เมื่อเทาเท่มาถึง เขาก็ตามหาร่างของหลินจือเป็นอันดับแรก ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่ถูกข่มขืน แต่ใบหน้าของเธอซีดมากจนไม่มีร่องรอยของเลือด
ตำรวจคลายเนกไทให้เธอ ตอนนี้เธอกำลังดึงเสื้อเชิ้ตมาปกปิดร่างกายตัวเอง
เทาเท่เหลือบเห็นกระดุมที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นข้างๆ ก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
ดวงตาหม่นลง เขาถอดเสื้อสูทออกแล้วเดินเข้าไปคลุมไหล่ของหลินจือ
จากนั้นเขาก็ยกเท้าเตะไอ้หัวเหลืองและเพื่อนอย่างรุนแรงอย่างทนไม่ไหว ทั้งสองที่กำลังนั่งยองๆก็ถูกเตะจนตรงไปกองอยู่ที่พื้น
ไอ้หัวเหลืองตะโกนด้วยความตกใจกลัว “ไม่ใช่พวกเรานะ ไม่ใช่พวกเรา กระดุมของผู้หญิงคนนี้เราไม่ได้เป็นคนดึง น้องสาวคุณดึงต่างหาก!”
เพื่อนของเขาก็อธิบายอีกว่า “ใช่ครับคุณเทาเท่ พวกเรายังไม่ได้แตะต้องตัวเธอเลย!”
“อะไรนะ?” เทาเท่นึกว่าเขาได้ยินผิดไป
พอเขาเห็นว่ากระดุมของหลินจือขาด ปฏิกิริยาแรกของเขาคือคิดว่าสองคนนี้ทำ ดังนั้นเขาจึงเตะพวกเขาด้วยความโกรธ
ผลคือได้รับแจ้งว่ากลับเป็นพินอินที่เป็นคนดึง
พฤติกรรมของคนคนหนึ่งต้องแย่แค่ไหนที่จะสามารถฉีกเสื้อผู้หญิงให้โป๊ต่อหน้าผู้ชายสองคนได้
อาจเป็นเพราะต้องการทำให้ตัวเองดูไร้เดียงสาขึ้น ไอ้หัวเหลืองคนนั้นยังคงสารภาพอย่างสั่นเทา “ยังมีอีกครับ น้องสาวคุณยังให้เราทั้งคู่นอนกับเธอ แล้วยังบอกว่าจะถ่ายทั้งหมดเอาไว้ ถึงตอนนั้นจะได้สามารถเอามาบีบเธอได้”
สีหน้าของเทาเท่ตอนนี้สามารถใช้คำว่า “อยากจะฆ่าคน” มาอธิบายได้ เขาก้าวไปข้างหน้าหิ้วพินอินที่อยู่ในมือของตำรวจมาจากพื้น แล้วตบหน้าพินอินอย่างรุนแรง พินอินถูกตบจนตาลาย
ไม่ง่ายที่จะสามารถยืนอย่างมั่นคงได้ พอฝ่ามือของเทาเท่ตบลงมาอีกครั้ง คราวนี้เธอถูกตบจนล้มลงไปกองกับพื้น มุมปากมีเลือดหยดลงมา
พินอินเจ็บมากจนหมดแรงอยู่ครู่หนึ่ง เธอนอนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่บนพื้น
เทาเท่ยืนอยู่ข้างเธอแล้วพูดเน้นแต่ละคำด้วยใบหน้าที่เย็นชา “ตบทั้งสองครั้งนี้ ครั้งแรกตบแทนหลินจือ หลายปีมานี้เธอรังแกเธอมาไม่น้อย”
“ส่วนอีกรอบ คือการสั่งสอนบทเรียนแทนตระกูลฟอเรนา การที่ตระกูลฟอเรนามีลูกสาวอย่างเธอ เป็นโชคร้ายของตระกูล”
พินอินร้องไห้ ตะโกนใส่เทาเท่ “พี่กล้าดียังไงมาตีฉัน? ตั้งแต่เล็กจนโตพ่อแม่ไม่เคยตีฉันเลยสักครั้ง!”
สีหน้าเทาเท่ดูน่ากลัว “ก็เป็นเพราะพวกเขาไม่ตีเธอ ดังนั้นวันนี้ถึงเป็นตาของฉันที่ตีเธอ”
เมื่อก่อนเทาเท่รู้สึกมาเสมอว่า พินอินชินกับการถูกแม่เขาตามใจจนเหลิงเล็กน้อยเท่านั้น
แต่เมื่อกี้หลังจากฟังคำพูดของสองคนนั้นแล้ว เทาเท่ก็ตระหนักได้ว่าพินอินไม่ใช่เพียงแค่เหลิงเท่านั้น แต่เธอทำมาถึงขั้นที่ดูถูกกฎหมายแล้ว
ถ้าเขาไม่ได้สังเกตว่าการที่หลินจือติดต่อไม่ได้ผิดปกติ ถ้าตำรวจมาไม่ทัน ถ้าเรื่องที่คนสองคนนี้พูดเกิดขึ้นจริง เขาก็ไม่รู้แล้วว่าจะเผชิญหน้ากับหลินจือได้อย่างไร
เพราะสำหรับหลินจือมันหมายถึงทั้งชีวิตของเธอถูกทำลาย
คำพูดของเทาเท่ทำให้พินอินร้องไห้โฮออกมาอีกครั้ง เธอถามเทาเท่ในขณะที่ยังร้องไห้ว่า “ทำไมพี่ถึงปกป้องหลินจือทุกครั้งด้วย? พี่คงจะไม่ได้ตกหลุมรักเธอใช่ไหม?”
“เธอมันก็แค่เมียเก่าที่พี่เคยดูถูกและเกลียดชังมาโดยตลอด พี่เทาเท่ หลังจากพี่หย่ากันแล้วพี่ถึงจะเพิ่งจะตกหลุมรักเธอ ไม่รู้สึกเสียหน้าบ้างเหรอ?”
พินอินจงใจใช้คำพูดที่ไม่น่าฟังเช่นนี้เพื่อกระตุ้นเทาเท่ เพียงเพื่ออยากให้เทาเท่ปฏิเสธว่าเขารักหลินจือ
แต่เธอคำนวณผิด เทาเท่สบตากับเธอแล้วยอมรับอย่างสงบว่า “เธอพูดถูก พี่ตกหลุมรักเธอแล้ว”
ทั้งโกดังเงียบไปครู่หนึ่ง
เจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านั้นไม่คิดว่าจะได้ยินข่าวที่ทำให้รู้สึกทึ่งดังกล่าว พวกเขาไม่รู้จะตอบสนองอย่างไรชั่วขณะ
พวกเขานึกว่าเป็นน้องสาวที่โง่เขลาของเทาเท่ยุยงคนอื่นให้ลักพาตัวคน แต่พวกเขาไม่ได้คิดว่าคนที่พินอินกำลังลักพาตัวคือภรรยาเก่าของเทาเท่
สิ่งที่พวกเขาคิดไม่ถึงไปอีกก็คือเทาเท่กลับยอมรับในที่สาธารณะว่าเขาหลงรักอดีตภรรยาของตัวเอง
ส่วนไอ้หัวเหลืองและเพื่อนตกใจจนแทบจะฉี่ราดตั้งแต่เรื่องที่ว่าหลินจือเป็นภรรยาเก่าของเทาเท่แล้ว
สักพักก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นในโกดังร้าง
เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยและความเศร้า หลินจือเป็นคนหัวเราะออกมา
สายตาของทุกคนหันมองตามเสียงหัวเราะไปทางเธอ ก็เห็นเธอยิ้มแต่มีน้ำตาก็ไหลออกมาจากตา
วินาทีถัดมาเธอสะบัดเสื้อคลุมของเทาเท่ทิ้งลงกับพื้น ไม่สนใจว่ากระดุมเสื้อที่หลุดออกมาจะทำให้ร่างบางปรากฏต่อหน้าทุกคน
ยังไงซะใส่บิกินี่เดินชายหาดก็ยังแซ่บกว่านี้ ไม่มีอะไรต้องอายแล้ว
เธอเดินตรงไปที่เทาเท่ ยกมือขึ้นตบหน้าเทาเท่
เธอเย้าหยอกเทาเท่ภายใต้สายตาที่ตกใจและหวาดผวาของว่า “เทาเท่ ใครต้องการความรักของนายกัน”
หลังจากพูดจบเธออ้อมเขาแล้ววิ่งออกไป
ใช่ เธอไม่ต้องการความรักของเทาเท่
เพราะมันสายเกินไปแล้ว สายซะจนเธอเกือบจะถูกพินอินทำลายแล้ว
หลินจือเดินไปด้วยร้องไห้ไปด้วย ร่างกายสั่นไปทั้งตัว
เธอไม่กล้านึกเลยว่าหลังจากนี้เธอจะต้องเผชิญกับอะไรหากตำรวจมาไม่ทัน
เธอไม่กล้านึกเลยว่าถ้าหากเธอโดนผู้ชายสองคนนั้นข่มขืนแล้วจริงๆ ชีวิตหลังจากนี้ของเธอจะเป็นอย่างไร
ด้วยนิสัยอย่างเธอ ไม่แน่ว่าอาจถึงกับตายได้
แต่ทั้งหมดนี้ถ้าในตอนแรกเทาเท่ดีกับเธอ พินอินก็จะไม่กล้ารังแกเธอแบบนี้
ดังนั้นตอนนี้เทาเท่บอกว่ารักเธอ มันจะหมายความว่าอะไรอีก?
และหลินจือก็ไม่เชื่อคำพูดของเทาเท่ที่เขาบอกว่าตกหลุมรักเธอ เขาจะตกหลุมรักเธอได้อย่างไร?
แรงตบของหลินจือนั้นรุนแรงมาก เธอระบายความเกลียดชังในใจตลอดหลายปีที่ผ่านมาทั้งหมดที่มีต่อเทาเท่และตระกูลฟอเรนา
หลังจากตบเสร็จฝ่ามือของหลินจือก็ชา ดังนั้นจึงสามารถจินตนาการได้ว่าเทาเท่จะเจ็บแค่ไหน
ลายนิ้วมือสีแดงทั้งห้าปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาในทันที แต่เขากลับดูเหมือนไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ ไม่แม้แต่จะขมวดคิ้วด้วยซ้ำ
เขามองกลับไปที่ทิศทางที่หลินจือจากไป จากนั้นก็มอบงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสองสามคนที่อยู่ตรงนั้นว่า “พาพวกเขาทั้งหมดกลับไปที่สถานีตำรวจก่อน”
“ไม่อนุญาตให้ใครมาประกันตัวพินอินทั้งนั้น พ่อแม่ผมหรือใครก็ตามก็ไม่ได้ทั้งนั้น” ก่อนจากไปเทาเท่จงใจเน้นประโยคนี้
“พี่!”
“พี่–!” พินอินร้องไห้อยู่บนพื้นด้วยความสิ้นหวัง แต่เทาเท่ไม่สนใจเธอที่หัวใจสลาย แล้วไล่ตามหลินจือไป
เพียงไม่กี่ก้าวเทาเท่ก็ตามหลินจือทัน เธอร้องไห้จนน้ำตานองหน้า
เทาเท่ก้าวไปข้างหน้ากอดเธอไว้ในอ้อมแขนแน่น
“ขอโทษ”
“เป็นความผิดของฉันเอง เป็นความผิดของฉันเองที่เมื่อก่อนไม่เคยดีกับเธอ”
คำขอโทษของเทาเท่ทำให้หลินจือดิ้นรนอย่างไม่หยุด “ปล่อยฉัน!”
เทาเท่กอดเธอแน่นยิ่งขึ้น “ไม่ปล่อย!”
เขากลัวว่าหากครั้งนี้เขาปล่อยเธอไปอีก เธอจะไม่ใช่ของเขาแล้วจริงๆ
หลินจือร้องไห้และดิ้นรน แต่เทาเท่ไม่คิดจะปล่อย
สุดท้ายอารมณ์ด้านลบของเธอก็ปะทุออกมา เธอตะโกนใส่เขาว่า “เทาเท่ ฉันเกลียดนาย!”