ตอนที่ 1456 สิ่งที่แฝงอยู่ (1)
ผู้ลี้ภัยหยุดชะงักทันที และพากันลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไม่มีใครกล้าพูดอะไรสักคำ บทเรียนคราวก่อนจากเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจ้าเมือง พวกเขาจึงเรียนรู้ที่จะไม่พูดแบบไม่ระวังอีกต่อไป
ลั่วซีคิดว่าภาพลักษณ์ “ผู้ใจบุญ” ของเขาจะมีประโยชน์บ้าง แต่เขาก็ได้รู้ว่าเมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับจวินอู๋เสีย ภาพลักษณ์ของเขาก็ไม่มีประโยชน์กับผู้ลี้ภัยพวกนี้
ไม่ว่าลั่วซีจะพยายามเกลี้ยกล่อมขนาดไหน ก็ไม่มีใครตอบสนองเขาเลย ผู้ลี้ภัยทุกคนต่างหาข้ออ้างทุกอย่างเพื่อหลบออกจากที่นั่น เหตุการณ์คราวที่แล้วเกือบจะสร้างความเดือดร้อนให้จวินอู๋เสีย พวกผู้ลี้ภัยต่างรู้สึกผิดกันมาก ตอนนี้พวกเขาจึงไม่กล้าพูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว
ไม่นาน ผู้ลี้ภัยที่รวมตัวกันอยู่รอบๆลั่วซีก็แยกย้ายกันไปหมด ทิ้งให้เขากับลูกน้องของเขายืนมองหน้ากันอย่างจนปัญญาอยู่กลางสายลม
ลั่วซีแทบจะระเบิดออกมา เขาโกรธจนหน้าเขียว
จวินอู๋เสียยืนอยู่ข้างหน้าต่างหอพัก ชื่นชมภาพของลั่วซีที่ดูโกรธเคืองอย่างมาก
“คุณหนู จะให้ข้าลงไปจัดการเขาไหมขอรับ?” เย่ฉาพูดด้วยเสียงเคร่งขรึมเย็นชา
จวินอู๋เสียส่ายหน้า
เบี้ยต่ำต้อยอย่างลั่วซีไม่สำคัญพอให้นางสนใจ นางไม่คิดจะเสียเวลากับเขา แค่บังคับสถานการณ์ให้หนักพอ แล้วคนที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังก็จะออกมาเคลื่อนไหวเอง
ลั่วซีพบว่าตัวเองถูกดูแคลนอย่างไม่น่าให้อภัย เขาทำได้แค่กระทืบจากไปด้วยความโกรธ จะปล่อยให้เรื่องเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ พอกลับไปเขาก็ส่งนกพิราบสื่อสารออกไปทันที ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้พร้อมกับกัดฟันแน่น
“ท่านเชิญท่านผู้นั้นมาที่นี่หรือขอรับ?” คนรับใช้มองลั่วซีอย่างระมัดระวัง
ลั่วซีตอบว่า “แล้วจะให้ทำไงล่ะ? เรามาไกลมากแล้ว จะให้ข้าปล่อยเด็กนั่นทำตามใจชอบในเมืองนี้งั้นรึ? เจ้าเมืองก็ไร้ประโยชน์ ตอนท่านผู้นั้นมาถึง ข้าจะให้เขาชดใช้แน่!”
ระบบที่พวกเขาตั้งไว้ในเมืองชิงเฟิงยุ่งเหยิงไปหมดเมื่อจวินอู๋เสียปรากฏตัว และภายในความสับสนวุ่นวายนั้น ก็มีใครบางคนกำลังซ่อนตัวเฝ้าดูอยู่
“เด็กที่ทางเหนือของเมืองนั่นมาจากวิหารไหนกัน? เขาก่อความวุ่นวายได้มากจริงๆในช่วงที่เขามาที่นี่” คนที่นั่งอยู่ในร้านอาหารหมุนถ้วยเหล้าในมือพร้อมกับเลิกคิ้วมองผู้เยาว์ที่มีใบหน้าเย็นชาหล่อเหลา
“ก็น่าสนใจดีไม่ใช่หรือ? เราไม่ค่อยได้เจอใครที่กล้าหาญชาญชัยแบบนี้ วิหารปีศาจเพลิงสูญเสียไปไม่น้อยในสถานการณ์นี้” ผู้เยาว์ที่หล่อเหลาหันกลับมา มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มกระหายเลือด
“คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะยอมลงมาที่อาณาจักรล่าง ตอนที่เจ้ากลับไปครั้งที่แล้ว เจ้าทำให้ข้าตกใจมากจริงๆ ข้าเห็นว่าเจ้าดูเหมือนจะมองหาใครบางคนอยู่ตลอดเวลา มันเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งที่แล้วรึเปล่า? กู่อิ่ง” ชายคนนั้นถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่ยืนอยู่ด้านข้างเป็นคนเดียวกับที่ถูกจวินอู๋เสียทำให้บาดเจ็บ ต้องถูกส่งกลับไปที่อาณาจักรกลาง กู่อิ่ง!
คำพูดของชายคนนั้นทำให้รอยยิ้มบนริมฝีปากของกู่อิ่งแข็งทื่อขึ้นเล็กน้อย เขาหรี่ตาในขณะที่ภาพของร่างเพรียวบางปรากฏขึ้นในใจ
จวินเสีย!
ภาพของร่างนั้นราวกับถูกตีตราไว้ในหัวใจของเขา เขารู้สึกเจ็บแปลบทุกครั้งที่นึกถึงมัน มันคือความอัปยศอดสูที่เขาไม่มีวันลืม!
“ถ้าเจ้ามีเวลาว่างมาสนใจเรื่องของข้า เจ้าก็น่าจะเอาเวลาไปคิดว่าจะจัดการกับคนจากวิหารปีศาจเพลิงยังไงดีกว่า คนจากวิหารปีศาจเพลิงก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นในอาณาจักรล่างขนาดนี้ สิ่งที่พวกเขาต้องการคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆแน่ สิบสองวิหารแต่ละแห่งได้วางคนของตัวเองไว้ในเมืองชิงเฟิงนี้ ถ้าเจ้าคิดจะนั่งรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากความพยายามของคนอื่น เจ้าก็ต้องดูด้วยว่าตัวเองมีความสามารถจะทำเช่นนั้นได้รึเปล่า” กู่อิ่งพูดเย้ยหยัน
ชายคนนั้นโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “เราไม่ได้บ้าคลั่งเหมือนคนจากวิหารปีศาจเพลิง แต่การที่แผนที่ทั้ง 7 ส่วนหายไปหมดนั้นเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงจริงๆ ข้าได้ไปที่สำนักวายุประจิมมาแล้ว แต่ก็ไม่พบอะไร ดูเหมือนว่าคนที่ขโมยแผนที่ได้ออกจากที่นั่นนานแล้ว ข้าคิดว่าสถานการณ์ของวิหารปีศาจเพลิงก็น่าจะเหมือนกัน ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาส่งผู้อาวุโสคนหนึ่งมาแล้วตายที่ผาสุดสวรรค์ นั่นทำให้วิหารปีศาจเพลิงโกรธมาก พวกเขาจึงสร้างปัญหาขึ้นมากมายในอาณาจักรล่าง ถ้าอาณาจักรล่างถูกพวกเขากวาดล้างไปจริงๆ มันจะทำให้เราค้นหาสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดได้ง่ายขึ้นไม่ใช่หรือ?”