บทที่ 695 คลื่นความหึงโหด / บทที่ 696 ได้แต่ใช้ไม้ตายแล้ว

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 695 คลื่นความหึงโหด

“ถึงแล้วครับพี่เยี่ย!” ตงไจ๋ที่อยู่ตรงที่นั่งคนขับด้านหน้าร้องเตือน

“อืม พวกนายสองคนรีบกลับไปพักผ่อน ฉันไปก่อนละ” เยี่ยหวันหวั่นรีบร้อนลงรถ

ลั่วเฉินพักอยู่ที่ตึกข้างๆ กัน หลังจากบอกลาเยี่ยหวันหวั่นแล้วก็เข้าตึกใหญ่ไป

“เอ่อ พี่เยี่ย ผม…” กงซวี่เดิมทีมีคำจะพูดกับเยี่ยหวันหวั่น ปรากฏว่าเธอลงรถไปอย่างรวดเร็ว

กงซวี่มองดูแผ่นหลังที่รีบลงรถของเยี่ยหวันหวั่นด้วยความประหลาดใจอยู่บ้าง เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเห็นสีหน้าเหมือนหวั่นวิตกขนาดนี้ของอีกฝ่ายเลย

เยี่ยหวันหวั่นเดินไปถึงด้านหน้าซือเยี่ยหานอย่างรีบร้อน “อะแฮ่ม คุณเก้า มาตั้งแต่เมื่อไรเหรอ ทำไมไม่เข้าไปล่ะ ไหงมายืนอยู่ที่นี่ ตอนกลางคืนหนาวจะตาย!”

เยี่ยหวันหวั่นทางหนึ่งพูดทางหนึ่งปลอบใจตัวเอง คนที่ก่อนหน้านี้ไม่สนใจข่าวซุบซิบ เล่นอินเตอร์เน็ตไม่บ่อยอย่างซือเยี่ยหาน จะต้องไม่รู้เรื่องในงานแถลงข่าวแน่ แผลเล็กๆ ของเธอแค่วันสองวันก็สมานแล้ว ถึงเวลานั้นแม้เขาจะรู้ก็ไม่เป็นไร…

เยี่ยหวันหวั่นคำนวณเป็นมั่นเหมาะ แต่ว่าเสียงของเธอเพิ่งจบ ผู้ชายที่กำลังมองเธอด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ก็พูดขึ้นว่า “เธอทำผิดกฎ”

เยี่ยหวันหวั่นนิ่งเงียบ

เสียงนี้เหมือนมาจากยอดภูเขาน้ำแข็งซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลห้าพันเมตร เย็นเยือกจนทำให้เธอสั่นไปทั้งตัว ทำลายความหวังทั้งหมดของเธอในชั่วพริบตา

เธอคิดจะโกหกซือเยี่ยหานเพื่อเอาตัวรอด ช่างไร้เดียงสาจริงๆ…

เป็นเพราะไม่กี่วันมานี้ซือหานเยี่ยทำตัวเหมือนคนปกติเป็นกับเขาแล้ว เธอจึงลืมไปว่าผู้ชายคนนี้น่ากลัวขนาดไหน

ผู้ชายที่ยืนอยู่ด้านหน้าเธอตอนนี้ทั่วทั้งตัวไร้ซึ่งความอบอุ่น สายตาที่มองเธอก็เย็นชา เขาโกรธแล้วจริงๆ

“ขอโทษค่ะ ครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุ อีกอย่างก็มีแผลแค่นิดเดียว ไม่เชื่อคุณดูสิ!” เพื่อพิสูจน์ เยี่ยหวันหวั่นรีบถลกแขนเสื้อขึ้นโชว์แผลเล็กๆ ที่กว้างไม่ถึงสามสิบเซนติเมตร

แต่เยี่ยหวันหวั่นค้นพบอย่างรวดเร็วว่าตัวเองเข้าใจผิดขนาดไหน

หลังจากเห็นแผลของเธอ สีหน้าซือหานเยี่ยก็น่ากลัวมากกว่าเดิม ทำเอาเธอเหมือนเห็นซือหานเยี่ยก่อนที่เธอจะมีชีวิตใหม่อีกครั้ง ไม่มีเหตุผล ไร้อารมณ์ ราวกับสัตว์ป่าที่อาจจะสูญเสียการควบคุมได้ตลอดเวลา

ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นถึงค่อยพบว่า ช่วงนี้เธอผ่อนคลายเกินไป จนลืมไปว่าคนตรงหน้าน่ากลัวแค่ไหน…

แววตาของซือเยี่ยหานเย็นเยียบยิ่งกว่าดวงจันทร์ที่อยู่บนศีรษะ จ้องมองเธอตาไม่กะพริบ “เธอชอบเขาเหรอ”

“หา? ใครกัน?” เยี่ยหวันหวั่นงงงวยเพราะคำพูดที่ไร้ต้นสายปลายเหตุนี้

จากนั้นผ่านไปหลายวินาทีจึงค่อยรู้สึกตัว…

ตายแล้ว! เป็นความเข้าใจผิดครั้งใหญ่จริงๆ!

ซือ…ซือเยี่ยหานคงไม่ได้คิดว่าเธอกับกงซวี่มีอะไรๆ กันหรอกนะ?

จะเป็นไปได้ยังไง!

ทำไมเขาถึงเกิดความเข้าใจผิดขนาดนี้ได้?

เยี่ยหวันหวั่นกำลังใช้พลังสมองหาว่าจะอธิบายและปลอบประโลมอย่างไร แต่ในตอนนั้นเอง ด้านหลังก็มีเสียงเริงร่าของกงซวี่ดังมา “พี่เยี่ยครับพี่เยี่ย ทำไมพี่วิ่งเร็วจัง! บ้านผมอยู่ไกลเกิน ขี้เกียจไปแล้ว เมื่อกี้เพิ่งให้ตงไจ๋ขับกลับไป คืนนี้ผมขอค้างกับพี่นะ!”

แทบในพริบตาที่เสียงของกงซวี่จบลง เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกได้ว่ามีพายุเย็นเยียบไร้รูปร่างที่เหมือนมาจากนรกพัดขึ้นมา…

คืนนี้มาค้างบ้าอะไรกันยะ!

เจ้าคนที่ชอบเอาปัญหามาให้เธอคนนี้กำลังจะทำให้เธอถูกฆ่า!

เยี่ยหวันหวั่นปั้นสีหน้าเย็นชา “ไม่ได้ กลับบ้านไปซะ!”

กงซวี่เห็นเยี่ยหวันหวั่นปฏิเสธโดยไม่ลังเล ก็พลันมีสีหน้าปวดใจ “ทำไมล่ะครับ ผมอุตส่าห์มาแล้ว พี่ยังไม่รับผมไว้อีกเหรอ!”

เยี่ยหวันหวั่นข่มความโกรธไว้ “คืนนี้ฉันมีแขก”

คืนนี้ฉันได้ตายแน่…

———————————————–

บทที่ 696 ได้แต่ใช้ไม้ตายแล้ว

กงซวี่หันไปมอง ตอนนี้ในที่สุดก็เห็นร่างคนที่ซ่อนอยู่ในเงามืดด้านข้าง

เอ๋? คนคนนี้…ทำไมดูคุ้นๆ?

ถึงแม้ว่าวันนั้นจะเห็นที่ด้านนอกบาร์แค่ครั้งเดียว แต่ความทรงจำฝังไว้แนบแน่น คิดจะลืมก็ลืมไม่ลง

นี่ไม่ใช่เพื่อนที่มารับพี่เยี่ยวันนั้นหรอกเหรอ?

ตอนนั้นเขายังเกือบเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพี่เยี่ยกับผู้ชายคนนี้ผิดไป…

ดึกดื่นขนาดนี้แล้ว ทำไมคนคนนี้ยังมาเป็นแขกอีก?

อืม ทำไมสายตาที่คนคนนี้มองเขาถึง…น่ากลัวขนาดนี้…

ถึงกงซวี่จะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ แต่เพราะไม่ใช่คนละเอียดอ่อนนัก บวกกับคืนนี้ยังอารมณ์ดี จึงไม่คิดอะไรมาก เอ่ยน้ำเสียงสบายๆ พร้อมกับเดินไปข้างตัวเยี่ยหวันหวั่น “ไม่เป็นไรครับพี่เยี่ย พี่มีแขกก็มีแขกสิ เขาอยู่แป๊บเดียวก็ไปแล้วไม่ใช่เหรอ ผมไม่ถือหรอก!”

ไม่ถือบ้าอะไร!

เยี่ยหวันหวั่นปวดหัวแล้ว

ตอนนี้ เยี่ยหวันหวั่นอยากจะบีบคอเจ้าบ้านี้ให้ตายไปนัก!

เธอมองซือเยี่ยหานอย่างระวังตัวแวบหนึ่ง…แค่แวบเดียว…แม่เจ้า…สีหน้านั้นทำให้เธอตกใจจริงๆ

สายตาของซือเยี่ยหานกวาดผ่านเยี่ยหวันหวั่นกับกงซวี่ที่อยู่ด้านข้างอย่างเฉยชา ก่อนกล่าวด้วยเสียงแหบต่ำ “แขก?”

แค่เห็นสีหน้าของซือเยี่ยหาน แค่ได้ยินน้ำเสียงของเขา เยี่ยหวันหวั่นก็รู้ว่าเขาโกรธจริงๆ แล้ว

เยี่ยหวันหวั่นปวดหัวจนต้องกุมหน้าผาก ร้องคร่ำครวญในใจ แต่ว่านะที่รัก คุณจะทำแบบนั้นไปทำไม รู้ทั้งรู้ว่าติดที่สถานะในตอนนี้ของฉัน ถึงได้แต่ตอบแบบนี้ไป ไม่ได้มีความหมายอื่นสักหน่อย!

นอกจากนี้ ต่อให้เขาใช้หัวแม่เท้าคิดดู เธอก็ไม่อาจทิ้งเขาไปมีลับลมคมในกับกงซวี่ได้ เขาไม่น่าจะไม่เชื่อใจตัวเองขนาดนี้ล่ะมั้ง?

บ้าจริงเชียว จะต้องเป็นเพราะตอนนั้นเจ้าซือเซี่ยเอาแต่พูดว่า ‘ดอกไม้งามย่อมค่อยๆ ทำคนตาลาย’ ยุว่าเธอจะถูกหนุ่มน้อยในวงการบันเทิงแย่งไปแน่ๆ…

เยี่ยหวันหวั่นกระเถิบเข้าใกล้อีกนิด เอ่ยด้วยเสียงที่มีแค่สองคนเท่านั้นที่ได้ยิน “ซือเยี่ยหาน ฉันอธิบายมาหลายครั้งแล้วนะ ไม่ว่าจะลั่วเฉินหรือกงซวี่ พวกเขาก็เป็นนักแสดงของฉันทั้งนั้น วันนี้ที่ช่วยเขาในงานแถลงข่าวเป็นเพราะฉันมีหน้าที่ของฉัน คำพูดเมื่อกี้ของเขาเป็นเพราะฉันเป็นผู้ชายคนหนึ่งในสายตาเขา ไม่ได้มีความหมายอื่น ความหึงของคุณไร้เสาเหตุเกินไปแล้ว! อย่าชวนทะเลาะโดยไม่มีเหตุผลจะได้ไหม!”

“เหอะ ทะเลาะโดยไม่มีเหตุผล…ดีมาก…”

ซือเยี่ยหานหัวเราะเสียงต่ำ พูดทีละคำ เสียงนั้นทำให้คนเย็นเยียบไปทั้งร่าง เหมือนตกไปอยู่ในอุโมงค์น้ำแข็ง

เยี่ยหวันหวั่นอยากตบหน้าตัวเอง ทำไมเธอถึงทำพลาดอีกล่ะ ยิ่งสับสนก็ยิ่งย่ำแย่จริงๆ

รู้ทั้งรู้ว่านี่คือเรื่องที่เดิมทีไม่อาจพูดกันด้วยเหตุผลกับเขาได้ เหมือนห้ามไปพูดเหตุผลกับแฟนสาวตอนที่เธอกำลังโกรธเด็ดขาด หลักการเดียวกัน!

เยี่ยหวันหวั่นทั้งโกรธ ทั้งกระวนกระวาย ทั้งขุ่นเคือง ดึงเนคไทที่คอเสื้อด้วยความโมโหหงุดหงิด จากนั้นเหลือบหางตามองต้นเหตุความซวยที่อยู่ไม่ไกลออกไป “กงซวี่ นายมาหาฉันเดี๋ยวนี้!”

“หา? ผมเหรอ เป็น…เป็นอะไรหรือเปล่าพี่เยี่ย…” กงซวี่ชี้ตัวเองด้วยความไร้เดียงสา ก้าวเข้าไปอย่างระวังตัว

ทำไมสีหน้าของพี่เยี่ยถึงได้กลัวแบบนี้ เขาทำอะไรผิดงั้นเหรอ?

เยี่ยหวันหวั่นถอดเนคไทโยนลงพื้น สาวเท้าไปด้านหน้าจอมปีศาจที่ปั้นหน้าเย็นชาและพร้อมจะคลั่งได้ทุกเมื่อ

“ดูให้ชัดๆ ล่ะ”

เยี่ยหวันหวั่นหันไปพูดกับกงซวี่ก่อนหนึ่งประโยค จากนั้นยื่นนิ้วขาวผ่องจับคอเสื้อซือเยี่ยหาน ดึงคอเขาลงมา แล้วจูบบนริมฝีปากที่บางและเย็นของชายหนุ่ม…

————————————————-