ตอนที่ 1455

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1455  มาหาเรื่องอับอายขายหน้าอีกครั้ง (1)

เป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน  ลั่วซีก็ยังไม่ยอมแพ้  แต่หลายวันผ่านไปเขาก็โดนเล่นงานหนักขึ้นทุกวัน  ยาพิษทั้งหมดที่โยนลงในบ่อน้ำไร้ผลอย่างสิ้นเชิง  ทำให้ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย  เขาจึงโกรธมากและด่าลูกน้องของเขาอย่างรุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่สถานการณ์ก็ยิ่งเลวร้ายลง

ไม่รู้ว่าผู้ลี้ภัยที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในเมืองชิงเฟิงทุกวันรู้ถึงสถานการณ์ทางเหนือของเมืองได้ยังไง  ทุกคนที่เข้ามาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็จะเก็บข้าวของออกจากค่ายผู้ลี้ภัยและมุ่งหน้าไปทางเหนือของเมืองทันที  สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ลั่วซีไม่สามารถนั่งอยู่เฉยๆได้  เขาบุกเข้าไปด่าเจ้าเมืองถึงในจวนเจ้าเมืองที่ไม่ยอมทำอะไรเลย

เจ้าเมืองแสดงว่าเขาพยายามอย่างหนักแล้วเช่นกัน  แต่ด้วยสภาพที่ดีของหอพักทางเหนือของเมือง  คงมีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะปฏิเสธ  เขาส่งคนไปห้ามผู้ลี้ภัยไม่ให้ย้ายไปแต่ก็ไม่สำเร็จ  เจ้าเมืองบอกว่าเขาจนปัญญาไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้อีกแล้ว

เจ้าเมืองอ้างด้วยว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บ  เขาเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ  ลั่วซีจึงโกรธมากจนหน้าเขียว

ลั่วซีพยายามทุกอย่างที่คิดได้  เมื่อการใส่ยาพิษลงในบ่อน้ำไม่ได้ผล  เขาก็พยายามเอาไปใส่ในผักที่ส่งไปให้ทางเหนือของเมือง  แต่ผลก็เหมือนเดิม  พิษทั้งหมดเหมือนจมลงสู่ก้นทะเล  ไม่มีข่าวคราวอะไรให้เขาได้ยินเลย

เมื่อเห็นผู้ลี้ภัยเพิ่มจำนวนขึ้นทุกวัน  และพวกเขาไม่สามารถพาผู้ลี้ภัยออกไปได้แม้แต่คนเดียว  แผนการของพวกเขาก็หยุดชะงักไปโดยสิ้นเชิง

เมื่อมีน้ำและอาหารอย่างดี  บวกกับที่พักดีๆ  ใครจะอยากไป?

สิ่งที่ลั่วซีกลัวที่สุดได้กลายเป็นความจริงแล้ว  เขาร้อนรนกระวนกระวายเหมือนมดที่อยู่บนหม้อไฟ

ลั่วซีไม่สามารถทนได้อีกต่อไป  เขาตัดสินใจจะขึ้นไปทางเหนือของเมืองด้วยตัวเอง  ครั้งนี้เขาจะปรากฏตัวในฐานะ “ผู้ใจบุญ” ที่เป็นที่รู้จัก

ผู้ลี้ภัยทางเหนือของเมืองได้เปลี่ยนไปแล้ว  ถึงจะเป็นเวลาแค่ 2 สัปดาห์  แต่หลังจากเรื่องอาหารและที่อยู่ได้รับการแก้ไขแล้ว  อารมณ์และสีหน้าของพวกเขาก็ดีขึ้นมาก  และด้วยบทเรียนที่จวินอู๋เสียสั่งสอนพวกเขาในคราวที่แล้ว  พวกผู้ลี้ภัยก็เรียนรู้ที่จะสนับสนุนและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  ถ้ามีใครขัดแย้งกับผู้อยู่อาศัยเดิมในเมือง  พวกเขารู้ว่าพวกเขาต้องรวมตัวกันเพื่อปกป้องคนของตัวเอง

เมื่อลั่วซีมาถึงทางเหนือของเมืองและพบว่าสิ่งที่เขาเห็นตรงหน้าแตกต่างจากครั้งที่แล้วที่เขามาที่นี่อย่างสิ้นเชิง  ภาพความสามัคคีกลมเกลียวกันทิ่มแทงใจเขาจนสะดุ้ง  รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาแข็งทื่อไปเล็กน้อย

“คุณชายลั่ว!  ท่านมาแล้ว!”  ผู้ลี้ภัยจำลั่วซีได้ทันที

ลั่วซีรีบสะกดกลั้นความโกรธในใจและยิ้มกว้างออกมาพลางพูดว่า  “ข้าได้ยินว่าทุกคนมาที่นี่  รู้สึกเป็นห่วงก็เลยมาดูด้วยตัวเอง”

ไม่ว่าจริงๆแล้วลั่วซีจะเป็นคนยังไง  แต่ในสายตาของผู้ลี้ภัยทั้งหลาย  เขาคือคนที่ “ใจดี” มาก  ดังนั้นท่าทางที่ผู้ลี้ภัยมีต่อเขาจึงไม่แข็งกระด้าง

“คุณชายลั่ว  ที่นี่ดีมาก  คุณชายจวินก็เป็นคนดี  ที่นี่พวกเราได้กินดีและหลับสบาย  แถมยังมีเสื้อผ้าอุ่นๆให้ใส่  คุณชายจวินยังให้คนมารักษาเวลาที่พวกเราเจ็บป่วยอีกด้วย”

“ใช่ๆ!  ถึงคุณชายจวินจะเป็นคนเย็นชาไปหน่อย  แต่เขาดีกับพวกเราจริงๆ  ไม่กี่วันก่อน  เสี่ยวโต้วจื่อของบ้านข้ามีไข้  คุณชายจวินก็เอายามาให้  กินเม็ดเดียวหายเลย!”  เมื่อพูดถึงจวินอู๋เสีย  พวกผู้ลี้ภัยก็พากันตื่นเต้นและกระตือรือร้นอย่างมาก  แต่ละคนแข่งกันยกย่องสรรเสริญความใจดีมีเมตตาของจวินอู๋เสีย  ราวกับว่าโลกนี้ไม่มีใครที่ดีไปกว่าจวินอู๋เสียอีกแล้ว

ลั่วซีพยายามอย่างหนักที่จะรักษารอยยิ้มเอาไว้  ขณะอดทนฟังผู้ลี้ภัยยกย่องสรรเสริญจวินอู๋เสีย  ในใจเขาโกรธจนแทบระเบิดออกมา  เขาอยากจะลากจวินอู๋เสียออกมาเคี้ยวทั้งเป็นเต็มที

“อย่างนั้นหรือ?  ที่แท้คุณชายจวินก็เป็นคนดี……ไม่รู้ว่า……ตอนนี้คุณชายจวินอยู่ที่ไหนหรือ?  ข้าบังเอิญมีเรื่องอยากคุยกับเขา”  ลั่วซีพูดอย่างอดกลั้นความโกรธที่อยู่ในใจ