บทที่ 240 การล้อกันไปมาของสองหนุ่มล่ะ

Shoujo Grand Summoning ไปจีบสาวที่โลกอนิเมะกันเถอะ!

บทที่ 240 การล้อกันไปมาของสองหนุ่มล่ะ!
“ค้นพบ……” ภายในห้องนั่งเล่น วู่หยาน มิโคโตะ ฮินางิคุ และ แอสเทรียกำลัง
ล้อมรอบอิคารอส มองดูเธอที่กำลังทำอะไรบางอย่างกับคอมพิวเตอร์ พวกเขา
เงียบกันหมดจนกระทั่งอิคารอสพูดออกมา
“ฮินางิ….เอ่อ อิคารอส เธอเจอแล้วเหรอ?”
“ค่ะ มาสเตอร์……..”อิคารอสในร่างฮินางิคุตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย นี่ทำให้วู่
หยานรู้สึกไม่คุ้นมาก และยิ่งทำให้ความคิดของเขาที่ต้องการจะคืนสภาพทุกคน
รุนแรงมากยิ่งขึ้น
ฮินางิคุยื่นหน้าไปมองที่หน้าจอแล้วอ่านพวกมัน “หยาน ทำไมต้องหาที่อยู่พวกนี้
ด้วยละ?”
“มันเกี่ยวข้องกับ แองเจิลฟอล งั้นเหรอ? ที่อยู่นี่น่ะ…….” มิโคโตะขมวดคิ้วมองวู่
หยาน แต่ที่เธอเห็นกลับเป็นใบหน้าของโชคุโฮ มิซากิ ทำให้เธอคิ้วที่ขมวดมาก
กว่าเดิม ก่อนที่จะทำได้แค่หันหน้าไปทางอื่นอย่างปลงๆ
“อา…..” วู่หยานพยักหน้าและพูดว่า “การจะสร้าง แองเจิลฟอลล ได้น่ะต้องทำ
พิธีกรรมก่อน เมื่อทำพิธีกรรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถึงตอนนั้นต่อให้คนที่เริ่มพิธีเป็น
มนุษย์ธรรมดา แองเจิลฟอล ก็จะเกิดขึ้นอยู่ดี!”
“นายหมายความว่า…….” ฮินางิคุเริ่มเข้าใจที่เขาจะสื่อ
“ใช่!” วู่หยานชี้นิ้วไปที่ที่อยู่บนหน้าจอคอม แล้วพูดว่า “พิธีกรรมเสร็จเมื่อไหร่
แองเจิลฟอล ก็จะทำงาน ในทางตรงกันข้าม ถ้าพิธีกรรมถูกทำลาย แองเจิลฟอล
ก็จะหายไป!”
“งั้นที่อยู่พวกนี้คือสถานที่ทำพิธีกรรมของ แองเจิลฟอล สินะ?”มิโคโตะมองวู่
หยานแล้วถาม
“อืม….” วู่หยานยิ้ม แล้วตอบมิโคโตะ “ถ้าเราระเบิดตึกในที่อยู่นี่ซะ แองเจิลฟอล
ก็จะถูกยกเลิก!”
“จริงเหรอ? เย้!” ได้ยินคำพูดวู่หยาน แอสเทรียก็กระโดดดีใจทันที แต่ที่มันบาด
ตาคือเธอใช้ร่างของมิโคโตะอยู่…….
มือทั้งสองจับหน้าอกตัวเอง แอสเทรียมองวู่หยานด้วยใบหน้านับถือสุดๆ
“มาสเตอร์สุดยอดเลย! รู้อะไรตั้งหลายเรื่องแนะ สมแล้วจริงๆที่เป็นมาสเตอร์ของ
ฉัน!”
ได้ยินเธอพูด ฮินางิคุกับมิโคโตะก็เริ่มสงสัยทันที ฮินางิคุขมวดคิ้วลูบแก้มตัวเอง
แล้วพูดว่า “จริงอย่างที่แอสเทรียพูด ดูเหมือนว่าหยานจะรู้เรื่องอะไรที่คนปกติ
เขาไม่รู้กันเสมอ นี่นายไปรู้มาจากที่ไหนกันเนี่ย?”
ได้ยินเธอถาม วู่หยานแบมือทั้งสองแล้วยิ้มแห้งๆให้พวกเธอ เขาจะทำไรได้ล่ะ?
หรือจะให้บอกไปว่ารู้เรื่องพวกนี้ผ่านหน้าจอ?…..
มองดูท่าทางไม่น่าเชื่อถือของวู่หยาน มิโคโตะที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้วก็ยิ่งไม่ดี
กว่าเดิม เธอทำเสียง ‘เฮอะ’ แล้วสะบัดหน้าไปอีกทาง ฮินางิคุก็ทำแบบเดียวกัน
ทั้งสองไม่ได้ถามวู่หยานต่อทำให้เขาโล่งอก
ขบคิดอยู่ชั่วครู่ วู่หยานก็พูดกับสี่สาว “ฮินางิคุ มิโคโตะ อิคารอส แอสเทรีย พวก
เธอสี่คนไปทำลายสถานที่ทำพิธีกรรมด้วยกันเลยนะ!”
ได้ยินแบบนี้ ฮินางิคุ มิโคโตะก็ถามขึ้นพร้อมกัน “แล้วนาย?”
“ฉัน?” วู่หยานยิ้มอ่อน นัยน์ตาดวงดาวของเธอกลับเปร่งประกายสีแดงออกมา
อย่างลี้ลับ
“ฉันจะไปเจอคุณฑูตสวรรค์ผู้อับโชคซะหน่อย!”
ถ้าวู่หยานจำไม่ผิด อัครทูตสวรรค์ “พลังของพระเจ้า” กาเบรียล มันพยายามจะใช้
เวทมนตร์ทำลายโลก!
ถึงแม้จากเนื้อเรื่องเดิม สุจึมิโคโดะมันจะทำลายสถานที่ทำพิธีกรรมไปได้ ทำให้ทูต
สวรรค์กลับไปสู่สวรรค์ ปกป้องโลกจากหายนะได้สำเร็จ แต่วู่หยานไม่กล้าที่จะ
ฝากทุกอย่างให้เป็นไปตามเนื้อเรื่องเดิม
เขาไม่มีตัวตนบนโลกใบนี้ เขาได้มาโลกนี้พร้อมกับฮินางิคุ อิคารอส และแอสเทรีย
อนาคตของโลกนี้มันเปลี่ยนไปแล้วนับตั้งแต่วินาทีที่พวกเขามาถึง
เพื่อป้องกันไม่ให้โลกถูกย่างสด เขาจะต้องออกโรงเอง!
“มาสเตอร์!” จู่ๆอิคารอสก็ยืนขึ้น แล้วเดินมาด้านหน้าวู่หยาน เห็นได้ชัดว่าเธอไม่
ต้องการให้เขาไปจัดการทูตสวรรค์คนเดียว…..
“อิคารอส เธอต้องไปทำลายพิธีกรรมกับพวกฮินางิคุ!” มองดูสีหน้าเรียบเฉยของอิ
คารอส แต่ที่เขาเห็นตริงๆเป็นใบหน้าที่ดูน่าสงสารของฮินางิคุ ทำวู่หยานรู้สึก
แปลกสุดๆ แต่เขาก็ยังยกมือขึ้นไปลูบหัวอิคารอส
“แต่……”ในแววตาเธอมีความกังวลอยู่ หน้าที่หลักพื้นฐานที่สุดของแองเจิ้ลรอยด์
ก็คือการปกป้องมาสเตอร์ แต่มาตอนนี้เธอกลับจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองได้ร่วมสู้กับ
มาสเตอร์ครั้งสุดท้ายตอนไหน
มองสายตาเศร้าๆของเธอ จู่ๆวู่หยานก็รู้สึกเอ็นดูขึ้นอย่างมาก สาวน้อยคนนี้ที่ทำ
ราวกับเขาเป็นสมบัติล้ำค่าเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ ทำวู่หยานรู้สึกผิดรู้สึกติด
หนี้เธอ ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามกันตัวเองออกห่างจากเรื่องอันตรายเท่าที่ทำได้
แล้วก็เถอะ
เขาลูบหัวเธอทีนึงจากนั้น ภายใจ้สายตาประหลาดใจของ ฮินางิคุ มิโคโตะ และ
แอสเทรีย เขาก็ก้มหน้าลงไปจูบปากเธอ แล้วถอยหน้าออกมายิ้มให้กับอิคารอสที่
นิ่งช็อคไป
“ฟังที่ฉันบอกนะ…..”
อิคารอสจ้องมองสาวสวยผมทองตรงหน้าด้วยความตะลึง ถึงแม้เธอจะรู้สึก
แปลกๆ แต่สุดท้ายคำพูดมากมายในใจก็กลายเป็นคำสั้นๆว่า
“ค่ะ มาสเตอร์…..”
เอาจริงๆ อิคารอสไม่รู้ว่าไอ้ความรู้สึกแปลกที่ตนเองรู้สึกมันคือการตระหนักว่า
ตัวเองถูกหลอก……
มองดูทั้งสองที่ปล่อยบรรยากาศสีชมพูออกมา มุมปากฮินางิคุ กับมิโคโตะก็บิด
เบี้ยว ทำพวกเธอพูดไม่ออก
ใช่ พวกเธอรู้ว่าทั้งสองคนเป็นคนรักกัน แต่มองจากตรงนี้ในสายตาของเธอมันก็
คือ ยูริ ดีๆนี่เอง……..
โดยเฉพาะฮินางิคุ ที่ทองดูร่างตัวเองไปจูบกับผู้หญิงน่ารักสุดๆคนนึง เธอก็กรีด
ร้องในใจ ก่อนจะตะโกนออกมาด้วยความคลั่งว่า
“อย่ามาใช้ร่างกายคนอื่นทำอะไรแปลกๆน้า!!”
…………………
ขณะที่เดินบนถนนของเมืองแห่งการศึกษา วู่หยานก็ต้องหยุดเดินด้วยสีหน้าหน่าย
ใจ สมแล้วจริงๆที่เป็นร่างยัยคนที่อ่อนด้านกีฬาสุดๆอย่างควีนซามะ นี่แค่เดิน
ประมาณ10นาทีก็ต้องหยุดพักถึง5นาที ตูล่ะอยากรู้จริงๆว่าหล่อนใช้ชีวิตด้วย
ร่างกายแบบนี้ได้ยังไง…….
ตระหนักได้ว่า ถ้าตัวเองมัวแต่เดินๆหยุดๆแบบนี้กว่าจะถึงอีกฝ่ายคงร่ายเวทมนตร์
ล้างโลกเสร็จไปก่อนพอดี วู่หยานก็ตัดสินใจเลิกเดินแล้วปิดบาเรียแม่แหล็กไฟฟ้า
ของตัวเอง จากนั้นหยิบโทรศัพท์ออกมาโดยที่ไม่ได้กดอะไรเลยเขาก็พูดใส่ทันที
“อเลสเตอร์ ฉันรู้ว่านายได้ยินที่ฉันพูด……”
เงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่จะมีเสียงดังออกมาจากอีกฝาก……..
“นายต้องการอะไร?……”
คำพูดตรงๆแบบขวานผ่าซากแบบนี้ช่างสมกับเป็นอเลสเตอร์จริงๆ เมื่อได้ยินวู่
หยานก็ข่มกลั้นความอยากหัวเราะไว้จนหน้าแดง
เป็นเพราะเสียงที่เขาได้ยินเมื่อกี้ มันไม่ใช่เสียงทื่อๆเหมือนหุ่นยนต์แบบปกติของ
มัน แต่กลับเป็นเสียงที่โมเอะน่ารักสุดๆ ฟังนิ่มนวลสบายหูมาก มันให้ความรู้สึกว่า
อีกฝ่ายเป็นสาวน้อยโลลิ!
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าตอนนี้อเลสเตอร์มันกลายเป็นอะไร แต่ในหัววู่หยานก็ได้
จินตนาการถึงโลลิสุดน่ารักที่กำลังลอยกลับหัวในแท็งน้ำสีสมเอาไว้แล้ว!
ณ จุดนี้ วู่หยานก็เข้าใจว่า ต่อให้เป็นเทพอาคมแห่งโลกเวทมนตร์ก็ยังไม่สามารถ
หลีกหนีผลของ แองเจิลฟอล ได้……..
แต่จริงๆมันก็ไม่แปลก ถึงอเลสเตอร์มันจะแข็งแกร่ง แต่ก็ยังเป็นมนุษย์ แม้แต่เขา
ที่กลายเป็นสายเลือกแท้ยังโดนพลังของอัครทูตสวรรค์เลย จึงไม่แปลก็ที่อเล
สเตอร์มันจะโดนด้วย
ไม่รู้ว่าไอ้ตัวตายอยากโครตบอสของโลกนี้ เอวัน มันจะโดนสลับร่างด้วยหรือเปล่า
ถ้าโดนล่ะก็…..เหอะๆ ได้สนุกแน่……
ข่มกลั้นสีหน้ามีความสุขของตน วู่หยานทำเป็นไอค่อกแค่ก แล้วพูดด้วยน้ำเสียง
เป็นการเป็นงาน “ช่วยฉันหน่อย นายก็รู้ว่าตอนนี้ฉันต้องการอะไร!”
อีกฝากของโทรศัพท์ อเลสเตอร์เงียบไปแป๊ปนึง แล้วพูดว่า “เดียวจะมี
เฮลิคอปเตอร์ไปรับนายภายในห้านาที!” (@เขาเรียกมีแบ็คดีฮ่าๆ)
ได้ยิน วู่หยานก็พยักหน้าหงึกๆ ฟังเสียงน่ารักๆของอเลสเตอร์ นัยน์ตาดวงดาว
ของเขาก็หรี่ลงจนเป็นจันทร์เสี้ยวขณะที่นึกภาพตอนนี้ของอเลสเตอร์
บางทีอาจเป็นเพราะเดาความคิดวู่หยานได้ อเลสเตอร์จึงพูดต่อว่า
“ขอให้โชคดี อันดับ5!”
รอยยิ้มบนหน้าของวู่หยานแข็งค้างทันที………
@เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เวทย์ล้างโลกที่ว่า คือ – ชินริคุ(ทัณฑ์เทวะ) มหาเวทเรียกศร
เพลิงนับพันล้าน(ที่แต่ละดอกมีอานุภาพเทียบเท่าจรวดมิสไซล์) มาผลาญทำลาย
พื้นโลก ด้านพลังทำลายนั้นสามารถทำให้พื้นโลกครึ่งนึงกลายเป็นแผ่นดินแห่ง
ความตายได้เลยทีเดียว เป็นเวทที่ใช้ได้เฉพาะตอนกลางคืน และต้องใช้เวลากว่า
30นาทีในการ่าย