เซียวส่าส่ายศีรษะแล้วตอบว่า “ไม่มากเท่าไร ส่วนใหญ่พวกเขาไปอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียน แล้วนี่เธอออกมาได้อย่างไร”
ถังซีบอกพวกเขาสั้นๆ ว่าคุณครูเหอช่วยให้เธอออกมา แล้วเดินไปที่รถ “รีบกลับบ้านกันดีกว่าค่ะ ดูเหมือนว่าพี่เหยาจะไปที่เมือง J เดี๋ยวเรากลับไปคุยเรื่องนี้กันที่บ้านนะคะ”
“ดี ตามนั้น” เซียวส่ากับเซียวจิ่งขับรถมาที่นี่ด้วยกัน ขากลับแต่ละคนจึงขับกลับคนละคัน ถังซีไปกับเซียวจิ่งซึ่งขับรถที่เซียวเหยาขับมาส่งเธอที่โรงเรียนเมื่อเช้า
ถังซีถามว่า “พวกเขาพูดว่าอย่างไรบ้างคะ”
“พวกเขาจะพูดอะไร” เซียวจิ่งหน้าตาบูดบึ้ง “แน่นอน ก็ต้องบอกว่าอยากพาเธอกลับไปน่ะสิ เธออยากกลับไปไหม”
ถังซีหัวเราะเบาๆ ตอบว่า “ฉันไม่ใช่ตุ๊กตาหมีนะ ที่พวกเขาจะมาเก็บไปเมื่อไรก็ได้ที่ต้องการ และโยนทิ้งเมื่อพวกเขาไม่ต้องการ ที่ฉันจะกลับบ้านนี่เพราะฉันไม่มีอารมณ์เรียนหนังสือแล้ววันนี้ ฉันไม่ได้จะกลับไปกับพวกเขาหรอกค่ะ”
เซียวจิ่งโล่งอกเมื่อได้ยินคำพูดของถังซี เขาไม่อยากสูญเสียน้องสาวคนเล็กที่เขาดูแลมาสองเดือนกว่าแล้ว
เมื่อทั้งสามกลับถึงบ้านก็พบว่าเซียวเจี่ยนมาที่บ้านพวกเขาด้วยเช่นกัน เซียวจิ่งกับเซียวส่ารู้สึกประหลาดใจแต่ไม่ได้พูดอะไร ทั้งสองเข้าไปนั่งข้างๆ หยางจิ้งเสียนพร้อมกับถังซี และถังซีทักทายเซียวหงอี้กับครอบครัวเขาอย่างสุภาพ “สวัสดีค่ะ คุณป้า คุณลุง ลูกผู้พี่เจี่ยน”
หลินหรูรู้สึกว่าหัวใจเธอมีเลือดไหลซิบๆ เมื่อได้ยินเซียวโหรวเรียกเธอว่า ‘คุณป้า’ จริงๆ แล้วในตอนนั้นเธอรู้สึกโล่งอกเมื่อเซียวโหรวเลือกที่จะไปอยู่กับครอบครัวเซียวหงลี่ แม้จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เธอก็ยังคิดว่าเซียวโหรวไม่ควรเรียกเธอว่า ‘แม่’ ไปตลอดชีวิต และคิดว่าเซียวหงลี่กับครอบครัวจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน ที่รับลูกสาวมือไวอย่างนี้เอาไว้
แต่เมื่อเซียวโหรวปรากฏตัวต่อหน้าครอบครัวเซียวหงอี้วันนี้ พวกเขาจำเธอไม่ได้จนกระทั่งเธอกล่าวทักทาย หลังจากนั้นนั่นเองพวกเขาจึงตระหนักว่า เด็กผู้หญิงที่สวยงามคนนี้คือลูกสาวและน้องสาวของพวกเขา
หลินหรูกำมือแน่น เด็กสาวสวยน่ารักและสง่างามคนนี้คือลูกสาวของเธอ และควรเติบโตขึ้นอย่างมีความสุขอยู่เคียงข้างเธอ
เซียวเจี่ยนก็ตกใจเช่นกัน ครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นเซียวโหรวคือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอนนั้นเธอก็สวยขึ้น แต่ไม่สวยเท่าวันนี้ ความงดงามของเธอแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน คนเราจะสวยขึ้นมากมายอย่างนี้ได้อย่างไรในเวลาอันรวดเร็ว เธอสวยมากจนเขาตะลึงกับรูปร่างหน้าตาของเธอ!
เซียวหงอี้ก็ตกตะลึง เขารู้สึกหัวใจเต้นแรงเมื่อเห็นเด็กผู้หญิงคนนี้ เด็กสาวที่สวยจนต้องตะลึงคนนี้หรือคือลูกสาวของเขา
“โหรวโหรว นี่เธอไปทำศัลยกรรมมาหรือ” เซียวหงอี้คิดว่าเธอไม่มีทางสวยได้ขนาดนี้ ถ้าไม่ได้ทำศัลยกรรมพลาสติก
ใบหน้าถังซีเข้มขึ้นทันที เธอถามว่า “คุณลุงหมายความว่าอย่างไรคะ คุณลุงมาที่นี่เพื่อถามหนูเรื่องการทำศัลยกรรมเหรอคะ”
สีหน้าเซียวเจี่ยนเปลี่ยนไป เขามาที่นี่กับพ่อแม่ในวันนี้ก็เพื่อพาเซียวโหรวกลับบ้าน คุณพ่อพูดแบบนี้จะเป็นการสร้างความระคายเคืองให้เซียวโหรว แล้วเธอก็จะไม่กลับไปกับพวกเขา! เขาจึงกล่าวขึ้นว่า “คุณพ่อครับ เมื่อก่อนเซียวโหรวไม่ดูสวยน่ารักอย่างนี้ เพราะน้องขาดสารอาหาร ตอนนี้น้องได้รับการดูแลอย่างดีจากอาหญิง ทำให้น้องสวยขึ้นเรื่อยๆ เราควรขอบคุณอาหญิงที่ดูแลโหรวโหรวเป็นอย่างดี”
เซียวหงอี้พยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ใช่ เราควรขอบคุณอาสะใภ้ที่ดูแลน้องสาวของลูกเป็นอย่างดี”
เมื่อเข้าใจในความหมายของเขา ถังซีก็รู้สึกทึ่งในความเฉลียวฉลาดของเซียวเจี่ยน สิ่งที่เขาพยายามอธิบายก็คือ หยางจิ้งเสียนเป็นเพียงอาสะใภ้ของถังซี ไม่ใช่แม่ของเธอ แน่นอนว่าพี่น้องตระกูลเซียวทั้งสองและหยางจิ้งเสียนก็เข้าใจความหมาย และรู้สึกโกรธเล็กน้อย แต่ขณะที่พวกเขากำลังจะพูดอะไรออกมา ถังซีก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า “ลูกผู้พี่ คุณเข้าใจผิดแล้ว เป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่และพี่ชายของฉันที่จะต้องดูแลฉัน คุณมาขอบคุณพวกเขาแทนฉันทำไม”
หลินหรูรู้สึกผิดหวังที่ได้ยินคำพูดของถังซี แต่เธอรู้ว่าเธอใจร้อนเกินไปจึงรีบกล่าวว่า “ใช่จ้ะ ใช่ ลูกพูดถูก ที่แม่มาที่นี่วันนี้ก็เพื่อมาขอโทษลูก แม่ขอโทษโหรวโหรว แม่ไม่ควรเข้าใจลูกผิด เชื่อคำพูดใส่ร้ายของเซียวจิ้นหนิง และปฏิบัติต่อลูกแบบที่แม่ทำลงไป ไม่สำคัญว่าลูกจะยอมให้อภัยแม่หรือเปล่า แม่แค่อยากมาขอโทษ”
ดวงตาถังซีสั่นระริก หลินหรูที่เธอเห็นในวันนี้ แตกต่างจากหลินรูที่ก้าวร้าวในแบบที่เธอเคยเห็นเมื่อก่อน วันนี้หลินหรูละทิ้งความเย่อหยิ่งถือตัว และยอมอ่อนข้อลงมาก
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา เซียวโหรวตัวจริงจะไม่ตาย หากคุณคิดได้ก่อนหน้านี้
เมื่อคิดเช่นนั้นในใจ ถังซีก็หัวเราะออกมาเบาๆ และตอบว่า “คุณป้าคะ คุณป้าพูดเรื่องอะไร นั่นไม่ใช่ความผิดของคุณป้า หนูไม่โทษคุณป้าหรอกค่ะ แต่หนูอยากจะขอบคุณที่ส่งหนูมาอยู่กับครอบครัวที่อบอุ่นอย่างนี้”
ใบหน้าหลินหรูและเซียวหงอี้นิ่งแข็งขึ้นมาทันที เซียวเจี่ยนก็ชะงักเช่นกัน เขามองลึกลงไปในดวงตาถังซี และกล่าวอย่างจริงจัง “โหรวโหรว คุณพ่อคุณแม่ขอโทษเธอแล้ว และตอนนี้ทุกคนก็รู้กันหมดแล้วว่าเธอเป็นลูกของคุณพ่อคุณแม่ ถ้าเธอยังอยู่ที่นี่ ผู้คนจะคิดกับพวกเราอย่างไร”
ถังซีเลิกคิ้ว มองหน้าเซียวเจี่ยนด้วยรอยยิ้มบางๆ และกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไม่ได้มาขอโทษ แต่จะมาบังคับให้ฉันกลับไปใช่ไหม” เธอเย้ยหยัน และทันใดนั้นสีหน้าเธอก็แข็งกร้าวขึ้นมาขณะกล่าวต่อไป “ฉันไม่สนใจหรอกว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับพวกคุณ! พวกคุณไม่ได้ต้องการยอมรับฉันตั้งแต่แรก และอยากบอกใครๆ ว่าฉันเป็นแค่ ‘ลูกสาวบุญธรรม’ ของครอบครัวคุณ ฉันไร้ค่าอย่างยิ่งในสายตาพวกคุณจริงไหม ฉันต้องกระดิกหางดีใจที่จะได้เป็นลูกสาวบุญธรรมของพวกคุณหรือ ฉันควรไปอยู่กับพวกคุณทั้งน้ำตาเพราะกระดูกที่พวกคุณโยนให้หรือ พวกคุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร”
เมื่อรู้ว่าคำพูดของเขาไม่เหมาะสม เซียวเจี่ยนก็สูดลมหายใจแล้วรีบกล่าวว่า “พี่ไม่ได้หมายความอย่างนั้น พี่หมายความว่า ความจริงได้เปิดเผยออกมาแล้ว เธอควรกลับไปอยู่ในสถานะเดิมของเธอ เธอยังสามารถมาหาคุณอารองกับครอบครัวได้ หลังจากกลับไปอยู่บ้านของเรา จริงไหม”
“ไม่” ถังซีตอบอย่างเย็นชา “นับตั้งแต่วินาทีที่ฉันเรียกคุณอารองว่าพ่อ ฉันได้ตัดสินใจแล้วว่าฉันไม่มีความสัมพันธ์กับพวกคุณอีกต่อไป เพราะฉะนั้นฉันจะไม่ไปกับพวกคุณ!”
เซียวหงอี้รู้สึกเสียใจที่ได้ยินอย่างนี้ เขาถามด้วยความคาดหวังว่า “เซียวโหรว ลูกอยากให้เราทำอย่างไร ดูสิ ลูกเห็นไหมว่าเราทุกคนรอลูกอยู่ คุณปู่ของลูกก็ต้องการให้ลูกกลับบ้านไปกับเราเช่นกัน ลูกไม่ควรอยู่ที่นี่ รบกวนอารองของลูกต่อไป!”
“พี่ใหญ่พูดได้อย่างไรคะว่าเป็นการรบกวน ในเมื่อลูกสาวของฉันอยู่ที่บ้านของเธอเอง!” หยางจิ้งเสียนขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกพี่บอกไม่ใช่หรือ ว่ามาที่นี่เพื่อขอโทษโหรวโหรว ถ้าต้องการขอโทษ ก็ขอโทษแล้วกลับไปเสีย แต่ถ้าพวกพี่มาที่นี่เพื่อมาพาลูกสาวของฉันไปจากฉัน ฉันต้องขอโทษที่จะบอกว่าฉันไม่ต้อนรับ ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว!”
ถังซีจับมือหยางจิ้งเสียนไว้และยิ้มให้เธอ เมื่อเห็นอย่างนี้หยางจิ้งเสียนก็ค่อยๆ สงบลง ในขณะที่เซียวเจี่ยนขมวดคิ้วและกล่าวว่า “คุณอาหญิงครับ ผมคิดว่าคุณอาต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนว่า เซียวโหรวเป็นลูกใคร”