ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 291 พี่สาวฉันกลัว
ปอร์เช่ฉลาดมากเมื่อเห็นว่าพี่คณาธิปที่เอาแต่ช่วยพวกเขามาโดยตลอดยังยืนอยู่กับที่ไม่ขยับเขาจึงรีบวิ่งจากชั้นบนลงไปข้างล่างทันที
เพื่อจะช่วยเขายกกล่องขึ้นมา
พี่คณาธิปเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มและดับความโกรธนี้ลง
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันยกเองเช่พรุ่งนี้ฉันกับพี่สาวของนายจะไปคฤหาสน์ของอีริคก่อนนายก็พักผ่อนอยู่ที่นี่เข้าใจไหม”
“ครับพี่คณาธิปถ้าอย่างนั้นรบกวนดูแลพี่สาวผมด้วยนะครับ”
เมื่อปอร์เช่ได้ฟังแผนการเดินทางนี้เขาก็ทำตามอย่างเชื่อฟัง
นั่นทำให้พี่คณาธิปยิ้มด้วยความพอใจทันทีจากนั้นเขาก็ยกกล่องขึ้นไปชั้นบน
เขากลัวจริงๆว่าเด็กคนนี้จะไปกับเขาอีกอีริคไม่ใช่คนธรรมดาถ้าไปกันหลายคนเขาต้องไม่พอใจแน่
และที่สำคัญเขาอยากอยู่กับผู้หญิงคนนั้นเพียงลำพังบ้างผ่านไปนานขนาดนี้แล้วไม่ง่ายเลยกว่าจะมีโอกาสสักครั้งเขาจะปล่อยไปได้ยังไง
คืนนั้นทั้งสามคนต่างนอนหลับไป
วันถัดไป
เป็นดังคาดพี่คณาธิปเห็นเส้นหมี่ตื่นเช้ามากเธอกำลังช่วยแม่คฤหาสน์ของที่นี่ทำอาหารเช้าอยู่และเธอก็เข้ากับพวกเขาได้ดีมาก
“สวยใสตื่นเช้าจัง”
เมื่อพี่คณาธิปเห็นฉากนี้เขาก็รู้สึกดีใจมากจึงเดินไปข้างโต๊ะอาหารหลังจากลงมาแล้ว
เมื่อเส้นหมี่เห็นเขาก็ยิ้มเช่นกัน”ใช่ค่ะวันนี้เราจะไปเยี่ยมคุณอีริคไม่ใช่หรอคะฉันเลยตื่นมาเช้าหน่อยคุณอาบน้ำแล้วหรือยังคะรีบมากินข้าวสิ”
“อาบแล้วจะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ”พี่คณาธิปยิ้มเต็มไปทั้งดวงตาเขาเดินไปดึงเก้าอี้ออกมานั่ง
เขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะกินข้าวกับเขาแต่เธอกลับวางจานชามในมือลงและมองขึ้นไปข้างบนอย่างไม่อดทน
“ทำไมปอร์เช่ยังไม่มานี่มันกี่โมงกันแล้ว”
“หืม”
สีหน้าของพี่คณาธิปเปลี่ยนไปเล็กน้อย”นอนหลับอยู่หรือเปล่าถ้าอย่างนั้นวันนี้เราอย่าไปปลุกเขาเลยเราไปเยี่ยมคุณอีริคกันก่อนเสร็จแล้วเราค่อยพาเขาไปที่วอลล์สตรีท”
“ไม่ได้คุณอีริคเป็นคนใหญ่คนโตฉันจะต้องพาเขาไปพบพบบ่อยบ่อยเขาจะได้เรียนรู้มากขึ้น”
จากนั้นเส้นหมี่ก็เดินไปที่บันไดและตะโกนขึ้นไป”ปอร์เช่ตื่นได้แล้วกินข้าวเสร็จแล้วก็จะไปกันเลย”
พี่คณาธิป”…”
เขาสำลักจนของที่เพิ่งกินข้าวไปแทบจะติดคอตาย
เรื่องนี้มันทำได้ยากจริงๆ!
สุดท้ายทั้งสามคนก็ต้องไปด้วยกัน
และครั้งนี้อาจเป็นครั้งแรกที่ได้ไปเยี่ยมคนใหญ่คนโตทำให้ทันทีที่ก้าวเข้าไปในสังคมปอร์เช่ก็ออกอาการประหม่าและกังวลทันทีระหว่างทางเขาเกาะติดพี่สาวตลอด
“ไม่ต้องกลัวเรื่องอย่างนี้ยังไงก็ต้องมีครั้งแรกในเมื่อนายเลือกจะออกมากับพวกเราแล้วงั้นก็ต้องมีความกล้าหาญเข้าใจไหม”
“ครับ”
ที่จริงเสียงของเด็กผู้ชายที่พยายามสงบสติอารมณ์นั้นน่าฟังมากเหมือนกับเป็นผู้ใหญ่ที่แอบมีความขี้ขลาดเล็กน้อยเหมือนกับทรายที่ไหลช้าๆ
พี่คณาธิปขับรถอยู่ข้างหน้าเขาอิจฉาฉากนี้มาก
แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้!
ไม่นานทั้งสามก็มาถึงคฤหาสน์ของอีริคเจ้าพ่อการเงินยักษ์ใหญ่ในวอลล์สตรีท
เป็นคฤหาสน์ที่หรูหรากว่าคฤหาสน์คริสหลายเท่ามีโดมสไตล์ยุโรปขนาดใหญ่ทางเดินแกะสลักด้วยดอกกุหลาบสีทองภายในคฤหาสน์ก็ปลูกต้นเพลนฝรั่งเศสเต็มไปหมด…
เส้นหมี่เคยคิดถึงความรวยของเจ้าพ่อคนนี้มาไม่น้อยแต่เมื่อเห็นความหรูหราที่กระจายอยู่ทุกที่เธอก็อดตะลึงไม่ได้
“สวัสดีครับพวกเรามาเยี่ยมคุณอีริค”
เมื่อมาถึงที่นี่พี่คณาธิปก็เปลี่ยนเป็นสงบเสงี่ยมเช่นกันเขาส่งนามบัตรของเขาให้รวมถึงใบเชิญจากอีริคด้วยก่อนที่ผู้คุมที่นี่จะนำมันเข้าไป
เส้นหมี่ที่ยืนอยู่ข้างๆจึงเริ่มสงสัยขึ้นมา
“คุณธิปคุณรู้จักคุณอีริคคนนี้ได้ยังไงคุณเป็นทนายไม่ใช่หรอ”
“หืม”ผู้ชายที่ยืนรออยู่ตรงนั้นชะงักไปชั่วคราว”ผมหรอใช่ผมเป็นทนายก็เพราะเป็นทนายนี่แหละถึงได้รู้จักเขา”
“อะไรนะ”
“ไม่เข้าใจใช่ไหมล่ะผมจะอธิบายให้ละเอียดละกันก็คือเมื่อก่อนมีเพื่อนของผมให้ผมว่าความในคดีทางการเงินให้ต่อมาเพราะคดีนั้นชื่อเสียงของผมก็ดีขึ้นและเป็นโชคดีที่ได้รู้จักคุณอีริค”
พี่คณาธิปที่กลับมาเป็นปกติแล้วยืนเล่าเรื่องนี้อย่างเป็นธรรมชาติเหมือนกับเล่าเรื่องธรรมดาเรื่องหนึ่ง
ในที่สุดเส้นหมี่ก็เข้าใจ
มีการฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับการเงินมากมาย
รอไปประมาณสิบนาทีในที่สุดคนที่เขาไปส่งการ์ดก็เดินออกมา”โอเคพวกคุณเข้าไปได้แล้วตอนนี้คุณอีริคกำลังรอพวกคุณอยู่ในสวน”
“โอเคขอบใจ”
พี่คณาธิปรู้สึกขอบคุณมาก
จากนั้นเขาก็พาเส้นหมี่และปอร์เช่เข้าไป
แต่เมื่อเข้ามาแล้วเห็นความหรูหราในคฤหาสน์แห่งนี้ก็ทำให้รู้สึกอธิบายไม่ได้ขึ้นมาอีกครั้งเส้นหมี่รู้สึกว่าแม้แต่หินที่อยู่ใต้เท้าของพวกเขาก็ดูจะไม่ใช่หินธรรมดา
มันใสแวววาวเหมือนคริสตัลไม่มีผิด
รวยมาก!
ดังนั้นต้องเก็งกำไรทางการเงินจริงๆ
เมื่อเส้นหมี่เห็นทั้งหมดนี้เธอก็ยิ่งมั่นใจในเส้นทางของตัวเองที่จะทำในอนาคตมากขึ้น
หลังจากเดินเข้าไปได้ประมาณสิบนาทีในที่สุดก็เห็นสวนอยู่ข้างหน้าเส้นหมี่รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากเธอกำลังจะรีบเดินเข้าไปแต่หูก็ได้ยินเสียงสุนัขเห่าดังขึ้น”ฮ่งฮ่ง…”
มีสุนัขหรอ
เส้นหมี่ตกใจ
เมื่อเธอหันไปมองตามสัญชาตญาณก็คิดไม่ถึงว่าสุนัขสีดำจะพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว