม่อยู่แล้ว” เสียงหลิงม่อถามดังขึ้นในสมอง
“พูดให้ชัดกว่านี้หน่อย…”
หลิงม่อลูบกระเป๋าเป้อย่างไม่รู้ตัว บอกว่า “เจ้ามาสเตอร์บอล…”
“หื้ม? หมายถึงเจ้าตัวที่ตั้งแต่กลายเป็นลูกบอลก็ไม่ยอมขยับอีกเลยน่ะหรอ? ฉันก็นึกว่ามันวิวัฒนาการจนกลายเป็นมาสเตอร์บอลไปแล้วจริงๆ ซะอีก…ทำได้เพียงเอาไปปาหัวคนแล้วมั้ง…” ซย่าน่าอ้าปากก็พูดแขวะเจ้าสิ่งที่มีรูปร่างคล้ายลูกบอลจนไม่เหลือเค้าเดิม…
ทว่าหลิงม่อก็จำต้องยอมรับ เพราะว่าเจ้ามาสเตอร์บอลเป็นอย่างที่เธอว่าจริงๆ ความจริงแม้แต่เขาเองก็ยังไม่รู้ ว่า “แบตเตอร์รี่สำรอง” ตัวแรกสุดของเขาจะกลายเป็นตัวอะไร และจำสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้งเมื่อไหร่…
แต่เวลานี้เมื่อเขานึกออกในที่สุดว่ามันเป็นซอมบี้ประเภทไหน เขาพลันรู้สึกได้อย่างแรงกล้า ว่านี่เป็นเวลาที่จะขว้างเจ้ามาสเตอร์บอลออกมาแล้ว…
“ทำไมหรอ ซอมบี้พวกนี้เกี่ยวอะไรกับเจ้ามาสเตอร์บอลงั้นหรอ? หรือว่า…พวกมันเป็นซอมบี้ประเภทเดียวกับซอมบี้กลายร่างพวกนั้น?” ซย่าน่าฉุกคิดได้ทันที
“ฉันก็ไม่มั่นใจ แต่ฉันรู้สึกได้ว่าไม่แน่ซอมบี้ตัวนี้ อาจเป็นร่างแม่ที่เราพลาดไปในตอนนั้นก็ได้…ร่างแม่ซอมบี้กลายร่างสายพลังจิต…” หลิงม่อพูดอย่างแช่มช้า