ตอนที่ 193

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 193: โลงศพผลึกน้ำ

 

โดยที่ไม่รอให้อี้เทียนหยุนได้คิดอะไร เขาก็พบว่าอุโมงค์ที่เขาเข้ามาเมื่อก่อนหน้า ตอนนี้กระแสน้ำกำลังไหลย้อนกลับ นี่หมายความว่าถ้าอยากจะลงมาจากข้างบน มีเพียงแต่ทวนกระแสน้ำมาเท่านั้น ไม่อย่างนั้นจะเป็นเรื่องที่ยากมาก

 

“ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะโชคดีจริงๆ หลังจากนี้ถ้าได้ไปสถานที่ที่พิเศษ ต้องลองเปิดใช้งานโชคดีดูแล้วล่ะ”

 

อี้เทียนหยุนเลียริมฝีปาก ไม่คิดว่าตัวเองจะเจอห้องลับเข้า ดูแล้วไม่ธรรมดาเลย ภายใต้เส้นชีพจรวิญญาณนี้กลับมีห้องลับตั้งอยู่ แม้ว่านี่จะไม่ผิดสามัญสำนึก แต่คิดว่าทางตำหนักซิงเฉินคงจะไม่รู้ว่าที่นี่มีห้องลับอยู่ ถ้าพวกเขารู้คงจะส่งยามมาคุ้มกันอย่างแน่นหนาไปแล้ว ทั้งยังต้องคอยเฝ้าระวังรอบๆ อย่างดี ที่นี่มีหญ้าขึ้นเต็มไปหมด ไม่รู้ว่าไม่มีคนเข้ามาที่นี่นานแค่ไหนแล้ว

 

“เพิ่งจะได้ปีกฟีนิกซ์มา ก็เข้ามายังที่แห่งนี้ได้แล้ว ช่างเป็นโชคที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ!”

 

อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มออกมา ปีกฟีนิกซ์นี้ถือว่าเป็นของดีไว้ใช้ช่วยชีวิต แม้ว่าเขาจะมีมังกรดำที่บินได้อยู่ แต่ถ้ามังกรดำถูกขัดขวางล่ะ? ยิ่งกว่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือความเร็ว เมื่อมีปีกฟีนิกซ์นี้อยู่ ความเร็วในการหลบหนีของเขาก็เพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า นอกเสียจากว่าเขาจะเจอกับผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งกว่าตนมากเท่านั้น ไม่อย่างนั้นอย่าหวังว่าจะตามเขาได้ทัน

 

หลังจากนั้น เขาก็ทำการสำรวจรอบๆ นอกจากหญ้าที่รกชัฏแล้ว ที่นี่ยังเต็มไปด้วยสมุนไพรวิญญาณจำนวนมาก ไม่ต่างจากข้างนอกเลย ในเมื่อเขาได้เข้ามายังที่แห่งนี้แล้ว เขาก็จะไม่ขอเกรงใจเช่นกัน เขาทำการเก็บสมุนไพรทั้งหมดเข้าช่องเก็บของอย่างไม่ลังเล สมุนไพรวิญญาณชั้น 5 กองใหญ่ขนาดนี้ เมื่อเขาได้เจอเข้า เขาจะไม่ยอมพลาดอย่างแน่นอน

 

หลังจากเก็บกวาดจนสะอาดเอี่ยม รอบๆ ก็ไม่มีอะไรเหลืออีกนอกจากประตูหยกตรงหน้า เมื่อเขาเดินมาถึงประตูหยก เขาก็ทำการเคาะลงไปเบาๆ พร้อมกับตะโกนเข้าไปว่า “มีคนอยู่ไหม?”

 

หลังจากตะโกนออกไป นอกจากเสียงสะท้อนของตนแล้ว ก็ไม่มีเสียงตอบรับอะไรอีก

 

เขาใช้มือผลักมันเบาๆ แต่ประตูก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร นอกเสียจากเสียง “เอี๊ยด” ที่ดังขึ้น ประตูหยกก็ได้ทำการเปิดออกเป็นสองฝั่ง พร้อมๆ กับคลื่นความเย็นที่ส่งออกมาจากข้างใน ทำให้เขาต้องหรี่ตาลง ไม่รู้ว่าในนั้นมีอะไรอยู่?

 

ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ก็มีแต่ต้องเข้าไปดูเท่านั้นไม่ใช่หรือไง?

 

“ไม่รู้ว่าห้องนี้มีอะไรอยู่ข้างใน?”

 

อี้เทียนหยุนก้าวเท้าเดินเข้าไป และเมื่อเท้าของเขาเหยียบเข้าไปในห้อง หยกที่อยู่รอบๆ ก็พากันเปล่งแสงออกมาในทันที ทำให้ห้องที่มืดสลัว สว่างไสวไปด้วยแสงจากหยก ยิ่งกว่านั้น แสงนี้ยังสว่างกว่าไข่มุกเรืองแสง ทั้งยังไม่ก่อให้เกิดอาการตาพร่าอีกด้วย

 

หินวิญญาณหยก : หินวิญญาณพลังสูง ให้พลังมากกว่าหินวิญญาณทั่วไป 3 เท่า

 

“เล่นใหญ่มาก ถึงกับใช้หินวิญญาณหยกมาสร้างเป็นห้องลับนี้กันเลยทีเดียว…..” อี้เทียนหยุนคิดภายใต้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเส้นชีพจรวิญญาณ ไม่แปลกใจที่ต้องสร้างห้องลับด้วยหินวิญญาณหยกเป็นพิเศษ แต่เขาไม่คิดที่จะทำอะไรกับมัน

 

มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่ากำแพงนี้มีอะไรอยู่ ถ้าเกิดว่าคนของที่นี่รู้เข้า เขาคงติดหนี้ก้อนใหญ่ แต่ถึงจะไม่มีใครรู้ เขาก็ยังคงรู้สึกผิดในใจอยู่ดี อย่างคำว่าความโลภ คือตัวที่นำพาไปสู่ความตายได้เร็วที่สุด

 

ภายใต้ความรอบคอบ เขาไม่ได้เดินเล่นนาน แล้วเดินเข้าห้องไป ที่นี่เมื่อเทียบกับข้างนอกแล้วเย็นกว่า แต่ไม่ถึงกับมีน้ำแข็งเกาะ ยังไงก็ตาม มันก็ยังส่งผลต่อเสื้อผ้าของเขา ถ้าเปลี่ยนเป็นคนธรรมดาเข้ามาที่นี่ล่ะก็ จะต้องถูกแช่แข็งจนตายอย่างแน่นอน

 

และเมื่อเขามองสำรวจดู เขาก็พบโลงศพปรากฏขึ้นตรงหน้า แต่เป็นโลงศพผลึกน้ำ เขามองผ่านโลงเข้าไป และก็พบว่าในโลงศพผลึกน้ำนี้ นอนไว้ด้วยหญิงสาวนางหนึ่ง!

 

“มีคนอยู่ด้วย?”

 

อี้เทียนหยุนเดินเข้าไป และก็พบว่าเป็นหญิงสาวนอนอยู่ข้างในจริงๆ รูปลักษณ์ของเธองดงามมาก แก้มที่เนียนละเอียด แต่ก็มีสีสัน สีหน้าดูแล้วดูดีมาก ราวกับกำลังนอนหลับอย่างไงอย่างงั้น เธอสวมชุดสีขาวซึ่งคลี่กางอยู่ในโลงศพผลึกน้ำนี้ ล้อมรอบไปด้วยดอกบัวขาว ภายใต้การตรวจดู เขาก็พบว่าดอกบัวขาวนี้ เหมือนกับบัวหิมะน้ำแข็งสวรรค์ที่หายากอยู่นิดหน่อย!

 

นี่คือสมุนไพรวิญญาณชั้น 5 ถ้าเป็นปกติเป็นเรื่องยากที่พบสักต้น แต่ที่นี่กลับมีมากกว่าโหล กลิ่นหอมของมันโชยออกมาจากข้างใน ทำให้ผู้คนรู้สึกจิตใจสงบลงหลายส่วน

 

หญิงสาวที่ดูเหมือนกำลังนอนหลับอยู่นี้ แท้จริงนั้นได้ตายไปแล้ว อี้เทียนหยุนสัมผัสไม่ได้ถึงกลิ่นอายชีวิตของเธอแม้แต่น้อย ถึงจะตายไปแล้ว แต่เขาก็มองไม่เห็นบาดแผลจากร่างกายเธอแม้สักนิด

 

“ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนตาย…..”

 

อี้เทียนหยุนขมวดคิ้ว ไม่คิดว่าจะพบคนตายที่นี่ ยังไงก็ตาม การวางร่างของหญิงสาวไว้ที่นี่ก็ถือว่าดีมาก เพราะพลังวิญญาณของที่นี่หนาแน่นมาก น่าจะเป็นจุดศูนย์กลางของชีพจรวิญญาณ ภายใต้พลังวิญญาณที่หนาแน่น รวมกับบัวหิมะน้ำแข็งสวรรค์ ต่อให้เส้นชีพจรวิญญาณนี้พังทลายไป ร่างกายของหญิงสาวนางนี้ก็ยังสามารถคงสภาพได้อีกนาน

 

จากนั้น อี้เทียนหยุนก็หลับตาพร้อมกับพนมมือขึ้นกล่าวคำขอขมา “ข้าไม่ได้มีเจตนาจะล่วงเกิน ได้โปรดให้อภัยด้วย…..”

 

เขาไม่ได้คิดที่จะเปิดโลงศพผลึกน้ำนี้ แต่หมุนตัวเดินไปที่อื่น แม้ว่าโลงศพผลึกน้ำจะเป็นของดี แต่เขาก็ไม่มีความคิดที่จะทำอะไรที่เป็นการล่วงเกินหรือหมิ่นประมาทโดยเด็ดขาด

 

หลังจากเดินสำรวจ เขาก็พบข้อความที่สลักบนกำแพงว่า : ยามใดที่บัวหิมะเบ่งบาน ยามนั้นคือเวลาแห่งการถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง

 

“ยามใดที่บัวหิมะเบ่งบาน ยามนั้นคือเวลาแห่งการถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง อะไรกันล่ะนี่?”

 

อี้เทียนหยุนขมวดคิ้ว พร้อมกับกลับไปดูอีกรอบหนึ่ง แล้วก็พบว่าบัวหิมะน้ำแข็งสวรรค์ที่อยู่ในโลงศพผลึกน้ำกำลังจะบานแล้วจริงๆ เขาสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ว่าบัวหิมะพวกนี้กำลังบานออกอย่างช้าๆ แต่แม้จะช้า แต่มันก็กำลังเบ่งบานอยู่จริงๆ

 

บัวหิมะน้ำแข็งสวรรค์พวกนี้ไม่ได้ถูกฝังเอาไว้เฉยๆ แต่เพื่อรอเวลาบาน นี่ช่างเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์จริงๆ

 

“หลังจากที่บัวหิมะน้ำแข็งสวรรค์นี้บานออก เธอก็จะตื่นขึ้นมา….. ไม่ นี่มันไม่ลึกลับเกินไปหน่อยเหรอ?” อี้เทียนหยุนคิด คิดว่าควรจะรีบออกไปจากที่นี่เลยดีไหม เพราะว่าที่นี่นอกจากโลงศพผลึกน้ำนี้แล้วก็ไม่มีอะไรอื่น มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้ว่าเมื่อเธอตื่นขึ้นมาแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?

 

“ออกไปเลยแล้วกัน ได้ค่าประสบการณ์เพิ่มอีกนิดก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย…..”

 

แต่ในขณะที่เขากำลังจะจากไปนี้เอง ในตอนนี้ ก็ได้มีเสียงดังออกมาจากโลงศพผลึกน้ำนี้เบาๆ

 

“อืม…..”

 

เขาพลันกลายเป็นเซ่อไป จากนั้นก็หันกลับไปมองที่โลงศพผลึกน้ำอย่างช้าๆ และก็พบว่าหญิงสาวที่งดงามคนนั้นได้ตื่นขึ้นมาจริงๆ ขนตาของเธอสั่นเบาๆ เหมือนกับคนที่กำลังจะตื่นอย่างไงอย่างงั้น

 

“ไปหรือไม่ไปดี?”

 

อี้เทียนหยุนสองจิตสองใจ ไม่รู้ว่าควรจะไปหรือไม่ไปดี? คนก็ตื่นแล้ว ไม่รู้ว่าจะเกิดอันตรายอะไรกับตนบ้าง แต่ดูเหมือนว่า คงจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ใช่ไหม? แม้จะไม่แน่ใจ แต่คิดว่าน่าจะมีโอกาสอยู่!

 

ในขณะที่เขากำลังลังเลอยู่นั้น หญิงสาวนางนี้ก็ได้ตื่นขึ้น เธอลืมตาขึ้นช้าๆ ดวงตาสีฟ้าอ่อนที่เหมือนอัญมณีค่อยๆ มีโชนแสง เปล่งแสงสีฟ้าออกมา พร้อมกับเปิดโลงศพผลึกน้ำออกจากช้าๆ แล้วลุกขึ้นนั่ง

 

อี้เทียนหยุนที่กำลังคิดอยู่ใกล้ๆ อดมองไปอย่างช่วยไม่ได้ คิดว่าจริงๆ แล้ว เธอเป็นคนหรือว่าผีกันแน่?