หนิงเหยี่ยนก็ต้องการดื่ม ไม่ใช่เพื่อฉลอง แต่เพื่อคลายเครียด แม้เขาจะไม่ชอบนักแสดงนำในละคร แต่เขาชอบละครเรื่องนี้ เป็นละครที่สร้างแรงบันดาลใจได้อย่างมาก แม้จะเป็นเรื่องราวของวัยรุ่นก็ตาม เขาลังเลอยู่เหมือนกันที่จะถอนตัว

 

 

“เธอจะชวนใครมาดื่ม” หนิงเหยี่ยนคิดว่าคนตระกูลเซียวต้องยุ่งมากในเวลานี้

 

 

ทันใดนั้นหนิงเหยี่ยนก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาถามว่า “เธอได้อ่านข่าวพี่น้องตระกูลเซียวหรือเปล่า ที่ถูกนักข่าวโจมตีตอนที่พวกเขาไปดูหนังกับเซียวโหรวเมื่อคืนนี้”

 

 

เฮ่อหว่านอีส่ายศีรษะ เมื่อคืนเธอถ่ายทำฉากกลางคืน ไม่รู้เลยว่าเซียวเหยาถูกนักข่าวโจมตี “เกิดอะไรขึ้นหรือ” เธอรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหาข่าว

 

 

แต่เธอไม่พบอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ “ไม่มีข่าวเรื่องนี้เลย”

 

 

หนิงเหยี่ยนมองหน้าเฮ่อหว่านอี กล่าวเสียงเรียบว่า “แน่นอนสิ ตอนนี้ไม่เห็นข่าวอะไรเลย ฉันบังเอิญเห็นตอนกำลังดูข่าวออนไลน์ แค่สองสามนาที แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวพวกเขาไปดูหนังเพิ่มเติมทางอินเตอร์เน็ตอีกเลย และต่อมายังมีรายงานอีกว่า หงกวงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ถูกศาลสั่งปิด ด้วยข้อหาติดสินบนและหลีกเลี่ยงภาษี”

 

 

“แล้วนั่นเกี่ยวข้องกับที่พี่น้องตระกูลเซียวถูกหงกวงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ประโคมข่าวหรือ” เฮ่อหว่านอีถามด้วยความประหลาดใจ

 

 

หนิงเหยี่ยนพยักหน้าและตอบว่า “ใช่ เพราะฉะนั้นบอกได้เลยว่าพี่น้องตระกูลเซียวปกป้องเซียวโหรว ได้ดีแค่ไหน อย่าเพิ่งชวนพวกเขาออกมาดื่มตอนนี้จะดีกว่า นักข่าวต้องจับตาพวกเขาอย่างใกล้ชิดแน่ๆ แล้วอีกอย่างเธอก็เป็นดาราที่โด่งดัง มีกลุ่มปาปารัซซี่ตามอยู่ตลอดเวลา ถ้ามีการถ่ายภาพเธออยู่กับเซียวโหรวเดี๋ยวจะเป็นข่าวด่วนขึ้นมาอีก บางทีสุดท้ายเธออาจมีชื่อติดอยู่ในข่าวใหญ่ของตระกูลเซียวด้วย”

 

 

เฮ่อหว่านอีคิดว่าเขาพูดถูก เซียวโหรวกับพี่ๆ อาจไม่อยากเจอนักข่าว จะเป็นการดีกว่าถ้าเธอไม่ขอให้เซียวโหรวออกมาจนกว่าเรื่องจะจบ

 

 

หนิงเหยี่ยนกล่าวว่า “แล้ววันนี้ฉันก็ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะไปฉลองกับเธอด้วย ฉันตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นผู้กำกับ มาเป็นนักแสดงแทน”

 

 

เฮ่อหว่านอีเลิกคิ้วถามเขาเสียงสูงว่า “ผู้กำกับหนิงกำลังจะมาแย่งงานฉันเหรอ”

 

 

“แย่งงานเธอได้อย่างไร” หนิงเหยี่ยนส่งเสียงฮึดฮัดแบบหยิ่งในศักดิ์ศรี “ฉันจะเป็นนางเอกได้อย่างไร เธอนี่พูดอะไรไม่รู้เรื่องเลย” เขาเสยผมแล้วเดินออกไป

 

 

ขณะมองเข้าไปในโรงถ่ายซึ่งเสียงดังอึกทึก เฮ่อหว่านอีรู้สึกขึ้นมาเป็นครั้งแรกว่านี่ไม่ใช่โรงถ่าย แต่เป็นแหล่งซุบซิบนินทาและความชั่วร้าย เธอยิ้มและคิดว่านี่อาจเป็นวันสุดท้ายที่เธอจะมาที่นี่

 

 

ทันทีที่หนิงเหยี่ยนเดินออกจากโรงถ่าย กล้องจำนวนมากก็พุ่งเข้ามาหาเขา

 

 

“ผู้กำกับหนิง คุณคิดอย่างไรกับเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับนักแสดงนำในละครโทรทัศน์ของคุณ คุณจะปล่อยให้เซียวจิ้นหนิงรับบทนางเอกต่อไปไหม”

 

 

“ผู้กำกับหนิง ว่ากันว่าคุณไม่ชอบเซียวจิ้นหนิงตั้งแต่แรกแล้ว คุณรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเซียวจิ้นหนิงกับตระกูลเซียว ก่อนที่จะมีข่าวออกมา”

 

 

“คุณบอกอะไรเราได้บ้างคะ ผู้กำกับหนิง”

 

 

“ผู้กำกับหนิง เซียวจิ้นหนิงมาที่นี่ไหมครับวันนี้”

 

 

หนิงเหยี่ยนยกมือขึ้นห้าม นักข่าวนิ่งเงียบทันที หนิงเหยี่ยนกล่าวว่า “ผมจะไม่ตอบคำถามใดๆ เกี่ยวกับเซียวจิ้นหนิง และผมไม่รู้ว่าผู้ผลิตละครจะถอดเซียวจิ้นหนิงออกหรือไม่ สิ่งที่ผมบอกได้ก็คือ ตอนนี้เซียวจิ้นหนิงยังเป็นนักแสดงนำในละครเรื่องนี้ แต่ผม… หนิงเหยี่ยนขอถอนตัว”

 

 

ผู้คนต่างส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันระงมทันที นักข่าวหันมามองหน้ากันและกัน ก่อนจะรีบหันกลับไปทางหนิงเหยี่ยนอีกครั้ง “ผู้กำกับหนิง เป็นเพราะเซียวจิ้นหนิงหรือเปล่า”

 

 

“ผู้กำกับหนิง จะเกิดอะไรขึ้นกับละครเรื่องนี้คะ ถ้าคุณถอนตัว”

 

 

“ผู้กำกับหนิง คุณหมายความว่าจะเลิกสร้างละครเรื่องนี้เลยหรือเปล่า”

 

 

“ผู้กำกับหนิง ‘When We Were Young’ เป็นละครทีวีเรื่องแรก หลังจากคุณถ่ายทำเรื่องสุดท้ายเมื่อสองปีก่อน คุณจะถอนตัวจริงๆ หรือ”

 

 

“ผู้กำกับหนิง คุณจะยังกำกับละครทีวีไหมคะ ในอนาคต”

 

 

“ผู้กำกับหนิง ถ้าผู้ผลิตเปลี่ยนนักแสดงนำ คุณจะกลับมาเป็นผู้กำกับในละครเรื่องนี้ไหม”

 

 

หนิงเหยี่ยนขมวดคิ้วแล้วตอบว่า “ขึ้นอยู่กับบริษัทของผม”

 

 

นี่คือข้ออ้างของเขา เพราะทั้งหมดนี้เฮ่อหว่านโจวเป็นคนสั่งให้เขาทำ ดังนั้นที่ถูกต้องคือเฮ่อหว่านโจวควรเป็นคนตอบคำถามเหล่านี้แทนเขา

 

 

นักข่าวสมองไวคนหนึ่งเข้าใจในทันทีจึงถามเขาว่า “ผู้กำกับหนิง คุณหมายความว่าเป็นการตัดสินใจของบริษัทใช่ไหม ที่ให้คุณถอนตัวจากละครเรื่องนี้”

 

 

หนิงเหยี่ยนเลิกคิ้ว “ผมพูดแบบนั้นเมื่อไหร่ ผมแค่บอกว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับบริษัท ว่าผมจะกลับมากำกับอีกหรือเปล่า” จากนั้นเขาก็เริ่มเดินออกไป พร้อมกับบอกว่า “เอาล่ะ คำตอบของผมมีแค่นี้ ขอโทษด้วย”

 

 

ขณะมองตามร่างหนิงเหยี่ยนที่เดินห่างออกไปจากสายตา สมาชิกนักแสดงคนอื่นๆ ที่เกลียดเซียวจิ้นหนิงต่างก็รู้สึกแย่ไปตามๆ กัน เซียวจิ้นหนิงจะรู้บ้างไหมว่าพวกเขาพยายามอย่างหนักแค่ไหน กว่าจะได้มีโอกาสร่วมงานกับผู้กำกับหนิง ตอนนี้ความพยายามของพวกเขาพังทลายลงเพราะเธอ ทำไมผู้กำกับหนิงถึงไม่ถอดเซียวจิ้นหนิงออกจากละคร แทนที่จะเขาจะถอนตัว”

 

 

ทันทีที่หนิงเหยี่ยนจากไป นักข่าวก็เข้ามาในโรงถ่าย และเริ่มสัมภาษณ์ทีมงาน…

 

 

ทีมงานบอกพวกเขาว่า ไม่มีฉากไหนของเซียวจิ้นหนิงที่หนิงเหยี่ยนกำกับเอง และพวกเขาไม่แปลกใจที่หนิงเหยี่ยนเลือกที่จะถอนตัว เพราะหนิงเหยี่ยนคิดว่าฝีมือการแสดงของเซียวจิ้นหนิงแย่มาตั้งแต่แรก… หนิงเหยี่ยนไม่ชายตามองเลยด้วยซ้ำ เวลาที่เธอถ่ายทำอยู่ในฉาก

 

 

เฮ่อหว่านอีซึ่งหนีออกมาทางประตูด้านหลัง มองดูนักข่าวผู้บ้าคลั่งแล้วส่ายศีรษะ พูดกับผู้จัดการร่างเล็กของเธอว่า “นักข่าวพวกนี้ก็ทำงานกันหนักเหลือเกิน”

 

 

เซียวจิ้นหนิงซึ่งปิดหน้าปิดตามิดชิดยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน จ้องมองไปที่หน้าจอขนาดใหญ่บนถนนและกำมือแน่น ‘บัดซบ! เป็นเพราะเซียวโหรว เป็นเพราะนังสารเลวผอมแห้งคนนั้น เฉิงอวี่ถึงทำกับฉันแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่ถึงไล่ฉันออกจากบ้าน! …

 

 

…เซียวโหรว! เซียวโหรว! ทำไมแกไม่เลิกตามจองล้างจองผลาญฉันซักที แกรุกรานจนฉันต้องมาถึงจุดนี้! ’

 

 

เธอไม่ได้เป็นดาราสาวที่น่าหลงใหลอีกต่อไป แต่กลายเป็นหนูจรจัดข้างถนน เธอต้องปิดบังตัวเองให้มิดชิดทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก!

 

 

เซียวจิ้นหนิงห้ามตัวเองไม่ได้ เธอโกรธจนตัวสั่นเมื่อได้ยินคำตอบของหนิงเหยี่ยนกับนักข่าว “ฉันจะทำให้แกต้องชดใช้ในสิ่งที่แกทำกับฉัน!”

 

 

 

 

ทางอีกด้านหนึ่ง เซียวส่ากับเซียวจิ่งไปเจอกับถังซีในสวนสาธารณะไม่ไกลจากโรงเรียน ใบหน้าพี่ชายทั้งสองยังคงมีรอยช้ำดำๆ ม่วงๆ แม้จะทายาแก้ฟกช้ำแล้วก็ตาม ทั้งสองจึงสวมหมวกและหน้ากากมาด้วย เมื่อเห็นรถที่จอดอยู่ข้างถนนทั้งสองก็มองหน้ากันและกัน อุทานพร้อมกันว่า “เด็กคนนี้ขับรถโดยไม่มีใบขับขี่!” เธอช่างน่ากลัวอะไรอย่างนี้!

 

 

ถังซีไม่รู้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ เมื่อเห็นพี่ชายทั้งสองเธอก็รีบทักทาย “มีนักข่าวเต็มไปหมดเลยที่หน้าประตูโรงเรียน ที่หน้าบ้านเรายังมีนักข่าวมารอกันอยู่ไหมคะ”