ตอนที่ 300-3 ล่อเสือออกจากถ้ำ

ชายาเคียงหทัย

​“​หลาน​รัก​ ​ลำบาก​เจ้า​แล้ว​”​ ​มอง​จู​หลิง​อยู่​สักพัก​ใหญ่​ ​จู​เยี​่​ยน​ถึง​จะ​พูด​ขึ้น​ด้วย​เสียง​แผ่วเบา

​จู​หลิง​ยิ้ม​บาง​ๆ​ ​“​ท่าน​ปู่​พูด​เกินไป​แล้ว​ ​นี่​เป็นเรื่อง​ที่​หลาน​สมควร​กระทำ​ ​จริง​สิ​ ​เหตุใด​ท่าน​ปู่​ถึง​ได้​พาท​หาร​ออกจาก​เมือง​เล่า​ ​การป้องกัน​เมือง​เปี้ยน​…​”​ ​จู​เยี​่​ยน​โบกมือ​พลาง​พูด​ ​“​ข้า​รู้​ว่าการ​เคลื่อนไหว​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ใน​ครั้งนี้​ ​ก็​เพราะ​อยาก​จะ​ล่อ​ข้า​ออกมา​ ​แต่ว่า​เมือง​เปี้ยน​มี​หลง​หยาง​อยู่​ ​ข้า​จะ​อยู่​หรือไม่ก็​ไม่สำคัญ​ ​แต่​ทาง​เจ้า​…​ไม่รู้​ว่า​ทำไม​ข้า​ถึง​รู้สึก​ไม่​ค่อย​สบายใจ​อยู่​ตลอด​ ​โดยเฉพาะ​ช่วง​สอง​วันนี้​ ​ทุกครั้งที่​นึกถึง​ขึ้น​มักจะ​รู้สึก​อกสั่นขวัญแขวน​ ​ทาง​เจ้า​มีเรื่อง​อะไร​หรือไม่​”

​จู​หลิง​ส่ายหน้า​ ​“​ทาง​ฝั่ง​หลาน​ล้วน​ปกติ​ดี​ ​ท่าน​ปู่​กังวล​เกินไป​แล้ว​ ​หลาน​ได้​เฝ้า​ระวัง​ทุกอย่าง​ ​ในเมื่อ​ท่าน​ปู่​ออกมา​แล้วก็​ดี​เหมือนกัน​ ​พวกเรา​ลง​หลัก​ปัก​ฐาน​เฝ้า​ที่​แห่ง​นี้​ ​ก็​สามารถ​ประสาน​กับ​ท่าน​แม่ทัพ​หลง​หยาง​ได้​ ​เพื่อ​ชะลอ​ความเร็ว​ใน​การบุก​เมือง​ของ​ทหาร​ตระกูล​ม่อ​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​…​สอง​ด้าน​ของ​พวกเรา​บวก​กัน​แล้วก็​เพิ่ม​กำลัง​ทหาร​ได้​เกิน​กว่า​หก​แสน​ ​แล้ว​จะ​ต้อง​ไป​เกรงกลัว​อะไร​กับ​กำลัง​ทหาร​เพียงแค่​สี่​แสนนาย​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​อีก​”​ ​เรื่อง​ความกังวล​ของ​ท่าน​ปู่​ ​จู​หลิง​ก็​มิได้​เพิกเฉย​ ​นั่น​ไม่ใช่​ความสงสัย​ธรรมดา​ทั่วไป​ที่​ทึกทัก​เอา​เอง​ของ​คนแก่​ ​แต่​เป็น​ลางสังหรณ์​ที่​สั่งสม​มาจาก​ความสามารถ​ยาม​ต้อง​เผชิญ​กับ​ภัยอันตราย​ของ​แม่ทัพ​อาวุโส​ผู้​อยู่​บน​หลัง​ม้า​อัน​มีเกียรติ​มาก​ว่า​ครึ่ง​ชีวิต

​จู​เยี​่​ยน​ตบ​ไหล่​ปลอบใจ​หลานชาย​และ​พูด​ ​“​หลาน​รัก​ ​เจ้า​โต​แล้ว​นะ​”​ ​เมื่อ​ได้รับ​คำชื่น​ชม​จาก​ท่าน​ปู่​ ​แม้ว่า​จะ​เป็น​จู​หลิง​ที่​สุขุม​นิ่ง​ก็​อด​ที่จะ​เผย​ความยินดี​บน​ใบหน้า​ไม่ได้​ ​ปู่​และ​หลาน​สอง​คน​นั่งลง​ ​พลาง​แลกเปลี่ยน​ความคิดเห็น​เรื่อง​สถานการณ์​สงคราม​ปัจจุบัน​ ​จู​เยี​่​ยน​ยิ่ง​ปลื้มใจ​ต่อ​การ​เติบโต​ของ​หลานชาย​ ​จนกระทั่ง​จู​หลิง​พูดถึง​ตอนที่​ตัวเอง​ช่วยชีวิต​หยาง​เชียน​หย่า​แล้ว​ ​จู​เยี​่​ยน​ถึง​จะ​ขมวด​คิด​และ​พูด​ ​“​เจ้า​บอกว่า​นาง​เป็น​บุตรสาว​ของ​แม่ทัพ​หู่​เวย​ที่​ตาย​ไป​แล้ว​หรือ​ ​เจ้า​แน่ใจ​หรือ​”

​จู​หลิง​ผงะ​ไป​ทันที​ ​และ​เอ่ย​ ​“​ย่อม​แน่ใจ​อยู่​แล้ว​ ​ตรา​ประจำตัว​ของ​นาง​กับ​ตรา​คาด​เอว​ของ​ทหาร​องครักษ์​นาง​เหมือนกัน​ ​นอกจากนี้​ ​หลาน​ถาม​นาง​หลายอย่าง​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ของ​แม่ทัพ​หยาง​หู่​และ​ตระกูล​หลิง​ ​ก็​ไม่มี​ความผิดปกติ​อะไร​ให้​เห็น​”​ ​ทันใดนั้น​ใน​ใจ​ก็​รู้สึก​สังหรณ์​ไม่ดี​ขึ้น​มา​ ​สีหน้า​ของ​จู​หลิง​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​ ​และ​มอง​จู​เยี​่​ยน​อย่าง​ไม่สบายใจ

​จู​เยี​่​ยน​ขมวดคิ้ว​แน่น​ ​“​ที่​เจ้า​พูด​ก็​ไม่ผิด​ ​หน้าตา​และ​นิสัย​ค่อนข้าง​คล้าย​กับ​ลูกสาว​ของ​แม่ทัพ​หู่​เวย​ ​แต่ว่า​…​เมื่อ​สอง​ปีก่อน​ที่​แม่ทัพ​หู่​เวย​พาบุ​ตร​สาว​และฮู​หยิน​มาที​่​เมือง​ลี่​ ​ก็​มา​เยี่ยม​ข้า​ที่​เมือง​เปี้ยน​ ​เด็กหญิง​ตัว​น้อย​ตระกูล​หยาง​คน​นั้น​นิสัย​เอาแต่ใจ​เพราะ​เลี้ยง​อย่างทะนุถนอม​จน​เคยชิน​ ​และ​นิสัย​ก็​เหมือน​แม่ทัพ​หู่​เวย​ ​ไม่ได้​รักกิจ​กรรม​ของ​ปัญญาชน​แม้แต่น้อย​ ​มี​เพียง​หญิง​รับใช้​ที่​ยังดี​หน่อย​ ​พอ​รู้จัก​ตัวหนังสือ​บ้าง​เท่านั้น​ ​ดังนั้น​ ​การ​เล่น​หมากรุก​ก็​ยิ่ง​ไม่​แตกฉาน​เลย​แม้​แต้​น้อย​”

​“​เช่นนั้น​…​”​ ​สีหน้า​ของ​จู​หลิง​ดู​ไม่ดี​ขึ้น​มาทัน​ใด​ ​แม้ว่า​ตอนแรก​สุด​เขา​ก็ได้​ตั้ง​กำแพง​ไว้​กับ​หยาง​เชียน​หย่า​แล้ว​ ​กระทั่ง​ถึง​ตอนนี้​ก็​ไม่ได้​ให้​นาง​รู้เรื่อง​สำคัญ​อะไร​ ​แต่ว่า​ ​หลังจาก​การ​สอบสวน​นาง​หลายครั้ง​ ​เขา​ก็​แน่ใจ​ใน​สถานะ​ของ​หยาง​เชียน​หย่า​แล้ว​ ​ทว่า​ ​บัดนี้​กลับ​รู้ทัน​ใด​ว่า​ ​แท้จริง​แล้ว​สถานะ​ของ​ฝ่ายตรงข้าม​เป็น​แผน​ลวง​ทั้งสิ้น​ ​ความโกรธ​ดาลเดือด​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​ใจ​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย

​“​ท่าน​ปู่​…​ข้า​ต้อง​กลับ​ไป​เดี๋ยวนี้​ขอรับ​ ​ข้า​กลัว​ว่า​…​”

​สีหน้า​ของ​จู​เยี​่​ยน​เคร่งขรึม​ ​ในเวลานี้​จู่ๆ​ ​ก็​มี​ปรากฏ​ภาพ​หญิงสาว​คน​หนึ่ง​ที่​สถานะ​ไม่ชัด​เจน​เรียกตัว​เอง​ว่า​เป็น​บุตรสาว​ของ​แม่ทัพ​หู่​เวย​ขึ้น​ ​เหตุใด​ถึง​รู้สึก​ไม่สบายใจ​เช่นนี้​นะ​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จู​เยี​่​ยน​พยักหน้า​พลาง​พูด​ ​“​ตกลง​ ​เจ้า​ไป​เถิด​ ​และ​เจ้า​ต้อง​ระมัดระวัง​ให้​มาก​”

​“​ขอรับ​ ​ท่าน​ปู่​ ​ท่าน​ก็​…​”

​“​ท่าน​แม่ทัพ​ ​คุณชาย​!​ ​พวกเรา​ถูก​ทหาร​ตระกูล​ม่อ​ล้อม​เอาไว้​แล้ว​ขอรับ​!​”​ ​ทหาร​นอก​ประตูเข้า​มารา​ยงา​นอย​่าง​รีบร้อน​ ​จริงๆ​ ​แล้ว​ไม่ต้อง​รอ​ให้​เขา​รายงาน​จู​เยี​่​ยน​กับ​จู​หลิง​ก็​รู้​แล้ว​ ​ยัง​ไม่ทัน​สิ้น​เสียง​ของ​เขา​ ​นอกเมือง​ก็​มีเสียง​รัว​กลอง​รบ​ดัง​ขึ้น​สนั่น​ฟ้า​ ​ทั้งสอง​คน​ออกจาก​ประตู​ไป​ยืน​บน​กำแพงเมือง​ ​เห็น​ธง​โบกสะบัด​อยู่​ด้านล่าง​กำแพงเมือง​มากมาย​ ​ทหาร​ตระกูล​ม่อ​ถือ​อาวุธ​รอ​อยู่​ใน​มือ​ ​กองทัพ​ทหาร​ดู​น่าเกรงขาม​แตกต่าง​กับ​เมื่อ​สอง​ชั่วโมง​ก่อนที่​หนี​อย่าง​ทุ​ลัก​ทุก​เลอ​ย่าง​สิ้นเชิง

​ด้านหน้า​กองทัพ​ใหญ่​ ​จาง​ฉี่​หลาน​ชู​ดาบ​ขึ้น​ตรง​บน​หลัง​ม้า​ ​ก่อน​จะ​หัวเราะ​เสียง​แจ่มชัด​ ​“​แม่ทัพ​จู​!​ ​ข้า​ ​จาง​ฉี่​หลาน​ ​หัวหน้า​หน่วย​อินทรี​แห่ง​ตระกูล​ม่อ​ ​ข้า​ได้ยิน​ชื่อเสียง​เลื่องลือ​อัน​ยิ่งใหญ่​ของ​ท่าน​แม่ทัพ​อาวุโส​จูมา​นาน​แล้ว​ ​ขอ​ท่าน​แม่ทัพ​อาวุโส​โปรด​ชี้แนะ​ด้วย​!​”

​จู​เยี​่​ยน​ทอดสายตา​มอง​ไป​ ​เบื้องหน้า​ทหาร​ตระกูล​ม่อ​เบียดเสียด​กัน​เป็น​ผืน​ดำ​ที่​มี​จำนวน​คน​และ​ม้า​อย่างน้อย​แสน​กว่า​ ​จาง​ฉี่​หลาน​ไม่ได้​เหมือนกับ​อวิ​๋น​ถิง​และ​เฉิน​อวิ​๋​นที​่​เป็น​แม่ทัพ​ผู้น้อย​ที่​ไร้​ประสบการณ์​ ​มือสี​ดำ​ชูขึ้น​และ​ผาย​ออก​ ​ทหาร​ตระกูล​ม่อ​ก็​แยก​ออก​ไป​ทั้ง​สี่​ด้าน​ ​มองดู​ราวกับ​กระจัดกระจาย​กัน​อย่าง​มั่วซั่ว​ ​แต่​ถ้า​มอง​อย่างละเอียด​แล้ว​กลับ​พบ​ความ​ละเมียด​ภายใน​ ​โดยปกติ​แม่ทัพ​ทั่วไป​หาก​ต้อง​เสี่ยงอันตราย​เผชิญ​อยู่​ท่ามกลาง​กองทัพ​ทหาร​ใหญ่​เช่นนี้​ ​ถ้า​กำลัง​ทหาร​ไม่​เท่าเทียมกัน​ ​ก็​อย่า​ได้คิด​จะ​บุก​ออกมา​เลย

​สีหน้า​ของ​จู​หลิง​เปลี่ยนแปลง​เล็กน้อย​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​มองออก​ถึง​ความ​ละเมียดละไม​ของ​ยุทธศาสตร์​นี้​ ​จึง​พูด​กับ​จู​เยี​่​ยน​ ​“​ท่าน​ปู่​ ​หลาน​จะ​ลง​ไป​ลองดู​”

​จู​เยี​่​ยน​พยักหน้า​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​สั่ง​ ​“​จาง​ฉี่​หลาน​เป็น​แม่ทัพ​อาวุโส​ของ​ตระกูล​ม่อ​ ​ต้อง​ระมัดระวัง​อย่างมาก​”

​“​หลาน​เข้าใจ​แล้ว​”

​ประตูเมือง​ถูก​เปิด​ออก​ ​ทหาร​ซี​หลิง​กรู​ออกมา​จาก​ด้านใน​ ​ชายหนุ่ม​ชุด​ขาวนวล​จันทร์ที​่​ไม่ทัน​ได้​เปลี่ยนเป็น​ชุด​ออกรบ​กระโดด​ลง​จาก​บน​กำแพงเมือง​ ​ขึ้น​นั่ง​บน​ม้า​สง่างาม​ที่​กำลัง​วิ่ง​ออกหน้า​ประตูเมือง​ ​แล้ว​ถีบ​ท้อง​ม้า​ตะบึง​ไปหา​กองทัพ​ใหญ่​ของ​ตระกูล​ม่อ​ ​ม้า​ตัว​เดียว​ของ​จู​หลิง​นำหน้า​ ​ทหาร​ของ​ซี​หลิง​ก็ตาม​เป็นแนว​ตรง​ดั่ง​มังกร​มุ่ง​ไป​ยัง​ทหาร​ตระกูล​ม่อ​ ​อุปสรรค​ด้านหน้า​พังทลาย​สิ้นซาก​ ​แต่​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ยัง​ไม่​สามารถ​ฝ่า​ออกจาก​แหล้​อม​ของ​ทหาร​ตระกูล​ม่อ​ได้​ ​จาง​ฉี่​หลาน​ที่​ชม​สงคราม​อยู่​บน​หลัง​ม้า​ซึ่ง​อยู่​ด้านหลัง​กองทัพ​ก็​ลูบ​คาง​แล้ว​ยิ้ม​พูด​อย่าง​ใคร่รู้​ ​“​เจ้า​เด็ก​คน​นี้​น่าสนใจ​ทีเดียว​”

​ลูกน้อง​ที่อยู่​ด้านหลัง​กล่าวเตือน​ ​“​ท่าน​แม่ทัพ​ ​ท่าน​ไม่ใช่​คู่ต่อสู้​ของ​เขา​หรอก​ขอรับ​”

​จาง​ฉี่​หลาน​หน้า​ดำคล้ำ​เครียด​ขึ้น​ทันที​ ​เขา​เอง​ก็​ไม่ใช่​คนโง่​ ​เดิมที​ ​การ​เดินทัพ​ใน​สงคราม​กับ​ประชัน​กันตัว​ต่อตัว​ก็​แตกต่าง​กัน​อยู่​แล้ว​ ​ดังนั้น​จาง​ฉี่​หลาน​ที่​โตมา​ใน​ค่ายทหาร​ย่อม​รู้​ว่า​เหนือ​ฟ้า​ย่อม​มี​ฟ้า​ ​และ​การ​เอาชนะ​เด็ก​ที่​อายุ​อ่อน​กว่า​ตัวเอง​ไม่ได้​ไม่ใช่​เรื่อง​น่าอาย​ ​แต่​การถู​กลูก​น้อง​ของ​ตัวเอง​พูด​ออกมา​อย่างโจ่งแจ้ง​เช่นนี้​ ​ก็​ทำให้​เขา​รู้สึก​ไม่​ชื่นมื่น​เสีย​แล้ว​ ​ก่อน​จะ​จ้อง​ลูกน้อง​อย่าง​โกรธเคือง​ ​“​พูดมาก​!​”

​ลูกน้อง​กรอก​ตา​อย่าง​จนปัญญา​ ​เป็น​เพราะ​ท่าน​อ๋อง​กลัว​ว่า​ท่าน​จะ​คึกคะนอง​แล้ว​บุ่มบ่าม​บุกเข้าไป​ ​ถึง​ต้อง​ให้​ข้ามา​เตือน​ท่าน​ไม่ใช่​หรือ​ ​ข้า​ได้​หาเรื่อง​ใคร​หรือยัง​ ​ใน​สังคม​แบบนี้​การ​เป็น​ลูกน้อง​ก็​ลำบาก​อยู่​แล้ว​ ​แต่​เป็น​ลูกน้อง​ที่​คิด​แทน​เจ้านาย​นั้น​ลำบาก​ยิ่งกว่า​!

​“​ท่าน​แม่ทัพ​?​ ​เป็น​อย่างไรบ้าง​ขอรับ​ ​อยาก​จะ​ล้ม​เด็ก​คน​นั้น​หรือไม่​”

​จาง​ฉี่​หลาน​หันหลัง​กลับ​ไป​มอง​เขา​ ​“​ใคร​จะ​ไป​ ​เจ้า​หรือ​”

​หัวหน้า​หน่วย​โบกมือ​ปฏิเสธ​ ​แล้ว​ชี้​ไป​ที่​คน​หนึ่ง​ที่​กำลัง​มองดู​สงคราม​อยู่​ด้าน​ข้าง

​จาง​ฉี่​หลาน​มอง​คน​แซ่ฉิน​ที่​มีสี​หน้า​เรียบ​เฉย​ ​ก่อน​จะ​บึ้งตึง​ใส่​ทันที​ ​“​ผู้บัญชาการ​ฉิน​ ​เจ้า​จะ​บอก​ข้า​ได้​หรือยัง​ว่า​พระ​ชายา​ของ​ข้า​ไป​ไหน​กัน​แน่​ ​เจ้า​ต้อง​รู้​ไว้​นะ​ว่า​ ​ถ้า​เกิดเหตุ​อะไร​ขึ้นกับ​พระ​ชายา​ ​เจ้า​กับ​ข้า​ต่าง​แบกรับ​ชะตากรรม​ไม่ไหว​แน่​!​”​”

​ฉิน​เฟิง​เหล่​มอง​เขา​ที​หนึ่ง​ ​ก่อน​จะ​ยิ้ม​พลาง​พูด​ ​“​ท่าน​แม่ทัพ​วางใจ​เถิด​ ​ข้า​ได้​ส่ง​คน​ไปรับ​ชายา​แล้ว​ ​ไม่มีปัญหา​อะไร​อย่างแน่นอน​”