“แน่นอน อาเข้าใจชัดเจน!” หยางจิ้งเสียนตอบด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “โหรวโหรวยื่นมือมาหาพวกเรา ตอนที่พ่อแม่เธอไม่ต้องการยอมรับเมื่อลูกสาวกลับมาหา และหลังจากนั้นเป็นต้นมา โหรวโหรวก็กลายเป็นลูกสาวของครอบครัวเรา ไม่มีใครสามารถแย่งโหรวโหรวไปจากอาได้!”
น้ำตาร่วงรินจากดวงตาหลินหรู ในที่สุดตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าคนเราไม่อาจก้าวพลาด หากใครก็ตามก้าวพลาดคนๆ นั้นจะไม่มีโอกาสแก้ตัว ไม่มีโอกาสแม้แต่จะเสียใจ
“โหรวโหรว แม่ขอโทษ แม่ไม่ควรทอดทิ้งลูก แม่ขอโทษ” จู่ๆ หลินหรูก็กล่าวขึ้น ขณะมองหน้าถังซี “แม่เสียใจที่ไม่ได้ขอโทษลูก ซ้ำยังไล่ลูกออกจากบ้านตอนที่ลูกกลับมา แม่ขอโทษในสิ่งที่แม่ทำกับลูก ถ้าลูกต้องการอยู่กับพ่อแม่ในปัจจุบันของลูก แม่ก็ไม่บังคับ แม่แค่หวังว่าลูกจะอนุญาตให้แม่มาหาลูกบ้าง ได้ไหม”
ถังซีไม่รู้จะตอบอย่างไรเมื่อได้ยินคำพูดอันซาบซึ้งของหลินหรู เธอพูดไม่ออกจริงๆ
เธอมองหยางจิ้งเสียน เธอไม่อาจตัดสินใจแทนเซียวโหรว และไม่อาจตัดความสัมพันธ์กับเซียวหงอี้และครอบครัว แต่เธอไม่อยากเกี่ยวข้องกับพวกเขาโดยไม่สนใจความรู้สึกของพ่อแม่และพี่ๆ ถ้าครอบครัวปัจจุบันของเธอเห็นด้วย เธอจึงจะตอบตกลงกับหลินหรู
หยางจิ้งเสียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “ไม่ต้องห่วงหรอก เราสองครอบครัวมีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ตราบใดที่คุณไม่พยายามทำให้โหรวโหรวไปจากฉัน คุณก็มาหาเธอได้ทุกเวลาและทุกที่”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นหลินหรูก็รู้สึกโล่งอก ในที่สุดเธอก็ยิ้มออกมาและกล่าวขอบคุณหยางจิ้งเสียน “จิ้งเสียน ขอบคุณมากนะ ช่วยดูแลโหรวโหรวแทนฉันด้วย โหรวโหรว… แม่…”
ถังซีไม่มีความเข้าใจใดๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัวมาตั้งแต่ยังเด็ก เวลานี้เมื่อเห็นหลินหรูและเซียวหงอี้ร้องไห้อย่างหนักเธอก็ขมวดคิ้ว และกล่าวว่า “อย่าร้องไห้อีกเลยค่ะ ถึงแม้นี่จะไม่ใช่สถานการณ์ที่มีความสุข แต่ฉันไม่ชอบเห็นพวกคุณร้องไห้”
เมื่อคิดว่าเซียวโหรวเป็นห่วงเธอ หลินหรูก็ยิ้มทั้งน้ำตา “ตกลงจ้ะ ตกลง ถ้าโหรวโหรวไม่อยากให้แม่ร้องไห้ แม่ก็จะไม่ร้อง”
เมื่อเห็นว่าถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว เซียวหงอี้ก็พยายามเกลี้ยกล่อมเซียวโหรวให้ออกไปทานอาหารกับพวกเขา หลินหรูมองหน้าลูกสาวด้วยความหวัง ตั้งแต่โหรวโหรวกลับมาเธอไม่เคยได้ทานอาหารกับโหรวโหรวเลย… ดูเหมือนว่าเธอไม่สมควรเป็นแม่ของโหรวโหรวจริงๆ
เซียวเจี่ยนคิดว่าในขณะที่เซียวหงลี่กับครอบครัวไม่อยู่ด้วย จะง่ายกว่าในการโน้มน้าวเซียวโหรว เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่เติบโตขึ้นมาในชนบท ไม่มีมุมมองของตัวเองมากนัก พวกเขาอาจโน้มน้าวใจเธอได้ในระหว่างมื้ออาหาร
ถังซีไม่อยากออกไปทานอาหารกับพวกเขา เธอต้องการรอฟังข่าวจาก 008 อยู่ที่บ้าน ความสนใจทั้งหมดของเธอในวันนี้อยู่ที่เซียวเหยา และเธอไม่อาจละความตั้งใจได้ “ไม่ค่ะ มีนักข่าวมากมายอยู่ข้างนอก ฉันไม่อยากเปิดเผยตัวเองมากเกินไป”
หยางจิ้งเสียนพยักหน้าและกล่าวว่า “โหรวโหรวสุขภาพไม่ค่อยดี ทานอาหารข้างนอกมากเกินไปจะไม่ดี เราก็เลยทำอาหารให้เธอทานที่บ้าน ถ้าพวกพี่อยากออกไปทานอาหารกลางวันกัน ก็ไปเถอะค่ะ”
เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังขอให้พวกเขากลับไป
เซียวหงอี้กับภรรยาและลูกชายออกมาด้วยความผิดหวัง เมื่ออยู่ในรถเซียวหงอี้เห็นหลินหรูอาการค่อนข้างแย่จึงพยายามปลอบใจ “เซียวโหรวจะกลับมาหาเราในไม่ช้า อย่าเศร้าไปเลย”
หลินหรูยกมือถูไปมาระหว่างหัวคิ้วและยิ้มเยาะตัวเอง “ฉันเพิ่งรู้ว่าฉันไม่เคยเปิดใจคุยกับโหรวโหรวมาก่อนเลย วันที่ลูกกลับมาฉันเข้าบริษัททันทีหลังจากส่งเธอไว้ที่บ้าน เพราะฉันมีงานต้องดูแล และเมื่อกลับมาฉันก็พบว่าเธอขโมยสร้อยคอเซียวจิ้นหนิง ฉันดุด่าเธออย่างรุนแรงและไล่เธอออกจากบ้าน หลังจากนั้นเธอก็ถูกรถชนและ… ตอนไปรับเธอที่โรงพยาบาลฉันสาปแช่งเธอทันทีที่เห็นหน้า และตำหนิว่าเธอเอาแต่สร้างปัญหาให้ฉัน ฉันไม่เคยปฏิบัติดีๆ ต่อเธอเลย และเลือกที่จะตำหนิเธอเสมอ”
เซียวเจี่ยนมองมารดาผ่านกระจกมองหลัง เขากัดริมฝีปากแน่นและไม่พูดอะไร คนที่ทำให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากเช่นนี้ คือผู้หญิงคนนั้น!
“บ้าบัดซบ!” หลินหรูสบถรอดไรฟัน “ฉันจะไม่ปล่อยผู้หญิงคนนั้นไปแน่ ทำไมหล่อนช่างโหดเ**้ยมได้ขนาดนั้น! โหรวโหรวของฉันทำผิดอะไร ทำไมหล่อนถึงจงใจใส่ร้ายเธอ เธอแค่กลับมาอยู่บ้านของเธอเท่านั้น!”
ในขณะกำลังขับรถเซียวเจี่ยนกล่าวว่า “เธอมีเหตุผลของเธอที่จะทำแบบนั้น เป็นการดีกว่าสำหรับเธอที่จะจัดการแบบนั้นก่อนที่พวกเราจะมีความรู้สึกดีๆ ต่อโหรวโหรวมากขึ้นเรื่อยๆ เธอจะไม่มีโอกาส ถ้าพวกเราเริ่มเข้ากันได้กับโหรวโหรว และเริ่มรักโหรวโหรวมากกว่าเธอ”
หลินหรูกำมือแน่น กล่าวด้วยความเกลียดชัง “ฉันจะทำให้หล่อนหายไปจากเมือง A! ฉันเลี้ยงดูหล่อนมาเป็นอย่างดีกว่ายี่สิบปี! แต่หล่อนกลับตอบแทนฉันด้วยการฆ่าลูกสาวแท้ๆ ของฉัน!”
เซียวเจี่ยนเลิกคิ้ว ก่อนจะกล่าวว่า “คุณแม่ครับ ดูเหมือนโหรวโหรวไม่ได้เกลียดคุณแม่มากมายเลยนะครับ ถึงอย่างไรคุณแม่ก็เป็นแม่แท้ๆ ของเธอ คุณแม่ไปหาเธอบ่อยๆ สิครับ ไปคุยกับเธอ บางทีสักวันหนึ่งเธอจะยอมกลับบ้านเรา”
หลินหรูยิ้มแหยๆ กลับบ้านเราหรือ เธอเห็นแล้วว่าเซียวหงลี่กับหยางจิ้งเสียนดูแลโหรวโหรวดีขนาดไหน เด็กผู้หญิงที่ก่อนหน้านี้ผอม ซีดเซียว ขี้อาย และขลาดกลัว กลายเป็นเด็กสาวแสนสวยในบ้านของพวกเขาหลังจากนั้นเพียงสองเดือน
พูดตามตรงว่า เธอไม่เคยคิดว่าพวกเธอจะเลี้ยงดูโหรวโหรวได้ดีขนาดนี้ ถึงแม้โหรวโหรวจะมาอยู่กับพวกเธอตั้งแต่แรกที่เด็กสาวกลับมาก็ตาม
เซียวหงอี้กล่าวว่า “ถ้าโหรวโหรวไม่กลับมาบ้านเรา ความสัมพันธ์ของเรากับครอบครัวหลิวก็จะ…” ถ้าเป็นเช่นนั้นเซียวกรุปก็จะสูญเสียเสาหลักที่ยิ่งใหญ่ในการสนับสนุน!
หลินหรูขมวดคิ้วมองเซียวหงอี้อย่างเย็นชา “เซียวหงอี้ ในสายตาคุณมีแต่เงินเท่านั้นหรือ นั่นน่ะลูกสาวฉันนะ ไม่ใช่เครื่องมือทำการค้าของคุณ!”
ด้วยไม่คาดคิดว่ามารดาซึ่งมักคิดถึงแต่ผลกำไรก่อนเสมอจะพูดแบบนี้ เซียวเจี่ยนจึงเลิกคิ้วมองด้วยความตกใจ หลินหรูกล่าวต่อไปว่า “ฉันจะบอกอะไรให้นะเซียวหงอี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม อย่าได้พยายามคิดหาผลประโยชน์จากโหรวโหรว ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้คุณเสียใจ ได้ยินไหม”
เซียวหงอี้ขมวดคิ้วขณะโต้ตอบ “คุณรู้หรือเปล่าว่ากำลังพูดอะไรออกมา ถ้าไม่ใช่เพราะต้องพยายามรักษาความสัมพันธ์ของเรากับตระกูลหลิวไว้ เราคงไม่ต้องรีบร้อนให้โหรวโหรวกลับมาหรอก ทั้งที่รู้ว่าจะต้องเสี่ยงกับความระคายเคืองของน้องชายผม!”
“ถ้าคุณต้องการยอมรับโหรวโหรวเพียงเพราะตระกูลหลิวละก็ ฉันยอมให้โหรวโหรวปฏิเสธเราดีกว่า!” หลินหรูกล่าวอย่างเย็นชา “เพราะคุณ ฉันถึงต้องพลัดพรากจากลูกสาวฉันมานานกว่ายี่สิบปี และปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นธรรมตอนที่เธอกลับมาหาฉัน ตอนนี้เพราะหลิวเฉิงอวี่ไม่ต้องการเซียวจิ้นหนิงแล้ว คุณก็เลยจะใช้โหรวโหรวเป็นเครื่องมืออย่างนั้นหรือ คุณไม่รู้สึกละอายบ้างหรืออย่างไร”
เมื่อเห็นว่าเซียวหงอี้เริ่มทะเลาะกับหลินหรู เซียวเจี่ยนก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “พอแล้วครับ โหรวโหรวยังไม่ได้กลับมาเลย คุณพ่อคุณแม่ทะเลาะกันเพื่ออะไร!”
“พอแล้วอย่างนั้นหรือ” หลินหรูจ้องหน้าเซียวเจี่ยนแล้วระเบิดเสียงร้องไห้ออกมา “ถ้าแม่ไม่ต้องรีบร้อนไปเมือง W เพื่อช่วยพ่อของลูกจัดการธุรกิจในตอนนั้น แม่คงไม่ต้องคลอดน้องสาวลูกก่อนกำหนด และสูญเสียเธอไปอย่างนี้!”